Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Hypoxic- ischemia encephalopathy (HIE) - Coggle Diagram
Hypoxic- ischemia encephalopathy (HIE)
A1: เสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องออกซิเจนเนื่องจากถุงลมปอดทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์
ข้อมูลสนับสนุน
S : “-”O :
Respiratory depression from Asphyxia
Severe Birth asphyxia
RUL Atelectasis
ตรวจร่างกายอกและปอด : ฟังเสียงปอดพบ Crepitation และ secretion
Vital Signs : T : 36.8 oC, P : 119 bpm., RR : 58 bpm., BP : 86/48 mmHg., SpO2 : 97%
การวินิจฉัยโรคปัจจุบัน : Hypoxic- ischemia encephalopathy (HIE)
on NIPPV PIP 16, Peep 5, RR 30, Ti 0.35 keep O2 sat ≥ 95%
on IMV mode PIP 16, Peep 4 , RR 30, Ti 0.35 FiO2 0.21-0.4 keep O2 sat ≥ 95%
วัตถุประสงค์การพยาบาล: เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
เกณฑ์การประเมินผล:
สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ :
T 36.5 - 37.4 oC
RR : 30-60 bpm.
P : 100 -140 bpm.
BP : Systolic Blood Pressure 80-100 mmHg.
: Diastolic Blood Pressure 45-60 mmHg.
Oxygen saturation : ≥95%
ทางเดินหายใจโล่ง ไม่มีเสียงเสมหะ ฟังเสียงปอดไม่พบ เสียง Crepitation
กิจกรรมการพยาบาลและเหตุผล:
1.ประเมินอาการหายใจลำบาก ได้แก่ อัตราการหายใจเพิ่มขึ้นมากกว่า 60 ครั้ง/นาที ลักษณะการหายใจลำบากมีปีกจมูกปาน กล้ามเนื้อระหว่างช่องซี่โครงดึงรั้ง อาจมีอาการเขียวหรือไม่มีก็ได้ อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 150-170 ครั้ง/นาที
2.ประเมินสัญญาณชีพทุก 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะอัตราการหายใจ ชีพจรและความดันโลหิต
3.ประเมินค่าความอิ่มตัวของออกซิเจน SpO2 : ≥95%
4.ดูแลให้ได้รับออกซิเจนและดูแลเครื่องช่วยหายใจให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ - on NIPPV PIP 16, Peep 5, RR 30, Ti 0.35 keep O2 sat ≥ 95% และ on IMV mode PIP 16, Peep 4 , RR 30, Ti 0.35 FiO2 0.21-0.4 keep O2 sat ≥ 95% ตามแผนการรักษาของแพทย์
5.ดูแลให้ได้รับยา Ventolin 0.3 ml+ NSS up to 3 ml NB q 4 hr. หลังจากพ่นให้เคาะปอด+suction ตามแผนการรักษาของแพทย์
6.จัดท่านอนของทารกให้เหมาะสมกับการหายใจ จัดท่านอนตะแคงหลีกเลี่ยงการนอนทับปอดข้างขวาเป็นเวลานาน
7.ประเมินเสียงปอดทั้งสองข้าง
8.ดูแลทารกให้ได้รับการนอนหลับและพักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบไม่รบกวนทารกบ่อยครั้งจนเกินไปปรับอุณหภูมิตู้อบให้พอเหมาะกับอุณหภูมิของทารก
การประเมินผล:
สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ :
T 36.5 - 37.4 oC
RR : 30-60 bpm.
P : 100 -140 bpm.
BP : Systolic Blood Pressure 80-100 mmHg
: Diastolic Blood Pressure 45-60 mmHg.
Oxygen saturation : ≥95%
ทางเดินหายใจโล่ง ไม่มีเสียงเสมหะ ฟังเสียงปอดไม่พบ เสียง Crepitation
A2: เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหารเนื่องจากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ข้อมูลสนับสนุน :
S : -
O :
มารดา G2P1 GA 37 wk.
น้ำหนักแรกเกิด : 2,650 g. น้ำหนักปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่
16/05/2565) : 3,290 g.
ความยาวของทารกแรกเกิด : 51 cm.
Occipito-Frontal circumference (OFC) : 31 cm.
การให้สารน้ำและสารอาหาร : Total Parenteral Nutrition (TPN) : วันที่ 12/04/65 – 17/04/65
วัตถุประสงค์การพยาบาล : ได้รับสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการ/ไม่มีภาวะทุพโภชนาการ
เกณฑ์การประเมินผล :
ทารกไม่มีภาวะของการขาดสารอาหาร เช่น น้ำหนักลด ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง ปัสสาวะลดลง
ทารกไม่มีภาวะท้องอืดเพิ่มขึ้น
กิจกรรมการพยาบาล :
ดูแลให้อาหารทาง OG for feed คือ F20 kcal/oz 50 ml x 8 feed
ดูแลให้ได้รับยาและสารนําทาง IV ตามแผนการรักษา ดังนี้ 20% SMOF (2gm/kg/hr) 12 ml. IV drip in 20 hr. 10% TPN iv 2 ml/hr. 6. นํ้าหนักทุกวัน ในสัปดาห์แรกทารกจะมี Physiological weight loss ประมาณ 10-20% ของน้ำหนักแรกเกิด หลังจากนั้นได้มสารอาหารเพียงพอหรือไม่มีความเจ็บป่วยรุนแรง น้ำหนักของทารกจะเพิ่มวันละประมาณ 20-30 g
เหตุผลการพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารเพียงพอ
ติดตามผลการตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการ ค่า electrolyte
เหตุผลการพยาบาล เพื่อรายงานแพทย์ทราบ กรณีผล electrolyte ผิดปกติ
ประเมินผลการพยาบาล :
1.กระหม่อมไม่มีความตึงตัวของผิวหนังดี ฝีปากมีความชุ่มชื้น
2.เทารกไม่มีภาวะของการขาดสารอาหาร เช่น น้ำหนักลด ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง ปัสสาวะลดลง