Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน, image, image, 1️⃣, 2️⃣, 3️⃣, 📌, 📖,…
ความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกัน Immune System
ทำหน้าที่ป้องกันและต่อด้านสิ่งแปลกปลอมโดยเฉพาะเชื้อโรค :explode:
ประกอบด้วย :!?:
Antigen กระตุ้นให้ระบบภภูมิคุ้มกันตอบสนอง
Antibody ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อทำลายแอนติเจนหรือสิ่งแปลกปลอม
มีWBC ทำหน้าที่ป้องกันและกำจัดสารพิษ🌡
หน้าที่หลักimmune
ป้องกันและทำลายเชื้อโรค
กำจัดเซลล์ที่ตายออกจากbody
คอยดูcellที่ผิดปกติไปจากปกติ
มี2️⃣ระบบ
ได้รับมาแต่กำเนิด
ร่างกายสร้างขึ้นเองได้ หรือมีติดตัวมาตั้งแต่เกิดได้รับมาจจากแม่ที่ฉีดวัคซีนตอนคลอดเช่น โรคคอตีบ
ได้รับมาภายหลัง
เกิดจากร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมแล้วสร้างimmuneแบบจำเพาะมา หรือได้รับจากวัคซีน
📌
แบบเจาะจง
เป็นกลไกการปรับตัวของร่างกายเพื่อต่อต้านเชื้อโรค
🏞
ภูมิคุ้มกันจากภายนอก
ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้เช่นได้รับภูมิคุ้มกันจากการดื่มน้ำนมแม่ รวมถึงการฉีดเซรุ่มหรือวัคซีน
วัคซีนป้องกันไวรัส
มีWBC คอยต่อสู้กับไวรัส
แบ่งเป็น
1️⃣ -cellที่เหมือนทหารลาดตระเวณ คือ Antigen-presenting cell ทำหน้าที่บอกbody ว่ามีสิ่งแปลกปลอมหรือแอนติเจนเข้ามา
2️⃣ -เหมือนcellนักผลิตอาวุธ ได้แก่ บีเซลล์ and plasma cell ที่ช่วยกันผลิตแอนติบดีมากำจัดสิ่งแปลกปลอม
3️⃣-cellนักฆ่า และนักสื่อสาร
2 more items...
เช่น
การติดเชื้อไวรัสซาร์ส-โควี2(SARS-CoV-2)
2 more items...
การฉีดวัคซีน
เป็นการจำลองไวรัสโดยการฉีดเชื้อไวรัสที่ตายแล้วหรืออ่อนกำลังจนไม่เป็นอันตราย เข้าร่างกายเพื่อให้เกิดกระบวนการกำจัดสิ่งแปลกปลอมซึ่งจะทำให้cell จดจำไวรัสนี้ได้
ปัจจุบัน ใช้การจำลองพันธุกรรมไวรัส โดยฉีดวัคซีนชนิด mRNA เข้าร่างกายให้ร่างกายสร้าง S - protein ที่เหมือนกับของไวรัสจากนั้นเกิดกระบวนการสร้างAtibodyมาจับ ทำให้ร่างกายจำได้และมีภูมิคุ้มกัน
Immune system
ร่างกายมีกลไกป้องกัน Body2️⃣แบบ
Nonspecific defense mechanisms
กลไกการทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะ
Second line of defense
เป็นกลไกการป้องกันที่อยู่ภายในร่างกาย
ได้แก่ การทำงานของlymphocytes และการผลิตantibody
Phagocytosis by WBC
Antimicrobial protein (โปรตีนที่ต่อต้านสิ่งมีชีวิตเล็กๆ)
Frist line of defense
เป็นกลไกการป้องกันที่อยู่ภายนอกร่างกาย เช่น ผิวหนัง และ mucous โดยการหลั่งต่อมเหงื่อและต่อมไขมันอกกมาเมื่อมีผู้บุกรุก
Gastric mucous ในกระเพาะที่มีกรดสูงช่วยทำลายแบคทีเรียได้ดี หรือ ทางเดินหายใจ ท่อปัสสาวะ และ สืบพันธุ่
specific defense mechanisms
กลไกการทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบจำเพาะ
or third line of defense
The Inflammatory Respone
การตอบสนองการอักเสบ
มี lymphocytes เป็นตัวการสำคัญในการทำลายสิ่งแปลกปลอม มี2️⃣ชนิด คือ B lymphocytes
T lymphocytes
Immunological Memory
การเพิ่มจำนวนของlymphocytes หลังจากเจอกับAntigenครั้งแรก เรียกระยะนี้ว่า primary immune response
เมื่อร่างกายเจอAntigen ครั้งที่สอง จะเรียกการตอบสนองระยะนี้ว่า secondary immune response ซึ่งจะใช้การตตอบสนองสั้นลงกว่าครั้งแรก
หมู่เลือด ระบบABO
หลักการให้
Antigen ของผู้ให้ต้องไม่ตรงกับ Antibody ผู้รับ
หมู่ O ผู้ให้สากลให้ได้ทุกหมู่เลือดแต่รับได้แค่ o
หมู่ AB ผู้รับสากลรับได้ทุกหมูเลือด แต่ให้ได้แค่ AB
หมู่ A ให้และรับได้แค่ A
หมู่ B ให้และรับได้แค่ B
ถ้าAntigenผู้ให้ตรงกับAntigen ผู้รับเลือดจะตกตะกอน
ระบบหมู่เลือด RH (Rhesus)
Rh+ เลือดมี Antigen D บนผิว และ ไม่มีAntibody D ในน้ำเลือด
Rh- เลือดไม่มี Antigen D บนผิว และไม่มีAntibody D ในน้ำเลือด
การให้เลือด
Rh+ให้Rh+กี่ครั้งก็ได้ แต่ให้Rh-ได้ครั้งเดียวถ้า Rh- รับRh+อีกเลือดจะตกตะกอน
Rh-ให้Rh-กี่ครั้งก็ได้
ระบบภูมิคุ้มกันและการเกิดโรค
blood group and blood tranfusion
แม่ตั้งครรภ์ลูกกรุ๊ปเลือดต่างกันตามระบบABO ไม่เป็นไรเพราะเลือดไม่สามรถถแพร่ผ่านรกได้ แต่ถ้าตามระบบRH จะเป็นอันตรายต่อลูกคนต่อมาเพราะเลือดแพร่ผ่านรกได้
allergy
เมื่อร่างการเจอ allergen B cell เปลี่ยนPlasma cell และหลั่ง IgE บางส่วนของ IgE ใช้หางจับกับ Mast cell และเมื่อร่างกายได้รับ allergen อีกครั้งallergen จะจับกับ IgE บนMast cell ซึ่งไปกระตุ้นให้ Mast cell หลั่งสาร เกิดอาการแพ้ เช่น จาม คัดจมูก
AIDS
เกิดจาก HIV เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน
Autoimmune Disease
โรคแพ้ภูมิตัวเอง
1️⃣
2️⃣
3️⃣
📌
📖
นางสาวจีรนันท์ แพงคำ เลขที่ 015 ห้อง 1A รหัสนักศึกษา 64123301027