Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระครูสุทธิธรรมรังษี (เจี๊ยะ จุนฺโท) - Coggle Diagram
พระครูสุทธิธรรมรังษี (เจี๊ยะ จุนฺโท)
ประวัติ
บิดาชื่อ นายซุ่นแฉ โพธิกิจ (แซ่อึ้ง) มาจากประเทศจีน
มารดาชื่อ นางแฟ โพธิกิจ เป็นชาวจันทบุรี
นามเดิม โอวเจี๊ยะ โพธิกิจ
มีพี่น้อง 7 คน และพี่บุญธรรมอีก 1 คน รวมเป็น 8 คน
บ้านเกิด บ้านคลองน้ำเค็ม ตำบลคลองน้ำเค็ม อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัด จันทบุรี
เป็นพระกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
เกิด 6 มิถุนายน 2459 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง
เป็นที่ยอมรับเรื่องธรรมภายใน กิริยาภายนอกที่สบาย ๆ
"หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท" มีงานอดิเรกคือท่านชอบตีเหล็กสำหรับทำขวาน
มรณภาพ 23 สิงหาคม 2547 เวลาประมาณ 23.55 น สิริอายุรวม 88 ปี 2 เดือน 17 วัน 68 พรรษา
ท่านเป็นประเภทตรงไปตรงมา การพูดการจาจึงเป็นดั่งโบราณท่านว่า
“น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย”
หลวงปู่เจี๊ยะ สมญานาม “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง”
เพียงแต่เราพิจารณาเห็นตามความเป็นจริง ไม่ประมาท มีสติอยู่ทุกเมื่อ
สิ่งเหล่านี้ภาษาธรรมเรียกว่า “ผ้าขี้ริ้วหรือถังขยะ หรือก้อนเขฬะน้ำลายที่พระพุทธเจ้าทรงบ้วนทิ้ง”
ลาภ-ยศ ตลอดจน เกียรติยศ-เกียรติภูมิ
บรรจุเอาแต่สิ่งที่สกปรกโสโครก นินทา-สรรเสริญ สุข-ทุกข์ ทรัพย์-สมบัติ
พระอาจารย์มหาบัวต้องการสอน ชีวิตคนบนโลกนี้เป็นเหมือนผ้าขี้ริ้ว
แต่จริงๆแล้วท่านพระอาจารย์มั่นเป็นผู้ที่เรียกองค์แรก
เป็นคำพุดที่พระอาจารย์มหาบัวเรียกหลวงปู่เจี๊ยะว่า “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง”
การอุปสมบท
เวลา 16.19 น ณ พัทธสีมาวัดจันทนาราม อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
โดยมี พระครูครุนารถสมาจาร (เศียร) เป็นพระอุปัชฌาย์
ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี วันที่ 11 กรกฎาคม 2480
พระครูพิพัฒน์พิหารการ (เชย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พรสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์(ท่านพ่อลี ธมมธโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้ฉายาว่า “จุนฺโท” แปลว่า “ผู้หมดกิเลสเครื่องร้อยรัด”
ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
2483-2485 หลวงปู่เจี๊ยะเป็นพระคิลานุปัฏฐาก และเป็นปัจฉาสมณะ เป็นประดุจเงาติดตามตัวพระอาจารย์มั่น
พระอาจารย์มั่นได้กล่าวชมเชยในคุณธรรมและนิสัยวาสนาของหลวงปู่เจี๊ยะท่ามกลางหมู่สงฆ์ว่า
ต่อมาอีกไม่นานนัก ฟันของพระอาจารย์มั่นหลุดแล้วท่านก็ยื่นให้ หลวงปู่เจี๊ยะ
“ทุกขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา ท่านผู้นี้ปฏิบัติลำบากแต่รู้เร็ว ปฏิบัติเพียง 3 ปี
เมื่อถึงจังหวัดเชียงใหม่ พระอาจารย์มั่นรู้ล่วงหน้าโดยตลอด จึงปูอาสนะนั่งรอท่าอยู่บนแคร่น้อยๆ
เท่ากับเราปฏิบัติภาวนามาเป็นเวลา 22 ปีอันนี่อยู่ที่นิสัยวาสนาเพราะนิสัยวาสนาของคนมันต่างกัน”
2482 ท่านกราบลาพระอาจารย์กงมา จิรปุญฺโญ และท่านพ่อลี ธมฺมธโร เดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่
ขณะที่ท่านเข้าที่หลีกเร้นภาวนาในดงป่าลึก จังหวัดจันทบุรี เกิดป่วยเป็นไข้มาลาเรียอย่างหนัก
พรรษาที่ 3 จิตของท่านเกิดรวมครั้งใหญ่ใต้ต้นกระบก ด้วยการหยั่งสติปัญญาลงในกายานุปัสสนา
2493 หลังจากถวายเพลิงศพพระอาจารย์มั่นท่านกลับไปบ้านเกิด เพื่อโปรดโยมมารดาซึ่งป่วยหนัก
ท่านปฏิบัติกรรมฐานด้วยอิริยาบถ 3 คือ ยืนภาวนา เดินจงกรม นั่งสมาธิ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชได้นิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสและร่วมสร้างวัดญาณสังวราราม จังหวัดชลบุรี
ที่เสนาสนะป่าช้าผีดิบบ้านหนองบัว ปัจจุบันคือวัดทรายงาม จังหวัดจันทบุรี
2526 คณะศรัทธาถวายที่ดินบ้านคลองสระ ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี แก่หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้ร่วมปฏิบัติธรรมจำพรรษากับท่านพระอาจารย์กงมา จิรปุญฺโญ
หลวงตาได้นิมนต์หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท มาอยู่เป็นเจ้าอาวาส และท่านได้สร้าง “วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม”
แม้ท่านจะเป็นพระเถระผู้ใหญ่ท่านยังเที่ยวภาวนาตามป่าตามเขา จนกระทั่งร่างกายเดินไม่ไหว
ท่านละสังขารด้วยอาการอันสงบและสง่างาม และอาจหาญในธรรม ณ โรงพยาบาลศิริราช
วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงตาได้นิมนต์หลวงปู่เจี๊ยะมาอยู่เป็นเจ้าอาวาส
3 กุมภาพันธ์ 2539 หลวงปู่เจี๊ยะท่านได้วางศิลาฤกษ์สร้างภูริทัตตเจดีย์
อารามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2524 โดยคณะศรัทธาถวายที่ดินแก่หลวงตามหาบัว
สำหรับบรรจุพระทันตธาตุของพระอาจารย์มั่น รูปร่างทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ของเจดีย์สมัยสุโขทัย แปดเหลี่ยม
โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ตกแต่งด้วยหินอ่อน หินแกรนิต ไม้สักทอง ยอดทำด้วยทองคำแท้
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราซ ทรงประทานมา
บ้านคลองสระ ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีภายในขอบเขตแห่งขัณฑสีมา
นอกจากจะเป็นเจดีย์ที่ควรไปสักการะอย่างยิ่งแล้ว ยังเป็นเครื่องบ่งชี้จารึกถึงความรัก ความเคารพ
ความกตัญญูที่หลวงปู่เจี๊ยะมีต่อท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ว่ายิ่งใหญ่เพียงใด