Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 12 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีการเจริญของ การพยาบาลเซลล์ผิดปกติ - Coggle…
บทที่ 12
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีการเจริญของ
การพยาบาลเซลล์ผิดปกติ
มะเร็งตับ
สาเหตุ
สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่การเปลี่ยนแปลง
จากจุดเริ่มต้นจนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
จะผ่านขั้นตอนหลายระยะเชื่อว่ามีความสัมพันธ์
กับสารก่อมะเร็งตับ (hepatic carcinogen)
การรักษา
1.การแบ่งระยะของมะเร็งตับ (Staging of HCC)
2.การเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสม
(Method an Choice of treatment)
-Curative treatment
-Palliative treatment
การพยาบาล
1.ดูแลการติดเชื้อและการเกิดเลือดออก
2.ภาวะอิเล็กโตรลัยท์ไม่สมดุล
3.ดูแลให้ได้รับสารน้ำสารอาหาร
4.แนะนำให้หยุดดื่มแอลกอฮอล์
5.ดูแลลดความวิตกกังวล
มะเร็งเต้านม
สาเหตุ
-พันธุกรรม
-ผู้ที่เคยมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม
การรักษา
-Breast conserving surgery
-Lumpectomy
-Segmental Lumpectomy
-Mastectomy
-การผ่าตัดเอาเต้านมออกทั้งสองข้างแบบใหม่
(Modifed radical mastectomy:MRM)
-การผ่าตัดเต้านมแบบกว้าง (Radical mastectomy)
การพยาบาล
1.ตูแลไม่ให้เกิดภาวะตกเลือดหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรกดูแล vaccuam
2.ดูแลลดการเจ็บแผลผ่าตัดเนื่องจาก
การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อจากการผ่าตัด
3.จัดท่านอนให้กับผู้ป่วยโดยจัด ให้นอนท่าศีรษะสูงเล็กน้อย
45-60 องศา (semi Foeler's position)
4.ใช้หมอนรองใต้แขนข้างที่ทำผ่าตัดเพื่อป้องกันแขนบวม โดยรองบริเวณมือสูงกว่าแขนและข้อศอกสูงกว่าระตบหัวใจ เพื่อช่วยในการไหลกลับของหลอดเลือดและน้ำเหลือง
มะเร็งลำไส้ใหญ่
สาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้
1.การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารต่ำหรืออาหารที่มีปริมาณ
แคลเชียมน้อย ทำให้เกิดอาการท้องผูกหรือท้องเยบ่อยและเป็นเวลานาน
2.เกิดก้อนเนื้องอกขึ้นในระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะที่
บริเวณลำาไส้ซึ่งอาจเกิดจากปฏิกิริยาออกซิเตชั่นได้
3.อาการที่สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรมชื่งผู้ที่มีประวัติตรอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้มาก่อนก็จะมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดนี้ใด้สูงขึ้น
4.รับประทานอาหารที่มีไขมันในปริมาณสูง
5.มีการรับสารพิษเข้าสู่ร่างกายและไปตกค้างที่ลำไส้
6.เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณลำไส้เกิดการเสื่อมสภาพ สูญเสียความยืดหยุ่นทำให้เลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงที่บริเวณลำไส้ได้อย่างเพียงพอ
การรักษาโดยการผ่าตัด
การผ่าตัดเป็นวิธีที่ใช้บ่อยที่สุดในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
ทำเพียงการตัตก้อนขึ้นเนื้อหรือการตัดเฉพาะที่ ในกลุ่มที่เป็นในระยะแรกๆ
การรักษาโดยการให้เคมีบำบัด
-ใช้ประกอบกับการผ่าตัดเพื่อลด โอกาส
กำเริบของมะเร็งและโอกาสรอดชีวิตยืนยาวขึ้น
หลังการผ่าตัดแล้วจะต้องพบแพทย์เป็นระยะ
เพื่อติดตามดูว่าไม่มีเนื้องอกกำเริบหรือกลับเป็นใหม่
การรักษาโดยรังสีรักษา
การรักษาด้วยการฉายรังสีในมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นเป็นทางเลือกหนึ่ง
ในการรักษาโดยเฉพาะเมื่อก้อนเนื้อนั้นลุกลามออกไปยังอวัยวะอื่นๆ
ออกมาเกาะยังผนังหน้าท้องซึ่งการฉายรังสีนั้น
ไม่เป็นการรักษาวิธีหลักในการรักษามะเร็งลำไส้
โรคมะเร็งปอด
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
-การสูบบุหรี่ (ลูบบุหรี่ หรือเคยสูบบุหรี่)
-ได้รับควันบุหรี่จากคนข้างเคียงหรืออาศัยในที่ที่มีควันบุหรี่
-เคยได้รับรังสีรักษาที่เต้านมหรือทรวงอก
-สัมผัสกับใยหิน radon โครเมียมสารหนู เขม่าควัน สารทาร์
-อาศัยในที่มีมลพิษทางอากาศ
การรักษามะเร็งปอด
1.การรักษาเฉพาะประกอบด้วย
1.1การผ่าตัตทำ โดยการตัดส่วนที่เป็นมะเร็งปอดออกไป
1.2 การฉายแสง
1.3 การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดโดย ใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน
2.การรักษาตามอาการ หรือการรักษาประดับประคอง
2.1การผ่าตัดเพื่อบรรเทาอาการจากผลแทรกช้อน
บางอย่างจากมะเร็งปอด โดยพิจารณเป็นรายๆไป
2.2 การฉายแสงเพื่อบรรเทาอาการ
2.3 การระบายน้ำในโพรงปอตที่มีสาเหตุจากมะเร็งในราย
ที่ต้องทำบ่อยๆ อาจพิจารณาท่การเชื่อมเยื่อหุ้มปอตให้ติดกัน
2.4 การให้ยาตามอาการ
2.5 การให้ความรู้ความเข้าใจ การให้กำลังใจ
ทั้งผู้ป่วยและญาติ ในผู้ป่วยระยะสุดท้าย
การพยาบาล
1.ให้การพยาบาลเพื่อส่งเสริมความสุขสบาย
2.ให้การพยาบาลลดความวิตกกังวล
3.ป้องกันภาวะขาดออกซิเจน
4.ป้องกันการเสียสมดุลอิเล็กโทรลัยต์
มะเร็งปากมดลูก
สาเหตุการติดเชื้อไวรัส
ฮิวแมน แปบปิโลม่า (Human papilloma virus - HPV)
การรักษามะเร็งปากมดลูก
การผ่าตัดมี 2 แบบ
1.การผ่าตัดโดยการตัตเฉพาะปากมตลูกเป็นรูปกรวย
(Cone biopsy หรือ Conization)
เป็นการผ่าตัดผ่านทางช่องคลอด
2.การตัดมตลูก
ผ่าตัดผ่านทางหน้าท้อง
การรักษาโดยใช้รังสี
-การให้รังสีเพื่อฆ่าเชลล์มะเร็งโดยการฉายรังสี
ทางต้านนอก (External Radiotherapy)
-การฝังแร่เข้าไปในโพรงมดลูก (Internal Radiotherapy)
การรักษาโดยวิธีการสร้างภูมิคุ้มกัน
เพื่อให้ภูมิคุ้มกันทำลายมะเร็ง ยาที่ใช้บ่อยคือ Interferon
การให้เคมีบำบัด
มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งฆ่าเชลล์ที่แบ่งตัวเร็วและทำลายเซลล์ตีของร่างกายให้น้อยที่สุด
การพยาบาล
1.ก่อนฝั่งแร่สวนล้างอุจจาระและใส่สายสวนปัสสาวะให้แก่ผู้ป่วยเพื่อให้ลำไส้และกระเพาะปัสสาวะว่างและโกนชนบริเวณหัวเหน่าตามแผนการรักษาใส่ผ้าก๊อซในช่องคลอดเพื่อดันให้กระเพาะปัสสาวะและทวารหนักอยู่ห่างจากแร่
2.ขณะฝั่งแร่รับประทานอาหารที่มีกากน้อยหรือยาลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ให้ยาระงับปวดเพื่อป้องกันการหตเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูกงตการชำระบริเวณฝึเย็บจัดให้นอนราบบนเตียงตลอดเวลาการฝังแร่หรือนอนศีรษะสูงไม่เกิน20 องศาเพื่อป้องกันการเลื่อนหลุดของแร่
3.หลังการฝังแร่สังเกตภาวะแทรกช้อนจากการฝังแร่เช่นการติดเชื้อการอักเสบของหลอดเลือตต่ำ(thrombophlebitis)ดูแลให้มีการเคลื่อนไหว ร่างกายงอและเหยียดขาบ่อยๆแนะนำเรื่องเพศสัมพันธ์ก่อนกลับบ้าน
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
สาเหตุ
-การติดเชื้อไวรัส
-การสัมผัสกับสารเคมีที่ก่อให้เก็ตการกลายพันธ์ (mutagenic chemical) รังสีสารเคมี เช่น เบนซิน เป็นต้น
-โรคที่มีผลให้การสร้างเม็ตเลือตผิดปกติ เช่น โรคที่มีความผิดปกติของพันธุกรรมเช่น Down syndrome
-ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง(Immunodefciency)
การพยาบาล
-ให้การพยาบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
-ให้การพยาบาลลดความวิตกกังวล
-ป้องกันภาวะขาดออกชิเจน
-ให้การพยาบาลเพื่อป้องกันการสูญเสียเลือดให้การพยาบาลเพื่อส่งเสริมให้ได้รับสารอาหารและน้ำ
มะเร็งต่อมลูกหมาก
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
-อายุ เชื้อชาติ ประวัติครอบครัว
-อาหาร การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
-การสัมผัสสารแคดเมียม สังกะสี ปุ๋ย
-การมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม
-ดื่มแอลกอฮอล์มาก
ระยะของโรค
ระยะที่ 1 -มะเร็งมีขนาดเล็กอยู่ในต่อมลูกหมากไม่ค่อยพบการตรวจทางทวารหนัก
ระยะที่ 2 - มะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้แต่ยังอยู่ในต่อมลูกหมากสามารถคลำพบโตยการตรวจทางทวารหนัก
ระยะที่ 3 - มะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้นกระจายไปท่อปัสสาวะ ท่อนำอสุจิ ตรวจพบทางทวารหนัก
ระยะที่4-มะเร็งลุกลามไปสู่ต่อมน้ำเหลืองหรือลุกลามไปกระดูกและอวัยวะอื่น
การรักษา
ระยะที่ 1 การผ่าตัดเพื่อนำก้อนมะเร็งออก หรือรังสีรักษา
ระยะที่ 2 การตัตต่อมลูกหมากออกหมด
ระยะที่ 3 รังสีรักษา
ระยะที่ 4 รักษาด้วยฮอร์โมน
การพยาบาล
1.ให้ยาแก้ปวด ยาลตการหตตัวของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ เช่น anticholinergic
2.แนะนำให้ใช้เทคนิตการผ่อนคลายกล้ามเนื้อโดยหายใจเข้าออกช้าๆลึกๆ เวลาปวต
3.ดูแลช่วยเหลือให้ปัสสาวะได้สะดวก
4.ให้ข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทราบว่าอวัยวะเพศจะไม่แข็งตัวหรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเป็นเวลา 2-3เตือนหลังผ่าตัดร้อยละ 95 ของผู้ป่วยจะพื้นสมรรถภาพทางเพศได้ภายใน1ปีแนะนำให้งตมีเพศสัมพันธ์ 3-4สัปดาห์หลังผ่าตัดหากปัญหายังคงอยู่เกินกว่า 6 เตือนให้กลับมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษา