Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 3 หลักการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน และการดูแลสุขภาพครอบครัว, Referral -…

- - - - พันธกิจครอบครัว
        
        เข้าใจพัฒนาการของเด็ก, เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ *คำนึงความปลอดภัยของเด็ก
      - การพยาบาล
        
        ทักษะการเลี้ยงดูลูก, เตรียมการศึกษา, ป้องกันโรคและอุบัติเหตุ
    - - พันธกิจครอบครัว
        
        สนับสนุนให้ลูกพัฒนาอัตลักษณ์ของตนเอง แต่ยังร่วมกิจกรรมของครอบครัวอยู่
      - การพยาบาล
        
        ทักษะการตัดสินใจ คบเพื่อน ยาเสพติด และครอบครัวต้องมีความยืดหยุ่นด้วย
    - - พันธกิจครอบครัว
        
        รักษาความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัวและกับครอบครัวใหม่ของลูก
      - การพยาบาล
        
        ค้นหาภาวะซึมเศร้า, แนะนำปรับตัว ยอมรับ และสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสามีภรรยา
    - - พันธกิจครอบครัว
        
        เตรียมการจัดการสำหรับการเลี้ยงดูลูก
      - การพยาบาล
        
        ทักษะการเลี้ยงดูลูกตามพัฒนาการ, คัดกรองความผิดปกติในเด็กแรกเกิด
    - - พันธกิจครอบครัว
        
        เตรียมที่อยู่อาศัย, สร้างระบบต่างๆร่วมกัน eg. การใช้จ่าย
      - การพยาบาล
        
        ทักษะในการปรับตัว วางแผนครอบครัว, เตรียมร่างกายก่อนมีลูก, การยอมรับซึ่งกันและกัน
    - - พันธกิจครอบครัว
        
        เตรียมกิจกรรมของเด็ก, ประสานงานร่วมมือกับโรงเรียน
      - การพยาบาล
        
        ส่งเสริมสัมพันธภาพเด็กกับfam ลดการใช้ความรุนแรง, จัดสรรเวลาการใช้สื่อและ internet
    - - พันธกิจครอบครัว
        
        ดูแลรักษาบ้านให้น่าอยู่, วางแผนเพื่อความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต, เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน
      - การพยาบาล
        
        ทักษะการปรับตัว เทคนิคการเตรียมตัวเข้าสู่วัย Aging
    - - พันธกิจครอบครัว
        
        ปรับการใช้จ่าย เตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับการสูญเสียคู่ชีวิต รักษาความสัมพันธ์กับสังคม
      - การพยาบาล
        
        ค้นหาความเจ็บป่วย ชะลอความเสี่ยง จัดสภาพแวดล้อม และส่งเสริมสุขภาพ
  - - - เป็นระบบเปิดทางสังคมและวัฒนธรรม คือ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่าง fam กับภายนอกตลอดเวลา
      - เป็นพลวัตร (Family Dynamic) คือ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
      - มีขอบเขต
      - มีการสื่อสาร
      - มีการจัดระบบ
      - มีการตกลงร่วมกัน
    - - *สังเกตและศึกษา relationship ใน fam, ประเมินศักยภาพ เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาครอบครัว
  - - - รูปแบบครอบครัว
        
        ครอบครัวเดี่ยว (2 รุ่น)
        
        ครอบครัวขยาย (3 รุ่น)
        
        ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว
        
        ครอบครัวที่ไม่มีลูก
        
        ครอบครัวข้ามรุ่น (หลานอยู่กับตายาย)
        
        ครอบครัวอยู่คนเดียว (ไม่มีคู่)
        
        ครอบครัวผสม
        
        ครอบครัวเพศเดียวกัน
        
        ครอบครัวที่อยู่กับคนที่ไม่ใช่ญาติ
      - โครงสร้างบทบาท
        
        บอกถึงสภาพสมาชิกแต่ละคน
      - การสื่อสาร
        
        เป็นการปฏิสัมพันธ์กันของสมาชิก
      - ค่านิยม
        
        ความคิด ความเชื่อ เจตคติ
      - อำนาจ
        
        บอกถึงความสามารถของสมาชิกคนในคนหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อสมาชิกคนอื่น
    - - เข้าใจพื้นฐานความเป็นอยู่ของครอบครัว
      - รู้ว่าใครใน fam มีบทบาทหลักในการดูแลผู้ป่วย
      - ความเจ็บป่วยมีผลต่อค่าใช้จ่ายใน fam ขนาดไหน
      - ดูความสัมพันธ์ของสมาชิกใน fam
  - - - ประเมินความต้องการ ดึงศักยภาพและ
        นำแหล่งประโยชน์ของชุมชนมาใช้
      - กลุ่มเป้าหมายคือใคร? 1) ผู้ป่วยที่รักษาหายขาดได้
        2) ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 3) ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง+ไร้ความสามารถเล็กน้อย
        4) ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง+พิการรุนแรง 5) ผู้ป่วยระยะสุดท้าย 6) ผู้ป่วยเฉพาะ
      - วางแผนร่วมกับสหสาขาวิชาชีพ
      - ใช้ Nursing process
    - - Diagnosis: ให้ความรู้เรื่องโรคที่ได้รับการ Dx.
      - Medicine: แนะนำยาที่ pt ได้รับ
      - Environment: การจัดสวล
      - Treatment: การดูแลตนเองตามแผนการรักษา
      - Health: ส่งเสริม ป้องกัน ฟื้นฟู
      - Outpatient: การมาตรวจตามนัด
      - Diet: อาหารที่เหมาะสมกับโรค
- - - - เยี่ยมบ้านกรณีเจ็บป่วย
        
        Emergency
        
        eg. pt หอบเหนื่อย หมดสติ ต้องช่วยเหลือทันทีและ
        ติดต่อขอความช่วยเหลือเพื่อ refer
        
        Acute
        
        eg. ไข้หวัด, diarrhea เยี่ยมบ้านจะช่วยประเมินและดูแลรักษาที่บ้าน
        
        Chronic
        
        eg. DM, HT, Stroke เยี่ยมบ้านเพื่อประเมินและวางแผน
        ให้ pt + fam ปรับตัวเข้ากับความเรื้อรังได้ดีขึ้น
      - เยี่ยมบ้านผู้ป่วยใกล้ตาย
        
        ประกาศการเสียชีวิต
        
        ประคับประคองภาวะโศกเศร้าของญาติ
        
        ดูแลประคับประคองระยะสุดท้ายของโรค
      - เยี่ยมเพื่อประเมินภาวะสุขภาพ
        
        ประเมินปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพผู้ป่วย
        
        Polypharmacy
        
        Elderly
        
        Suspected abuse or neglect
        
        Disability
        
        Care giver
        
        Loss follow up
      - เยี่ยมบ้านเพื่อ follow up หลังออกจากรพ
        (แบ่งได้ 2 กรณี)
        
        การนอนรพ.เพื่อรักษาโรคทั่วไป เมื่ออาการดีขึ้นก็กลับบ้าน
        
        หลังคลอดบุตร
    - - 2) รู้ประวัติการเจ็บป่วยที่แน่นอน
        และต้องการความช่วยเหลือ
      - 4) มีอาการเจ็บป่วยไม่รุนแรง
        eg. เป็นไข้หวัด
      - 3) ต้องให้การพยาบาล
      - 1) ความเร่งด่วนในการช่วยเหลือ
        eg. เด็ก 2 y ไข้สูง อ้วกเป็นนมและน้ำ
        อาจเกิดภาวะชักได้
      - 5) เจ็บป่วยเรื้อรัง
      - 6) โรคติดต่อ
    - - ระหว่างเยี่ยม
        
        ใช้ Nursing procress ในการบริการ
        
        สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับสาชิกในครอบครัว
        
        เทคนิคที่ใช้
        
        การสัมภาษณ์
        
        ใช้คำถามปลายเปิด
        
        ไม่รีบร้อน ขัดจังหวะ
        
        ฟังด้วยความเห็นใจ
        
        การสังเกต
        
        การให้คำแนะนำและคำปรึกษา
        
        การตรวจร่างกาย
        
        กาารใช้จิตบำบัด
      - หลังเยี่ยม
        
        บันทึกการเยี่ยมบ้าน
        
        ประชุมร่วมกันในทีมสุขภาพ
        
        ทำความสะอาดอุปกรณ์
      - ก่อนเยี่ยม
        
        กำหนดแผนการดูแล
        
        เตรียมอุปกรณ์ ของใช้สำหรับการเยี่ยม,
        สื่อ แบบประเมิน แผ่นพับความรู้
        
        เตรียมข้อมูลเฉพาะตัวผู้ป่วยหรือครอบครัว
        
        เตรียมตัวยังไง?
        
        ทำความเข้าใจหลักการที่เรียนมา
        
        List คำถามที่ควรถาม
        
        วางแผนการเยี่ยม
        
        นัดแนะก่อนเข้าเยี่ยม
        
        ยึดหลัก patient centred care
        
        ไม่เยี่ยมนานเกินไป (ไม่เกิน 30 min)
    - - Immobility: ประเมิน ADL ใน 6 กิจวัตร ได้แก่ Bathing, Dressing, Toileting. Transferring, Continence, Feeding
        คะแนน ≥ 12 (ติดสังคม), 5-11 (ติดบ้าน), 0-4 (ติดเตียง)
      - Nutrition: ประเมินภาวะโภชนาการ ได้แก่ พฤติกรรมการกิน ชนิดอาหาร เหมาะสมกับโรคที่เป็น?, ประเมินจำนวนแคลอรี่
      - Home environment: ประเมินสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน สภาพบ้านว่าเหมาะสมกับโรคที่เป็น?, ความสัมพันธ์ในชุมชนและเพื่อนบ้าน
      - Medication: กินยาสม่ำเสมอและถูกต้อง? Polypharmacy?
      - Other people: ประเมินว่าใครในบ้านมีบทบาทและอิทธิพลในการตัดสินใจ, ประเมินผู้ดูแล (Care giver)
      - Examination รวมถึงทดสอบให้เดินขึ้นบันได, เจาะ DTX
      - Safety: สิ่งของในบ้านเกะกะ? แสงสว่างเพียงพอ? ห้องน้ำมีราวจับ?
        กรณีฉุกเฉินผู้ป่วยสามารถโทรเบอร์ฉุกเฉินขอความช่วยเหลือได้ง่าย?
      - Services: การเข้าถึงระบบบริการสุขภาพเป็นยังไง, มีอสม.?
      - Spiritual health: ความเชื่อ วัฒนธรรม ความรู้สึก, แบบประเมินสุขภาพจิต
    - - 1) Asessment
        
        ประเมินครอบครัว: โครงสร้างหน้าที่ครอบครัว, ระยะพัฒนาการและ
        พันธกิจ, สัมพันธภาพ, วัฒนธรรม ความเชื่อ, เศรษฐกิจ, สภาพแวดล้อม
        
        ประเมินภาวะสุขภาพ: ซักประวัติ, ตรวจร่างกาย, แฟ้มประวัติ,
        เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน eg. INHOMESSS, Family genogram,
        แบบประเมินต่างๆ
      - 2) Diagnosis: ข้อวินิจฉัยการพยาบาล, จัด priority ของปัญหา
      - 4) Implementation: ให้ pt+fam มีส่วนร่วม
        ในการดูแลสุขภาพ
      - 3) Planning
      - 5) Evaluation
    - - การเคารพเอกสิทธิ์ (Autonomy)
        
        การทำประโยชน์ (Beneficence)
        
        การไม่ทำอันตราย (Non-maleficence)
        
        ความยุติธรรม (Justice)
        
        การบอกความจริง (Veracity)
        
        ความซื่อสัตย์ (Fidelity)
  - - - ทีมอำเภอ: แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว, ทันตแพทย์, พยาบาล, นักจิตวิทยา, นักโภชนาการ เป็นต้น
      - ทีมตำบล: พยาบาล, นักวิชาการสาธารณสุข,
        เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่นๆ เป็นต้น
      - ทีมชุมชน: อสม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา ภาคีต่างๆ
    - - ผู้ให้บริการ (Health care provider): ส่งเสริม ป้องกัน ดูแลแบบองค์รวม
      - ผู้ให้คำปรึกษา (Health counselor)
      - ผู้จัดการดูแลสุขภาพ (Case manager)
      - ผู้พิทักษ์สิทธิ (Client advocate)
      - ผู้สนับสนุน (Supporter)
      - ผู้ประสานงาน (Coordinator)
      - ผู้ให้ความรู้ทางสุขภาพ (Health educator)
      - ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change agent & Leader)
      - ผู้วิจัย (Resercher)