Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
hypothermia - Coggle Diagram
hypothermia
การป้องกัน
- ปรับอุณหภูมิห้องคลอดให้อยู่ท่ี 26-27 องศาเซลเซียส
ห้ามเปิดพัดลม
- นำทารกให้มารดาอุ้มเนื้อแนบเนื้อพร้อมกับใช้ผ้าห่มตัวทารก
- ทำกิจกรรมในการดูแลทารก เช่น ตรวจร่างกาย ฉีดยา ให้ปฏิบัติภายใต้เครื่องให้ความอบอุ่นโดยการแผ่รังสี
- ห่อตัวทารกด้วยเสื้อผ้าเด็กผ้าอ้อม และสวมหมวก
- ดูแลทารกแรกเกิดหลังคลอดโดยวัดอุณหภูมิ
ทุก 30 นาที 2 ครั้ง และ 1 ชั่วโมง 1 ครั้ง
- ไม่ให้ทารกแรกเกิดนอนแช่ปัสสาวะหรืออุจจาระ
เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนจากการระเหยและการพาความร้อน
-
-
กลไกการเกิด
- การระเหย(evaporation)
เป็นการสูญเสียความร้อนไปกับน้ำหรือของเหลว
- การนำความร้อน (conduction)
เป็นการสูญเสียความร้อนไปกับวัตถุท่ีเย็นกว่าผิวหนังจากการสัมผัสโดยตรง
- การพาความร้อน(convection)
เป็นการสูญเสียความร้อนไปกับอากาศรอบตัว
- การแผ่รังสี (radiation)
เป็นสูญเสียความร้อนไปกับวัตถุท่ีเย็นที่ไม่ได้สัมผัสโดยตรงเกิดข้ึนได้เมื่อวางทารกไว้บริเวณใกล้หน้าต่างหรือผนังที่เย็น
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
- ทารกมีโอกาสเกิดภาวะอุณหภูมิต่ำ (Hypotermia) เนื่องจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิร่างกายยังเจริญสมบูรณ์ไม่เต็มที่
ข้อมูลสนับสนุน
- ทารกคลอดก่อนกำหนด
- น้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า 2,500 กรัม
- อุณหภูมิร่ากายน้อยกว่า 36.5 องศาเซลเซียส
การพยาบาล
- จัดให้ทารกอยู่ในตู้อบที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ตามตารางเปรียบเทียบน้ำหนักและอายุของทารก
- ประเมินอุณหภูมิร่างกายทุก 15 นาที จนกว่าอุณหภูมิของร่างกายคงที่อยู่ในระดับปกติ เมื่อทารกมีระดับอุณหภูมิปกติพร้อมที่จะออกจากตู้ ให้การพยาบาลโดยสวมเสื้อผ้าและห่อตัวทารกให้อบอุ่น
- ประเมินภาวะอุณหภูมิต่ำ เช่น อาการซึมลง หัวใจเต้นช้าลง ริมฝีปากปลายมือปลายเท้าเขียว แขนขาเย็น
- ดูแลความสะอาดร่างกายทารก โดยเปลี่ยนผ้ารองก้น ผ้าปูทุกครั้งที่อุจจาระปัสสาวะ
- ทารกมีโอกาสเกิดภาวะระบบหายใจล้มเหลว (Respiratory failure) เนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของระบบหายใจ
ข้อมูลสนับสนุน
- หายใจสม่ำเสมอ
- ทารกคลอดก่อนกำหนด
- ศูนย์ควบคุมการหายใจในสมองยังทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์
การพยาบาล
- นับและบันทึกอัตราการหายใจทุก 15-30 นาที จนกว่าจะปกติและต่อไปวัดทุก 4 ชั่วโมง
- สังเกตและบันทึกลักษณะการหายใจว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น ไม่มีเสียงดังขณะหายใจเข้า-ออก การดึงรั้งของกระดูกหน้าอกและกล้ามเนื้อซี่โครง
- จัดท่านอนของทารกให้หายใจสะดวกโดยให้นอนราบใช้ผ้าหนุนใต้คอและไหล่ ให้ศีรษะแหงนเล็กน้อย
- ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งอยู่เสมอ ดูดเสมหะด้วยความนุ่มนวล
- เฝ้าติดตามอาการ การเต้นของหัวใจและการหายใจอย่างใกล้ชิด โดยสังเกตการณ์หายใจขณะหลับ อาการหายใจจมูกบาน หน้าอกบุ๋ม ตัวเขียวคล้ำ หายใจไม่สม่ำเสมอ
- มีโอกาสได้รับสารอาหาร น้ำ วิตามินและแร่ธาตุไม่เพียงพอเนื่องจากระบบทางเดินอาหารไม่สมบูรณ์
ข้อมูลสนับสนุน
- ทารกคลอดก่อนกำหนด
- หายใจไม่สม่ำเสมอ
- ไม่ดูดนมมารดา
การพยาบาล
- ดูแลให้ทารกได้รับนมมารดา เพื่อให้ทารกได้รับนมได้เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย
- สังเกตความสามารถในการรับนมได้ของทารก เช่น มีการสำรอก ท้องอืดหรือไม่
- ดูแลทำสะอาดปากของทารก
- หลังให้นมมารดาทุกครั้ง ควรจับทารกแหวะนมโดยการจับนอนคว่ำตะแคงหน้า เพื่อให้ทารกได้เรอออกมาและเพื่อป้องกันการสำลักสำรอกนม
- ติดตามชั่งน้ำหนักของทารกวันละครั้ง ถ้าน้ำหนักไม่เพิ่มหรือลดลงมากกว่าร้อยละ 10 ของน้ำหนักแรกเกิด ควรรายงานแพทย์
- มีโอกาสเกิดการติดเชื้อระบบต่างๆในร่างกายเนื่องจากระบบภูมิต้านทานยังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์
การพยาบาล
- ล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาลทุกครั้ง
- เมื่อมีการขับถ่ายเช็ดทำความสะอาดด้วยสำลีชุบน้ำให้สะอาดทุกครั้ง
- ให้สวม mask ตลอดเวลาขณะให้การพยาบาลเด็ก
- ทำความสะอาดร่างกายทารกวันละ 2 ครั้ง
- เช็ดสะดือด้วย 70% Alcohol หลังเช็ดตัวทุกครั้ง
- ดูแลสิ่งแวดล้อมให้สะอาดปราศจากเชื้อ
-
ความหมาย
ภาวะที่อุณหภูมิกายต่ำกว่า 36.5 องศาเซลเซียส วัดทางทวาร (cord temperature) ถ้าไม่ได้รับการดูแลน้ำตาลในเลือดจะต่ำ เลือดเป็นกรด สมองและเนื้อเยื้อขาดออกซิเจน
แหล่งอ้างอิง
- จริยาพร วรรณโชติ.(2554). การควบคุมอุณหภูมิกายทารกแรกเกิด.
วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี. 23(1), 81-93.
- เอื้ออารีย์ สมุดจาง. (2559). แนวปฏิบัติการดูแลทารกแรกเกิดเพื่อป้องกันภาวะอุณหภูมิกายต่ำ.วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 3(1), 60-70.