Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การประเมินภาวะสุขภาพการดูแลช่วยเหลือมารดาและทารก ระยะที่ 2,3,4 ของการคลอด …

- - - - การกดรัดตัวของมดลูกทำให้เกิด Shearing Force ระหว่างรกกับผนังมดลูก
      - การฉีดขาดในชั้น Spongiosa ของ decidua basalis
      - Retroplacental blood clot ปัจจัยนี้ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่สำคัญ แต่มีส่วนช่วยสางเสริมให้รกลอกตัวได้เร็วขึ้นจาก Retroplacental blood clot ช่วยเซาะแทรกชั้น Decidua
    - - Schultze’s method เกิดขึ้นบริเวณตรงกลางรก ขณะคลอดรกจะเห็นรกทางด้านเด็กโผล่ออกมาก่อน ไม่มีเลือดออกมาทางช่องคลอดก่อนที่รกจะคลอดแต่มักจะเห็นเลือดเมื่อรกคลอดออกมาแล้ว
      - Duncan’s method เกิดขึ้นบริเวณริมรก ขณะรกลอกตัวจะมีเลือดออกมาภายนอก เวลาคลอดรกจะเห็นริมรกด้านมารดามาก่อน
    - - Uterine sign ลักษณะมดลูกกลม Firm ขึ้น และอาจสูงจะขึ้นอยู่เหนือระดับสะดือไปทางขวา
      - Vulvar sign มีเลือดออกมาเป็นปริมาณพอควรที่บริเวณปากช่องคลอด
      - Cord sign สายสะดือจะเหี่ยว คลายเกลียวและเคลื่อนต่ำลงมาใกล้ปากช่องคลอดเพิ่มขึ้น จากตำแหน่งเดิม 8-10 เซนติเมตร จากการที่รกหลุดลอกออกมาจากมดลูก ตรวจไม่พบชีพจรของสายสะดือ สายสะดือที่เกลียวอยู่จะคลายออกและเมื่อทดสอบโดยกดบริเวณเหนือกระดูกหัวเหน่า โกยมดลูกมดลูกขึ้นจะพบสะดือไม่เคลื่อนตาม เรียกว่า Cord test
  - - - ลักษณะกลมแบน ความกว้างประมาณ 15-20 cmและมีความหนาประมาณ 2-3 cm น้ำหนักประมาณ 500 กรัม
    - - ดูรอยแตกของถุงเยื่อหุ้มทารก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทารกผ่านออกมา รอยแตกนี้จะบอก ตำแหน่งที่รกเกาะอยู่ภายในโพรงมดลูก ปกติจะห่างจากขอบรถไม่น้อยกว่า 7 เซนติเมตร ยิ่งขอบของ รอยแตกของถุงเยื่อหุ้มทารกใกล้ขอบรกมากเท่าใด แสดงว่ารกเกาะต่ำ (placenta previa)
      - การตรวจเยื่อหุ้มส่วน chorion คือเยื่อหุ้มทารกที่ติดกับ decidua ของผนังมดลูก มีลักษณะเปื่อยยุ่ยกว่า amnion และมีลักษณะไม่ใสและไม่เรียบ ฉีกขาดได้ง่าย
      - การตรวจเยื่อหุ้มส่วนAmnion เป็นเยื่อหุ้มทารกชั้นใน เป็นเยื่อที่ห่อหุ้มตัวทารก สายสะดือและน้ำคร่ำไว้ติดอยู่กับรกด้านเด็ก มีลักษณะเป็นมัน มีสีขาวขุ่นและเหนียวมาก
    - - ผิว cotyledon จะพบว่ามีร่องหรือ placental sulcus แบ่งรกด้านแม่ออกเป็นก้อนๆ (Cotyledons) ก้อน Cotyledonจะแนบชิดเข้าหากัน placental sulcus
      - Infarction และ calcification โดย Infarction เป็นส่วนของเนื้อรกที่แข็ง ซีดกว่า ปกติ
      - ดู Marginal sinus รอบขอบรก Marginal sinus คือ intervillous ที่อยู่ริมรก
      - ดูรอยบุ๋มบนผิวรก ซึ่งจะพบได้ในรายที่รกลอกตัวก่อนกำหนดและมีเลือดขังอยู่หลังรกมาก รอยบุ๋มบน Cotyledon
    - - ดูเส้นเลือดของสายสะดือ ที่แผ่กระจายจากที่เกาะของสายสะดือบน chorionic plate ซึ่งจะกระจายออกไปเป็นรัศมีโดยรอบ ปกติจะไม่ถึงขอบรก
      - Closing Ring of Wrinkle-Waldeyer เป็นวงขาวโดยรอบรก และอาจจะห่างขอบรก เข้ามาเล็กน้อย ซึ่งจะเป็นบริเวณที่ขอบของ decidua vera มาเชื่อมกับ decidua capsularis
      - ตรวจดู subchorionic infarct, subchorionic cyst ซึ่งอยู่ใต้ chorionic plate ปกติจะไม่มีตรวจดูการติดของเยื่อหุ้มทารกชั้น chorion ว่าเป็นปกติและติดต่อออกไปจากขอบหรือเป็นชนิด circumvallate
  - - - Central insertion สายสะดือเกาะอยู่ตรงกลางของแผ่นรก
      - Lateral insertion สายสะดือเกาะอยู่ค่อนไปทางด้านใดด้านหนึ่งของแผ่นรก
      - Marginal insertion สายสะดือเกาะที่ริมขอบรก มีอีกชื่อหนึ่งว่าBattledore placenta
- - - - ระดับที่ 1 (First degree tear ) มีการฉีกขาดของ fourchette ผิวหนังบริเวณด้านหน้าของฝีเย็บ เยื่อบุช่องคลอดเท่านั้น
      - ระดับที่ 2 (second degree tear) ฉีกขาดที่ลึกลงไปถึงกล้ามเนื้อของ perineal body เช่น กล้ามเนื้อรอบปากช่องคลอด (bulbocavernosus), superticial and deep transverse perineum muscles แต่ไม่ถึงหูรูดทวารหนัก
      - ระดับที่ 3 (third degree tear) เป็นการฉีกขาดที่ลึกลงไปถึงหูรูดทวารหนัก
      - ระดับที่ 4 (fourth degree tear complete tear) เป็นการฉีกขาดถึงผนังหน้าของทวารหนัก
- - - - ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกตั้งแต่ระยะที่ 2 ของการคลอดกับมารดาทุกราย โดยใช้ oxytocin 10 ยูนิต ให้ทางน้ำเกลือ หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน
  - - - หลีกเสี่ยงหรือรักษาปัจจัยเสี่ยง
      - แก้ไขปัญหาภาวะซีดก่อนคลอด
      - ในรายที่มีความเสี่ยงสูง ควรงดน้ำและอาหารทางปาก
      - ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
      - ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง
      - เตรียมทีมสหสาขาวิชาชีพประกอบด้วยสูติแพทย์
    - - หลีกเลี่ยงหรือรักษาปัจจัยเสี่ยง เช่น การคลอดยาวนาน การติดเชื้อถุงน้ำคร่ำ
      - ทำคลอดในระยะที่สองและ สามของการคลอดอย่างถูกต้องและเหมาะสม ไม่บีบเค้นหรือ คลึงมดลูกก่อนรกลอกตัว
      - คลึงมดลูกทันทีหลังรกคลอดให้มดลูกหดรัดตัวดี
      - ตรวจรกว่าครบหรือไม่
      - ตรวจดูช่องทางคลอดว่ามีการฉีกขาดหรือไม่
    - - ในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เฝ้าระวังการตกเลือดหลังคลอดอย่างใกล้ชิด โดยตรวจคลำมดลูกว่ามีการหดรัดตัวหรือไม่
      - ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง โดยกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะ
      - ในรายที่ได้รับออกซิโทซินอยู่แล้ว ภายหลังคลอดควรให้ต่อไปอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
      - สอนให้ผู้คลอดคลึงมดลูกเพื่อให้มดลูกหดรัดตัวจนแข็งจึงหยุดคลึง