Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทบาทพยาบาลในการรักษาเบื้องต้น - Coggle Diagram
บทบาทพยาบาลในการรักษาเบื้องต้น
ขอบเขตของการรักษาโรคเบื้องต้น
1.สามารถตรวจ ประเมินสภาพ วินิจฉัยแยกโรคว่า อยู่ในกลุ่มใด แล้วให้การรักษาดูแลช่วยเหลือที่เหมาะสมตามข้อกาหนดการรักษาโรค เบื้องต้น การให้ภูมิคุ้มกันโรคและการวางแผนครอบครัว
กลุ่มอาการ / ความเจ็บปุวยที่อาจเป็นความเจ็บปุวยที่ร้ายแรง ต้องการการส่งต่อเพื่อรับการรักษา - กลุ่มอาการ / ความเจ็บปุวย โรคที่พบบ่อยที่ให้การบรรเทาอาการ / ให้การรักษาได้
กลุ่มอาการ / ความเจ็บปุวยฉุกเฉินที่ต้องรีบช่วยเหลือ และส่งต่อไปรับบริการที่เหมาะสม
2.ให้การดูแลช่วยเหลือ ส่งต่อ การรักษาโรค และอาการที่พบบ่อยและทาหัตถการที่กาหนด
3.ให้ยาเพื่อบรรเทาอาการ / รักษาโรคตามแนวทางที่กาหนดไว้ ให้ภูมิคุ้มกันโรคพื้นฐานและให้บริการวางแผนครอบครัว
4.ติดตามผล การให้การช่วยเหลือ รักษา
5.รับดูแลผู้ปุวยต่อ เพื่อให้การดูแลที่ต่อเนื่อง
คุณสมบัติของพยาบาลที่รับผิดชอบในการตรวจรักษาโรคเบื้องต้น
1.ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
2.มีประสบการณ์ในการปฏิบัติการพยาบาล ไม่น้อยกว่า 2 ปี
3.ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) และได้รับประกาศนียบัตร
4.ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) กับสภาการพยาบาล
5.มีการเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการรักษาโรคเบื้องตน้ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2550 ได้กำหนดชนิดของการทำหัตถการที่อยู่ในขอบเขตของวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ที่สามารถปฏิบัติได้ ดังต่อไปนี้
1.การทำแผล 2. การตกแต่งบาดแผล 3. การเย็บแผล
4.การตัดไหม 5. การผ่าฝีในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกาย
6.การถอดเล็บ 7. การจี้หูด หรือตาปลา
8.การผ่าเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกายออก โดยฉีดยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง
การล้างตา 10. การสวนกระเพาะปัสสาวะ
11.การล้างกระเพาะอาหารโดยใช้สายยางในรายที่สงสัยว่ารับประทานสารพิษ 12. การตรวจหลังคลอดและทำ PAP smear
13.การรักษาพยาบาลอื่น คือ การให้น้ำเกลือในผู้ป่วยท้องเดินอย่างรุนแรง การฉีดยาเซรุ่มแก้พิษงู การสวนปัสสาวะ การล้างกระเพาะอาหารโดยใช้สายยางในรายที่สงสัยว่ารับประทานสารพิษ
หัตถการต่อไปนี้ จะต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนดและได้รับรองจากสภาการพยาบาล
1.การใส่และถอดห่วง (IUD) 2. การฝังและถอดยาคุมกำเนิด (Norplant)
3.การผ่าตัดตาปลา 4. การเลาะก้อนใต้ผิวหนัง บริเวณที่ไม่เป็นอันตราย (หน้า 180 ของข้อกำหนด ฯ เขียนว่า การเลาะ cyst )
5.การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี VIA (Visual Inspection Using Asetic Acid)
6.การจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น (Cryotherapy)
การจำแนกผู้รับบริการ/ผู้ปวย
เมื่อผู้รับบริการ หรือผู้ป่วยมารับบริการจะต้องชักประวัติตรวจร่างกายทำการนิจฉัยและจำแนกผู้รับบริการผู้ปวยออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มอาการที่ต้องได้รับการวินิจฉัยเพิ่มเติม
มีจุดแดง จ้ำเขียว
ท้องมาน
น้ำหนักลด หรือ เพิ่มขึ้นเร็ว
หูอื้อ หูตึง
บวม
ตามัว เห็นภาพช้อน
ไข้หนาวสั่น
อาเจียนเป็นเสือด
มีไข้เกิน 7 วัน
กลืนสำบาก
มีจุดแดง จ้ำเขียว
ปัสสาวะ อุจาระเป็นเลือด
ไอเป็นเลื่อด
เลือดออกจากช่องคลอด ประจำเดือนมาผิดปกติ
คอพอก
มีก้อนในที่ต่างๆ
(ช่นข้างคอไหปลาร้าเต้านมรักแร้ซองท้องขาหนีบ อัณฑะ,
มือสั่น
แขนขาเกร็ง/ อ่อนแรง
กล้ามเนื้ออ่อนแรง
หนังตาตก
ปากเบี้ยว
ข้อมือตก/ ข้อเท้าตก
ข้ออักเสบ (บวมแดงร้อน)
. หนองในท่อปีสสาวะ
Condylorma (หงอนไก่)
ปวดศีรษะรุนแรง
เวียนศีรษะ
ไอเกิน 14 วัน
1.กลุ่มอาการฉุกเฉินที่ต้องช่วยเหลือเบื้องตันและส่งต่อทันที
9.ตกเลือดรุ่นแร (Massive blood loss)
10.ไฟฟ้าช็อต(Electrical injury)
8.7.โรคหลอดเลือดสมอง(Stcke/Cerebrovas cular disease)
11.ตกจากที่สูง (Faแing)
7.จมน้ำ (Orowning และ Near drowning)
12.ฟ้าฝ้า (Lighthing injury)
6.เป็นลม (Syncope /Fainting)
13.กระดูกหัก (Fracture)
5.การแพ้อย่างรุนแรง(Anaphyaxis)
14, ภาวะฉุกเฉินทางตา (Eye emergency)
4.ชัก (Seizure)
15.ภาวะฉุกเฉินทางหู (Ear emergency)
3.ภาวะช็อค (Shod
16.ภาวะฉุกเฉินทางคอ (Throat emergency)
การหมดสติ (Unconscousness)
17.ภาวะฉุกเฉินทางจมูก (Nasal emergenc)
1.การหยุดหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน (Cardiopulmonary arrest
18.ชิบติดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ (Zpper injury)
19.19.การบาดเจ็บที่ศีรษะ (-eadinjur (ถ้ามีอาการรุนแรง)
20.การบาดเจ็บทรวงอก (Cheat injury)
21.การบาดเจ็บซ่องท้อง (Abdominat injury)
22.การบาดเจ็บที่สันหลัง (Spinat injury)
23.บาดแผลไหม้ (Burn) (ถ้ามีอาการรุนแรง)
24, อุบัติภัยหมู่ (Mass casualty)
25.ได้รับสารพิษหรือยาเกินขนาด (Toxic substance/Drug overdose)
26.คนกัด (Human bite)
27.งูกัด (Snake bite)(ถ้าเป็นงูมีพิษหรืออาการรุนแรง)
28.สัตว์กัด (Animal bite)
29.ผึ้ง ต่อ แตนต่อย (Bee/wasp'-Hornet Sting(ถ้ามีอาการรุนแรง)
30.แมลงป้องต่อย ตะชายแมงมุมกัด (Scorpion sting Centipede'Sspider bite/ถาทีอาการรุนแรง)
31.เมนทะเลดำ(Sea urchinskถ้ามีอาการุนแรง)
32.เมนทะเลดำ(Sea urchinskถ้ามีอาการุนแรง)
33.ถูกข่มขืน (Rape)
34.พยายามฆ่าตัวตาย ( Suicide)
35.คลุ้มคลั่ง อาละวาด Violence)
36.กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
37.หอบหืตรุนแรง ( Status asthmaticus)
38.เป็นลมจากคลื่นความร้อน (Heat stroke)
39.ภาวะฉุกเฉินทางสูตินรีเวช
( Acute myocardial infarction)
3.กลุ่มอาการที่ต้องวินิจฉัยแยกโรคและให้การรักษาโรคเบื้องตัน
1.อาการในระบบทางเดินหายใจ: ใช้หวัดคัดมูกน้ำมูกไหลไอ หอบ เสียงแหบ
2.อาการทางตาหูคอ จมูก
ตามัวดันตาตาแดง ตาแฉะ ปวดตาคืองตา
เจ็บคอ เจ็บฟ'หูอื้อ/หูตึง