Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การแสดงพื้นเมือง 4 ภาค, image, image, image, image, 278915774…
การแสดงพื้นเมือง 4 ภาค
:red_flag:
การแสดงพื้นเมืองภาคเหนือ
.
:star:
ดนตรีที่ใช้ในการแสดง
:<3: ฟ้อนเล็บ
เครื่องดนตรีที่ใช้ในการฟ้อนเป็นวงกลองตึ่งโนง วงต๊กเส้ง หรือวงปี่พาทย์ล้านนา(นิยิมใช้กับฟ้อนเล็บแม่ครูบัวเรียว) ซึ่งเป็นดนตรีของชาวภาคเหนือ ได้แก่ กลองแอว กลองตะโล้ดโป๊ด ฉาบ ฆ้องโหม่งใหญ่ ฆ้องโหม่งเล็ก ฉิ่ง ปี่แนหน้อย ปี่แนหลวง แต่ถ้าเป็นวงต๊กเส้ง จะเพิ่ม สิ้ง มาด้วย
:pencil2:
การแสดงพื้นเมือง
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://th.m.wikipedia.org/wiki/
.
:star:
ตัวอย่างการแสดงของภาคเหนือ
ฟ้อนดวงเดือน
ฟ้อนเงี้ยว
ฟ้อนเล็บ
:star:
การแต่งกาย
:<3: ฟ้อนเล็บ
การแต่งกายจะแต่งกายแบบไทยชาวภาค เหนือสมัยโบราณ นุ่งผ้าซิ่นมีเชิงลายขวาง เสื้อคอกลมแขนยาว และห่มผ้าสไบเฉียงทับ เกล้าผมมวยสูงทัดดอกไม้และห้อยอุบะ และสวมเล็บยาวทั้ง 8 นิ้ว เว้นแต่นิ้วหัวแม่มือ ถ้าเป็นฟ้อนธรรมดาของแต่ละหมู่บ้าน การแต่งกายจะเป็น 2 ลักษณะคือ
ใส่ เสื้อคอกลมแขนกระบอก เอวรูด ไม่ห่มผ้า ผ้าซิ่นจะเป็นแบบลายขวาง ต่อเอวดำตีนดำ (ตีน คือเชิงผ้าของผ้าซิ่น )
ใส่ เสื้อคอกลมแขนกระบอก เอวปล่อย ห่มผ้า ใส่สร้อย ผ้าซิ่นให้ใช้ผ้าตีนจก หรือผ้าทอ (การแต่งกายในข้อนี้ จะใช้แต่งในงานใหญ่และในคุ้มเจ้านาย)การแต่งกายจะเหมือน กันทั้งหมดหรือเหมือนกันเฉพาะคู่ก็ได้
:pencil2:
การแสดงพื้นเมืองภาคเหนือ
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
http://www.sanpamuang.go.th/site/
.
:star:
บุคคลสำคัญ
พ่อครูมานพ ยาระณะ
หรือ พ่อครูพัน (5 กันยายน พ.ศ. 2478 – 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการฟ้อน, ศิลปะการต่อสู้, การตีกลองสะบัดชัยแบบโบราณ, กลองปู่จา, กลองปู่เจ่, ดนตรีพื้นบ้านล้านนาและดนตรีไทย โดยได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี พ.ศ. 2548 นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้สอนศิลปะการต่อสู้ล้านนา และมวยไทยให้แก่ พ.อ.(พิเศษ) อำนาจ พุกศรีสุข รวมถึงวิชาดาบสะบัดชัยให้แก่ณปภพ ประมวญ (ครูแปรง)
:pencil2:
พ่อครูมานพ ยาระณะ
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://th.m.wikipedia.org/wiki/
.
:star:
ความเป็นมา
: ภาคเหนือนี้มีการแสดงหรือการร่ายรำที่มีจังหวะช้า ท่ารำที่อ่อนช้อย นุ่มนวล เพราะมีอากาศเย็นสบาย ทำให้จิตใจของผู้คนมีความนุ่มนวล อ่อนโยน ภาษาพูดก็นุ่มนวลไปด้วย เพลงมีความไพเราะ อ่อนหวาน ผู้คนไม่ต้องรีบร้อน ในการทำมาหากิน สิ่งต่างๆ เหล่านั้นมีอิทธิพลต่อการแสดงนาฏศิลป์ของภาคเหนือ นาฏศิลป์ของภาคเหนือ เช่น ฟ้อนเทียน ฟ้อนเล็บ ฟ้อนมาลัย ฟ้อนสาวไหม เป็นต้น
:pencil2:
การแสดงพื้นเมือง
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
http://www.digitalschool.club/digitalschool/art/music2_2/lesson1/art%20lesson1/page2.php
.
:silhouette:
นางสาวอภัสรา ด้ามทอง ม 4/10 เลขที่34
:red_flag:
การแสดงพื้นเมืองภาคกลาง
:star:
ดนตรีที่ใช้ในการแสดง
:checkered_flag:
เพลงฉ่อย
ไม่มีเครื่องดนตรีประกอบแต่อย่างใด จังหวะในการร้องเพลงใช้การตบมือ อาจมีกรับมาตีประกอบให้ดังขึ้น
:pencil2: ธิภาพร แจ่มดวง,
นาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลาง
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://sites.google.com/a/ptt2.go.th/khru-nan/natsilp-phun-meuxng-phakh-klang
:star:
ตัวอย่างการแสดงของภาคกลาง
รำกลองยาว
ระบำชาวนา
เต้นกำรำเคียว
.
:star:
การแต่งกาย
:checkered_flag:
เพลงฉ่อย
แต่งตัวสีสันฉูดฉาด
ฝ่ายหญิงนิยมนุ่งโจงกระเบนเสื้อแขนกระบอก
ฝ่ายชายนุ่งโจงกระเบนเสื้อคอพวงมาลัยมีผ้าขาวม้าคาดเอว
:pencil2: ธิภาพร แจ่มดวง,
นาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลาง
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://sites.google.com/a/ptt2.go.th/khru-nan/natsilp-phun-meuxng-phakh-klang
:star:
บุคคลสำคัญ
ขวัญจิต ศรีประจันต์
:explode:
ประวัติ
: แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ เกิดเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๔๙๐ ที่อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เริ่มฝึกร้องเพลงพื้นบ้านตั้งแต่อายุได้ ๑๕ ปี ท่านเป็นผู้ที่สนใจเพลงพื้นบ้านอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเพลงอีแซว ด้วยความสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร้องเพลงพื้นบ้าน ผนวกกับความมีน้ำใจในการเผยแพร่ความรู้ และอนุรักษ์เพลงพื้นบ้าน
จึงได้รับโล่เชิดชูให้เป็นผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมสาขาศิลปะพื้นบ้านภาคกลาง จากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ท่านได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(เพลงพื้นบ้าน-อีแซว) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๓๙
:pencil2:
ขวัญจิต ศรีประจันต์
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://www.wikiwand.com/th/
.
:star:
ความเป็นมา
: การแสดงพื้นเมืองของภาคกลาง เป็นศิลปะการร่ายรำและการละเล่นของชนชาวพื้นบ้านภาคกลาง ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกี่ยวกับเกษตรกรรม ศิลปะการแสดงจึงมีความสอดคล้องกับวิถี ชีวิตและเพื่อความบันเทิงสนุกสนาน เป็นการพักผ่อนหย่อนใจจากการทำงาน หรือเมื่อเสร็จจากเทศการฤดูเก็บเก็บเกี่ยว
:pencil2: ธิภาพร แจ่มดวง,
นาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลาง
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://sites.google.com/a/ptt2.go.th/khru-nan/natsilp-phun-meuxng-phakh-klang
.
.
:silhouette:
นางสาวณิชาภัทร ปาลเมือง ม 4/10เลขที่ 20
:red_flag:
การแสดงพื้นเมืองภาคใต้
:star:
ดนตรีที่ใช้ในการแสดง
รำเพลงทับเพลงโทน รำเพลงปี่ รำเพลงโค เครื่องดนตรีของโนรา ส่วนใหญ่เป็นเครื่องตีให้ จังหวะ ประกอบด้วย ทับ (โทนหรือทับโนรา) มี ๒ ใบ เสียง ต่างกันเล็กน้อย ใช้คนตีเพียงคนเดียว เป็นเครื่องตีที่สำคัญ ที่สุด :pencil2:
โนรา
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
http://ich.culture.go.th/index.php/th/ich/performing-arts/236-performance/158-----m-s
:star:
ตัวอย่างการแสดงของภาคใต้
โนรา
ลิเกฮูลู หรือ ดีเกฮูลู
หนังตะลุง
:star:
การแต่งกาย
การแต่งกายของโนรา ยกเว้นตัวพรานกับตัวตลก จะแต่งเหมือนกันหมด ตามขนบธรรมเนียม เดิมการแต่งกายก็ถือเป็นพิธีทางไสยศาสตร์ ในพิธีผูกผ้าใหญ่ (คือพิธีไหว้ครู) จะต้องนำเทริดและเครื่องแต่งกายชิ้นอื่น ๆ ตั้งบูชาไว้บนหิ้ง หรือ "พาไล" และเมื่อจะสวมใส่เครื่องแต่งกายแต่ละชิ้นจะมีคาถากำกับ โดยเฉพาะการสวม "เทริด" ซึ่งมักจะต้องใช้ผ้ายันต์สีขาวโพกศีรษะเสียก่อนจึงจะสวมเทริดทับ :pencil2: กนกวรรณ ฤกษ์อ่อน,
การแสดงพื้นเมืองภาคใต้
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://sites.google.com/site/wathnthrrmphatti/home/kar-saedng-phun-meuxng-phakh-ti
:star:
บุคคลสำคัญ
คล้าย พรหมเมศ
เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๖ ที่บ้านคลองเขเปล ตำบลชะมาย อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช หัดรำโนรากับโนราเดช แห่งบ้านหูด่าน อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โนราคล้ายขี้หนอนเป็นศิลปินมโนราห์คนแรกและคนเดียวเท่านั้นที่มีบรรดาศักดิ์อันเนื่องด้วยทางการศิลปะการแสดงมโนราห์โดยตรง ท่านได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี
พ.ศ. ๒๔๕๑ ว่า " หมื่นระบำบันเทิงชาตรี"
:pencil2: คล้าย พรหมเมศ, มหาวิทยาลัยสงขลานครอ, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://clib.psu.ac.th/southerninfo/content/4/e63b0f32
:star:
ความเป็นมา
:โดยทั่วไปภาคใต้มีอาณาเขตติดกับทะเลฝั่งตะวันตกและตะวันออก ทางด้านใต้ติดกับมลายู ทำให้รับวัฒนธรรมของมลายูมาบ้าง ประชากรจึงมีชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณีและบุคลิกบางอย่างที่คล้ายคลึงกันคือ พูดเร็ว อุปนิสัยว่องไว ตัดสินใจ รวดเร็ว เด็ดขาด มีอุปนิสัยรักพวกพ้อง รักถิ่นที่อยู่อาศัย และศิลปวัฒนธรรมของตนเอง จึงมีความพยายามที่จะช่วยกันอนุรักษ์ไว้จนสืบมาจนถึงทุกวันนี้
:pencil2:
ภาคใต้
, ค้นวันที่ 12 มิถุนายน 2565 จาก
https://sites.google.com/site/natsilpthiy39/7
.
:silhouette:
นาย วรัทภพ ชูใจ ม 4/10 เลขที่ 6
:red_flag:
การแสดงพื้นเมืองภาคอีสาน
:star:
ดนตรีที่ใช้ในการแสดง
เครื่องดนตรี พื้นเมืองที่ใช้บรรเลงประกอบ คือ โปงลาง แคน พิณ ซอ กั๊บแก๊บ ฉิ่ง และฉาบ
การแสดงพื้นเมืองภาคอีสาน
, สืบค้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565. จาก
https://sites.google.com/site/kartaengkaykhxngtael210/kar-saedng-phun-meuxng-phakh
:star:
ตัวอย่างการแสดงของภาคอีสาน
เซิ้งตังหวาย
:star:
การแต่งกาย
เซิ้งตังหวาย :tada:
การแต่งกาย ห่มผ้ามีดอก นุ่งซิ่นฝ้ายมัดหมี่มีเชิง เกล้าผมสูง
:pencil2:
การแสดงพื้นเมืองภาคอีสาน
, สืบค้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565. จาก
https://sites.google.com/site/kartaengkaykhxngtael210/kar-saedng-phun-meuxng-phakh
.
.
:star:
การแสดงพื้นเมืองภาคอีสาน
การแสดงพื้นเมืองภาคอีสาน แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของชนพื้นเมืองกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ การแสดงพื้นเมืองภาคอีสานจะมีทั้งการแสดงที่เป็นแบบดั้งเดิมที่มีการสืบทอดกันมา และเกิดขึ้นในแต่ละท้องถิ่นเป็นไปตามความถนัดหรือความสามารถของแต่ละคน โดยเน้นความสนุกสนานและความรื่นเริง
:silhouette:
นางสาว ธัญพิชชา แก้วเป็นทอง ม 4/10 เลขที่21
:star:
บุคคลสำคัญ
เปลื้อง ฉายรัศมี ศิลปินแห่งชาติปี พ.ศ. 2529 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีอีสานพื้นบ้าน-โปงลาง)
นักดนตรีพื้นบ้านอีสานที่มีความสามารถพิเศษสามารถเล่นและถ่ายทอดการเล่น ดนตรีพื้นบ้านอีสานได้เกือบทุกชนิด ทั้ง พิณ แคน ซอ โปงลางและอื่นๆ โดยเฉพาะ "โปงลาง" นั้น สามารถเล่นและถ่ายทอดการเล่นได้เป็นพิเศษ และที่สำคัญที่สุดคือ เป็นผู้ศึกษา ค้นคว้า ปรับปรุงและพัฒนาโปงลางมาตลอดระยะเวลา 40 ปี
เปลื้องฉาย รัศมี
, สืบค้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565. จาก
https://th.wikipedia.org/wiki/เปลื้อง_ฉายรัศมี
:check:
การอนุรักษ์การแสดงพื้นเมือง
1. การค้นคว้าวิจัย
ควรศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลภูมิปัญญาของไทยในด้านต่างๆ ของท้องถิ่น จังหวัด ภูมิภาค และประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิปัญญาที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น มุ่งศึกษาให้รู้ความเป็นมาในอดีต และสภาพการณ์ในปัจจุบัน
2. การอนุรักษ์
โดยการปลุกจิตสำนึกให้คนในท้องถิ่นตระหนักถึงคุณค่าแก่นสาระและความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมสนับสนุนการจัดกิจกรรมตามประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ สร้างจิตสำนึกของความเป็นคนท้องถิ่นนั้นๆ ที่จะต้องร่วมกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น รวมทั้งสนับสนุนให้มีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นหรือพิพิธภัณฑ์ชุมชนขึ้น เพื่อแสดงสภาพชีวิตและความเป็นมาของชุมชน อันจะสร้างความรู้และความภูมิใจในชุมชนท้องถิ่นด้วย
3. การฟื้นฟู
โดยการเลือกสรรภูมิปัญญาที่กำลังสูญหาย หรือที่สูญหายไปแล้วมาทำให้มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตในท้องถิ่น โดยเฉพาะพื้นฐานทางจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม
4.การพัฒนา
ควรริเริ่มสร้างสรรค์และปรับปรุงภูมิปัญญาให้เหมาะสมกับยุคสมัยและเกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยใช้ภูมิปัญญาเป็นพื้นฐานในการรวมกลุ่มการพัฒนาอาชีพควรนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาช่วยเพื่อต่อยอดใช้ในการผลิต การตลาด และการบริหาร ตลอดจนการป้องกันและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
5. การถ่ายทอด
โดยการนำภูมิปัญญาที่ผ่านมาเลือกสรรกลั่นกรองด้วยเหตุและผลอย่างรอบคอบและรอบด้าน แล้วไปถ่ายทอดให้คนในสังคมได้รับรู้ เกิดความเข้าใจ ตระหนักในคุณค่า คุณประโยชน์และปฎิบัติได้อย่างเหมาะสม โดยผ่านสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ
6. ส่งเสริมกิจกรรม
โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายการสืบสานและพัฒนาภูมิปัญญาของชุมชนต่างๆ เพื่อจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง
7. การเผยแพร่แลกเปลี่ยน
โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง โดยให้มีการเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นต่างๆ ด้วยสื่อและวิธีการต่างๆ อย่างกว้างขวาง รวมทั้งกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
:silhouette:
นาย รัฐภูมิ พร้อมศรีทอง ม 4/10 เลขที่ 5
.
.
.
.