Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลในระยะที่1ของการคลอด - Coggle Diagram
การพยาบาลในระยะที่1ของการคลอด
การเตรียมผู้คลอด
ด้านจิตใจ
เปิดโอกาสให้ถามข้อสงสัยในการเตรียมคลอด
อธิบายเกี่ยวกับการรับไว้เพื่อรอคลอด การแนะนำสภานที่และข้อปฏิบัติในการคลอด
อธิบายให้ทราบเกี่ยวกับภาวะสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์ ผลการตรวจต่างๆ การดำเนินคลอด และกระบวนการคลอด
ด้านร่างกาย
การทำความสะอาดบริเวณสืบพันธุ์ภายนอก และฝีเย็บ
การสวนอุจจาระ
การทำความสะอาดร่างกาย
จัดให้พักผ่อนในห้อวรอคลอกและดูแลอย่าวใกล้ชิด
การประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
ลักษณะการหดรัดตัวของมดลูก
Latent phaseไม่เกิน3cm.
Cx.dilate=3-9cms.
Duration=45-60 s.
Interval=3-5 s.
Intensity=moderate(+ c)
Acceleration phase
(active ตอนต้น)
Cx.Cx.ditate=3-9 cms.
Duration=45-60 mins.
Interval=3-5 mins
Intensity=moderate (++)
Active ตอนปลาย
Cx.dilate=9-10cms.
Duration=60-90 s.
Intraval=2-3 s.
Intensity=Moderate (+++)
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
การประเมินโดยใช้เครื่องอิเล็กทรอนิดส์
การประเมินโดนการวางฝ่ามือบนยอดมดลูก
การเปิดขยายและความบางของปากมดลูก
การเคลื่อนต่ำของส่วนนำ
และการหมุนของศีรษะทารก
ทารกจะเคลื่อนต่ำลงและมีการหมุนของศีรษะายในตามกลไกการคลอดปกติในระยะ latent phase
การดำเนินการคลอดที่เป็นปกติกระดูกท้านทอยจะค่อยๆหมุนขึ้นมาทางด้านหน้าของเชิงกรานปละรอยต่อแสกกลางจะค่อยหมุนมาอยู่ในเเนวหน้า หลัง
การมีมูกออกมากขึ้นและลักษณะของมูกเปบี่ยนจากมูกเบือดมากขึ้นแสดงว่าปากมดลูกเปิดเพิ่มขึ้น
ตำเเหน่ง FSH
เมื่อการคลอดก้าวหน้าทารกจะเคลื่อนต่ำลงและมีการหมุนภายในไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะทำให้ตำเเหน่งที่ฟังอัตราการเต้นของหัวใจทารกได้เคลื่อนต่ำลงมาและเคลื่อนเข้าหาแนวกึ่งกลางลำตัว เมื่อส่วนนำเคลื่อนต่ำลงมาถึงช่องเชิงกรานตำเเหน่งที่ฟัวอะตราการเต้นของหัวใจทารกจะอยู่ที่บริเวณรอยต่อกระดูกหัวหน่าว
การประเมินภาวะเเทรกซ้อน
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์
สายสะดือย้อย
ความผิดปกติในการหดรัดตัวของมดลูก เช่น มดลูกหดรัดตัสถี่เกินไป(tetanic uterine contraction)
ภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เช่น ภาวะความดันโลหิตสูงในระหว่างครรภ์ เป็นต้น
การรับใหม่ผู้คลอด :
การให้การต้อนรับ
ดูแลด้วยความสุภาพ มีจิตไมตรี อ่อนโยน มารยาทเรียบร้อยมีความว่องไว กระฉับกะเฉง มีความมั่นใจในตัวเอง ปบะมองเห็นการช่วยเหลืออย่างจริงจัง
การซักประวัติ
ประวัติจากอาการนำที่ผู้คลอดมาโรงพยาบาล
เช่น การเจ็บครรภ์ มูก มีน้ำเดินหรือถุงน้ำแตก
ประวัติทางอายุรกรรม
ประวัติการแพ้ยา สารในอาหารหรือการผ่าตัด
ประวิตการเจ็บป่วย การรักษา เป็นต้น
ประวัติการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว
ประวัติด้านจิตสังคม
ประวัติด้านสูติกรรม
การตรวจร่างกาย
การตรวจV/S น้ำหรัก พฤติกรรมทางกายที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดในระยะคลอด ผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบติการ ผลการตรวจปัสสาวะ และอื่นๆ
การตรวจร่างกายเฉพาะที่ คือการตรวจครรภ์
เพื่อประเมินลักษณะและสภาวะของทารก
การดู
การคลำ
การคลำ
การพยาบาล
ทารก
การฟังFSHต้องอยู่ในช่วง110-160ครั้งต่อนาที
และต้องฟังในช่วงมดลูกคลายตัว
ทารกเครียด
1.Promoting of comfort & relaxating ส่งเสริมให้เกิดความสุขสบายและผ่อนคลาย
2.นอนตะเเคงซ้าย
3.ให้O2=5LPM
4.รายงานเเพทย์
5.ฟังFSH บ่อยๆ หรือOn fetal heart rate monitoring
6.ให้ยาตามแผนการรักษา
7.ดูแลให้IV fluid
8.เตรียมช่วยแพทย์ในการคลอดทั้ง N/D และ C/S
แม่
สร้างสัมพันธภาพกับผู้คลอดในระยะแรกรับ พูดคุยอย่างเป็นกันเอง
ให้ความรู้เกี่ยวกับการคลอด ผลPV ความก้าวหน้าของการคลอด
จัดสิ่งแวดล้อมบริเวณผู้ป่วยนอนพักในห้องคลอดให้สะอาด และสวยงาม เพื่อลดความเบื่อหน่ายที่ต้องทำกิจกรรมนาน
เบี่ยงเบนความสนใจลดอาการปวด เช่ย แนะนำให้เดิน พูดคุย
อ่านหนังสือ ให้จิตใจจดจ่อนับลมหายใจ หายใจลึกๆ
ให้นวด ลูบ โดยประเมินความต้องการของผู้ป่วยก่อน เป็นการกระตุ้นใยประสาทขนาดใหญ่ ถูนวดกระเบนเหน็บ ลูบหน้าท้อง
ประคบเย็นประคบร้อน
การกดจุดเป็นการปรับพลังงานให้กลับสู่สมดุล
การสะกดจิตต้องทำก่อนคลอดตอน5-6เดือน เพื่อมห้คล้อยตามและผ่อนคลาย
การหายใจ เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มจำนวนO2ส่วเสริมให้เกิดการผ่อนคลาย ทำให้ความเจ็บปวด ความเครียดลดลง
อันตรายของหญิงคลอดระยะ1
ความก้าวช้า
Hypertonicitu : D > 75 s. หน้าท้องเป็นลอนสูง
Maternal exhaustion/distress
Emotional distress
ผู้คลอดอยู่ในภาวะอันตราย
Latent phase : G1 > 20 ชม. , Gหลัง > 14 ชม.
Active phase : G1 ~ 1.2 ชม./ชม. ,Gหลัง ~ 1.5 ชม./ชม.
ทารกเครียด
FSH. < 120 > 160 ครั้งต่อนาที
การตรวจภายใน
ข้อห้ามในการตรวจภายใน
ผู้คลอดที่มีประวัติเบือดออกระหว่างการตั้งครรภ์ หรือเลือดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือรกเกาะต่ำทุกราย
ส่วนนำทารกยังไม่เข้าสู่ช่องเชิงกราน(Head float) ร่วมกับอายุครรภ์ยังไม่ครบกำหนดคลอด
เมื่อมองเห็นศีรษะของทารกในครรภ์แล้ว ในระยะที่มีการอักเสบมากบริเวณทวารหนัก
ตรวจเท่าที่จำเป็นในระยะที่ที่มีการอักเสบมากบริเวณทวารหนัก
กรณีที่ถุงน้ำคร่ำเเตกก่อนกำหนด ควรตรวจเท่าที่จำเป็น เพื่อลดการติดเชื้อ
การตรวจดูสภาพของน้ำทูนหัว (Bag of fore water)
1.Membrane intact (M) ตรวจพบถุงน้ำโปงเเข็งตึง คลำส่วนนำได้ยาก
2.Membrane leakage (Mll.) ตรวจพบถุงน้ำไม่ค่อยเเข็งตึง อาจคลำได้ส่วนนำ สังเกตุน้ำคร่ำที่ไหลลงมาเรื่อยๆ
3.Membrane rupture (MR)คลำส่วนนำได้เช่นเดียวกัน แต่พบส่วนนำชัดเจนและอาจพบปากมดลูกเปิดขยายหมดเป็นส่วนนำ อาจพบบางครั้งขณะที่ปากมดลูกขยายไม่เต็มที่
การตรวจท่าทารก
เป็นการคลำจากการตรวจดูsagittal suture ขม่อมหลังหรือขม่อมหน้า ตำแหน่งของมัน
การตรวจส่วนนำ
ดูว่าส่วนไหนเป็นส่วนนำศีรษะกลม เรียบ เเข็ง
High plane หมายถึง ส่วนนำอยู่เหนือระดับของ ischia
spines
Mid plane หมายถึง ส่วนนำอยู่พอดีกับระดับของ ischial spines
Low plane หมายถึง ส่วนนำอยู่ต่ำกว่าระดับของ ischia
spines
Station เป็นการแบ่งระดับของส่วนนำบอกได้ว่าส่วนนำที่อยู่ต่ำสุดของทารกถึงระดับใดแล้ว โดยใช้ ischial spines เป็นหลัก ถ้าทารกศีรษะส่วนนำลงมาต่ำสุด ที่มาถึง ischialspines คือ กระดูกกะโหลกศีรษะ
ความบางของปากมดลูก(Cervical effacement)
ถ้าความหนาเหลือเพียง 1cm.Cervical effacement =50%
ถ้าหนาเหลือเพียง 0.5 cm. Cervical effacement =50%
ถ้าความหนาเหลือเพียง0.2-0.3 cm. Cervical effacement = 100%
ตรวจสภาพปากมดลูกมีลักษณะนุ่ม เเข็ง ยืดขยายไก้ง่ายหรือยาก บวม การเปิดขยายของปากมดลูก ตำเเหน่งปากมดลูก การตรสจท่าทารห เป็นต้น