Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Diabetic retinopathy - Coggle Diagram
Diabetic retinopathy
-
-
การพยาบาล
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทระยะรุนแรงที่ได้รับการรักษาโดยการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตาการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตา (Intravireous Anti-VECF agent) เป็นการรักษาจุดรับภาพบวมจากเบาหวาน โดยการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตายาจะไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นเลือดงอกใหม่ (Neovascularization)
บทบาทพยาบาล เตรียมผู้ป่วยให้พร้อมก่อนฉีดยา ช่วยแพทย์และเฝ้าระวังอาการขณะฉีดยา สังเกตอาการหลังฉีดยาเช่นอาการปวดตา ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังฉีดยา นัดหมายผู้ป่วยให้มาตรวจครั้งถัดไป แนะนำอาการส าคัญที่ต้องมาก่อนนัด
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทระยะรุนแรงที่รับการรักษาโดยการยิงเลเซอร์ยิงเลเซอร์เบาหวานขึ้นตาเป็นการยิงแบบ panretinal laser photocoagulation
บทบาทพยาบาล เตรียมผู้ป่วยให้พร้อมก่อนทำเลเซอร์ ช่วยแพทย์ขณะทำเลเซอร์ให้การพยาบาลหลังทำเลเซอร์ สังเกตอาการหลังทำเลเซอร์เช่นอาการปวดตาให้
คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังทำเลเซอร์ นัดหมายผู้ป่วยให้มาตรวจครั้งต่อไป แนะนำอาการสำคัญที่ต้องมาก่อนนัด
การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะอันตรายจากภาวะเบาหวานขึ้นจอ
ประสาทตาผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจะมีระดับ
น้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ
บทบาทพยาบาลแนะนำส่งเสริม
สนับสนุนให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันใน
เลือด ความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและพัฒนาระบบบริการการเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับ
การตรวจจอประสาทอย่างน้อยปีละครั้งเพราะถ้าพบความผิดปกติแต่เนิ่น ๆจะช่วย
ลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยได้
-
ความหมาย
เบาหวานเกิดจากการที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ซึ่งสาเหตุมาจากตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ หรือเซลล์ร่างกายไม่ตอบสนองอย่างเหมาะสมต่ออินซูลินที่ร่างกายผลิตอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือด ซึ่งส่งผลต่ออวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายรวมถึง “ดวงตา”
เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่อาจเป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดได้ในที่สุด โดยเกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้หลอดเลือดที่จอตา (Retina) ได้รับความเสียหาย
-
-
พยาธิ
กลไกการเกิดโรคเบาหวานขึ้นจอตายังไม่เป็น ที่ทราบแน่ชัด เชื่อว่าเกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง ทำให้เกิดการกระตุ้นปฏิกิริยาต่างๆ ได้แก่ aldose reductase pathway เกิดการสะสมของสารซอร์บิทอล
(sorbitol) ปฏิกิริยาไกลเคชั่น (glycation) เกิดเป็นสารadvanced glycation endproducts (AGEs) และ
protein kinase C activation ซึ่งสารเหล่านี้มีผลเสียต่อเส้นเลือดฝอยที่จอตา (retinal capillaries) ทำให้เกิด
พยาธิสภาพเส้ยเลือดฝอยในตาเกิดการเปลี่ยนแปลง
การตรวจวินิจฉัย
การตรวจตาโดยจักษุแพทย์ จะเริ่มจากการซักประวัติ ระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน ประวัติการคุมเบาหวาน โรคประจำตัวอื่นๆ ที่พบร่วมด้วย ประวัติเบาหวานในครอบครัว อาการที่นำมาพบแพทย์ หลังจากนั้นจึงตรวจการมองเห็น ตรวจส่วนหน้าของตา และวัดความดันลูกตาแล้ว จะต้องมีการขยายม่านตาเพื่อตรวจจอตาอย่างละเอียด เพื่อตรวจดูว่ามีเบาหวานขึ้นจอตาหรือไม่
การขยายม่านตามักทำให้มีอาการตามัวประมาณ 4-6 ชั่วโมง ดังนั้นจึงไม่ควรขับรถเองในช่วงเวลาดังกล่าว และควรพาญาติไปด้วย
-