Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ - Coggle Diagram
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่3 (พ.ศ.2515-2519)
มีความแตกต่างจากสองแผนแรกอย่างเห็นได้ชัด คือ มีการกล่าวถึงการพัฒนาบริการสาธารณสุขแบบผสมผสาน และให้ความสำคัญต่อความร่วมมือของประชาชนในการ
แก้ปัญหาสาธารณสุขและมีการกล่าวถึงการลดอัตราเพิ่มของประชากร ในโครงการ
วางแผนครอบครัวในฉบับนี้ด้วยพ.ศ.2517 มีการปรับปรุงส่วนราชการของกระทรวงสาธารณสุขครั้งใหญ่ โดยป็นการเปลี่ยนแปลงการบริหารสาธารณสุขทั้งระบบ กล่าวคือมีการกระจายอำนาจ
ออกไปสู่ส่วนภูมิภาคแทนการรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง มีนโยบายการให้บริการรักษาพยาบาลฟรี แก่ผู้รายได้น้อยเป็นครั้งแรก พ.ศ. 2518
ปัญหาสุขภาพ
1.ประชากรเพิ่มอย่างรวดเร็ว
2.โรคติดต่อต่างๆและโรคจาก
พฤติกรรมไม่ถูกต้อง
3.อัตราตายของมารดาและทารก
ยังคงสูงอย
นโยบายสำคัญ
มุ่งเน้นการอนามัยแม่และเด็ก การวางแผน
ครอบครัว ปรับปรุงและขยายการบริการรักษามีการพัฒนาความร่วมมือของประชาชนในเรื่อง
อนามัยสิ่งแวดล้อมและมีนโยบายการรักษาพยาบาลฟรีแก่ผู้มีรายได้น้อย
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่1 (พ.ศ.2504-2509)
เน้นการขยายสถานบริการสาธารณสุขได้แก่โรงพยาบาลและสถานีอนามัยให้เป็น
พื้นฐานในการพัฒนาประเทศมีการก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ๆเพิ่มขึ้นหลายแห่ง แต่
ยังไม่เน้นหนักในส่วนภูมิภาคเท่าที่ควร สำหรับงานด้านอนามัยปราบปรามและ
ควบคุมโรคติดต่อนั้นได้ดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ยกเว้นในเรื่องการ
แก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์และพยาบาลในชนบทห่างไกล
ปัญหาสุขภาพ
1.ป่วยและตายด้วยโรคติดต่อจากความยากจนและความไม่รู้ เช่น อหิวาตกโรค ไข้ทรพิษ
2.เด็กป่วยและตายด้วยโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ไอกรน โปลิโอ
3.ป่วยด้วยโรคจากปัญหาสุขาภิบาล
สิ่งแวดล้อม
4.อัตราตายของมาดาและทารกสูง
5.ประชาชนในชนบทได้รับการดูแลสุขภาพ
ไม่ทั่วถึง
นโยบายสำคัญ
ปรับปรุงสถานบริการและเพิ่มบุคลากรเพื่อให้การบำบัดรักษาที่ครอบคลุมทั่วยิ่งขึ้น
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 7
(พ.ศ.2535-2539)
โดยภาพรวมมีวัตถุประสงค์หลักที่จะรักษาอัตราการเจริญทางเศรษฐกิจที่สูงอย่างต่อเนื่องเน้นที่การกระจายรายได้ไปสู่กลุ่มผู้ด้อยโอกาสและเน้นการพัฒนาในพื้นที่เฉพาะ ช่น พื้นที่เขตเศรษฐกิจใหม่ พื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกและเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และคุณภาพชีวิตตระหนักถึงภัยของปัญหาสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ในแผน 7 ได้มีโครงการเร่งรัดเพื่อบรรลุเป้าหมายสุขภาพดีถ้วนหน้าก่อนสิ้น พ.ศ.
2543
ปัญหาสุขภาพ
ปัญหาโรคและการบาดเจ็บจากการ
ทำงานเพิ่มมากขึ้น
2.โรคเอดส์แพร่กระจายมากขึ้นและเกิด
กับประชาชนทุกกลุ่ม
3.โรคไม่ติดต่อที่เกิดจากพฤติกรรม
สุขภาพไม่ถูกต้องมีแนวโน้มสูงขึ้น(อุบัติเหตุ)
4.โรคเรื้อรัง โรคจิตประสาท
ความเครียด มีอัตราสูงขึ้น
นโยบายสำคัญ
เน้นการพัฒนาสถานีอนามัยให้เป็นจุดเริ่มของงานสุขภาพดีถ้วนหน้า พัฒนาสถานบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพมาตรฐาน - เน้นความพยายามในการสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับคนไทยทุกคน
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่2 (พ.ศ.2510-2514)
การพัฒนาสาธารณสุขในระยะนี้ยังคงมีลักษณะที่รัฐยื่นบริการให้ประชาชนโดย
ประชาชนเป็นฝ่ายรับด้านเดียวการรักษาพยาบาล การป้องกันโรคยังคงเป็นการดำเนินงานค่อนข้างแยกกันโดยรัฐมีนโยบายจะเร่งส่งเสริมและขยายขอบเขตการปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุขให้ครอบคลุมทั่วประเทศและมุ่งที่จะให้บริการสาธารณสุข
ไปถึงประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตชนบทห่างไกลการคมนาคมให้มากที่สุด
ปัญหาสุขภาพ
มีลักษณะคล้ายกับแผนฯ 1 คือ ป่วยและตายด้วยโรคติดต่อจากความยากจนและความไม่รู้ เช่น โรคไข้ทรพิษ กาฬโรค โรคคุดทะราด และไข้มาลาเรีย
นโยบายสำคัญ
เร่งผลิตบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ขยายการบริการสู่ประชาชนในชนบท
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่4 (พ.ศ.2520-2524)
มุ่งเน้นการแก้ไขและลดช่องว่างของปัญหาสาธารณสุข การให้บริการสาธารณสุขแบบ
ผสมผสานแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเริ่มตั้งเป้าหมายสุขภาพดีถ้วนหน้าในปี2543 โดยกลยุทธิืสาธารณสุขมูลฐานในพ.ศ.2522โรคติดต่อบางอย่างลดลงจนไม่เป็นปัญหาเช่น กาฬโรค ไข้ทรพิษ ประชาชนในชนบทยังมีสุขภาพอนามัยไม่ดีเนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะขาดแคลนน้ำสะอาดในการบริโภคและมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค
ปัญหาสุขภาพ
1.ประชาชนในชนบทยังมีสุขภาพ
ไม่ดีเนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อม
ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
2.มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค
นโยบายสำคัญ
เริ่มมีโรงพยาบาลประจำอำเภอ มีโครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคขั้นพื้นฐานเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2521 มีการอบรม ผสส. และ อสม. เป็นครั้งแรกใน
พ.ศ. 2520
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่5 (พ.ศ.2525-2529)
โดยอาศัยแนวคิดการพัฒนาสาธารณสุขที่มีจุดเด่น 5 ประการ 1. ยึดจุดมุ่งหมายเพื่อให้บรรลุ “สุขภาพดีถ้วนหน้าในปี 2543 2. การใช้สาธารณสุขมูลฐานเป็นมาตรการหลักในการพัฒนาสาธารณสุข 3. การให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุข 4. การมุ่งดำเนินงานแบบผสมผสานระหว่างสาขามากขึ้น เพราะงานสาธารณสุขต้องอาศัยรากฐานของ
การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมควบคู่ไปพร้อมกัน 5. การให้ความสำคัญแก่พื้นที่เป้าหมายและประชากรกลุ่มอายุที่มีปัญหาสาธารณสุข หรือมีอัตราการ
เสี่ยงต่อโรคสูงกว่ากลุ่มอื่น
ปัญหาสุขภาพ
1.อัตราป่วยและตายด้วยโรคติดต่อและ
โรคระบาดลดลง
2.โรคที่สอดคล้องกับการขยายตัวของ
การคมนาคมและการย้ายถิ่นเพิ่มขึ้น เช่นมาลาเรีย
3.โรคจากสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในชุมชนแออัดเขตเมืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
4.ขาดการศึกษาวิจัย
นโยบายสำคัญ
เน้นความเป็นธรรมของการบริการสาธารณสุขแก่ประชาชนเร่งดำเนินการสาธารณสุขมูลฐาน ยกฐานะสำนักงานผดุงครรภ์ให้เป็นสถานีอนามัย และใช้เป้าหมาย “สุขภาพดีถ้วนหน้า 2543
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 6
(พ.ศ.2530-2534)
ขยายสถานบริการสาธารณสุขให้ครบตามเป้าหมายการยึดหลักการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนในการพัฒนาและการรณรงค์ควบคุมโรคเอดส์เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงของชาติ และแนวคิดเรื่องหลักประกันสุขภาพ ประชาชนที่มีอายุยืนยาวขึ้นเป็น 60.8 ปีและ 64.8 ปี
ปัญหาสุขภาพ
1.โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนมีแนวโน้ม
ลดลง
2.โรคของประเทศที่พัฒนาแล้วในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเริ่มมีมากขึ้น เช่น หลอดเลือดหัวใจ อุบัติเหตุ
3.โรคจากการประกอบอาชีพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสถานประกอบการ
4.มีการระบาดของโรคเอดส์เนื่องจากความเบี่ยงเบนในพฤติกรรมทางเพศ
นโยบายสำคัญ
ขยายสถานบริการสาธารณสุขให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาการสาธารณสุข การรณรงค์ควบคุมโรค
เอดส์ เริ่มแนวคิดเรื่องหลักประกันสุขภาพ
แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 8
(พ.ศ.2540-2544)
เน้น “คน” เป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนา
ปัญหาสุขภาพ
1.ปัญหาพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น เช่น การบริโภค การออก
กำลังกาย การขับขี่ยานพาหนะ
2.ผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มของโรคที่เกิดจากความเสื่อมและโรคเรื้อรังต่างๆเพิ่มขึ้น
3.สถานบริการไม่เพียงพอต่อการรับ
ผู้ป่วยใน
4.โรคเอดส์ สารเสพติด
-เน้นการพัฒนาศักยภาพของคนในด้านสุขภาพโดยเฉพาะพฤติกรรมสุขภาพ
-เน้นความครอบคลุมหลักประกันสุขภาพด้วยบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ -เน้นการพัฒนาสุขภาพในการประกอบอาชีพโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรม
-นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาร่วมแก้ปัญหาสาธารณสุข
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 9
(พ.ศ. 2545-2549)
เน้นสุขภาพคือสุขภาวะพัฒนาระบบสุขภาพทั้งระบบ ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับสุขภาพ เป็น “ระบบสุขภาพพอเพียง”ภาพลักษณ์ของสังคมและระบบสุขภาพที่พึงประสงค์เริ่มกำหนดวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพ
ปัญหาสุขภาพ
1.ปัญหาการเจ็บป่วยจากโรค
ติดเชื้อ
2.ปัญหาการเจ็บป่วยจากโรคที่
มีสาเหตุทางพฤติกรรม
3.ปัญหาสุขภาพจิต สารเสพ
ติดอาหารเสริมผลิตภัณฑ์ความ
งามที่ขาดคุณภาพ
4.ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม
5.การกระจายบุคลากรด้าน
สุขภาพไม่เท่าเทียมข้อมูล
ข่าวสารด้านสุขภาพขาดประสิทธิภาพ
นโยบายสำคัญ
-สร้างสุขภาพเชิงรุก ให้ประชาชนมีส่วนร่วมคิดร่วมทำใน
การพัฒนาสุขภาพ (สร้างนำซ่อม)พ.ศ.2545 ได้มีการประกาศใช้นโยบาย 30 บาทรักษา
ทุกโรค เพื่อขยายบริการสุขภาพให้ครอบคลุม
ประกาศให้เป็นปีเริ่มต้นแห่งการรวมพลังสร้างสุขภาพ โดย
การรณรงค์ 5 อได้แก่ ออกก าลังกาย อาหาร อารมณ์ อนามัย
สิ่งแวดล้อม อโรคยา(และในปี 2548 ได้เพิ่ม อ ที่ 6 คือ
อบายมุข)พ.ศ.2547 มีการประกาศนโยบายและเป้าหมาย
เมืองไทยแข็งแรง (Healthy Thailand) ภายในปี
2550
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 10
(พ.ศ.2550-พ.ศ.2554)
น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการพัฒนาสุขภาพและยึดหลักการสุขภาพ
ดี เป็นผลจากสังคมดียุทธศาสตร์ 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. การสร้างเอกภาพและธรรมาภิบาลในการจัดการระบบสุขภาพ 2. การสร้างวัฒนธรรมสุขภาพและวิถีชีวิตที่มีความสุขในสังคมแห่งสุขภาวะ 3. การสร้างระบบบริการสุขภาพและการแพทย์ที่ผู้รับบริการอุ่นใจผู้ให้บริการมีความสุข 4. การสร้างระบบภูมิคุ้มกันเพื่อลดผลกระทบจากโรคและภัยคุกคามสุขภาพ 5.การสร้างทางเลือกสุขภาพที่หลากหลาย ผสมผสานภูมิปัญญาไทยและสากล 6. การสร้างระบบสุขภาพฐานความรู้ในการจัดการความรู้
ปัญหาสุขภาพ
1.ยังคงมีปัญหาเหมือนแผนพัฒนาฯ ฉบับ
ที่ 9
2.มีความทุกข์ในระบบบริการทาง
การแพทย์
3.ปัญหาด้านการเงิน การคลังด้านสุขภาพ
4.ขาดแคลนกำลังคนด้านสาธารณสุข
5.เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารการแพทย์ยังไม่
ทันสมัย
นโยบายสำคัญ
-ปรัชญานำทาง “เศรษฐกิจพอเพียง” ยึด
ทางสายกลาง มีความสมดุลพอดี รู้จักพอประมาณ การมีเหตุมีผล มีระบบภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันโลก-วิสัยทัศน์ระบบสุขภาพไทย “มุ่งสู่ระบบสุขภาพพอเพียง”
-สร้างสุขภาพดีตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงเชิง
ตะกอน
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 11
(พ.ศ.2555-พ.ศ.2559)
มุ่งพัฒนาภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสร้างเอกภาพและธรรมาภิบาลในการอภิบาลระบบสุขภาพ ให้ความสำคัญกับการสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของ
ทุกภาคส่วนในสังคมมุ่งเน้นการสร้างหลักประกันและการจัดบริการที่ครอบคลุมเป็นธรรมเห็นคุณค่าของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ
ปัญหาสุขภาพ
โครงสร้างประชากรที่มีวัย
สูงอายุมากขึ้น วัยเด็ก และ
วัยแรงงานลดลง
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
ของโลก
ความมั่นคงทางอาหารและ
พลังงานเปลี่ยนแปลงไป
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
การก่อการร้าย ความไม่สงบ
ทางการเมือง
นโยบายสำคัญ
มุ่งพัฒนาภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพดี ร่วมสร้างระบบสุขภาพพอเพียง เป็นธรรม นำสู่สังคมสุขภาวะ สร้างหลักประกันและจัดบริการที่ครอบคลุมเป็นธรรมสร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยคุกคาม ให้ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่นลดการเจ็บป่วยจากโรคที่ป้องกันได้หรือโรคที่เกิดจาก พฤติกรรมสุขภาพมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ มีระบบบริหารจัดการการเงินการคลังด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเอกภาพ
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12
(พ.ศ.2560 – 2564)
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็วของประเทศไทย
อันเนื่องมาจาก การลดลงของภาวะเจริญพันธ์หรือการเกิดน้อยลง และภาวการณ์ตาย
ลดลง คนไทยอายุคาดเฉลี่ยยืนยาวขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยา ทำให้รูปแบบ
ของภาระโรคเปลี่ยนจากโรคติดเชื้อไปเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ยุทธศาสตร์ที่ 1: เร่งการเสริมสร้างสุขภาพคนไทยเชิงรุก
ยุทธศาสตร์ที่ 2:สร้างความเป็นธรรม ลดความเลื่อมล้ำในระบบบริการสุขภาพ
ยุทธศาสตร์ที่ 3: พัฒนาและสร้างกลไกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการกำลังคนด้านสุขภาพ
ยุทธศาสตร์ที่ 4: พัฒนาและสร้างความเข็มแข็งในอภิบาลระบบสุขภาพ
ไทยแลนด์ 4.0 ด้านสาธารณสุข การพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมายในกลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยมี Roadmapในการ
สร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์เพื่อผลักดันให้เป็นเทศไทยเป็น
Medical Hub ของอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2568