Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กระบวนทัศน์หลักทางการพยาบาล, 841EBB72-41C5-4A76-A509-6D608BC60EF6,…
กระบวนทัศน์หลักทางการพยาบาล
มโนทัศน์พื้นฐานทางการพยาบาล
ความรู้ ความคิด ความเชื่อ ในสิ่งที่เป็นพื้นฐานของพยาบาล
ประกอบด้วย
มโนมติของคน (Man)
คน
กายหรือร่างกาย
ส่วนของโครงสร้าง
หน้าที่การทำงานของร่างกาย
จิตหรือจิตใจ
จิตวิญญาณ
สติปัญญา หรือความคิด
อารมณ์และความรู้สึก
สังคม
คนจะเกีบุคคลอื่นด้วย บทบาท หน้าที่ ที่มีต่อบุคคลอื่น
การปฏิบัติต่อบุคคลอื่นนั้นจะขึ้นกับตำแหน่งที่ตนดำรงอยู่
คนระบบเปิด
คนเป็นหน่วยชีวิตที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมตลอดเวลา
การรับและการให้เกิดขึ้นได้ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคมโดยสัมพันธ์กัน
คนมีความต้องการพื้นฐาน
ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคม
ทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์
ความต้องการทางด้านร่างกายหรือสรีระ (Physical needs)
ความต้องการความปลอดภัย (Safety and security)
ความต้องการความรัก ความผูกพัน (Affiliation)
ความต้องการความภาคภูมิใจและความมีศักดิ์ศรี (Self-esteem)
ความต้องการความพอใจตนเอง (Self-actualization)
คนมีพัฒนาการ
การพัฒนาการจะต่อเนื่องตั้งแต่เกิดจนถึงวัยชรา
การพัฒนาการแต่ละวัยจะต่อเนื่องกัน เป็นลำดับขั้นและแต่ละขั้นตอนจะมีลักษณะเฉพาะ
คนมีความต้องการภาวะสมดุล หรือภาวะปกติ
กระบวนการปรับตัว หรือกลไกลการต่อสู้เพื่อสมดุล
จิตสังคม
กระบวนการหรือกลไกทางด้านร่างกาย
ความต้องการดำรงภาวะสมดุล (Homeostasis)
ความต้องการปรับสู่ภาวะสมดุล
คนมีลักษณะพื้นฐานร่วมกันแต่มีความเป็นปัจเจกบุคคล
คนแต่ละคมก็มีลักษณะเฉพาะของตนเอง
มีพัน ระดับการพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย จิตสังคม และประสบการณ์ในชีวิตเป็นปัจจัย
คนมีสิทธิของตน
สิทธิในการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
สิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเอง
สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย
คนมีศักยภาพในการช่วยเหลือตนเอง
สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองในด้านต่างๆได้
มโนมติของสิ่งแวดล้อม (Environment)
ส่ิงแวดล้อมทางชีวภาพ
สิ่งมีชีวิตต่างๆมีทั้งขนาดเล็กรวมถึงพืชและสัตว์ที่ขนาดโตกว่าคน
แบคทีเรีย ไวรัสปรสิต ต้นพืชชนิดต่างๆ วัว ควาย สุนัข
ส่ิงแวดล้อมทางเคมี
สารเคมีทุกชนิด อาหาร ยา อาจจะมาจากสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งไม่มีชีวิต
ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ
ส่ิงแวดล้อมภายนอกที่ไม่มีชีวิต
ความร้อน แสง เสียง รังสี อากาศ ดิน น้ำ ลม ที่พักอาศัย
ส่ิงแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ
เป็นนามธรรม ไม่สามารถสัมผัสได้
ความเชื่อ ค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณี กฎหมาย ศาสนา
สิ่งแวดล้อมให้ทั้งประโยชน์และโทษ
มโนมติของสุขภาพ (Health)
เป็นนามธรรม เกิดได้ตั้งแตกแรกเกิดจนวัยชรา
2 ภาวะ
ภาวะสุขภาพดี (Wellness)
เจ็บป่วย(Illness)
สุขภาพ (Health)
ไนติงเกล (Nightingale, 1860)
ภาวะปราศจากโรค สามารถใช้กำลังของตนเองได้เต็มความสามารถ
องค์การอนามัยโลก (WHO, 1947)
ภาวะที่มีความสมบูรณ์ของร่างกาย จิตใจ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ ในมาตราท่ี 3
สุขภาสที่สมบูรณ์และเชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุลทั้งทางกาย จิต สังคม จิตวิญญาณ
ความเจ็บป่วย(illness)
ทำให้บุคคลทำหน้าที่บกพร่อง ทำหน้าที่ได้น้อยกว่าปกติ
อาจไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นโรค
ภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ
ไม่ว่าจะเจ็บป่วยทางด้านใดจะมีผลกระทบด้านอื่นๆตามมา
บางคนอาจป่วยหนักตั้งแต่แรกเกิดและเสียชีวิต
มโนมติของการพยาบาล (Nursing)
การพยาบาลเป็นการช่วยเหลือคน
เพื่อให้คนสามารถดกรงภาวะสุขภาพไว้/ช่วยให้คนกลับสู่ภาวะสุขภาพดีเมื่อเจ็บป่วย
การพยาบาลที่จะช่วยเหลือให้คนมีภาวะสุขภาพดีหรือปรับสู่ภาวะสุขภาพดี
ด้านการส่งเสริมสุขภาพ
ช่วยในการสร้างพฤติกรรมสุขภาพหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ด้านการป้องกันโรค
ครอบคลุมการป้องกันทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
การป้องกันระดับที่ 1 (primary prevention)
บุคคลที่อยู่ในกลุ่มสุขภาพดี-สุขภาพปกติ
การป้องกันระดับท่ี 2 (secondary prevention)
ส่งเสีการตรวจพบผู้ป่วยตั้งแต่โรคยังไม่ปรากฏอาการให้การรักษาได้ทันท่วงที
การป้องกันระดับท่ี 3 (tertiary prevention)
สอนให้รู้จักการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก
ด้านการดูแลรักษา
ผู้ป่วยแต่บะคนจะมีความกลัว วิตกกังวลแตกต่างกัน
การดูแลเป็นไปตามแผนการรักษาของแพทย์ มุ่งเน้นการบำบัด
พยาบาลต้องรู้จักใช้ศิลปะการติดต่อสื่อสาร
ด้านการฟื้นฟูสภาพ
ระยะที่บุคคลออกจากภาวะของการเป็นผู้ป่วยกำลังกลับไปบทบาทคนปกติ
เป็นผู้ให้กำลังใจ ให้ความหวัง ชื่นชมและยกย่องผู้ป่วย
การช่วยให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังสามารถช่วยตนเองให้ได้มากที่สุด
การพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาลในการช่วยเหลือ ผู้รับบริการ
ประกอบด้วย
การวินิจฉัยการพยาบาล
การวางแผนการพยาบาล
การประเมินสภาพ
การปฏิบัติการพยาบาล
การประเมินผลการพยาบาล
กระบวนการจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อความต้องการของผู้รับบริการได้รับการตอบสนอง
การพยาบาลเป็นบริการที่จำเป็นต่อสังคม
ถ้าขาดการพยาบาลที่มีคุณภาพ อาจส่งผลให้คนไม่สามารถดำรงภาวะสุขภาพดีไว้ได้
กระบวนทัศน์หลักทางการพยาบาล
มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือคนให้สามารถดำรงภาวะสมดุลหรือภาวะสุขภาพดีได้
ช่วยเหลือคนที่เจ็บป่วยให้ปรับตัวกลับสู่ภาวะสมดุล
ความสำคัญ
เป็นพื้นฐานของการพัฒนาศาสตร์ทางการพยาบาล
เป็นพื้นฐานของการวิจัยทางการพยาบาล
เป็นพื้นฐานของการปฏิบัติการพยาบาล
เป็นพื้นฐานของการจัดการศึกษาพยาบาล
แนวคิดภาวะสุขภาพ การเจ็บป่วยและการพยาบาล
ภาวะสุขเป็นความต้องการสูงสุดของบุคคล สุขภาพดีจะช่วยให้กระบวนการเจริญเติบโต พิฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมเป็นไปได้ด้วยดี
มโนทัศน์และทฤษฏีทางการพยาบาล
ทฤษฎีทางการพยาบาล ( Nursing Theory )
แก่นสาระความรู้ของวิชาชีพพยาบาล มุ่งอธิบายธรรมชาติของคน ภาวะสุขภาพ ความเจ็บป่วยมีเป้าหมายของการพยาบาลและกิจกรรมการพยาบาล (Fitzpatrick & Whall , 1989 )
กระบวนทัศน์ ( Paradigm )
กรอบการมองหรือกรอบเค้าโครงแนวคิด หรืออุดมคติ ปรัชญาที่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มวิชาชีพซึ่งจะให้ข้อตกลงเพื่อเป็นแนวปฏิบัติ วิจัย สร้างความเข้าใจในศาสตร์นั้นเป็นแนวเดียวกัน
Metaparadigm
กรอบ ขอบเขต หรือโครงสร้างทางความคิดหรือมโนในภาพรวมกว้างๆของศาสตร์สาขาต่างๆ
ประกอบด้วย
Person
Health
Environment
Nursing
กรอบแนวคิด
(Conceptual framework / Model )
กลุ่มของมโนทัศน์ที่สัมพันธ์กันเป็นภาพรวมของปรากฏการณ์ หรือความจริงที่ช่วยให้เห็นจุดเน้นของความคิด มีความเป็นนามธรรมสูง
ลักษณะพื้นฐานของทฤษฎี
จะต้องแสดงลำดับของเหตุผลตามหลักตรรกวิทยา
ควรจะง่ายแก่การสรุปอ้างอิงได้อย่างกว้างขวาง และครอบคลุม
สามารถแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมโนทัศน์ให้เข้าใจปรากฏการณ์ที่เฉพาะได้
ให้สมมติฐานที่สามารถทดสอบได้
สามารถนําไปใช้ในการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติได้
ทฤษฎีที่น่าเชื่อถือจะต้องสอดคล้องกับทฤษฎีอื่นที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
การจําแนกทฤษฎีตามลักษณะการนําไปใช้
ทฤษฎีเชิงนิรนัย (Deductive nursing theories)
การพัทฤษฎีจากการนำศาสตร์ต่างๆมาสังเคราะห์ จัดระบบหรือขยายมโนมติเดิมให้เกิดเป็นมโนมติใหม่
ทฤษฎีเชิงอุปนัย(Inductive nursing theories)
การพัทฤษฎีพัฒนาทฤษฎีที่เกิดจากการปฏิบัติการพยาบาลมาประมวลเพื่อสรุปเป็นทฤษฎี
การจกแนกทฤษฎีตามระดับความเป็นนามธรรม
ทฤษฎีระดับกว้าง(Grandtheory)
มีความเป็นนามธรรมสูง นำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติและเป็นแนวทางในการสร้างองค์ความรู้ในระดับรองลงมา
ทฤษฎีระดับกลาง (Middle Rang theory)
การศึกษาวิจัยสามารถนำไปใช้อ้างอิงขยายต่อได้
ทฤษฎีอภิทฤษฎี (Meta – theory)
มีเป้าหมายที่กระบวนการสร้างทฤษฎี มีจุดเน้นที่การตั้งคำถามเชิงปรัชญา
ทฤษฎีระดับปฏิบัติ (Practice theory)
มีความซับซ้อนน้อยที่สุด สามารถทดสอบได้ง่าย และนำไปใช้ในการปฏิบัติการพยาบาลได้โดยตรง
ประโยชน์ของทฤษฎีต่อการปฏิบัติการพยาบาล
เป็นแนวทางในการนำกระบวนการพยาบาลมาใช้ในการปฏิบัติการพยาบาล
แสดงถึงความเป็นเอกสิทธิ์ในวิชาชีพการพยาบาล
พัฒนาการของทฤษฎีทางการพยาบาล
ระยะก่อนปี ค.ศ. 1960
พัฒนาพื้ฐานของทฤษฎีจากแนวคิดจิตวิทยา สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ มนุษยศาสตร์ และพฤติกรรมศาสตร์
ระยะปี ค.ศ. 1960-1970
ค.ศ. 1961 Jean Orlando
Nursing Process Theory (เน้นการปฏิบัติการพยาบาล)
ค.ศ. 1970 Martha E. Rogers
Science of Unitary Human Being
ระยะปี ค.ศ. 1971-1980
ค.ศ.1971 Dorothea E. Orem
Self - care Theory
ค.ศ.1974 Sister Callista Roy
Roy’s Adaptation model
ค.ศ.1978 Jean Watson
Transpersonal Caring
ค.ศ.1978 Madeleine Leininger
Transcultural nursing Theory
ระยะปี ค.ศ. 1981 – ปัจจุบัน
ระยะแรก
เน้นเอาทฤษฎีต่างๆที่ถูกสร้างขึ้นมาทดลองปฏิบัติ
ระยะหลัง
เน้นพัฒนาขึ้นมาใหม่ พัฒนาระบบสารสนเทศทางกานพยาบาลเพื่อเผยแพร่ความรู้