Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
6.4 part 2 (Neonatal teeth-Sucking defect) - Coggle Diagram
6.4 part 2 (Neonatal teeth-Sucking defect)
6 Neonatal teeth
Characteristics
Neonatal teeth teethหรือPre Deciduous Teeth
ฟันที่ขึ้นเร็วมีสีขาวประกอบด้วยเคราติน(keratin) เป็นส่วนใหญ่
สามารถจับโยกออกได้ง่าย
ทารกบางคนเกิดมาพร้อมกับมีฟันซี่เล็ก ๆ 1 หรือ 2 ซี่
ฟันที่ขึ้นในช่วงแรกเกิดนี้ จะแตกต่างจากฟันน้านมปกติ คือมีแต่ตัวฟัน ไม่มีรากฟัน
ฟันที่ขึ้นมาเร็ว
ควรจะเก็บไว้จนกว่าจะหลุดไปเอง แต่
บางครั้ง จะก่อปัญหาในการให้ลูกดูดนม
มารดา
การดูแล
Educate the family
อธิบายให้มารดาและ
ครอบครัวทราบและสังเกตการหลุดของฟัน
ขณะให้นมลูกถ้าพบปัญหาการดูดนม
มารดาฟันที่ขึ้นมา จะขบกัดหัวนม ขณะให้
นม อาจทาได้โดยใช้ผ้ากอซหุ้มรอบๆ
หัวนม
การถอนฟันที่ขึ้นเร็วในทารกแรกเกิด
ตามปกติจะทาเมื่อทารกอายุ1 วัน
7 Sub temperature
ภาวะอุณหภูมิกายต่า ในทารกแรกเกิด
ที่วัดทางทวาร
หนักหรือรักแร้ < 36.5 C
วัด
จากผิวหนังของลา ตัวต่า กว่า 36องศาเซลเซียส
ระบบการปรับอุณหภูมิของร่างกายทารก
ถูกควบคุม
โดยสมองส่วน hypothalamus โดยการสร้าง
สมดุลระหว่างการเพิ่มและการสูญเสียความร้อน
(heat gain and heat loss)
Body + Coldness -> Body produces heat + then release the heat out of the body
ร่างกายได้รับความเย็น
หรือร้อน ร่างกายจะมีการ
ปรับตัวโดยการสร้างความ
ร้อน
(heat production)
และการถ่ายเทความร้อน
(heat loss)
Heat loss
การถ่ายเทความร้อน(heat loss)
Body + heat production -> sweat
สร้างความร้อนและเพิ่มการระบายความร้อนโดยการกระตุ้นให้มีการขับเหงื่อออกมาสู่บริเวณผิวหนังเพื่อระเหยออกสู่สภาพแวดล้อม
ทารกจะมีการสูญเสียความร้อนมากกว่าผู้ใหญ่ คือประมาณ 4 เท่าของน้าหนักตัว
Cause/ Why?
too much skin space -> lose more body heat
พื้นที่ผิวกายกว้างมากเมื่อเทียบกับน้าหนักตัว
1 more item...
2
มีไขมันสีน้าตาลน้อย
3
การงอตัวของทารก
1 more item...
4
ศูนย์ควบคุมความร้อนยังเจริญไม่เต็มที่
1 more item...
5
ต่อมเหงื่อยังพัฒนาไม่เต็มที่
1 more item...
ทารกเกิดก่อนกาหนดจะมีอัตราสูญเสียความร้อน 5 เท่าของน้าหนักตัว
กลไกการสูญเสียความร้อน from the baby body
มี 4 ทาง
1 การนา ความร้อน (conduction)
ส่ง
ความร้อนจากวัตถุหนึ่งไปยังวัตถุหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อผิวกาย
ทารก
สัมผัสโดยตรงกับวัตถุท่มี ีอุณหภูมิต่า กว่า
2
การพาความร้อน (convection)
heat loss through the wind (the wind = heat carrier)
เสียความร้อนจากผิวกายไปสู่อากาศรอบๆตัว
Prevention
พยาบาลสามารถป้องกันได้โดยการ ปิดพัดลม และห่อตัวทารก
3
การระเหยของน้า
สูญเสียความร้อนจากน้าที่ระเหยทางผิวหนัง
ทารกจะสูญเสียความร้อนด้วยวิธีนี้เมื่อ เมื่อตัวเปียก แฉะหรือมีความชื้นสูง
Prevention
พยาบาลจึงต้องเช็ดตัวทารกให้แห้งทันทีเมื่อทารกคลอดออกมา
4
การแผ่รังสี (radiation)
สูญเสียความร้อนโดยการแผ่กระจายความร้อนจากทารกไปสู่วัตถุรอบๆด้านที่เย็นกว่า
วัตถุนั้นไม่ได้สัมผัสผิวกายทารก เช่น การวางทารกไว้ใกล้กับวัตถุที่เย็นหรืออยู่ในอุณหภูมิห้องที่เย็น
Prevention
ห่อตัวและวางทารกให้ห่างจากผนังที่เย็นกว่า
อาการและอาการแสดง
อาการทารกแรกเกิดที่มีอุณหภูมิกายต่า
ผิวหนังเย็นกว่าปกตหิ รือมีอาการเขียวคล้า (cyanosis)
หายใจเร็วหรือหายใจลา บาก อาจตรวจพบว่ามี
เสียงกลั้นหายใจ
(Grunting)
ถ้ามีอาการรุนแรงอาจมีภาวะเลือดออกในปอด (Pulmonary
hemorrhage)
ตัวเหลือง เกล็ดเลือดต่า มีปัสสาวะน้อย
(Oligouria)
มีภาวะไตล้มเหลว(Acute renal
failure)
มีภาวะน้า ตาลในเลือดต่า หรือเกิดความเป็นกรด
(Acidosis) เพิ่มขึ้นได้ ซึม ดูดนมช้า ถ้ารุนแรงมากอาจ มีอาการ
ชักหรือมีเลือดออกในสมองได้
การรักษาภาวะอุณหภูมิกายต่า มี 2 วิธี
การเพิ่มอุณหภูมิกายอย่างช้า (slow re warming)
ลดการสูญเสียความร้อนโดยการแผ่
รังสี
ปรับอุณหภูมิของตู้อบให้อยู่ที่ 36องศาเซลเซียสใช้ plastic
shield วางครอบทารก เพื่อลดการสูญเสียความร้อนโดยการแผ่
รังสี
ถ้าอุณหภูมิกายยังลดลงอีก ให้เพิ่มอุณหภูมิตู้เป็น
37 องศาเซลเซียส
พยายามหาดูว่าทารกมีการสูญเสียความร้อน
ทางใด และให้การแก้ไข ภายหลัง 15 นาที
2.การเพิ่มอุณหภูมิกายอย่างเร็ว (rapid rewarming)
วางทารกไว้ใต้เครื่องให้ความอบอุ่นโดยการแผรั่งสี ชนิดที่มี servo
control ติด
skin probe ไว้ที่ผนังหน้าท้อง
ตั้งปุ่มปรับอุณหภูมิผิวหนังไว้ที่
36.5องศาเซลเซียส
วัด
อุณหภูมิทวารหนักทุก 15 ถึง 30 นาที
นวัตกรรมการดูแล
ถุงถั่วเขียว+heated in microwave
ใส่ถุงถั่วเขียวดิบ 1กิโลกรัม + ในถุงผ้ายีนส์ขนาดของถุงผ้าเท่ากับกระดาษ A 4 แล้ว+ เย็บปิดให้มิดชิด
อุ่นถุงถั่วในด้วยไมโครเวฟ ขนาดไฟ 800วัตต์ นาน 1นาที
ใส่ถุงถั่วเขียวในซองเอกสารสีน้าตาลขนาด A 4
ปูผ้าขนหนูบนซองเอกสารที่ใส่ถุงถั่วเขียวที่อุ่นแล้ว 1ผืน
ใช้ผ้าขนหนูห่อตัวทารกแล้ววางลงบนผ้าขนหนูที่ปูอยู่บนซองเอกสารที่ใส่ถุงถั่วเขียวที่อุ่นแล้ว
8 sucking defect
ปัญหาการดูดกลืนผิดปกติ
พยาธิสรีรวิทยาการดูดในเด็กปกติ
ทารกจะมีการดูดเป็นเมื่ออายุครรภ์ได้28 สัปดาห์
ในกรณีที่มี
โรคของสมอง การดูดกลืนนี้จะเสียไป
Age difference -> amount of fluid sucked
ในทารกคลอดก่อนกา หนดจะดูดได้ 0.5 มล.ต่อครั้ง
เด็กโตจะกลืนได้ 0.33 มล./กก./ครั้ง
เด็กอายุ 1-3 ปี จะกลืนได้ 4.6 มล.ต่อครั้ง
เมื่อกลืนผ่านไปในหลอดอาหาร (esophagus) จะใช้เวลาเพียง 15
วินาที
สารเหลวก็ไหลลงไปในกระเพาะได้
แต่ถ้าเป็นอาหารข้น
จะต้องอาศัยการบีบตัวของหลอดอาหารด้วย (peristalsis)
Factors affecting "sucking defect"
1
ปัจจัยภายใน
related to defects of "mouth, tonge, swallowing, esophagus, digestion, etc. " e.g. tongue defect (ลิ้นติด Tongue-tie / ankyloglossia)
1.1ปัญหาอวัยวะเกี่ยวข้องกับการดูดกลืนผิดปกติ
ลิ้นติด
ปากแหว่งเพดานโหว่ ช่องต่อระหว่างทางเดินอาหารกับระบบทางเดินหายใจมีปัญหาห
1.2เด็กแรกเกิดที่มีปัญหาเรื่องโรคหัวใจหรือปอด ทาให้ต้องหายใจเร็วขึ้น จึงมีโอกาสในการสาลัก
1.3 พัฒนาการที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อใบหน้า ช่องปาก
1.4 ทารกคลอดก่อนกา หนด ความสมบูรณ์ของระบบทางเดินอาหาร
มีน้อย
1) รีเฟล็กซ์ของการดูดและกลืนมีน้อยหรือไม่มี
2) Cardiac sphincter ไม่ดี ปิดไม่สนิท ทารกเกิดการ
สารอก อาเจียนได้ง่าย
3) น้าย่อยในกระเพาะอาหารมีน้อย ตับสร้างน้าดีได้น้อย การ
ย่อยอาหารโดยเฉพาะพวก ไขมันทาได้ไม่ดีจึงท้องอืดได้ง่าย
ปัจจัยภายนอก
1
วิธีการให้นม การให้นมไม่ถูกวิธี
2
การให้ทารกดูดหัวนมยาง ทาให้สับสนหัวนม(nipple
3
. ปริมาณนมที่ให้มากเกินไป จึงเกิดการสาลักนมออกมา
Assessment
การประเมิน sucking reflex
ถ้าผิดปกติทารกจะไม่มีแรงดูดหรือไม่ดูด
การดูแล
ดูแลให้ได้รับนมเพียงพอตามปัญหาที่พบ เช่นส่งต่อผู้เชี่ยวชาญในการ
ฝึกการดูดกลืนในทารกที่มีปากแหว่ง
ถ้ามีอาการสา ลักนม จับเด็กนอนตะแดง ให้ศีรษะเด็กต่า
ลง เพ่อื
ป้องกันไม่ให้นมหรืออาหารที่อาจมีอยู่ในปากไหลย้อนกลับไปที่ปอด
ที่สา คัญ ไม่ควรจับเด็กอุ้มขึ้นทันทีเมื่อเกิดอาการสา ลัก
จับลูกเรอทุกครั้งหลังที่กินนมเสร็จ
ทารากแรกเกิด ที่คอยังไม่แข็ง ควรใช้วิธีอุ้มลูกนั่งตัก ใช้มือ
ประคองช่วงขากรรไกรเพ่อื ประคองศีรษะ แล้วใช้มืออีกข้างลูบหลัง
ขึ้นเบาๆ