Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หญิงไทย อายุ 36 ปี, จากการศึกษาพบว่า (วันทกานต์ ราชวงศ์ และคณะ,2557 )
…
-
จากการศึกษาพบว่า (วันทกานต์ ราชวงศ์ และคณะ,2557 )
ในปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของโรคมะเร็งในเพศหญิงการรักษามะเร็งปากมดลูกมีด้วยกันหลายวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาด้วยรังสีรักษา (radiotherapy) กล่าวได้ว่า เป็นการรักษาหลักของมะเร็งปากมดลูกทุกระยะถึงจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยทั้งในระยะเฉียบพลันและระยะยาวโดยเฉพาะผลข้างเคียงระยะยาวที่เกิดขึ้นภายหลังการรักษาที่สำคัญ คือ ภาวะช่องคลอดตีบตัน ( vaginal stcnosis) ซึ่งพบอุบัติการณ์ถึงร้อยละ 62-88 โดยพลังงานรังสีส่งผลโดยตรงทำให้เยื่อบุภายในช่องคลอด เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและหลอดเลือดถูกทำลายทำให้เกิดการหดตัว ฝ้อและเกิดพังผืด ส่งผลให้ความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นภายในช่องคลอดลดลง นำไปสู่การมีช่องคลอดที่แคบและสั้นลงเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากส่วนบนสุดซึ่งเป็นบริเวณของปากมดลูกที่มักได้พลังงานรังสีมากที่สุด หากไม่ได้รับการป้องกันอย่างถูกต้องช่องคลอดอาจมีโอกาสแคบสั้นและตันในที่สุด" ภาวะช่องคลอดตีบตันนอกจากจะเป็นอุปสรรคในการติดตามการรักษาและเฝ้าระวังการกลับเป็นช้ำของโรคแล้วยังส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ บทบาทการเป็นภรรยาและความรู้สึกคุณค่าในตนเองอีกด้วย
-
-
-
จากการศึกษา(American Cancer Society , 2020 )
เนื่องจากเคมีบำบัดสามารถทำลายเซลล์ที่ผลิตเลือดของไขกระดูก จำนวนเซลล์เม็ดเลือดอาจลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้
ㆍมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากการขาดแคลนเซลล์เม็ดเลือดขาว
ㆍ มีเลือดออกหรือฟกช้ำหลังจากบาดแผลเล็กน้อยหรือได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการขาดแคลนเกล็ดเลือด (เรียกว่าภาวะเกล็ดเลือดต่ำ)
ㆍหายใจถี่หรืออ่อนล้าเนื่องจากเม็ดเลือดแดงต่ำ (เรียกว่าโรคโลหิตจาง)
เมื่อให้คีโมด้วยการฉายรังสี ผลข้างเคียงมักจะรุนแรงกว่า อาการคลื่นไส้ เหนื่อยล้า ท้องร่วง และปัญหาเกี่ยวกับการนับเม็ดเลือดต่ำมักจะแย่ลงทีมดูแลสขภาพจะคอยดูผลข้างเคียงและสามารถให้ยาเพื่อช่วยป้องกันหรือรักษาให้รู้สึกดีขึ้น ตัวอย่างเช่นอาจได้รับยาเพื่อช่วยป้องกันหรือลดอาการ คลื่นไส้อาเจียน
ผลข้างเคียงระยะยาวของเคมีบำบัดอาจรวมถึง:การเปลี่ยนแปลงประจำเดือน: สำหรับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าที่ไม่ได้ตัดมดลูกออกเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา การเปลี่ยนแปลงของประจำเดือนเป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยของคีโม แม้ว่าช่วงเวลาของจะหยุดลงในขณะที่ให้คีโม ก็ยังสามารถตั้งครรภ์ได้ การตั้งครรภ์ขณะรับคีโมไม่ปลอดภัย เนื่องจากอาจนำไปสู่ความพิการแต่กำเนิดและขัดขวางการรักษา ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงที่อยู่ในวัยก่อนหมดประจำเดือนก่อนการรักษาและมีเพศสัมพันธ์ต้องปรึกษากับแพทย์ถึงทางเลือกในการคุมกำเนิด ผู้ป่วยที่รักษาเสร็จแล้ว (เช่นคีโม) มักจะมีบุตรต่อไปได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องพูดคุยกับแพทย์ว่าเมื่อใดจึงจะปลอดภัย
-
-
-
-
-
-
-
