Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปสาระ ความรู้ กลุ่มที่ ๕, บรรยาการการเรียน การสอน, อาจาร์ผู้สอน,…
สรุปสาระ ความรู้ กลุ่มที่ ๕
การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา
ความหมายของการระดมทรัพยากร
การดำเนินงานให้ได้มาซึ่งทรัพยากรทั้งระดับนโยบายและระดับสถานศึกษา ทั้งที่เป็นเงิน และที่ไม่ใช่เงิน ได้แก่ บุคคล/ภูมิปัญญา องค์ความรู้วิชาการ แรงงานวัสดุครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง เป็นต้น ที่สนับสนุนการจัดการศึกษาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่เกิดกับผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
ประเภทของทรัพยากรทางการศึกษา
ทรัพยากรในการบริหารที่สำคัญมีอยู่ ๔ ประการ หรือ “๔M’s” ได้แก่ คน (Man)เงิน (Money) วัสดุสิ่งของ (Material) และการจัดการ (Management)
ความสำคัญของทรัพยากรทางการศึกษา
๑.ทำให้สถานศึกษาดำเนินการเรียนการสอนหรือพัฒนาคนให้มีคุณภาพ และได้ผลตามความ มุ่งหมายของการจัดการศึกษา
๒. เป็นการช่วยส่งเสริมงานวิชาการให้มีคุณภาพ
๓. เป็นการช่วยส่งเสริมการดำเนินงานด้านอื่นๆในสถานศึกษา
๔. เป็นตัวกลางหรือตัวกระตุ้นที่ทำให้กิจกรรมของสถานศึกษาดำเนินไปได้
๕. มีบทบาทต่อกิจกรรมหรือการดำเนินภารกิจของสถานศึกษาทั้งด้านของปริมาณและคุณภาพ
วิธีการ/ขั้นตอนการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา
ขั้นก่อนการระดมทรัพยากร
ขั้นดำเนินการระดม
ขั้นหลังการระดม
วิธีการจัดการทรัพยากรเพื่อการศึกษา
๑. แต่งตั้งคณะกรรมการ/คณะทำงานรับผิดชอบแบบมีส่วนร่วมทั้งบุคลากรภายในโรงเรียน และบุคคลภายนอกผู้ร่วมระดมทรัพยากร
๒. จัดทำทะเบียน และบัญชีทรัพยากรเพื่อการศึกษา หากทรัพยากรเป็นเงิน ให้มีการนำฝากธนาคาร หรือสถาบันการเงิน
๓. กำหนดวิธีการรับ – จ่าย โดยยึดระเบียบการเบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณของรัฐ เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้
๔. จัดสรรการใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของการระดมทรัพยากร
๕. ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์อย่างต่อเนื่อง
๖. จัดทำสรุปและรายงานผลการใช้จ่ายทรัพยากรเพื่อการศึกษาแก่คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษาทั้งทางตรงและทางอ้อม
ประโยชน์การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา
ทำให้การเรียนรู้ของผู้เรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ มีความเสมอภาค และเข้าถึงโอกาสได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพมากขึ้นจากเงินค่าใช้จ่ายที่ได้รับการสนับสนุน
การปฏิสัมพันธ์และพัฒนาเพื่อนร่วมงาน
ความหมายความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเกิดจากพฤติกรรมของบุคคลที่มีให้กัน ในการ ทํางานร่วมกันการช่วยเหลือกัน ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ความเข้าใจ ที่ส่งผลต่อการ ปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อให้งานที่ปฏิบัติประสบผลสําเร็จตามที่คาดหวังไว้
ประเภทความสัมพันธ์
๑. ความสัมพันธ์ต่อผู้บังคับบัญชา
การสร้างมนุษยสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา
เรียนรู้นิสัยผู้บังคับบัญชา
ให้ความเคารพยกย่องผู้บังคับบัญชาตามฐานะ
อย่ารบกวนผู้บังคับบัญชาในเรื่องเล็กน้อย
อย่าบ่นถึงความยากลําบากในการปฏิบัติงานต่อหน้าผู้บังคับบัญชา
๒. ความสัมพันธ์ต่อผู้ใต้บังคับบัญชา
รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง
รู้จักส่งเสริมให้กําลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
รู้จักยกย่องชมเชยให้บําเหน็จความชอบ
ชี้แจงความเคลื่อนไหวในวงงานให้ทราบ
ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
เปิดฉากติดต่อทักทายก่อน
มีความจริงใจต่อเพื่อน หลีกเลี่ยงการนินทาเพื่อน
ยกย่องชมเชยเพื่อนในสิ่งที่สมควร
ใจกว้างและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูง
องค์ประกอบการปฏิบัติงานกับเพื่อนร่วมงาน
การทํางานเป็นทีม
เกิดจากการที่มีบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป มาปฏิบัติงาน ร่วมกัน มีการติดต่อประสานงาน การตัดสินใจร่วมกัน โดยอาศัยความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ความร่วมมือร่วมใจกันในการนําพาองค์กรให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน
การจูงใจ
พฤติกรรมที่ผู้บริหารกระทําสิ่งต่างๆ เพื่อเป็นการโน้มน้าว จิตใจให้บุคลากรปฏิบัติงานด้วยความเต็มใจ และพร้อมที่จะพัฒนาองค์กรให้บรรลุ วัตถุประสงค์ ซึ่งต้องเกิดจากความสนใจ อยากรู้ อยากปฏิบัติตาม
การอยู่ร่วมกับผู้อื่น
การที่บุคคลได้มีการทํากิจกรรมร่วมกัน หรืออยู่ใน สังคมเดียวกันเป็นจํานวนมาก ต้องมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจกัน และให้ ความร่วมมือในการทํากิจกรรมต่างๆร่วมกัน
บรรยากาศองค์กร
องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมภายใน องค์การมีลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละสถานที่ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ มีสภาพเหมือนบรรยากาศรอบๆ ตัว ซึ่งทําให้บุคลากรในองค์การมีความคิดความรู้สึกว่า สิ่งเหล่านี้มีอิทธิผลต่อพฤติกรรมและทัศนคติของบุคลากรในองค์การ
การพัฒนาเพื่อนร่วมงาน
เข้าใจตนเอง
เข้าใจผู้อื่น
ยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล
เคล็ดลับการสร้างมนุษยสัมพันธ์ในองค์กร
พูดจาไพเราะ ทักทายด้วยไมตรี
จริงใจต่อกัน
ไม่นินทาว่าร้าย
ให้ความร่วมมือ
ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
กล่าวคำชมเชยเมื่อสำเร็จ ปลอบประโลมเมื่อล้มเหลว
บรรยาการการเรียน การสอน
อาจาร์ผู้สอน
ผศ.ดร.ธีรพจน์ แนบเนียน
ผศ.ดร.ทีปพิพัฒน์ สันตะวัน
ผู้จัดทำ
นางสาวดวงพร ภูเหม็น 64121288035
สาขาการบริหารการศึกษา แผน ข ห้อง 2 รุ่นที่ 23