Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตสังคมของหญิงตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตสังคมของหญิงตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์
ระยะไตรมาสที่สอง เริ่มยอมรับการตั้งครรภ์มากขึ้น จากการดิ้นของทารกในครรภ์ โดยเริ่มใส่ชุดคลุมท้องแม้ว่ารูปร่างยังเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก เริ่ม จินตนาการถึงลักษณะของทารกในครรภ
ระยะไตรมาสแรก จะมีความรู้สึกสองฝักสองฝ่าย (ambivalence)
จะมีความรู้สึกสองฝักสองฝ่ายไม่แน่ใจ แปลกใจ กลัวการตั้งครรภ์การ
เจ็บครรภ์และการคลอด เมื่อเกิดการยอมรับ (acceptance) จะเริ่มสังเกต
การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น เต้านมขยายขึ้น แพ้ท้อง เป็นต้น
ระยะไตรมาสที่สาม หญิงตั้งครรภ์จะเริ่มกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับการคลอดมากขึ้น
กลัวเจ็บ กลัวการผ่าตัด กลัวอันตรายที่เกิดขึ้นในระยะคลอด วิตกกังวลว่าบุตรจะได้รับอันตราย ในระยะนี้หญิงตั้งครรภ์จะ ใช้เวลากับการเตรียมห้อง ที่นอน ทําความสะอาดบ้านและการตั้งชื่อบุตร
การหมกมุ่น คิดถึงแต่ตนเอง (introversion)
อารมณ์แปรปรวน (emotional lability)
การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ (body image)
ระยะไตรมาสแรก การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายยังปรากฏ
ไม่ชัดเจนจึงทําให้มีการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์น้อย
ระยะไตรมาสที่สอง ระยะนี้มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมากขึ้น
เช่น หน้าท้องและเต้านมขยายใหญ่ขึ้น ผู้ใกล้ชิดให้ความเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษกว่าระยะที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
ระยะไตรมาสที่สาม รู้สึกว่าร่างกายเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเกิดความไม่คล่องตัว มีฝ้าขึ้นบนใบหน้าผิวหนังบริเวณหน้าท้องและเต้านมแตก ฉะนั้นการอธิบาย หรือเปิดโอกาส ให้หญิงตั้งครรภ์และสามีได้พูดคุยถึงเรื่องภาพลักษณ์
การเปลี่ยนแปลงด้านเพศสัมพันธ์
ระยะไตรมาสแรก หญิงตั้งครรภ์อาจมีความรู้สึกทางเพศลดลง เนื่องจากความไม่สุขสบายทางด้านร่างกาย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย เชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ ขณะตั้งครรภ์จะเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์
ระยะไตรมาสที่สอง จะมีความรู้สึกทางเพศเพิ่มขึ้นและร่างกายมีการตอบสนองทางเพศดีขึ้น เนื่องจากอาการไม่สุขสบายจากอาการแพ้ท้องหายไป อวัยวะบริเวณอุ้งเขิงกรานได้รับโลหิตมาเลี้ยงเพิ่มขึ้น
ระยะไตรมาสที่สาม ในระยะนี้รูปร่างของหญิงตั้งครรภ์จะเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ขนาดของมดลูกขยายใหญ่ขึ้นทํา ให้รู้สึกอึดอัดไม่สะดวกในการมีเพสัมพันธ์
การปรับตัวเข้าสู่บทบาทการเป็นมารดา
พัฒนกิจขั้นที่ 2 การมีตัวตนของบุตร และรับรู้ว่าบุตรในครรภ์เป็นส่วนหนึ่งของตน (fetal embodiment) เกิดมโนภาพ
เกี่ยวกับตนเองโดยสังเกตและสนใจตนเองมากขึ้น ความวิตกกังวลเริ่มลดลง เนื่องจากรู้สึกยอมรับการตั้งครรภ์มากขึ้น
พัฒนกิจขั้นที่ 1 การสร้างความมั่นใจและยอมรับการตั้งครรภ์
(pregnancy validation)ความรู้สึกครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับหญิง
ตั้งครรภ์ คือ ความประหลาดใจเมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์
ลําดับต่อมาคือการตรวจสอบการตั้งครรภ์เพื่อยืนยันให้เกิดความแน่ใจ แล้วจึงตัดสินใจบอกการตั้งครรภ์ให้ผู้อื่นรับรู้
พัฒนกิจขั้นที่ 3 การยอมรับว่าทารกเป็นบุคคลคนหนึ่งที่มีบุคลิกภาพที่แตกต่างไป
จากตน (fetal distinction) มีการปฏิสัมพันธ์กับบุตรทางการสัมผัสจากภายนอก
คิดถึงว่าบุตรจะมีบุคลิกคล้ายผู้ใดเฝ้าดูการเคลื่อนไหวที่เห็นได้ทางหน้าท้อง
พัฒนกิจขนั้ ที่ 4 การเปลี่ยนบทบาทการเป็นมารดา (role transition) ช่วงนี้หญิงตั้งครรภ์
จะมีความวิตกกังวล เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของการเจ็บครรภ์ มีความรู้สึกพึงพาคนอื่น
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปรับตัวต่อบทบาทการเป็นมารดา
2.วุฒิภาวะทางอารมณ์ของหญิงตั้งครรภ์
1.ประสบการณ์การเลี้ยงดู
3.ลักษณะโครงสร้างและหน้าที่ของครอบครัวได้มีการเปลี่ยนแปลงไป
4.สภาพเศรษฐกิจ
5.ประสบการณ์ในการตั้งครรภ์ที่ผ่านมา
6.สถานภาพสมรส
7.การยอมรับสภาพความเป็นจริง
การเรียนรู้และการได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
5.การปรับตัวต่อบทบาทการเป็นบิดา
ไตรมาสแรก เริ่มรู้สึกประทับใจต่อการตั้งครรภ์แต่ในขณะ
เดียวกันจะเกิดวิตกกังวล ไม่แน่ใจในการเผชิญบทบาทใหม่
ไตรมาสที่สองเริ่มรู้สึกมากขึ้นเมื่อได้จับต้องขณะทารกดิ้น
ในครรภ์ภรรยา จะปรับกิจกรรมเพื่อให้เวลากับภรรยามากขึ้น
ไตรมาสที่สาม เป็นระยะที่สามีจะมีการเตรียมการ
และคาดการณ์เกี่ยวกับการคลอด
การวินิจฉัยการตั้งครรภ์
อาการที่แสดงว่าน่าจะตั้งครรภ์ (Probable signs)
2.1 ท้องโตขึ้น (Enlargement of abdomen)
2.2 การเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง ขนาด และ
ความนุ่มของมดลูก (Changes in the uterus)
2.4 การหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก (Braxton Hicks contraction)
2.5 Ballottement
2.6 คลําได้ขอบเขตของทารก (outlining)
2.7 ผลการทดสอบฮอร์โมนให้ผลบวก (positive pregnancy test)
2.3 มีการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูก (cervical changes)
อาการที่สงสัยว่าจะตั้งครรภ์ (Presumptive signs)
1.1 ขาดประจําเดือน (Amenorrhea)
1.2 อาการแพ้ท้อง (Nausea and vomiting)
1.3 การเปลี่ยนแปลงของเต้านม (Breast changes)
1.6 อ่อนเพลีย (Fatigue)
1.7 มารดารู้สึกเด็กดิ้น (quickening)
1.4 การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง (Skin changes)
1.5 ปัสสาวะบ่อย (Urinary frequency)
อาการแสดงตั้งครรภ์แน่นอน (positive signs)
3.1 ตรวจพบการเต้นของหัวใจทารก (fetal heart sound)
3.2 ตรวจพบการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์
(fetal movement and fetal part)
3.3 ตรวจพบทารกโดยภาพรังสี (roentgenogram)
3.4 การตรวจพบทารกโดยวีรีของคลื่นเสียงความถี่สูง
(ultrasonography)