Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
HT Emergency with AKI on top CKD
(โรคความดันโลหิตสูงวิกฤต…
HT Emergency with AKI on top CKD
(โรคความดันโลหิตสูงวิกฤต และโรคไตวายเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง)
พยาธิสภาพ
(Acute Kidney Injury, AKI) โรคไตวายเฉียบพลัน
- ระยะเริ่มแรก (initial phase) เป็นระยะที่ร่างกายได้รับภยันตรายหรือสัมผัสกับสารพิษที่มีผล ต่อไต แล้วมีการปรับตัวโดยระบบประสาท ซิมพาธติค และมีการหลั่งสารที่ทำให้หลอดเลือดทั่วร่างกาย หดตัว ซึ่งมีผลต่อการปรับระดับการไหลเวียนของเลือด ความดันโลหิต เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะสำคัญ ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตน้อยลง (ischemia) ระยะนี้อาจจะอยู่ประมาณ 2-3 ชม.ถึง 2 วัน ถ้าแก้ไขได้ ทันท่วงที ก็จะหยุดการดำเนินโรคระยะนี้ได้
- ระยะที่มีการทำลายของเนื้อไต (maintainance) เป็นระยะที่เกิดขึ้นภายใน 2-3 ชม. และอาจนานเป็น 2 สัปดาห์ บางรายอาจนานถึง 2 เดือนก็ได้ ระยะนี้พบว่าเนื้อไตมีการอุดตันที่หลอด ฝอยไตและมีเนื้อไตวาย เกิดจากขาดเลือดไปเลี้ยงเป็นเวลานาน ไตเสียหน้าที่ในการขับของเสียและรักษา สมดุลน้ำ อิเลคโตรลัยท์ ความเป็นกรด – ด่าง ตรวจพบอัตราการกรองของไตลดลงเหลือ 5 – 10 มล. / นาที ปัสสาวะจะออกน้อยมาก (Oliguria) หรือ น้อยกว่า 400 มล.ต่อวัน ค่า BUN, creatinin สูงกว่าปกติ ผลแทรกซ้อนของระยะนี้คือภาวะของเสียคั่งในเลือด (uremia)
- ระยะที่มีปัสสาวะออกมาก (diuretic phase) เป็นระยะที่ไตเริ่มฟื้นตัว จะมีปัสสาวะออกมากกว่า 400 มิลลิลิตร จนถึง 4-5 ลิตรต่อวันไตยังไม่สามารถทำหน้าที่ดูดซึมกลับของสาร โดยเฉพาะ Na, K ทำให้ ขับออกมากับปัสสาวะ และยังไม่สามารถทำให้ปัสสาวะเข้มข้นได้
- ระยะที่ไตเริ่มฟื้นตัว (recovery phase) มีการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อไต ปัสสาวะจะเริ่ม ออกมากขึ้น ระดับยูเรียเริ่มลดลง และค่า BUN, creatinin จะค่อย ๆ ลดลงสู่ระดับปกติ (baseline) ระยะนี้ กินเวลา 5 – 10 วัน บางรายอาจมีปัสสาวะมากถึงวันละ 5 ลิตร ระยะนี้ไตยังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์กล่าวคือ ยังไม่สามารถทำหน้าที่ดูดซึมกลับของสารอิเลคโตรลัยท์ โดยเฉพาะโซเดียม โปตัสเซียมได้ ทำให้มีการขับ ปัสสาวะเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่สามารถทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นได้ ซึ่งต้องใช้เวลา 3 – 12 เดือน (สุจิตรา, 2540) สมรรถภาพของการทำงานของไตค่อย ๆ ดีขึ้น จนเข้าสู่ปกติ
-
-
อาการและอาการแสดง
(Acute Kidney Injury, AKI) โรคไตวายเฉียบพลัน
-
-
หายใจลำบาก แขนขาบวม หอบเหนื่อยง่ายจากการคั่งของสารน้ำในร่างกาย น้ำท่วมปอด หัวใจล้มเหลว หรือการมีปัสสาวะออกมากจะทำให้ BUN,Cr ลดลง
น้ำท่วมปอด หัวใจล้มเหลว หรือการมีปัสสาวะออกมากทำให้ BNC,Cr ลดลง
-
-
การรักษา
-
-
(Acute Kidney Injury, AKI) โรคไตวายเฉียบพลัน
-
2.รักษาแบบประคับประคองเรื่องภาวะแทรกซ้อนได้แก่ การ ควบคุมปริมาณน้ำเข้าออกร่างกายให้สมดุล หลีกเลี่ยงยาที่ มีพิษต่อไต ปรับขนาดยาให้เหมาะสมกับการทำงานของไต ที่ลดลง ปรับสมดุลกรดด่างภาวะเกลือแร่ที่ผิดปกติในร่างกาย
สาเหตุ
-
-
(Acute Kidney Injury, AKI) โรคไตวายเฉียบพลัน
การได้รับยาในปริมาณมากหรือยาวนาน เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวดชนิด (NSAIDS) ยาชุดยาสมุนไพร ทำให้เป็นพิษ ต่อไตและทำให้เกิดการสะสมของของเสียที่มีธาตุ ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ (nitrogenous waste products) ได้แก่ ยูเรีย (urea) และครีเอตินิน (creatinine) ในเลือด ส่งผลให้ร่างกายมีความผิดปกติ มีการคั่งของเกลือแร่และนํ้า
-
-
-
-
ผู้ป่วยอยู่ใน ระยะที่มีการทำลายของเนื้อไต (maintainance) คือ มีปัสสาวะออกน้อยกว่า 400 cc/day eGFR เหลือ 3.03 ml/min/1.73m2 และค่า E’lyte มีความผิดปกติ
-
-
ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยแรกรับคือ Pneumonia มีอาการปวดศีรษะ เหนื่อย นอนราบไม่ได้ และมีปัสสาวะออกน้อย
ผู้ป่วยมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ไม่อาเจียน หายใจลำบาก มีปัสสาวะออกมากทำให้ค่า BUN ,Cr ลดลง
-
-
ผู้ป่วยรายนี้มีสาเหตุจาก การหยุดยารักษาโรคความดันโลหิตจากโรงพยาบาล มีการซื้อยามารับประทานเอง ร่วมกับการรับประทานยาเกินขนาด เป็นระยะเวลานาน
-
แพทย์ให้การรักษาโดยใช้ยา ได้แก่
- Lasix 40,80 mg vein
- Nicardipind (1:5) vein 15 ml/min
ผู้ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยไตทำงานมีอัตราการกรองของไตน้อยกว่า 15ml/min/1.73m2 แพทยืให้การรักษาด้วยการฟอกเลือดด้วยไตเทียม (Hemodialysis:HD) โดยการนำเลือดของผู้ป่วยเข้าสู่เครื่องฟอกไตเทียม
แพทย์ให้การรักษาแบประคับประคอง โดยการควบคุมปริมาณสารน้ำเข้าออกร่างกายให้สมดุล ปรับสมดุลกรดด่างภาวะเกลือแร่ผิดปกติในร่างกาย ปรับยาให้เหมาะสมกับการทำงานของไต