Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ - Coggle Diagram
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติฉบับท่ี1 (พ.ศ.2504-2509)
เน้นการขยายสถานบริการสาธารณสุขได้แก่โรงพยาบาลและสถานีอนามัยให้ป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศมีการก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ๆเพิ่มขึ้นหลายแห่งแต่ยังไม่เน้นหนักในส่วนภูมิภาคเท่าที่ควร
แผนพัฒนาฯ
ฉบับท่ี1 (2504-2509)
ปัญหาสุขภาพ
1.ป่วยและตายด้วยโรคติดต่อจากความ ยากจนและความไม่รู้ เช่น อหิวาตกโรค ไข้ทรพษิ
2.เด็กป่วยและตายด้วยโรคที่ป้องกันได้ด้วย วัคซีนไอกรนโปลิโอ
3.ป่วยด้วยโรคจากปัญหาสุขาภิบาล สิ่งแวดล้อม
4.อัตราตายของมาดาและทารกสูง
5.ประชาชนในชนบทได้รับการดูแลสุขภาพ
ไม่ทั่วถึง
นโยบายสำคัญ
ปรับปรุงสถานบริการและเพิ่มบุคลากรเพื่อให้การบำบัดรักษาที่ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติฉบับท่ี2 (พ.ศ.2510-2514)
การพัฒนาสาธารณสุขในระยะน้ยีงัคงมลีกัษณะที่รัฐยื่นบริการให้ประชาชนโดยประชาชนเป็นฝ่ายรับด้านเดียว
เน้นการวางแผนกำลังคนและการกระจายการพัฒนาสู่ชนบท เร่งรัดการผลิตบุคลากร ทางการแพทย์ และการสาธารณสุข
แผนพฒันาฯ
ฉบับท่ี2 (2510-2514)
ปัญหาสุขภาพ
มีลักษณะคล้ายกับแผนฯ1คือ ป่วย และตายด้วยโรคตดิต่อจากความยากจน และความไม่รู้ เช่น โรคไข้ทรพิษ กาฬโรคโรคคุดทะราดและไข้มาลาเรีย
นโยบายสำคัญ
เร่งผลิตบุคลากรทางการแพทย์และ สาธารณสุขขยายการบรกิารสู่ประชาชนในชนบท
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 3
(พ.ศ.2515-2519)
มีความแตกต่างจากสองแผนแรกอย่างเห็นได้ชัด คือ มีการกล่าวถึงการพัฒนาบริการสาธารณสุขแบบผสมผสาน และให้ความสำคัญต่อความร่วมมือของประชาชนในการแก้ปัญหาสาธารณสุข
พ.ศ.251 7 มีการปรับปรุงส่วนราชการของกระทรวงสาธารณสุขครั้งใหญ่ โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงการบริหารสาธารณสุขทั้งระบบ
มีนโยบายการให้บริการรักษาพยาบาลฟรี แก่ผู้รายได้น้อยเป็นครั้งแรก พ.ศ. 2518
แผนพฒันาฯ
ฉบับที่ 3
(พ.ศ.2515-2519)
ปัญหาสุขภาพ
1 .ประซากรเพิ่มอย่างรวดเร็ว
2.โรคติดต่อต่างๆและโรคจากพฤติกรรมไม่ถูกต้อง
3.อัตราตายของมารดาและทารกยังคงสูงอยู่
นโยบายสำคัญ
มุ่งเน้นการอนามัยแม่และเด็ก การวางแผนครอบครัว ปรับปรุงและขยายการบริการรักษามีการพัฒนาความร่วมมือของประชาชนในเรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อมและมีนโยบายการรักษาพยาบาลฟรีแก่ผู้มีรายได้น้อย
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่ชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2520-2524)
มุ่งเน้นการแก้ไขและลดช่องว่างของปัญหาสาธารณสุข การให้บริการสาธารณสุขแบบ
ผสมผสานแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเริ่มตั้งเป้าหมายสุขภาพดีถ้วนหน้าในปี 2543 โดยกลยุทธ์สาธารณสุขมูลฐานในพ.ศ. 2522 โรคติดต่อบางอย่างลดลงจนไม่เป็นปัญหาเช่น กาฬโรค ไข้ทรพิษ ประชาชนในชนบทยังมีสุขภาพอนามัยไม่ดี เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะเสี่ยงต่อการเกิดโรค
แผนพฒันาฯ
ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2520-2524)
ปัญหาสุขภาพ
1 .ประชาชนในชนบทยังมีสุขภาพไม่ดีเนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
2.มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค
นโยบายสำคัญ
-เริ่มมีโรงพยาบาลประจำอำเภอ
มีโครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคขั้นพื้นฐานเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2521 มีการอบรม ผสส. และ อสม. เป็นครั้งแรกในพ.ศ. 2520
แผนการพัฒนาสาธารณสุขฉบับที่ 5
(พ.ศ. 2525-2529)
ให้ความสำคัญด้านการกระจายบริการสาธารณสุขออกไปสู่ท้องถิ่นชนบทเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชน โดยอาศัยแนวคิดการพัฒนาสาธารณสุขที่มีจุดเด่น 5 ประการดังนี้
1.ยึดจุดมุ่งหมายเพื่อให้บรรลุ "สุขภาพดีถ้วนหน้าในปี 2543"
2.การใช้สาธารณสุขมูลฐานเป็นมาตรการหลักในการพัฒนาสาธารณสุข
3.การให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุข
4.การมุ่งดำเนินงานแบบผสมผสานระหว่างสาขามากขึ้น เพราะงานสาธารณสุขต้องอาศัยรากฐานของการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมควบคู่ไปพร้อมกัน
5.การให้ความสำคัญแก่พื้นที่เป้าหมายและประชากรกลุ่มอายุที่มีปัญหาสาธารณสุข หรือมีอัตราการเสี่ยงต่อโรคสูงกว่ากลุ่มอื่น
แผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 5 (2525-2529)
ปัญหาสุขภาพ
1.อัตราป่วยและตายด้วยโรคติดต่อและโรคระบาดลดลง
2.โรคที่สอดคล้องกับการขยายตัวของการคมนาคมและการย้ายถิ่นเพิ่มขึ้น เช่นมาลาเรีย
3.โรคจากสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในชุมชนแออัดเขตเมืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
4.ขาดการศึกษาวิจัย
นโยบายสำคัญ
เน้นความเป็นธรรมของการบริการสาธารณสุขแก่ประชาชนเร่งดำเนินการสาธารณสุขมูลฐาน ยกฐานะสำนักงานผดุงครรภ์ให้เป็นสถานีอนามัย และใช้เป้าหมาย "สุขภาพดีถ้วนหน้า 2543"
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 6
(พ.ศ.2530-2534)
ขยายสถานบริการสาธารณสุขให้ครบตามเป้าหมาย การยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาและการรณรงค์ควบคุมโรคเอดส์เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงของชาติ และเริ่มแนวคิดเรื่องหลักประกันสุขภาพ ประชาชนมีอายุยืนยาวขึ้นเป็น 60.8 ปี และ 64.8 ปีในเพศชายและเพศหญิงตามลำดับ อัตราการตายของมารดาและทารกลดลงสถานบริการสาธารณสุขครอบคลุมครบจนถึงระดับอำเภอ /ตำบล ให้ความสำคัญกับปัญหาสาธารณสุขใหม่คือเอดส์ อุบัติเหตุ หัวใจ มะเร็ง สุขภาพจิต
แผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 6 (2530-2534)
ปัญหาสุขภาพ
1.โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนมีแนวโน้มลดลง
2.โรคของประเทศที่พัฒนาแล้วในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเริ่มมีมากขึ้น เช่น หลอดเลือดหัวใจ อุบัติเหตุ
3.โรคจากการประกอบอาชีพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสถานประกอบการ
4.มีการระบาดของโรคเอดส์เนื่องจากความเบี่ยงเบนในพฤติกรรมทางเพศ
นโยบายสำคัญ
ขยายสถานบริการสาธารณสุขให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาการสาธารณสุข การรณรงค์ควบคุมโรคเอดส์ เริ่มแนวคิดเรื่องหลักประกันสุขภาพ
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 7
(พ.ศ.2535-2539)
มีวัตถุประสงค์หลักที่จะรักษาอัตราการเจริญทางเศรษฐกิจที่สูงอย่างต่อเนื่องเน้นที่การกระจายรายได้ไปสู่กลุ่มผู้ด้อยโอกาสและเน้นการพัฒนาในพื้นที่เฉพาะ เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และคุณภาพชีวิต ตระหนักถึงภัยของปัญหาสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เร่งรัดเพื่อบรรลุเป้าหมายสุขภาพดีถ้วนหน้าก่อนสิ้น พ.ศ.2543 ตามเกณฑ์ จปฐ. อีกทั้งได้มีการจัดตั้งศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.)
-ตำบลที่ อสม. มีความพร้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพของ อสม. ในเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง ซึ่ง อสม. และชุมชนก็ได้มีบทบาทเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้รางวัล อสม.เป็นแรงจูงใจ คือการให้ อสม. และครอบครัวได้รับการรักษาโดยไม่เสียเงินทั้งครอบครัว
แผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 7
(พ.ศ.2535-2539)
ปัญหาสุขภาพ
1 . ปัญหาโรคและการบาดเจ็บจากการทำงานเพิ่มมากขึ้น
2.โรคเอดส์แพร่กระจายมากขึ้นและเกิดกับประชาชนทุกกลุ่ม
3.โรคไม่ติดต่อที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพไม่ถูกต้องมีแนวโน้มสูงขึ้น(อุบัติเหตุ)
4.โรคเรื้อรัง โรคจิตประสาทความเครียด มีอัตราสูงขึ้น
นโยบายสำคัญ
เน้นการพัฒนาสถานีอนามัยให้เป็นจุดเริ่มของงานสุขภาพดีถ้วนหน้า พัฒนาสถานบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพมาตรฐาน
เน้นความพยายามในการสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับคนไทยทุกคน
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 8
(พ.ศ.2540-2544)
-เน้น "คน" เป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนา
-เพื่อให้การพัฒนาสาธารณสุขมีความสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศที่เน้นคนเป็นศูนย์กลาง จึงได้กำหนดภาพลักษณ์สุขภาพของคนไทยที่พึงประสงค์ ตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์มารดาจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
แผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 8
(พ.ศ.2540-2544)
ปัญหาสุขภาพ
1.ปัญหาพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น เช่น การบริโภค การออกกำลังกาย การขับขี่ยานพาหนะ
2.ผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มของโรคที่เกิดจากความเสื่อมและโรคเรื้อรังต่างๆเพิ่มขึ้น
3.สถานบริการไม่เพียงพอต่อการรับผู้ป่วยใน
4.โรคเอดส์ สารเสพติด
นโยบายสำคัญ
-เน้นการพัฒนาศักยภาพของคนในด้านสุขภาพโดยเฉพาะพฤติกรรมสุขภาพ
-เน้นความครอบคลุมหลักประกันสุขภาพด้วยบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
-เน้นการพัฒนาสุขภาพในการประกอบอาชีพโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาร่วมแก้ปัญหาสาธารณสุข
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 9 (2545-2549)
-เน้นสุขภาพคือสุขภาพวะ
-พัฒนาระบบสุขภาพทั้งระบบ
-ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับสุขภาพ เป็น "ระบบสุขภาพพอเพียง"
-ภาพลักษณ์ของสังคมและระบบสุขภาพที่พึงประสงค์เริ่มกำหนดวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การ
พัฒนาสุขภาพ
วิสัยทัศน์ : "คนในสังคมไทยทุกคนมีหลักประกันที่จะดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาว: และเข้าถึงบริการ
สุขภาพที่มีคุณภาพ อย่างเสมอภาครวมทั้งอยู่ในครอบครัว ชุมชน และสังคมที่มีความพอเพียทาง
สุขภาพ โดยสามารถใช้ประโยชน์ทั้งจากภูมิปัญญาสากล และภูมิปัญญาไทยได้อย่างรู้เท่าทัน"
สังคมแห่งสุขภาวะมี 10 เป้าหมายคือ
การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
คนไทยทุกคนมีหลักประกันสุขภาพ
การสร้างความเสมอภาคทางด้านสุขภาพ
การปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างองค์กร / กลไกของรัฐในการพัฒนาสุขภาพ
การสนับสนุนการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ
6 . การพัฒนาศักยภาพด้านสุขภาพของประชาชน ครอบครัว ชุมชน ประชาคม
การพัฒนาสถานบริการสาธารณสุขระดับต้นทั้งเขตเมืองและชนบทโดยเชื่อมโยงกับระบบบริการขั้นสูง
การพัฒนาคุณภาพสถานบริการสาธารณสุข
การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางปัญญาของระบบสุขภาพโดยเน้นการแพทย์แผนไทยสมุนไพรและการแพทย์ทางเลือกทั้งจากภูมิปัญญาไทยและสากล
การสนับสนุนอุตสาหกรรมสุขภาพยุทธศาสตร์การพัฒนา มี 6 ยุทธศาสตร์
-เร่งการสร้างสุขภาพเชิงรุก
-การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
-ปฏิรูประบบโครงสร้างและกลไกการบริหารจัดการระบบสุขภาพ
-การสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมเพื่อสุขภาพ
-การบริหารจัดการความรู้และภูมิปัญญาเพื่อสุขภาพ
-การพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและระบบสุขภาพใหม่
แผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 9 (2545-2549)
ปัญหาสุขภาพ
1.ปัญหาาการเจ็บป่วยจากโรคติดเชื้อ
2.ปัญหาการเจ็บป่วยจากโรคที่มีสาเหตุทางพฤติกรรม
3.ปัญหาสุขภาพจิต สารเสพติด อาหารเสริมผลิตภัณฑ์ความงามที่ขาดคุณภาพ
4.ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม
5.การกระจายบุคลากรด้านสุขภาพไม่เท่าเทียม ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพขาดประสิทธิภาพ
นโยบายสำคัญ
-สร้างสุขภาพเชิงรุกให้ประชาชนมีส่วนร่วมคิดร่วมทำในการพัฒนาสุขภาพ (สร้างนำซ่อม)
-พ.ศ.2545 ได้มีการประกาศใช้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อขยายบริการสุขภาพให้ครอบคลุม
-ประกาศให้เป็นปีเริ่มต้นแห่งการรวมพลังสร้างสุขภาพโดยการรณรงค์ 5 อ ได้แก่ ออกกำลังกายอาหาร อารมณ์ อนามัยสิ่งแวดล้อม อโรคยา (และในปี 2548 ได้เพิ่ม อ ที่ 6 คืออบายมุข)
-พ.ศ.2547 มีการประกาศนโยบายและเป้าหมายเมืองไทยแข็งแรง (Healthy Thailand) ภายในปี 2550
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 10
(พ.ศ.2550-พ.ศ.2554)
-น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการพัฒนาสุขภาพและยึดหลักการสุขภาพดี เป็นผลจากสังคมดี
-วิสัยทัศน์ : มุ่งสู่ระบบสุขภาพพอเพียง เพื่อสร้างให้สุขภาพดีบริการดี สังคมดี ชีวิตมีความสุขอย่างพอเพียง
-พันธกิจ : สร้างเอกภาพทางความคิดสร้างจิตรสำนึกสุขภาพใหม่สร้างระบบจัดการที่โปร่งใส สร้างกลไกการมีส่วนร่วมในการพัฒนา
-ยุทธศาสตร์ 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
การสร้างเอกภาพและธรรมาภิบาลในการจัดการระบบสุขภาพ
การสร้างวัฒนธรรมสุขภาพและวิถีชีวิตที่มีความสุขในสังคมแห่งสุขภาพวะ
การสร้างระบบบริการสุขภาพและการแพทย์ที่ผู้รับบริการอุ่นใจผู้ให้บริการมีความสุข
การสร้างระบบภูมิคุ้มกันเพื่อลดผลกระทบจากโรคและภัยคุกคามสุขภาพ
5.การสร้างทางเลือกสุขภาพที่หลากหลาย ผสมผสานภูมิปัญญาไทยและสากล
การสร้างระบบสุขภาพฐานความรู้ในการจัดการความรู้
แผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 10(2550-2554)
ปัญหาสุขภาพ
1.ยังคงมีปัญหาเหมือนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9
2.มีความทุกข์ในระบบบริการทางการแพทย์
3.ปัญหาด้านการเงิน การคลังด้านสุขภาพ
4.ขาดแคลนกำลังคนด้านสาธารณสุข
5.เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารการแพทย์ยังไม่ทันสมัย
นโยบายสำคัญ
-ปรัชญานำทาง "เศรษฐกิจพอเพียง" ยึดทางสายกลาง มีความสมดุลพอดี รู้จักพอประมาณ การมีเหตุมีผล มีระบบภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันโลก
-วิสัยทัศน์ระบบสุขภาพไทย "มุ่งสู่ระบบสุขภาพพอเพียง"
-สร้างสุขภาพดีตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 11
(พ.ศ.2555-พ.ศ.2559)
-มุ่งพัฒนาภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สร้างเอกภาพและธรรมาภิบาลในการอภิบาลระบบสุขภาพ ให้ความสำคัญกับการสร้างกระบวนการ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
-วิสัยทัศน์ : "ประชาชนทุกคนมีสุขภาพดีร่วมสร้างระบบสุขภาพพอเพียงเป็นธรรมนำสู่สังคมสุขภาวะ
-พันธกิจ : พัฒนาระบบสุขภาพพอเพียงโดยยึดหลักธรรมาภิบาล สร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยคุกคาม และสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการใช้ภูมิปัญญาไทย
-ยุทธศาสตร์การพัฒนามี 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1.เสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคีสุขภาพ ในการสร้างสุขภาพ
2.ประสานพัฒนาระบบเฝ้าระวังเตือนภัยและการจัดการภัยพิบัติอุบัติเหตุและภัยสุขภาพ
เสริมสร้งระบบบริการสุขภาพให้มีมาตรฐานในทุกระดับเพื่อตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพในทุกกลุ่มเป้าหมายและพัฒนาระบบส่งต่อที่ไร้รอยต่อ
3.มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพการป้องกันโรดควบคุมโรคและคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพเพื่อให้คนไทยแข็งแรงทั้งร่างกายจิตใจสังคมและปัญญา
สร้างกลไกกลางระดับชาติในการดูแลระบบบริการสุขภพ และพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ
แผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 11
(พ.ศ.2555-พ.ศ.2559)
ปัญหาสุขภาพ
โครงสร้างประชากรที่มีวัยสูงอายุมากขึ้น วัยเด็กและวัยแรงงานลดลง
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก
ความมั่นคงทางอาหารและพลังงานเปลี่ยนแปลงไป
ความก้าวหน้าทางเทคนโลยี
การก่อการร้าย ความไม่สงบทางการเมือง
นโยบายสำคัญ
มุ่งพัฒนาภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพดี ร่วมสร้างระบบสุขภาพพอเพียง เป็นธรรม นำสู่สังคมสุขภาวะ
สร้างหลักประกันและจัดบริการที่ครอบคลุมเป็นธรรม สร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยคุกคาม ให้ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น ลดการเจ็บป่วยจากโรคที่ป้องกันได้หรือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพ
มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ มีระบบบริหารจัดการการเงินการคลังด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเอกภาพ
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12
(พ.ศ.2560 -2564)
-วิสัยทัศน์ ระบบสุขภาพไทยเข้มแข็ง เป็นเอกภาพ เพื่อคนไทยสุขภาพดีสร้างประเทศให้มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
-พันธกิจ: เสริมสร้าง สนับสนุนและประสานให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการและภาคประชาสังคม ในการอภิบาลและพัฒนาระบบสุขภาพไทยให้เข้มแข็ง รองรับกับ บริบทของการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
-เป้าประสงค์ (Goals)
1 . ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย มีความรอบรู้ด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การเจ็บป่วยและตายจากโรคที่ป้องกันได้ลดลง
คนไทยทุกกลุ่มวัยมีสุขภวะที่ดีลดการตายก่อนวัยอันควร
เพิ่มขีดความสามารถของระบบบริการสุขภาพทุกระดับ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้ อย่างสะดวก เหมาะสม
มีบุคลากรด้านสุขภาพที่ดูแลประชาชน ในสัดส่วนที่เหมาะสม
มีกลไกการอภิบาลระบบสุขภาพแห่งชาติที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพ 4 ยุทธศาสตร์
ยุทธศาสตร์ที่ 1: เร่งการเสริมสร้างสุขภาพคนไทยเชิงรุก
ยุทธศาสตร์ที่ 2: สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในระบบบริการสุขภาพ
ยุทธศาสตร์ที่ 3: พัฒนาและสร้างกลไกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการกำลังคนด้านสุขภาพ
ยุทธศาสตร์ที่ 4: พัฒนาและสร้างความเข้มแข็งในการอภิบาลระบบสุขภาพ
การขับเคลื่อนแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12 สู่การปฏิบัติ
ดำเนินการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ประชาคมสาธารณสุข องค์กร ภาคี สุขภาพ ตระหนักและเข้าใจในสาระสำคัญของแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) และพร้อมเข้าร่วมในการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ
สร้งความเชื่อมโยงระหว่างแผนพัฒนาฯ 12และนโยบายรัฐบาล เข้าสู่แผนการบริหารราชการแผ่นดิน และแผนระดับอื่นๆ
ผู้บริหารทุกระดับของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญใช้เป็นกรอบแนวทางดำเนินงาน
จัดตั้งคณะกรรมการกำกับทิศทางการขับเคลื่อนแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-256 4) เพื่อกำกับการดำเนินงานติดตามประเมินผลแผนฯ เป็นระยะและต่อเนื่อง
จัดให้มีกลไกในการพัฒนาวิธีหรือกระบวนการยกร่างแผนพัฒนาสุขภาพฯ ฉบับต่อไป