Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อ ระบบทางเดินหายใจ - Coggle Diagram
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อ ระบบทางเดินหายใจ
ยาบรรเทาอาการหวัด
1.ยาต้านฮีสตามีน
(Antihistamines)
ชนิดของยาต้านฮีสตามีน
ยาต้านฮีสตามีนชนิดง่วงซึม
ยาต้านฮิสตามินชนิดไม่ง่วง
วิธีใช้ยาต้านฮีสตามีน
อ่านฉลากยาก่อนใช้และใช้ ยาตามที่แพทย์และเภสัชกร เสมอ
ใช้รักษาอาการ
คลื่นแรงคัดจมูกตาแดงไอ
4.ยาแก้คัดจมูก
(Nasal decongestant)
มีข้อห้ามการใช้ยาแก้คัดจมูก
•ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานั้นๆ ที่มีผลกระตุ่นระบบประสาทอัตโนมัติ
(Sympathomi metic drugs)
ห้ามใช้ยาแก้คัดจมูกมากกว่า 1 ชนิดร่วมกัน
อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาแก้คัดจมูก
มีผลต่อระบบประสาท หัวใจ อวัยวะตาระบบทางเดินปัสสาวะระบบทางเดินอาหารอื่นๆ
ข้อบ่งชี้
ตัวยาจะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง
ยาละลายเสมหะ (Mucolytics)
ประเภทของยาละลายเสมหะ
ยาน้ําละลายเสมหะ
เม็ดฟู่ละลายเสมหะ
ยาพ้นละลายเสมหะ
ยาสมุนไพรละลายเสมหะ
ผลข้างเคียงของ ยาละลายเสมหะ
ปวดศีรษะขึ้นไส้ ผู้ที่มีประวัติมีแผลในกระเพาะอาหารลำไส้
กลไกการออกฤทธิ
การไปทําให้การเกาะกันของ พันธะไดซัลไฟด์ของเสมหะลดลง
ยาขับเสมหะ
(EXPECTORANTS)
ยาขับเสมหะในประเทศไทย
1.แอมโมเนียมคลอไรด์(Ammonium Chloride)
2.กัวฟีนีซีน (Guafenesin หรือ Glycerol Guaicolate)
3.เทอร์พีน ไฮเดรต (Terpin hydrate)
ผลข้างเคียงของยาขับเสมหะ
เวียนศรีษะง่วงนอนมีพื้นขึ้นหน้าบวมคลื่นไส้
กลไกการออกฤทธิ์ของยาขับเสมหะ
ช่วยกระตุ้นให้มีการพัดโบกของคนในทางเดินหายใจ
3.ยาระงับอาการไอ
(Antitussives)
วธีการใช้ยา
ก่อนใช้ยาต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนหากเคยแพ้ยาระงับอาการไอตัวใดมาก่อน
ผลข้างเคียงของยา
คลื่นไส้ปวดหัวท้องผูก
กลไกการออกฤทธิ
ยับยั้งการทำงานของสมองส่วนที่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นจะทำให้เกิดการไอ
ยาขับเสมหะ และยาระงับอาการไอ
1.Acetylcysteine
ประเภท: ยาลดความหนืดข้นของเสมหะ
ข้อบ่งใช้: รักษาChronicemphysema,Chronic asthmatic bronchitis, Tuberculosis, Bron chiectasis, Bronchitis, Pneumonia, Tracheobronchitis
การออกฤทธิ์:ช่วยให้เสมหะที่เหนียวเหลวขึ้น ขับพวกมูกโดยไปทำลายDisulfide bond ของ Muco protein
ผลข้างเคียง: ซึม ง่วงนอน เยื่อบุปากอักเสบ
ข้อแนะนำการใช้ยา: สังเกตอาการข้างเคียงของยา
หายใจลึกเพื่อบริหารปอด
2.Ambroxol
ประเภท: ยาละลายเสมหะตัวใหม่ซึ่ง เป็น Metaboliteตัวหนึ่งของBrorhexine
ข้อบ่งใช้: รักษาโรคทางเดินหายใจที่มีเสมหะผิดปกติ
การออกฤทธิ์: เพิ่มการสร้างงและหลัง Surfactant และการกระจายของ Surfactant ยัง มีผลทําให้Mucusลดความหนืดลง ทําให้Ciliaถูหลกกระตุ้น ทํางานได้ดีขึ้นการขับเสมหะจึงสะดวก
ผลข้างเคียง: หากให้ขนาดสูงๆอาจพบอาการคลืนไส้ อาเจียนปวดศีรษะ
ข้อแนะนำการใช้ยา:หากมีอาการผิดปกติหลังจากใช้ยาให้ไปพบแพทย์
3.Ammonium Chloride
ประเภท: ยาขับเสมหะ
ข้อบ่งชี้:รักษาป่วยหลอดลมอักเสบและผู้ป่วยหลอดลมโปร่งพอง
การออกฤทธิ์:ขับเสมหะอย่างอ่อน
ผลข้างเคียง: ปวดศีรษะ ซึมเศร้า ง่วงหลับ
ข้อแนะนำการใช้ยา: รับประทานยานี้ทันทีหลังอาหาร
5.Bromhexine
ประเภท: ยาลดความหนืดข้นของเสมหะ
ข้อบ่งใช้ :รักษาผู้ป่วยหลอดลมอับเสบ
การออกฤทธิ์: ช่วยให้เสมหะที่เหนียวเหลวข้น
ผลข้างเคียง: ซึม ง่วงนอน เยื่อบุปากอักเสบ น้ำมูกใสๆ
ข้อแนะนำการใช้ยา: ระมัดระวังสำหรับผู้ป่วยที่มีแผลในกระเพาะอาหาร
4.Codeine
ประเภท:ยาแก้ไปชนิดเสพติด
ข้อบ่งใช้:บรรเทาอาการเจ็บปวดปานกลาง
การออกฤทธิ์: กดศูนย์การไอ
ผลข้างเคียง: คลื่นไส้ อาเจียน
ข้อแนะนำการใช้:กระตุ้นการขับเสมหะ
8.Dextromethorphan
ประเภท:ยาแก้ไอ ยานี้ไม่ทำให้เสพติดและไม่มีฤทธิ์ระงับปวด
ข้อบ่งใช้: ระงับอาการไอเนื่องจากความเย็น
การออกฤทธิ์: กดการไอ
ผลข้างเคียง:หากให้ขนาดสูงๆมีอาการซึม
ข้อแนะนำการใช้ยา:ดื่มน้ำมากๆอย่างน้อย1,500-2,000มิลลิลิตร
6.Diphenhydramine
ประเภท:ยากลุ่มต้านฮีสตามีน
ข้อบ่งใช้:ระงับอาการไอ
การออกฤทธิ์: ต้านฮีสตามนีร่วมกับยาต้านCholinergicปิดกั้นฮีสตามีนตรงตำแหน่ง
ผลข้างเคียง:ทำให้ง่วงนอน มันซึม
ข้อแนะนำ:ควรรับประทานก่อนเดินทาง30นาที
7.Glyceryl guaiacolate/Guaifenesin
ประเภท:ยาแก้ไอ ยาละลายเสมหะ
ข้อบ่งใช้:บรรเทาอาการไอเนื่องจากหวัด
กาออกฤทธิ์: ลดความหนืดของเสมหะ
ผลข้างเคียง:พบน้อย คลื่นไส้ อาเจียน
ข้อแนะนำการใช้ยา:ดื่มน้ำมากๆ หลังรับประทานยา
ยารักษาโรคหอบหืด
(Antiasthmatic drugs)
ประเภทยาขยายหลอดลม
1.Adrenaline
(Epinephrine)
ข้อบ่งใช้:รักษาควาผิดปกติของการหายใจ เช่นภาวะหืด
การออกฤทธิ์: กระตุ้นตัวรับα และ β-adrenergic ภายในระบบประสาทซิม พาเธติค ใช้รักษาภาวะหดเกร็งของหลอดลมและการแพ้ยาชนิดAnaphylaxis
ผลข้างเคียง: หากได้รับยาเป็นเวลานานๆ จะทําให้เกิดปฏิกิริยากับหัวใจและการไหล เวียน เบ่น เกิดความดันโลหิต สูงชีพจรเต้นเร็วหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ข้อแนะนำการใช้ยา: รายงานแพทย์เมื่อจังหวะการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
2,Aminophylline
ข้อบ่งใช้: บรรเทาอาการหอบหืด
การออกฤทธิ์: ขยายหลอดลมเพิ่มการบีบตัวของหัวใจ ทําให้หลอดเลือดขยายตัวและ มีฤทธิ์ในการขับปั สสาวะด้วยจึงมีผลแก้ไขภาวะน้ำท่วมปอดได้ดีการ ฉีดยานี้เข้าหลอดเลือดดําอาจมีผลทําให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้
ผลข้างเคียง: ความดันโลหิตต่ำใจสั่น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ข้อแนะนำการใช้ยา: รับประทานยาอย่าถูกต้องครบห้ามหยุดยาเองโดยเด็ดขาด รับประทานยาหลังอาหาร ดื่มน้ำมากๆ
3.Bambuterol
ข้อบ่งใช้: รักษาอาการหอบในผู้ป่วยโรคหืด
การออกฤทธิ์: เป็น β2-adrenergic agonist ที่มีฤทธิ์ยาว
ผลข้างเคียง: อาจเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ มือสั่น ปวดศีรษะ กล้ามเนื้อเกร็ง
4.Fenoterol
ข้อบ่งใช้: ป้องกันการเกิดอาการหอบหืดและการหดเกร็งของหลอดลม
การออกฤทธิ์: เป็น β2-adrenergic agonist
ผลข้างเคียง:กระสับกระส่าย มึนงง กลัวเหนื่อยล้า
ข้อแนะนำการใช้ยา: พ่นยาตามแผนการรักษาหาก พ่น 2 Puff ให้พ่น ห่าง กัน 1 นาที หรือพ่น ให้ห่างจากยาอื่น 5 นาที
ระวังยาเข้าตา
5.Ipratroium
ข้อบ่งใช้: รักษาผู้ป่วย Chronicbronchitis และ Emphysema
การออกฤทธิ์: ยาประกอบด้วยIpratropium bromideซึ่ง เป็นยาประเภท Anticholinergic ออกฤทธิ์ลด การเกร็งของหลอดลม และ Fenoterol hydrochloride ซึ่งเป็น ยาβ2-adrenergicออกฤทธิ์ขยายหลอดลม
ผลข้างเคียง: อาจพบอาการกล้ามเนื้อสั่น กระสับกระส่าย
ข้อแนะนำการใช้ยา: เหมาะที่จะใช้ในผู้ป่วยที่มี หลอดลมตีบเฉียบพลัน เช่นโรคหืด
6.Procaterol
ข้อบ่งใช้: ขยายหลอดลมรักษาอาการหอบในผู้ป่วยโรคหืด
การออกฤทธิ์: เป็น β2- adrenergic agonist ที่มีฤทธิ์ยาว
ผลข้างเคียง: อาจเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจมือสั่นปวดศีรษะกล้ามเนื้อเกร็ง
ข้อแนะนำการใช้ยา:ระวังในป่วยโรคหืดที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
7.Salbutamol
ข้อบ่งใช้:บรรเทาอาการดเกร็งของหลอดลมนโรคหอบหืดทุกชนิด
การออกฤทธิ์: ยาจะกระตุ้นที่ β2-adrenocepter ในขนาดที่ใช้รักษาจะออกฤทธที่ β2-adrenocepter ในขนาดที่ใช้ารักษากษาจะออกฤทธิ์ที่ β2-adrenocepter ของกล้าม เนื้อหลอดลมหากใช้าในขนาดสงู กระต้นุ β1 -adrenocepterของหัวใจการออกฤทธิ์เร็ว
ผลข้างเคียง: มีน้อยโดยเฉพาะยาที่ให้โดย การพ่นหคือสูดดมหากใช้รับประทานอาจพบอาการมือสั่น ปวดศีรษะ
ข้อแนะนำการใช้ยา:ดื่มน้ำากๆและให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอเพื่อช่วยให้เสมหะอ่อนตัวออกทางเดินายใจง่าย
8.Theophylline
ข้อบ่งใช้:บรรเทาอาการหอบหืด
การออกฤทธิ์: ยับยั้งPhosphodiesteraseและ
ช่วยยสร้าง Cyclic adrenosine monophosphate,CAMPซึ่งการเพิ่มCAMP นี้จะมีผลให้ หลอดลมขยายตัวมีการกระตุ้นหัวใจระบบประสาทรวมทั้ง ทําให้อยากอาหารมากขึ้น
ผลข้างเคียง: หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะกระสับกระส่ายหงุดหงิดคลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะคัง ค้าง ปวด ศีรษะกังวลนอนไม่หลับ
ข้อแนะนำการใช้ยา: ห้ามหยุดยาเองโดยเด็ดขาด
ยาTheodore ห้ามเคี้ยวหรือบดเม็ดยาให้แตก
ยารักษาโรคปอด
3.Tiotropium
(ไทโอโทรเปียม)
กลุ่มผู้ป่วย=ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา=ยาสูดพ่น
ประเภทยา=ยาตามใบสั่งแพทย์
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Tiotropium
ปากแห้งเวียนศรีษะมองเห็นภาพเบอร์ท้องผูกเป็นต้น
กล่มุยา=ยากล่มุแอนติโคลิเนอร์จิกิ (Anticholinergic)
5.Rifampicin
(ไรแฟมพิซิน)
กล่มุ ยา=ยาปฏิชวีนะ
ประเภทยา=ยาตามใบสั่งแพทย์
กลุ่มผุ้ป่วยย=เด็กผู้ใหญ่
รปูแบบของยา=รับประทานฉีดเข้าเส้นเลือด
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาRifampicin
มีอาการแพ้เช่นหายใจลำบากเลือดออกมีไข้
2.Pyrazinamide
(ไพราซินาไมด์)
กล่มุยา=ยาต้านวัณโรค
ประเภทยา=ยาตามใบสั่งแพทย์
กลุ่ ผู้ป่วยย=ผู้ใหญ่ เด็ก
รูปแบบของยา= ยารัยประทาน
ผลข้างเคียงในการใช้ยาPyrazinamide
ปวดข้อ ตัยผิดปกติอาเจียนปัสสาวะมีสีเข้มอุจจาระสีซีด
1.Ethambutol
(อีแทมบูทอล)
กล่มุยา=ยารักษาวัณโรค
ประเภทยา=ยาตามใบสั่งแพทย์
กล่มุผู้ป่วย=เด็กและผู้ใหญ่
รูปแบบของยา=ยารับประทาน
ผลข้างเคียงในการใช้ยาEthambutol
ปวดข้อ ตัยผิดปกติอาเจียนปัสสาวะมีสีเข้มอุจจาระสีซีด
4.ไอโซไนอาซิด
กล่มุยา=ยารักษาวัณโรค
กลุ่มผู้ป่วย=ผู้ใหญ่ เด็ก
รปูแบบของยา=ยาฉีดยารับประทาน
ประเภทยา=ยาตามใบสํ่แพทย์
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Isoniazid
ปวดท้องส่วนบนมีไข้ติดต่อกันสามวันขึ้นไปปัสสาวะสีเข้ม