Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลทารกแรกเกิดทันที - Coggle Diagram
การพยาบาลทารกแรกเกิดทันที
การดูแลทารกแรกเกิดทันที
ดูดเสมหะออกจากปาก จมูก และลําคอทันทีที่ศีรษะทารกคลอด
หนีบและตัดสายสะดือด้วยกรรไกรปราศจากเชื้อ
เช็ดตัวทารกแรกเกิดให้แห้งและห่อตัวให้อบอุ่น
กระตุ้นและส่งเสริมสัมพันธภาพมารดา - ทารก ให้เกิดความรักความผูกพัน โดยให้ผิวหนังของมารดาและ ทารกได้สัมผัสกัน (Skin to skin contact)
หยอดตาทารกแรกเกิดด้วย 1% AgNO, Silver nitrate solutionหรือ erythromycin เพื่อป้องกันการติด เชื้อ Gonorrhea
ฉีด Vitamin K 0.5-1 mg เข้าทางกล้ามเนื้อเพื่อป้องกันภาวะHemorrhagic disease of the newborn
ประเมินภาวะขาดออกซิเจนของทารกแรกเกิดด้วย Apgar score 1 นาที และ 5 นาที และความต้องการ การช่วยกู้ชีพ
ส่งเสริมให้ทารกดูดนมมารดาภายใน 1 ชั่วโมงแรกเกิด เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ํานมและเพิ่มการหดรัดตัวของ มดลูก
ดูแลให้ทารกอบอุ่น และวัดอุณหภูมิทารกแรกเกิด เพื่อการประเมินและป้องกันภาวะ Metabolic acidosis
เมื่อจะอาบน้ําทารกประมาณ 6 ชั่วโมงหลังเกิด ไม่ควรเช็ดไขตามลําตัวออก เนื่องจากไขจะช่วยป้องกันการ ติดเชื้อเข้าสู่ผิวหนังทารก
กระบวนการพยาบาลทารกแรกเกิดทันทีในห้องคลอด
1.การประเมินสภาพทารกแรกเกิดทันทีในห้อง
การประเมิน APGAR Score วิธีให้คะแนนแบบ Apgar (Apgar scoring system)
1). A (appearance) สีผิว เป็นการประเมินดูสีผิว เยื่อบุตา เยื่อบุปาก ริมฝีปาก และสีที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
2). P (pulse or heart rate) ชีพจรหรืออัตราการเต้นของหัวใจ เป็นการประเมินชีพจรโดยคลําที่
สายสะดือ หรือฟังเสียงหัวใจโดยการนับจํานวนครั้งต่อนาที
3). G (grimace or reflex) ปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น เป็นการประเมินการตอบสนองต่อ
การกระตุ้นของทารกแรกเกิด
4). A (activity or muscle tone) การเคลื่อนไหวหรือความตึงตัวของกล้ามเนื้อ
5). R (respiration) การหายใจ เป็นการประเมินการหายใจโดยสังเกดจากการเคลื่อนไหวของทรวง อก
การดูแลทารกแรกเกิดให้ปลอดภัยจึงมีเรื่องที่ต้องดูแลดังนี้
1).การประเมินภาวะสุขภาพของทารกแรกเกิด (Newborn assessment)
ปีกจมูกบาน (Nasal flaring)
ทรวงอกบุ๋ม (Chest retractions)
มีเสียงในขณะหายใจออก (Grunting on exhalation)
หายใจลําบาก (Labored breathing)
มีอาการเขียวทั่วตัว (Generalized cyanosis)
เสียงหายใจผิดปกติ (Rhonchi, Crackles (rales), wheezing,
Stridor)
อัตราการหายใจผิดปกติมีTachypnea (มากกว่า 60 bpm) Bradypnea (น้อยกว่า 25 bpm)
อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ มี Tachycardia (มากกว่า 160bpm) Bradycardia (น้อยกว่า 100 bpm)
ร่างกายอ่อนปวกเปียก
Small for gestational age หรือ Large for gestational age
การดูแลทางเดินหายใจ
การพยาบาลที่สําคัญที่สุดคือการดูด (Suction)เอาน้ําคร่ำและเมือกออกจาก ปากและจมูก โดยใช้ Bulb syringe ดูดน้ําคร่ำและเมือกออกจากทางปากก่อน แล้วจึงดูดออกทางจมูก เพื่อ ป้องกันการสําลัก(Aspiration) เอาน้ําคร่ำเข้าไปในปอดในกรณีที่ทารกแรกเกิดมีการหายใจทางปาก
สัญญาณชีพ (Vital signs)
Heart rate จะฟังที่ Apex ของหัวใจ เรียกว่า Apical pulse จะต้องประเมินครบ 1 นาที โดยอัตราการ เต้นของหัวใจจะอยู่ระหว่าง 120-160 ครั้ง/นาที
Respiratory rate จะประเมินในขณะที่ทารกเงียบหรือหลับ แล้วนับจํานวนครั้งของการหายใจให้ครบ 1 นาที
Axillary temperature โดยปกติจะไม่วัดทันทีหลังคลอด แต่จะไปวัดเมื่อส่งทารกไป Nursery หรือ เมื่อจะประเมินทารกแรกเกิดครั้งแรก
ค่าปกติของAxillary temperature = 36.5-37.3 องศาC (หรือ 97.5 - 99.1 องศาF) และใช้เวลาวัดอย่าง น้อย 5 นาที
การดูแลทารกแรกเกิดให้อบอุ่น
-เช็ดตัวทารกแรกเกิดให้แห้งทันทีหลังคลอด เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนไปกับการระเหย (Evaporation) -ใส่หมวกให้แก่ทารกแรกเกิดหลังการเช็ดตัวทารกแรกเกิดแห้งแล้วรีบห่อตัวทารกด้วยผ้าห่มเด็กเพื่อลดการพา ความร้อนออกจากร่างกาย (Convection)
-ใช้ผ้าอุ่นวางบนเครื่องชั่งก่อนที่จะชั่งน้ําหนักทารกแรกเกิด เพื่อป้องกันเครื่องชั่งนําความร้อนออกจากร่างกาย (Conduction)
การดูแลตา
ทารกแรกเกิดทุกรายไม่ว่าจะคลอดทางช่องคลอด หรือคลอดโดยวิธีการผ่าตัดออกทางหน้าท้อง จะต้องได้รับยาป้ายตาทุกราย เช่น 0.5% Erythromycinหรือ 1% Tetracycline ophthalmic ointment
การให้ Vitamin K
วิตามินเค เป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน (Fat-soluble vitamin) ไปกระตุ้นให้ตับสังเคราะห์ Prothrombin ช่วยส่งเสริมให้มีการแข็งตัวของเลือด
การใส่ป้ายชื่อ
ก่อนที่จะนําทารกแรกเกิดออกจากเตียงคลอด ให้ใส่ป้ายข้อมือที่ระบุชื่อทารก เพศ วัน เดือน ปี เกิด ชื่อ มารดา ที่ข้อมือ
ความยาวและน้ําหนัก
ความยาวปกติของทารกแรกเกิด วิธีการวัดจะให้ทารกนอนหงาย เหยียดขาตรงสุด แล้ววัดจากศีรษะถึงส้น เท้า ในทารกที่มี Molding อาจทําให้การวัดความยาวคลาดเคลื่อนได้
น้ําหนักปกติของทารกแรกเกิด ตั้งแต่ 2.,500 - 4,000 กรัม
การสร้างสายสัมพันธ์แม่ลูก
การสร้างสายสัมพันธ์แม่ลูกเป็นเรื่องสําคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกแรกเกิด และการแสดงบทบาท บิดา มารดา การสนับสนุนให้เกิดสายสัมพันธ์นี้จึงเป็นบทบาทสําคัญของพยาบาลที่ดูแล และทําความเข้าใจกับ คําต่อไปนี้