Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินภาวะสุขภาพมารดา-ทารก และการคัดกรอง - Coggle Diagram
การประเมินภาวะสุขภาพมารดา-ทารก
และการคัดกรอง
การซักประวัติ
ประวัติทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา : ประวัติประจำเดือน/ การคุมกำเนิด/ การมีบุตรยากและการรักษาก่อนการตั้งครรภ์/ การตั้งครรภ์และการคลอดในอดีต
ประวัติความเจ็บป่วยของสตรีมีครรภ์ในปัจจุบัน : ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบันรวมทั้งการรักษาที่ได้รับ ประวัติการแพ้ยา การใช้สารเสี่ยงพติด ปธิมาณการดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การดื่มกาแฟ หรือน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของโคล่า การดื่มชา รวมทั้ง การรับประทาน chocolate เป็นประจำ
ประวัติความเจ็บป่วยของบุคคลในครอบครัว : โรคทางพันธุกรรมของบุคคลในครอบครัว โรคอายุธกรรม และโรคติดต่อของสมาชิกครอบครัว
ข้อมูลพื้นฐานส่วนบุคคล และประวัติทางสังคม : ชื่อ-นามสกลุ อายุ อาชีพ สัญชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ สิทธิในการรักษาพยาบาล ลักษณะสิ่งแวดล้อม แบบแผนการดำรงชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ
ประวัติการตั้งครรภ์ปัจจุบัน : การวินิจฉัยการตั้งครรภ์ การคาดคะเนอายุครรภ์และกำหนดวันคลอด การประเมินภาวะเสี่ยงจากการได้รับ teratogen เช่น ยา สารเคมี การสัมผัสกับ รังสีX-ray การใช้สารเสพติด การสัมผัส โรคหัดเยอรมัน และความไม่สุขสบายหรืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์
ประวัติความเจ็บป่วยของสตรีมีครรภ์ในอดีต : ภาวะเจ็บป่วยในวัยเด็กและโรคติดต่อ โรคทางอายุธกรรมและศัลยกรรมในอดีต การได้รับอุบัติเหตุหรือโรคของกระดูกเชิงกรานและหลังเช่น โปลิโอ วัณโรค โรคและการตรวจรักษาทางนรีเวช
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการแปลผล
การตรวจเลือด
ตรวจครั้งแรกทันทีที่ฝากครรภ์และตรวจซ้ำช่วง 30-32 wks
ปกตี เต่ที่กว่านี้ได้)
CBC >>โลหิตจาง (Hct >33 %, Hb > 11 mg /dL) อาจเกิดจาก พยาธิปากขอ,
ขาดสารที่ช่วย สร้างเม็ดเลือด เช่น Vit บี 1 2, folic acid , ขาดธาตุเหล็ก
หมู่เลือด ABO group, Rh factor และ antibody ต่าง ๆ กรณีต่างชาติหรือเคยรับเลือด
HIV ; วิธี FDA-licensed Elisa
HBsAg, HBeAg
VDRL = positive อาจผลบวกลวงต้องตรวจยืนยันด้วย FTA-ABS ทารกอาจพิการแต่กำเนิด
Rubella titer
ควรตรวจอายุครรภ์น้อย ๆ ในรายไม่เคยเป็นหัดเยอรมัน และรายที่เคยรับวัคซีน
ถ้า HAI>1:8- 1:10 หรือ EA>1000 แสดงว่ามีภูมิคุ้มกัน
ถ้าน้อยกว่าหรือให้ผลลบ ต้องให้คำแนะนำหลีกเลี่ยงการติดต่อและรับวัคซีนหลังคลอด
การคัดกรองพาหะของโรคทThalassemia
การคัดกรองพาหะของโรค Thalassemia
1) MCV (mean corpuscular volume) ค่าปกติคือ 2 80 หรือ OFT (one tube osmolality fragility test) ค่าปกติ คือ negative
ถ้าผลผิดปกติ เสี่ยงพาหะ เอลฟ่า -ราลัสซีเมีย 1 และ/ หรือ เบต้า-ธาลัสซีเมีย
2) DCIP หรือ HbE screening
ค่าปกติ คือ negative ถ้าผลผิดปกติ เสี่ยงพาหะ HbE
ตรวจปัสสาวะ
หาโปรตีน(albuminuria) อาจพบ trace ได้
น้ำตาล (glycosuria) อาจพบ trace ได้ ผิดปกติ ต้องส่งตรวจ GCT หรือ OGTT ต่อไป
ตรวจคัดกรองการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะที่ไม่มีอาการ (asymptomatic bacteriuria) โดยใช้
Test tape (พบเม็ดเลือดขาวตั้งแต่ 5 ตัวต่อหนึ่ง high powered field = อักเสบทางเดิน
ปัสสาวะ) พบผิดปกติเสี่งคลอดก่อนกำหนด และทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย
ตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูก
โดยตรวจ Pap smear ตรวจครั้งแรกที่มาฝากครรภ์ในรายที่ไม่
เคยตรวจมาก่อนหรือ ตรวจนานกว่า 1 ปี
การตรวจร่างกาย
ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง
ลักษณะปกติ
อาจWU striae gravidarum, linea nigra, และ diastasis recti ที่ผิวหนังหน้าท้องความสูงของยอดมดลูกสัมพันธ์กับอายุครรภ์อาจ เห็นการดิ้นของทารกในครรภ์คลำได้ ballottement เมื่ออายุครรภ์ ประมาณ 4-5 เดือนคลำส่วนของทารกได้จากการตรวจครรภ์เมื่ออายุครรภ์ 26-28 สัปดาห์ขึ้นไป
ลักษณะผิดปกติ
หน้าท้องตึงแข็ง กดเจ็บ คลำพบก้อนคลำตับโต ความสูงของมดลูก ไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์ ไม่ได้ยินเสียงหัวใจทารกในครรภ์ไม่รู้สึก เด็กดิ้นเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 20สัปดาห์
สัญญาณชีพ
สัญญาณชีพ ควรวัด ชีพจรและความดันโลหิตทุกครั้งที่มาฝากครรภ์
สภาพทั่วไป
ลักษณะปกติ
ได้แก่ การแต่งกาย ความสะอาด ระดับความรู้สึกตัว สีหน้าท่าทาง อารมณ์ ความสามารถในการตอบ คำถาม การตัดสินใจ และการใช้เหตุผล
ลักษณะผิดปกติ
เดินกระเผลก การรับรู้ช้า มีสีหน้าไม่สดชื่น
ผิวหนัง
ลักษณะปกติ
อาการบวมไม่เกิน +1 หรือมีอาการบวมมีเล็กน้อยบริเวณเท้า และหน้าแข้ง ไผ่ ไม่เปลี่ยนสี หรือขนาด อาจพบการเปลี่ยนแปลงของสีผิว เช่น linea nigra, striae gravidarum, chloasma เป็นต้น
ลักษณะผิดปกติ
บวมมากกว่า + 1 มีรอยผื่นคันมีแผลติดเชื้อ มีรอยจ้ำเลือด ซีด เหลืองไฝมีสีเข้มขี้น้ำหรือขนาดโตขึ้น
จมูก
ลักษณะปกติ
อาจมีการบวมของเยื่อบุภายในจมูก รู้สึกคัดจมูก (rhinitis of pregnancy) และมีเลือดออก เมื่อสั่งน้ำมูกแรง
ลักษณะผิดปกติ
ไม่ได้กลิ่นน้ำมูก สีเหลือง ไอ และจามร่วมด้วย
ปาก
ลักษณะปกติ
มีเหงือกบวมเล็กน้อย (hypertrophy of gingival จาก tissue จาก estrogen)
ลักษณะผิดปกติ
เหงือกบวมมีอาการอักเสบ ริมฝีปากซีด
คอ
ลักษณะผิดปกติ
ต่อมน้ำเหลืองโต กดเจ็บ แข็ง
มีต่อม thyroid enlargement
ลักษณะปกติ
ต่อมน้ำเหลืองโต กดเจ็บ แข็ง
มีต่อม thyroid enlargement
ทรวงอกและปอด
ลักษณะปกติ
ทรวงอกสมมาตร ขณะหายใจไม่เหนื่อยหอบ
อกไม่บุ๋มเสียงการหายใจปกติ
ลักษณะผิดปกติ
อกบุ๋มขณะหายใจ หายใจเร็ว
หอบหรือหยุดหายใจเป็นช่วง
มีเสียงผิดปกติขณะหายใจ ไอกี่
แขนขา
ลักษณะปกติ
ขยับ เคลื่อนไหวเป็นปกติ ผิวหนัง อุ่นอาจมีเส้น เลือดขยายและพบ varicose veins เล็กน้อยที่ขา
ลักษณะผิดปกติ
มือและเท้าเย็นชื้น บวมกดบุ๋ม มี varicose veins มาก ปลายมือปลายเทา ซีด เล็บ แอนเป็น
รูปช้อนตามลักษณะของกาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก
Reflexes
ลักษณะปกติ
ปกติ
ลักษณะผิดปกติ
Reflex เร็ว (hyperactivity)
เต้านม และหัวนม
ลักษณะปกติ
เต้านมปกติ ขนาดขยาย เมื่อคลำจะพบลักษณะขรุขระของต่อมและท่อน้ำนม ผิวหนังมี striae เส้นเลือด superficial vein ขยาย หัวนมมีสีคล้ำ tubercles of Montgomery ขยายขนาด รู้สึกเสียวแปล๊บ และไวต่อการกระตุ้น มีน้ำนมเหลือง (colostrums) กายหลังอายุครรภ์12 สัปดาห์ ตรวจโดย Waller's test อาจพบลักษณะหัวนมปกติ สั้น แบน หรือบุ๋ม แก้ไข โดย Hoffman's maneuver
ลักษณะผิดปกติ
ขรุขระไม่เรียบ ลักษณะเหมือนผลส้มกดเจ็บ คลำพบก้อนในเต้านมข้างใดข้างหนึ่งต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้โต หัวนมบุ๋ม มีเลือดออกหรือมีรอยแตก
ท้อง
ลักษณะปกติ
อาจWU striae gravidarum, linea nigra, และ diastasis recti ที่ผิวหนังหน้าท้องความสูงของยอดมดลูกสัมพันธ์กับอายุครรภ์อาจ เห็นการดิ้นของทารกในครรภ์คลำได้ ballottement เมื่ออายุครรภ์ ประมาณ 4-5 เดือนคลำ ส่วนของทารกได้จากการตรวจครรภ์เมื่ออายุครรภ์ 26-28 สัปดาห์ขึ้นไป
ลักษณะผิดปกติ
หน้าท้องตึงแข็ง กดเจ็บ คลำพบก้อน คลำตับโต ความสูงของมดลูก ไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์ ไม่ได้ยินเสียงหัวใจทารกในครรภ์ไม่รู้สึก เด็กดิ้นเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 20สัปดาห์
กล้ามเนื้อ
ลักษณะปกติ
กระดูกมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความตึงตัว การทรงตัว การเคลื่อนไหวของข้อต่อต่าง ๆ ปกติ กระดูกสันหลังโค้งปกติ ไหล่ไม่คุ้มงอ
ลักษณะผิดปกติ
หลังแนนอนหงายแล้วมีอาการปวดหลังมาก ไหล่คุ้มงอ มีอาการชาบริเวณแขนและปลายมือ ปวดหลังและปวดชาบริเวณขามาก
การตรวจครรภ์
แนวลำตัว (lie)
แนวลำตัวทารก (lie ) หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างแกนลำตัวตามยาวของทารกในครรภ์ กับแนวตามยาวของหนทางคลอด มี 3 ชนิด คือ
แนวยาว (longitudinal lie)
แนวขวาง (transverse lie)
แนวเฉียง (oblique lie)
ส่วนนำ (presentation)
คือ ส่วนของทารกในครรภ์ที่ผ่านเข้าสู่ช่องเชิงกรานเป็นส่วนแรก เป็นส่วนที่อยู่ต่ำสุดหรือใกล้
ช่องเชิงกรานมากที่สุด
Longitudinal lie Vertex presentation
Longitudinal lie Breech presentation
Transverse lie shoulder presentation
ทรงของทารกในครรภ์ (attitude)
ทรงของทารก หมายถึง ความสมพันธ์ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายกับแนวลำตัวของทารกในครรภ์ การวินิจฉัยทรงของทารกมักจะทำในกรณีที่มีการเคลื่อนของส่วนนำผ่านเขาสู่ช่องเชิงกรานแล้ว
Flexion Attitude
Slight degree of deflexion
Moderate degree of deflexion
Marked degree of deflexion
ท่าของทารกในครรภ์ (position)
ใช้ความสัมพันธ์ของ จุดนำและส่วนของช่องเชิงกราน เป็นชื่อบอกท่าของทารกในครรภ์ สามารถตรวจท่าของทารกในครรภ์ได้จากตรวจทางหน้าท้อง และตรวจทางช่องคลอด
Occiput มีความสัมพันธ์ของจุดนำของทารก และช่องเชิงกราน 8 ท่า ดังนี้
Occiput anterior (OA) จุดนำคือท้ายทอยอยู่ตรงกลางด้านหน้าของช่องเชิงกราน
Occiput posterior (OP) ท้ายทอยอยู่ตรงกลางด้านหลังของช่องเชิงกราน
Left occiput anterior (LOA) ท้ายทอยอยู่ด้านหน้าข้างซ้ายของช่องเชิงกราน
Left occiput transverse (LOT) ท้ายทอยอยู่ตรงแนวขวางของช่องเชิงกรานด้านซ้าย
Left occiput posterior (LOP) ท้ายทอยอยู่ทางด้านหลังข้างช้ายของช่องเชิงกราน
Right occiput anterior (ROA) ท้ายทอยอยู่ทางด้านหนาขางขวาของช่องเชิงกราน
Right occiput transverse (ROT) ท้ายทอยอยู่ตรงแนวขวางของช่องเชิงกรานด้านขวา
Right occiput posterior (ROP) ท้ายทอยอยู่ทางด้านหลังข้างขวาของช่องเชิงกราน
ทักษะการตรวจครรภ์
การดู (inspection)
ขนาด (size) >>เพื่อประเมินความสัมพันธ์กับอายุครรภ์
รูปร่าง (shape ) >เพื่อประเมินรูปร่างของมดลูกว่าตามแนวขวาง (transverse lie) หรือ
แนวยาว (longitudinal lie) หรือ แนวเฉียง (oblique lie)
การเคลื่อนไหวของทารก (fetal movement) >>เป็นข้อบ่งชี้ว่าทารกมีชีวิต และช่วยในการคาดคะเนท่าของทารกในครรภ์ได้คร่าว ๆ
ลักษณะทั่วไปของหน้าท้อง >>ตรวจดูรูปร่างของผนังหน้าท้อง ผิวหนังบริเวณหน้าท้อง,ลักษณะบริเวณหัวหน่าว ถ้าราบและบุ๋มลงไป ทารกมักอยู่ในท่า OP (occiput anterier)
การคลำ (palpation)
1.Leopold's maneuver ประกอบด้วย4วิธี :
1.Fundal grip
2.Umbilical grip
3.Pawlik grip
4.bilateral inguinal grip
การคลำไหล่หน้า
การคลำที่ส่วนบนและส่วนล่างของมดลูกพร้อมกัน :สิ่งที่ตรวจพบ 1.ส่วนของทารกที่มี ballottement มากกว่าน่าจะเป็นศีรษะของทารก 2. ส่วนของทารกที่มี ballottementน้อยกว่าน่าจะเป็นก้นของทารก
การตรวจการเกยของศีรษะทารกกับขอบบนของกระดูกหัวหน่า : สิ่งที่ตรวจพบ
ศีรษะทารกเคลื่อนลงอยู่ใต้กระดูกหัวหน่าว แสดงว่าปกติ ไม่มีภาวะ CPD
ศีรษะทารกอยู่สูงกว่าขอบบนของกระดูกหัวหน่าว แสดงว่ามีการเกยกันของศีรษะ อาจเกิดภาวะ CPDหรือ มี compound presentatio
การฟัง (auscultation)
เสียงหัวใจทารกในครรภ์ปกติ 110-160 ครังต่อนาที
ใช้ Doppler จะเริ่มได้ยินตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 10-12 สัปดาห์
ใช้ fetoscope จะได้ยินประมาณอายุครรภ์ 16-20 สัปดาห์
เสียงอื่นๆ
Uterine souffle เป็นเสียงจากการที่เลือดไหลผ่านหลอดเลือดของมดลูก เสียงที่ได้ยินจะ ดังฟั จังหวะและอัตรา = ชีพจร (PR) ของสตรีตั้งครรภ์
Umbilical souffle หรือ Funic souffle เป็นเสียงจาากการที่เลือดไหลผ่านเส้นเลือดสายสะดือทารกไม่สะดวก เสียงที่ได้ยินจะ ดังฟู๊ จังหวะและอัตรา = FHR ของทารก ถ้าได้ยินในระยะคลอดต้องเฝ้าระวัง ปัญหาสายสะดือย้อย สายสะดือพันคอทารก และสายสะดือสั้น
Fetal shocking sound เป็นเสียงจากการดิ้นของทารกในครรภ์และส่วนของทารกกระทุ้งถูกผนังของมดลูก