Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Sepsis - Coggle Diagram
Sepsis
การวินิจฉัยการพยาบาล
ข้อที่ 1 เกิดการติดเชื้อในร่างกาย เนื่องจากมีฝีบริเวณหน้าท้อง
S : ผู้ป่วยบอกว่าคันบริเวณหน้าท้อง
O : มีฝีบริเวณหน้าท้อง
Lab CBC WBC 11,600 cell
เป้าหมายการพยาบาล : ไม่เกิดการติดเชื้อในร่างกาย
เกณฑ์การประเมิน 1. อุณหภูมิร่างกายอยู่ในช่วง 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
2.ไม่มีอาการแสดงของการติดเชื้อ ได้แก่ บวม แดง ร้อน บริเวณฝี
กิจกรรมการพยาบาล
1.ดูแลให้ได้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3000 cc
- ประเมินสัญญาณชีพ โดยเฉพาะอุณหภูมิร่างกาย
- จัดสิ่งแวดล้อมรอบเตียงให้สะอาด
- ประเมินบริเวณฝีว่ามีอาการบวมแดงร้อน หรือไม่
- ให้คำแนะนำผู้ป่วยไม่ให้แกะเกาแผล
- ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาของแพทย์ ceftriazone 2 g ทุก 24 ชั่วโมง
ข้อที่ 2 อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูงซ้ำ
S : ผู้ป่วยอกว่าเวียนศีรษะบ่อยครั้ง
O : แรกรับ BP 212/71 mmHg
เป้าหมายการพยาบาล : ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูงได้แก่ อัมพฤกษ์ อัมพาต หลอดเลือดสมองตีบตัน หัวใจขาดเลือด
เกณฑ์การประเมิน
ไม่มีอากาปวดศีรษะ เวียนศีรษะ
ความดันโลหิตอยู่ในช่วง 90/60-140/80 mmHg
กิจกรรมการพยาบาล
- ติดตามและวัดความดันโลหิตทุก 4 ชั่วโมง
- ประเมินอาการและอาการแสดง ถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ปวดศีรษะ มีเลือดกำเดาไหล คลื่นไส้ อาเจียน
- ดูแลให้ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
- แนะนำผู้ป่วยเรื่องการรับประทานอาหาร ลดอาหารเค็ม อาหารหมักดอง ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- เน้นย้ำให้ผู้ป่วย มาตรวจและทำการรักษาตามนัด
- ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
Amlodipine ( 5 ) วันละ 2 เม็ดหลังอาหาร
Enalapril (20) 1 เม็ดก่อนอาหาร
ข้อที่ 3 เสี่ยงติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะซ้ำเนื่องจากพร่องความรู้ในการดูแลตนเอง
S : ผู้ป่วยบอกว่า 1 ปีที่ผ่านมาเคยมารักษาที่โรงพยาบาลด้วยการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
S : ผู้ป่วยบอกว่าปัสสาวะแสบขัด
เป้าหมายการพยาบาล : มีความรู้ในการดูแลตนเองไม่กลับมาติดเชื้อซ้ำ
เกณฑ์การประเมิน
สามารถอธิบายถึงวิธีการดูแลเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้
กิจกรรมการพยาบาล
- แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3000 cc
- แนะนำให้ผู้ป่วยทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งหลังการขับถ่าย
- แนะนำให้สังเกตอาการไข้สูง ปัสสาวะแสบขัด กลิ่นปัสสาวะเหม็น ปริมาณออกน้อย ให้มาพบแพทย์
ข้อที่ 4 ไม่สุขสบายเนื่องจากมีอาการไอ
S : ผู้ป่วยบอกว่าเจ็บคอ
O : ไอบ่อย และมีเสมหะ
เป้าหมายการพยาบาล : อาการไอบรรเทาลง
เกณฑ์การประเมิน
. ไอลดลง
ปริมาณเสมหะลดลง
กิจกรรมการพยาบาล
- สังเกตอาการไอ ลักษณะสี ปริมาณของเสมหะ
- แนะนำให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ
- สอนวิธีการหายใจและไออย่างมีประสิทธิภาพ
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เกิดการไอมากขึ้น ได้แก่ อาหารทอด อาหารเผ็ด
- ดูแลสิ่งแวดล้อมรอบเตียงให้สะอาดไม่มีฝุ่นละออง
ข้อที่ 5 อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน hyperglycemia hyperglycemia
เนื่องจากขาดความรู้ในการความคุมโรคเบาหวาน
เป้าหมายการพยาบาล : ผู้ป่วยมีความรู้ ความเข้าใจ ในการควบคุมโรคเบาหวาน
เกณฑ์การประมิน ผู้ป่วยตอบคำถามและสรุปหลังการให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้อง
กิจกรรมการพยาบาล
- ประเมินความรู้ของผู้ป่วย เพื่อให้คำแนะนำได้ตรงประเด็น
- บอกภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้และสังเกตอาการหลังกลับบ้าน ได้แก่ ปัสสาวะมาก หายใจเหนื่อยหอบบ ชาปลายมือปลายเท้า
- จำกัดอาหารพวกแป้ง ขนม ผลไม้รสหวาน ลดอาหารมัน
- แนะนำให้มาตรวจตามนัดและยามารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- แนะนำให้ได้รับยาตามแพทย์สั่งถูกต้องตามขนาด และแผนการการรักษาไม่เพิ่มหรือลดขนาดของยาหรือหยุดยาเอง
การวินิจฉัย
-
การตรวจอัลตราซาวน์ หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เช่น อัลตราซาวน์ช่องท้องเพื่อดูว่ามีฝีเกิดขึ้นในช่องท้องหรือไม่
การเจาะน้ำจากตำแหน่งต่างๆเช่น น้ำไขสันหลัง เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อในสมอง หรือเนื้อเยื่อหุ้มสมองหรือไม่ หรือการเจาะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด ในกรณีที่มีน้ำในเยื่อหุ้มปอด
-
-
สาเหตุ
การมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานโรคของเม็ดเลือดขาวบางชนิด โรคตับแข็ง โรคภูมิคุ้มกันต้านทานของร่างกายบกพร่อง ซึ่งโรคประจำตัวเหล่านี้ จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ในการต่อสู่กับเชื้อโรคต่างๆที่เข้าสู่ร่างกาย
การทำหัตถการต่างๆที่ต้องใส่เครื่องมือเข้าไปในร่างกาย ซึ่งจะเป้นการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เช่น การใส่ท่อช่วยหายใจ การใส่สายสวนปัสสาวะ การใส่ท่อเข้าหลอดเลือดเพื่อให้สารน้ำต่างๆ
-
การรักษา
การใช้ยาปฏฺชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในระหว่างที่รอการเพาะเชื้อจากอวัยวะที่ติดเชื้อ แพทย์จะเริ่มให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดโดยครอบคลุทเชื้อที่น่าจะเป็นสาเหตุ โดยพิจจารณาจากอายุ โรคประจำตัวของผู้ป่วย
การกำจัดต้นเหตุที่มีการติดเชื้อและทำให้เกิดภาวะการรติดเชื้อ เช่นหากผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะอยู่แล้วมีการติดเชื้อที่กรวยไต ก็ต้องน้ำสายสวนปัสสาวะออก หรือหากมีหนองในบริเวณไหน ก็ต้องเจาะระบายเอาหนองออก
การรักษาประคับประคองตามอาการ ได้แก่การให้ยาลดไข้ ให้ยาฃดกรดที่เกิดจากร่างกายมีภาวะเครียดสูง เพื่อป้องกันการเปิดแผลในกระเพาะอาหาร
ภาวะแทรกซ้อน
-
ภาวะช็อค Septic shock คือ การที่ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อหรือภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ร่วมกับมีค่าความดันต่ำกว่าปกติ ที่ไม่สามารถให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
พยาธิสภาพ
ภาวะ Sepsis เป็นผลจากการติดเชื้อที่เกิดจากกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และต่อเนื่องในระยะแรกร่างกายจะอยู่ในภาวะ hypodynamic stat โดยจะมีการขยายหลอดเลือดส่วนปลาย ส่งผลให้ร่างกายขาดสารน้ำที่จะให้ระบบไหลเวียนโลหิตนำไปสูบฉีด ประกอบกับการทำงานของหัวใจที่แย่ลง เป็นผลจาก cytokines ต่างๆที่ถูกหลั่งออกมาจากเซลล์เม็ดเลือดขาวเกิดกระบวนการอักเสบที่มีอยู่ ทำให้ปริมาณของออกซิเจนที่ถูกขนส่งไปยังเนื้อเยื่อต่างๆลดลง ในขณะที่เนื้อเยื่อต่างๆมีความต้องออกซิเจนอย่างมากขึ้น เนื้อเยื่อจะปรับตัว โดยพยายามดึงเอาออกซิเจนจากเลือดซึ่งมีน้อยอยู่แล้วออกจากฮีโมโกลบินและพลาสมาให้มากขึ้น หากไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของเนื้อเยื่อ ร่างกายจะปรับตัวโดยใช้ anaerobic metabolism แทน ทำให้ระดับของสาร lactate ในเลือดสูงขึ้น หากไม่ได้รับการแก้ไข ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ hyperdynamic state โดยมีการบีบตัวของหลอดเลือดส่วนบนปลาย ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น cardiac output เพื่มขึ้น และปริมาณออกซฺเจนในเลือดเริ่มสูงขึ้นไปด้วย แต่ปริมาณออกซิเจนที่มากขึ้นเนื้อเยื่อ ไม่สามารถนำออกซิเจนไปใช้ได้ เนื่องจากขาดออกซิเจนอย่างรุนแรงเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง เซลล์ต่างๆจะค่อยๆเสื่อสภาพ จนเกิดอวัยวะล้มเหลว หากอวัยวะล้มเหลวพร้อมๆกันหลายระบบ อาจถึงแก่ชีวิตได้
ข้อมูลผู้ป่วย
ข้อมูลทั่วไปผู้ป่วย
ผู้ป่วยหญิงไทย วัยสูงอายุ ให้ข้อมูลว่า 3 วันก่อนมาโรงพยาบาล มีตุ่มแดงๆที่หน้าท้อง 1 วันก่อนมาโรงพยาบาล เริ่มมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ไม่มีถ่ายเหลว ไม่มีท้องเสีย 30 นาทีก่อนมาโรงพยาบาล มีไข้สูง 38.4 องศาเซลเซียส ชีพจร 84 ครั้งต่อนาที อัตราการหายใจ 30 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต 212/71 มิลลิเมตรปรอท
อาการปัจจุบัน : ผู้ป่วยหญิงไทย วัยสูงอายุ รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง Glasgow coma scale E4 V5 M6 motor power แขนทั้งสองข้าง grade 5 ขาทั้งสองข้าง gade 5 มีตุ่มฝีบริเวณหน้าท้อง หายใจไม่หอบเหนื่อย อัตราการหายใจ 20 ครั้งต่อนาที ชีพจร 76 ครั้งต่อนาที รับประทานอาหารเบาหวาน ทานได้น้อย กลางคืนหลับไม่ค่อยสนิท หลับๆตื่นๆ ปัสสาวะ 3-4 คร้งต่อวัน อุจจาระวันละครั้ง
แลปที่ผิดปกติ WBC 11,600 cell/cu.m.m Hi Lymphocyte 18.7 % Low
RDW 15.2 % Hi
การติดเชื้อในร่างกายทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย ทำให้อัตราการหายใจเเร็วหายใจลำบาก หายใจเบาตื้น ส่งผลให้ปริมาณของออกซิเจนที่ถูกขนส่งไปยังเนื้อเยื่อต่างๆลดลงในขณะที่ร่างกายต้องการออกซิเจนมากขึ้น ทำให้มีภาวะคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ส่งผลให้ร่างกายอยู่
ในภาวะกรดและทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
Respiratory Failure
พยาธิสภาพ
ภาวะการหารใจล้มเหลว เป็นภาวะที่การแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติมากในเวลาหลายนาทีหรือหลายชั่วโมง จนเกิดการพร่องออกซิเจนในเลือดหรือไม่สามารถป้องกันการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ได้ แม้อยู่ในขณะพัก แรงดันออกซิเจนในเลือดแดง เท่ากับหรือน้อยกว่า 60 มิลลิเมตรปรอท แรงดันคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดแดงเท่ากับหรือมากกว่า 45 มิิลลิเมตรปรอท ความอิ่มตัวของออกซิเจนในฮีโมโกลบินน้อยกว่าร้อยละ 90 เกิดภาวะกรดในร่างกาย pH เท่ากับหรือน้อยกว่า 7.30
สาเหตุ
- เซลล์ใช้ออกซิเจนมากกว่าปกติ
-
- ความบกพร่องในการนำออกซิเจนไปสู๋เซลล์
1.1 ความผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ ได้แก่พยาธิสภาพที่จมูก หลอดคอ หลอดลม กล่องเสียง ปอด
- การระบายอากาศบกพร่อง เช่น การอุดกั้นทางเดินหายใจ เนื่องจากหืดหอบ ทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง และหลอดลมใหญ่ตีบ
- การแพร่ผ่านก๊าซบกพร่อง เนื่องจากปดอักเสบ ปอดแฟบ น้ำท่วมปอด และพังผืดที่ถุงลม
1.2 ความผิดปกตินอกระบบทางเดินหายใจ
- ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง เช่น พยาธิสภาพที่ศีรษะ โดยเฉพาะก้านสมอง และการได้รับสารพิษหรือยากดประสาต่างๆ ทำให้การระบายอากาศไม่เพียงพอ เนื่องจากหายใจช้าและตื้น ทำให้ปริมาตรอากาศหายใจเข้า/ออกลดลง
- ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนปลายและกล้ามเนื้อลาย เช่นโรคบาดทะยัก โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้กล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรง
- ความผิดปกติเของทรวงอกและเยื่อหุ้มปอด เช่น เยื่อหุ้มปอดอักเสบ และภาวะอกรวน หมายถึง การหักของซี่โครงที่ติดกัน
- ความผิดปกติของหัวใจ หลอดเลือด และเลือด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ มีลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดในปอด และการลัดของเลือดไม่ผ่านถุงลม
อาการและอาการแสดง
- อาการและอาการแสดงของโรคที่ทำให้เกิดภาวะหายใจล้มเหลว
- ไข้ ไอ เจ็บหน้าอก มีเสมหะ จากปอดอักเสบ
- ไอ หอบเหนื่อย และฟังปอดได้เสียงหวีด( wheeze) จากโรคหืด
- ซึม หมดสติรูม่านตาเล็ก จากการได้รับยากลุ่มมอร์ฟีนเกินขนาด
- อาการและอาการแสดงที่เกิดจากความผิดปกติของการแลกเปลี่ยนก๊าซ
- ภาวะ hypoxemia ทำให้มีการกระตุ้นประสาทซิมพาเทติก มีอาการแสดงได้แก่ ชีพจรเต้นเร็วในระยะหลังจะเต้นช้าลง ศูนย์ควบคุมการหายใจจะถูกกระตุ้นทำให้หายใจเร็ว มีผลทำให้ขาดออกซิเจนที่เนื้อเยื่อตามมา แสดงอาการทางระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย ชักกระตุก ความดันโลหิตต่ำ เขียวคล้ำ
- ภาวะ hypercapnia ทำให้มีการกระตุ้นประสาทซิมพาเทติกเพิ่มขึ้น กระตุ้นศูนย์ควบคุมการหายใจ ทำให้หายใจเร็วและลึก มีภาวะเลือดเป็นกรด ทำให้หลอดเลือดดำขยายตัว ผู้ป่วยมีอาการง่วงซึม มึนศีรษะ เหงื่อออกมาก หมดสติ ตามัว มือสั่น ความดันโลหิตสูง
การรักษา
- รักษาภาวะ hypoxemia , hypercapnia โดยรักษาให้ Arterial blood gas อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเพื่อให้สาเหตุของการหายใจล้มเหลวดีขึ้น ให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
- รักษาสาเหตุและจำกัดสาเหตุ พยาธิสภาพที่เป็น และปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะหายใจล้มเหลว ได้แก่ ปัจจัยชักนำ เช่น การติดเชื้อ การได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก การมีลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด
- การให้สารน้ำอย่างเหมาะสม โดยให้สารน้ำน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลด permeability edema แต่การจำกัดสารน้ำต้องระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ cardiac output ลดลง เกิด tissue hypoxia และ multiple organ failure
การวินิจฉัย
การซักประวัติ โดย ซักประวัติเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะหายใจล้มเหลว เช่น โรคทางปอด อาการหายใจลำบากเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ระยะเกิดขึ้นนานเท่าใด มีปัจจัยส่งเสริม เช่น การสูบบุหรี่ ยกของหนัก ออกกำลังกายอย่างหนัก
การตรวจร่างกาย เช่น ระดับความรู้สึกตัว อาการอ่อ่นแรง ลักษณะการหายใจ และการใช้กล้ามเนื้ิอในการหายใจ หัวใจเต้นเร็ว
การตรวจทางห้องปฏิบัติ ได้แก่ การตรวจเลือดดูปริมาณเม็ดเลือดแดง หากมีปริมาณเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ บ่งบอกว่าผู็ป่วยเกิดการหายใจล้มเหลวมาเรื้อรังแล้ว
การตรวจพิเศษ เช่น การตรวจภาพรังสีทรวงอก เพื่อดูว่ามีปอดบวมติดเชื้อ มีน้ำในปอด ก้อนในปอด ปอดแฟบ เพื่อดูว่าเป็นโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรังหรือไม่ เพื่อหาสาดหตุของโรคหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ภาวะแทรกซ้อน
เกิดจากการที่อวัยวะต่างๆในร่างกายได้รับออกซิเจนจากเลือดไปเลี้ยงไม่พอ ร่วมกับภาวะที่เลือดเป็นกรดจากการมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติ ได้แก่
ระบบไหลเวียนโลหิต ผู้ป่วยจะมีความดันโลหิตต่ำ มีหัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ระบบทางเดินอาหาร ลำไส้หยุดการเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน ไม่ถ่ายอุจจาระ เกิดแผลในกะเพาะทางเดินอาหาร
-
-
ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นผลมาจากให้ออกซิเจนและเครื่องช่วยหายใจ เช่น การตั้งค่าความดันอากาศของเครื่องช่วยหายใจมากเกินไป อาจทำให้ปอดแตก/ภาวะโพรงเยื้อหุ้มปอดมีอากาศได้ การให้ก๊าซหายใจที่มีเปอร์เซ็นต์ของออกซิเจนสู.เป็นเวลานานเกินไป อาจทำให้เกิดปอดแฟบในผู้ใหญ่ หรือเกิดพังผืดในปอดร่วมกับตาบอดได้ในทารกที่คลอดก่อนกำหนด