Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การจัดการและผลลัพธ์การดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังระยะท้ายที่บ้าน (Palliative…
การจัดการและผลลัพธ์การดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังระยะท้ายที่บ้าน (Palliative care)
หลักการการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบองค์รวม
ดูแลให้มีความสุขสบายควบคุมความเจ็บปวดจัดการเรื่องที่ค้างคาใจให้หมดสิ้น
ดูแลสมํ่าเสมอให้ผู้ป่วย/ญาติลดความกลัวและความวิตกกังวลได้
ตายดี
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่บ้าน
ให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถเผชิญกับปัญหาเรื่องความเจ็บไข้ และมีการปรับตัวปรับใจที่เหมาะสมจนถึงระยะสุดท้ายของชีวิต
ให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลแบบองค์รวม ลดภาวะความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วย
ให้ผู้ป่วยและครอบครัว สามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสมตามศักยภาพ
ให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้วางแผนร่วมกัน และมีการเตรียมตัวเกี่ยวกับการสูญเสีย
การวางแผนการดูแลผู้ป่วย และ การจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้าน
กิจกรรม: เริ่มจากขั้นตอนง่าย ๆ ช้าๆค่อย ๆ ช่วยอย่างอ่อนโยน
การออกกำลังกาย: ปรับให้เหมาะสม สนุก ปลอดภัย
การรับประทาน: ทำเป็นกิจวัตรอาหารดี มีประโยชน์ปรุงด้วยเทคนิคที่ดีปลอดภัย ได้เลือกและ ดูแลสุขภาพช่องปากทุกวัน
การนอนหลับ: ทำเป็นกิจวัตร สถานที่สงบ จำกัดการดื่มคาเฟอีน
การเตรียมด้านจิตใจ และวิญญาณ
ความปลอดภัยในบ้าน: ปลอดภัยไม่อยู่ใกล้มีด
การทำความสะอาดร่างกาย: ทำเป็นกิจวัตร อ่อนโยนเคารพในเกียรติ และศักดิศรี มีความปลอดภัย
ได้รับยาตามกำหนดนัดหมาย
ปัญหาร่างกายด้านอื่นๆ
ปัญหาเรื่องท้องผูก
1.ผู้ดูแลควรจัดอาหารให้มี ใยอาหาร เช่น ผัก ผลไม้
2ให้ผู้ป่วยดื่มนํ้าอย่างเพียง พอที่ไม่ขัดกับโรค
3 กระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้ยามอร์ฟีนควรได้ยาระบายจากแพทย์ด้วย หากไม่ได้รับยาระบาย ควรแจ้งแพทย์ทุกครั้ง
ให้ sennaConstipation 2-4 แคบซูลก่อนนอน
ปัญหาคลื่นไส้อาเจียน
1.ผู้ดูแลควรจัดอาหารที่ย่อยง่ายครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง
2.งดอาหารกลิ่นฉุน ของมัน ของทอด
3.จัดสิ่งแวดล้อม ในห้อง ในบ้าน และรอบบ้านให้ผ่อนคลาย รู้สึกสุขสบาย
4.หากผู้ป่วยคลื่นไส้อาเจียนมาก ควรเลื่อนมื้ออาหารจนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือถ้าไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
ปัญหาเรื่องหายใจลำบาก
ควรจัดสถานที่ เพื่อผู้ป่วยไม่ต้องออกแรงมาก เช่น ห้องนอน ควรให้ผู้ป่วยพักชั้นล่าง อากาศถ่ายเทดี อยู่ใกล้ห้องนํ้า หรือให้ขับถ่ายด้วยหม้อนอน
ควรจัดให้ผู้ป่วยพักให้ท่าศีรษะสูงเล็กน้อยเพื่อให้หน้าอกขยายได้ง่าย
คอยอยู่ดูแลใกล้ชิด เมื่อมีอาการมาก ควรปรึกษาแพทย์
ให้ออกซิเจน
ปัญหาผิวหนังและแผลกดทับ
1.ควรพลิกตะแคงตัวผู้ป่วยทุก 2ชั่วโมง
2จัดหาเตียงลมหรือที่นอนนํ้าเพื่อให้นอนสบายและเพื่อมีการกระจายนํ้าหนักตัวไม่กดลงจุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป
3.รักษาความสะอาดผิวบริเวณกดทับ เมื่อผิวเริ่มเปลี่ยนจากปกติ ควรประเมินและแนะนำวิธีการแก้ไข
ปัญหาเรื่องความอ่อนล้า
ควรดูแลทำความสะอาดในช่องปากทุกวันอย่างน้อยวันละสองครั้ง คือ เมื่อตื่นนอนเช้า และก่อนเข้านอน ถ้าแปรงฟันไม่ได้ ให้ใช้นํ้าเกลือบ้วนปากบ่อย ๆ หรือใช้กระบอกฉีดยา ฉีดนํ้าเกลือทำความสะอาดในปาก
ควรให้ผู้ป่วยจิบนํ้าบ่อยๆ หรืออมนํ้าแข็งก้อนเล็กๆ เพื่อให้ปากชุ่มชื้น
ควรให้อาหารอ่อน หรือ อาหารเหลว/อาหารนํ้า ขึ้นกับภาวะกลืนอาหารของผู้ป่วย รสอาหารไม่จัด เพื่อให้กลืนได้ง่าย
บทบาทของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน
Collaboration
Empowerment, Educating, Coaching and Mentoring
Direct care
EBP
Care management
Consultation
Change agent
Ethical reasoning and ethical decision making
Outcome manage and evaluation
ความเจ็บปวด
หลักการให้ยาบรรเทาความเจ็บปวด
โดยการรับประทาน
เริ่มจากน้อยๆ
เริ่มก่อนอาการเจ็บปวด
ให้จนกว่าจะหายปวด
อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจ
ยาแก้ปวด
ขั้นที่ 2Codeine 30 mg every 4 hours หรือ Ibuprofen 400 mg every 6 hours
ขั้นที่1Aspirin 600 mg every 4 hours หรือ Paracetamol500 mg 2 tab every 4-6 hours
ขั้นที่ 3Morphine 2.5-5 mg every 4 hours
การจัดการความเจ็บปวด โดยไม่ใช้ยา
เบี่ยงเบนความสนใจ โดย การเปิดวิทยุ เพลง จินตนาการ
ดูแลด้านร่างกาย โดยการสัมผัส การนวด
ให้สวดภาวนา
อนุญาติการดูแลพื้นบ้านที่ไม่เป็นอันตราย
ประคับประครองทางจิตใจ
การตายอย่างมีศักดิ์ศรี(Dying with dignity)
การตายอย่างมีศักดิ์ศรี ให้คุณภาพชีวิตก่อนตายมีความสงบและผ่อนคลาย การเคารพตนเอง การมีเกียรติ มีคุณค่า
Hospice programจะมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยได้ตายอย่างมีศักดิ์ศรี
Hospice program เป็นการจัดบริการให้กับผู้ที่กำลังจะตาย(Dying person) ให้มีความสะดวกสบายมากกว่า การรักษา
การดูแลเพื่อลดความเจ็บปวดเป็นประเด็นหลัก สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นแบบที่บ้าน ไม่มีเครื่องมือต่างๆ ช่วยชีวิต
การเตรียมตัวสำหรับการตายดี WHO
1 ดูแลความสุขสบายในช่วงสุดท้ายของชีวิต เช่น ไม่ให้ปากแห้ง ดูแลให้เนื้อตัวสะอาด ให้เฉพาะยาที่จำเป็น ไม่บังคับให้รับประทานอาหาร หรือ นํ้าดื่ม ให้การดูแลอย่างช้าๆ ใส่ใจสมํ่าเสมอ
2ส่งเสริมให้มีการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยกับครอบครัว สนับสนุนให้มีการสัมผัส/จับมือ/อยู่เคียงข้างเสมอ
3 ประเมิน และ พูดคุยในเรื่องที่ผู้ป่วยยังกังวลใจอยู่ รวมทางหาทางแก้ไขความกังวลใจ
4บอกผู้ป่วยว่าทุกคนรักเค้า และ จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป
5 หากผู้ป่วยยอมรับได้ ให้สนทนาเกี่ยวกับความตาย (นึกถึงเสมอว่าเหมาะสมหรือไม่)
6 ให้ผู้ป่วยได้รับพิธีกรรมก่อนตาย หรือ พูดคุยกับบุคคลทางศาสนาตามความเชื่อ