Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เด็กอายุ 6 เดือน Dx.Acute bronchitis (หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน) - Coggle…
เด็กอายุ 6 เดือน Dx.Acute bronchitis (หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน)
พยาธิสภาพ
3.แบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินหายใจมากขึ้น
4.มีการอักเสบเยื้อบุชั้น mucusa ของหลอดลมฝอยบวมและผนังหลอดลมฝอยหนาขึ้น
2.ภายในหลอดลมมีประสิทธิภาพลดลงทำให้มีสารคั่งหลังเพิ่มขึ้น
5.มีการแทรกซึมของเม็ดเลือดขาว ส่งผลทำให้เสมหะเป็นหนอง
1.หลอดลมอักเสบจากแบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินหายใจของผู้ป่วย
อาการและอาการแสดง
2-3 วันต่อมาเสมหะจะมีปริมาณมากขึ้น อาจมีลักษณะเป็นสีขาว(ถ้าเกิดจากไวรัสหรือการระคายเคืองล้วนๆ)
เสมหะข้นสีเขียว (ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรีย) ผู้ป่วยอาจไม่มีไข้หรือมีไข้ต่ำๆ อยู่นาน 3-5 วัน
อาการไอบ่อย ระยะแรกไอแห้งๆแล้วไอมีเสมหะเล็กน้อยเป็นสีขาวใน 2-3 ชั่วโมง
อาการไอมักเป็นอยู่นาน 1-3 สัปดาห์ แต่บางรายอาจไอนานกว่านี้ ไอมาตลอดตอนกลางคืน (จนนอนไม่พอ) หรือหลังตื่นนอนตอนเช้า บางรายอาจมีอาการเสียงแหบ เจ็บคอ
เจ็บหน้าอกเวลาไอ ในเด็กเล็กอาจไอจนอาเจียน บางรายอาจมีอาการแน่นหน้าอก หรือหายใจหอบเหนื่อยร่วมด้วย
ผู้ป่วยมักมีอาการเป็นไข้หวัด เจ็บคอ นำมาก่อนที่จะเกิดอาการไอ บางรายอาจไม่มีอาการเหล่านี้
การวินิจฉัย
เอกซเรย์หน้าอก
ตรวจการทำงานของปอด
ซักประวัติ และตรวจร่างกาย
ตรวจเสมหะ
บางรายอาการไม่รุนแรง มักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ
บางรายอาจมีไข้ต่ำๆ (38.3-38.8 องศา) หรือเป็นไข้หวัดร่วมด้วย
สาเหตุ
1.การติดเชื้อ ส่วนมากเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกับที่ก่อให้เกิดไข้หวัดใหญ่ และติดต่อแบบเดียวกับไข้หวัด บางครั้งอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนมักพบบ่อยในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่ภูมิต้านทานโรคต่ำ ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือมีภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง
2.ถูกสิ่งระคายเคือง ที่พบบ่อยคือการสูบบุหรี่ซึ่งทำให้ขนอ่อน ที่เยื้อบุหลอดลมเคลื่อนไหว (โบกพัดเพื่อปกป้องผิวหลอดลม) น้อยลง เยื้อบุหลอดลมถูกระคายเคือง ทำให้ต่อมเมือกโตขึ้น มีเสมหะมากขึ้น
การรักษา
ให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาระงับการไอ หรือยังขับเสมหะ ยาลดไข้
ถ้ามีเสียงวี๊ดร่วมด้วยให้ยากระตุ้นบีตา 2 สูดหรือกิน
หลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคืองหรือสิ่งกระตุ้นให้ไอ เช่น ความเย็น น้ำเย็น น้ำแข็ง ของทอด ของมัน ผุ่น ควัน ลมหรือพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ
ให้ยาปฏิชีวนะ ถ้าไม่มีโรคประจำตัวและมีเสมหะขาวไม่ต้องให้ยาปฏิชีวนะ จะให้เฉพาะในรายที่มีภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หรือหลอดลมพอง ร่วมด้วยหรือมีเสมหะเหลืองเขียวเกิน 7 วัน
แนะนำให้ผู้ป่วยพักผ่อนมากขึ้น ควรดื่มน้ำอุ่นมากๆ วันละ 10-15 แก้ว เพื่อช่วยให้เสมหะออกได้ง่ายขี้น
ถ้าเสมหะยังเป็นสีเหลืองหรือสีเขียวหลังให้ยาปฏิชีวนะ 1 สัปดาห์ ยังรู้สึกหอบเหนื่อยให้ยาขยายหลอดลม 3 วัน
ภาวะแทรกซ้อน
ถ้าให้รักษาแบบไม่ถูกต้อง การติดเชื้อจากหลอดลมอาจลามไปที่ปอด ทำให้ปอดมีการเกิดอักเสบ (pneumonai) ได้ หรือจากหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน อาจกลายเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือโรคถุงลมโป่งพอได้