Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาของ ตา หู คอ จมูก - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาของ ตา หู คอ จมูก
การพยาบาลผู้มีปัญหาเกี่ยวกับตา
1.กระจกตาอักเสบ (Keratitis)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
1.เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อราหรือเชื้อ Treponema pallidum
2.โรคของหลอดเลือดบางชนิด
3.ขาดวิตามินเอ
4.โรคของประสาทสมองคู่ที่ 5 (Trigeminal nerve)
5.นัยน์ตาแห้ง
6.คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ
7.การอักเสบทำให้เกิดการแทรกซึมของ เม็ดเลือดขาว polymorphonuclear
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
1.การซักประวัติ
ปวดตา น้ำตาไหล
2.ตรวจร่างกาย
วัดสายตา
ตรวจตาด้วยไฟฉายดูลักษณะกระจกตา
ตรวจตาด้วยเครื่องมือที่ใช้ตรวจช่องส่วนหน้าลูกตา (slit lamp)
3.ตรวจพิเศษ
ใช้ fluorescein 2% หยดลงในช่องระหว่างเปลือกตาล่าง
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
1.กำจัดสาเหตุ
ผงติดกระจกตา
ขนตาแยงตา
2.จี้รอบแผลเพื่อไม่ให้ลุกลาม
จี้ด้วยไฟฟ้า,สารเคมี
จี้ด้วยความเย็นจัด
3.ใช้เยื่อบุตาเทียมคลุม หรือ เย็บเปลือกตา
4.ถ้ากระจกตาทะลุ มีม่านตามาอุด จะตัดม่านตาออก
5.กระจกตาทึบ จะเปลี่ยนกระจกตา
6.การอักเสบลุกลาม จะผ่าตัดลูกตาออก
การใช้ยา
หยอดตา
หยอดทุกๆ 1-2 ชั่วโมง
chloramphenicol
neomycin
polymycin
sulphacetamide
ใช้ยาขยายม่านตา
atropine 1%
homotropine 5%
ใช้ยาหยอดต้านเชื้อไวรัสหรือ เชื้อรา
ใช้ยาสเตียรอยด์หยอดตา กรณีไวต่อศาลหรือการอักสบจากการแพ้
ปัญหาและการพยาบาล
ปวดตาหรืออาจมีการแพร่กระจายของเชื้อโรคเนื่องจากการอักเสบติดเชื้อ ของกระจกตา
ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปยังตาข้างที่ดีผู้ป่วยต้องนอนหงายหรือนอนตะแคงเฉพาะด้านที่ตาอักเสบเท่านั้น
ไม่ควรปิดตาข้างที่อักเสบด้วย eye pad
วิตกกังวลเนื่องจากต้องอยู่คนเดียวและขาดความรู้ในการปฏิบัติตัวก่อนผ่าตัด
แนะนําข้อปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด
การหายใจเข้าออกลึกๆ
ไม่ไอแรงๆ
24 ชั่วโมงแรกควรพักบนเตียง
เสี่ยงต่อการเกิดความดันในลูกตาสูงเนื่องจากขาดความรู้ในการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด
ไม่ควรให้ผ้ป่วยเกร็งศีรษะ
นอนหงายหรือพลิกตะแคงข้างที่ทําผ่าตัด
อย่าสะบัดหน้าแรงๆ
2.เลือดออกในช่องหน้าลูกตา (Hyphema)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
มีเลือดออกในช่องหน้าม่านตา (anterior chamber)
มักเกิดจากแรงกระแทกบริเวณตาโดยตรง
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
ตามัว
ปวดตา
ตรวจร่างกาย
พบมีเลือดออกในช่องหน้าม่านตา
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
ให้นอนพักแบบ absolute bed rest ศีรษะสูง 30 องศา
ปิด eye shield ครอบตาไว้โดยไม่ต้องปิด eye pad
การใช้ยา
ให้ 1% Atropine หยอดตา 3-4 ครั้งต่อวัน
ให้ 0.5% Timolol 2 เวลาต่อวัน กรณีถ้าความดันลูกตาสูง 20 mmHg
ปัญหาและการพยาบาล
ปวดตาเนื่องจากตาได้รับบาดเจ็บ
ดูแลให้ยาลดความดันลูกตา
3.ต้อเนื้อ (Pterygium)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
เป็นการเสื่อมของเยื่อบุตา
ถูกแสง ultraviolet จากดวงอาทิตย์
สิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองตา
ลม
ฝุ่น
ควัน
ความแห้งแล้ง
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
ตามัว ปวดตา
ตรวจร่างกาย
พบเนื้อสีแดงรูปสามเหลี่ยมยื่นเข้าสู่ตาดำ
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
ผ่าตัดกรณีการมองเห็นลดลง
การใช้ยา
ยาหยอดและยาป้าย
ปัญหาและการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากตามัว
ให้สวมแว่นตาดําป้องกัน ultraviolet ความแห้ง ฝุ่นละออง
4.ต้อกระจก (Cataract)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
ผิดปกติตั้งแต่กําเนิด
เนื่องจากมารดาเป็นหัดเยอรมันในระยะ 6 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
อุบัติเหตุ
ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
ยาบางชนิด
สเตียรอยด์
ยาหยอดตา
เสื่อมสภาพไปตามอายุ (Senile cataract)
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ตรวจร่างกาย
พบเลนส์ตาขุ่น ความสามารถในการมองเห็นลดลง
ตรวจพิเศษ
ตรวจด้วยเลเซอร์
การซักประวัติ
ตามัวเหมือนมีหมอกหรือกระจกฝ้าบังสายตา
ตามัวมากขึ้นในเวลากลางวันหรือมีแสงสว่างมากๆ
เวลากลางคืนมองเห็นชัดขึ้น
เห็นแสงไฟเป็นสีรุ้งกระจายรอบดวงไฟ (Halo)
เห็นภาพซ้อน
มองไปที่สว่างเห็นจุดดำๆ ลอยขวางอยู่
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
ผ่าตัดเอาต้อกระจกออกแล้วฝังเลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปในลูกตา
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
ติดเชื้อในลูกตา เนื่องจากใช้ผ้าที่ไม่สะอาดเช็ดตา
เลือดออกในช่องหน้าตา เนื่องจากเดินชนของแข็ง เบ่งอุจจาระ จามแรงๆ
เกิดต้อกระจกซํ้า
จอประสาทตาหลุดลอก
ปัญหาและการพยาบาล
วิตกกังวลเนื่องจากขาดความร้เรื่องการปฏิบัติตนก่อนผ่าตัด
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงด้านที่ผ่าตัด
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกในช่องหน้าตาเนื่องจากปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดไม่ถูกต้อง
อย่าสะบัดหน้าแรงๆ
หากจะไอให้สูดหายใจเข้าลึกๆ
เวลาไอให้อ้าปากกว้างๆ
เสี่ยงต่อภาวะติดเชื้อในลูกตาเนื่องจากปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง
เมื่อต้องการสระผม ต้องนอนหงายให้ผ้อื่นสระให้
แนะนําญาติเรื่องการเช็ดตาอย่างสะอาดปราศจากเชื้อ
5.ต้อหิน (Glaucoma)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
เส้นประสาทตาถูกกดทับจากการคั่งของนํ้าภายในลูกตา
ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะทําให้เส้นใยประสาทตาถูกทําลาย ทําให้สููญเสียการมองเห็นและตาบอดได้
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
ปวดตามาก ตาแดง ลานสายตาแคบ ตามัวลงอย่างรวดเร็ว
มองเห็นสีร้งรอบดวงไฟเวลากลางคืน (Halos)
ปวดศีรษะและคลื่นไส้อาเจียน
ตรวจร่างกาย
กระจกตาข่นมัว
รูม่านตาขยาย
ความดันลูกตาสูง
จอประสาทตาถูกทำลาย
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
เลเซอร์ โดยทำทางระบายน้ำให้ใหม่
ผ่าตัดลดการสร้าง aqueous humor
การใช้ยา
ให้ยาลดความดันลูกตา
50% glycerol solution
pilocarpine 4%
mannitol,
ปัญหาและการพยาบาล
เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บของจอประสาทตาเนื่องจากความดันภายในลูกตา
ให้ยาลดความดันลูกตา
เสี่ยงต่อภาวะช่องม่านตาตื้นภายหลังการผ่าตัด
ปิดตาข้างที่ผ่าตัดแบบ moderate pressure
การพยาบาลผู้มีปัญหาเกี่ยวกับหู
1.การอักเสบของหูชั้นนอก (External Otitis)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
เกิดจากการติดเชื้อรา แบคทีเรีย
pseudomonas proteus
streptococcus
staphylococcus
เกิดจากการแคะหู ทําความสะอาดรูหู หรือมีนํ้าและสิ่งสกปรกเข้าหู
มักจะเกิดเป็นซํ้าๆในคนเป็นเบาหวาน
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
เจ็บหู หูอื้อ
มีหนองไหลออกจากหู
ปวดมากขึ้นเมื่อขยับขากรรไกร
มีไข้
ตรวจร่างกาย
พบช่องหูบวมแดง อาจบวมมากจนมองไม่เห็นเยื่อแก้วหู
มีนํ้าหรือหนองไหลออกจากหู
ต่อมนํ้าเหลืองบริเวณหลังหูโต
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ผล CBC มีภาวะติดเชื้อ
ผล fasting blood sugar อาจพบนํ้าตาลในเลือดสูง
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
ผ่าระบายหนองออก
การใช้ยา
ทําความสะอาดช่องหูโดยเช็ดด้วยสําลีพันปลายไม้
หยอดยาและให้ยาปฏิชีวนะ
penicillin
erythromycin
ใช้ยาป้ายในหู
antibiotic ointment
ปัญหาและการพยาบาล
มีความบกพร่องในการได้ยิน
ทำความสะอาดช่องหูด้วยไม้พันสําลีเช็ดเอาหนองออก
หยอดหูด้วยยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
แนะนําผู้ป่วยให้รับประทานยาให้ครบ
ขาดความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของหู
แนะนําผู้ป่วยไม่ให้แคะหูหรือปั่นหู
ปวดหูเนื่องจากมีการอักเสบของหูชั้นนอก
ให้ยาแก้ปวดถ้าผู้ป่วยปวดหูมาก
2.หูน้ำหนวก (Otitis media)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
การอุดตันของ Eustachian tube
adenoid gland โต
เนื้องอก
มะเร็งที่ช่องคอ โพรงจมูก ทําให้ไปอุดรูเปิดของ Eustachian tube
ติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนต้น
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ตรวจร่างกาย
พบเยื่อแก้วหูบวม แดง กดเจ็บบริเวณรอบหู
มีหนองขังในหูชั้นกลาง
ตรวจพิเศษ
ถ่ายภาพรังสี (X-RAY) จะพบเงาทึบของนํ้าในช่องหู
การได้ยินจะเสียไปแบบการนําเสียงเสีย (conductivehearing loss)
ซักประวัติ
มีการติดเชื้อของทางเดินหายใจตอนบนเกิดขึ้นบ่อยๆ
เป็นหวัด
เป็นโรคแพ้อากาศเรื้อรัง
คออักเสบ
หูอื้อ
มีหนองไหลจากหู
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
ผ่าตัดเยื่อแก้วหูู (Myringotomy)
เจาะเยื่อแก้วหูเพื่อระบายหนอง หรือนํ้าออกจากช่องหูชั้นกลาง
ผ่าตัดเยื่อแก้วหูพร้อมกับการเจาะใส่ท่อเยื่อแก้วหู (Myringotomy with Tympanostomy-tube insertion)
การใช้ยา
ได้รับยาชนิดรับประทาน
ampicillin
erythromycin
amoxicillin
sulfonamide
ยาฆ่าเชื้อชนิดหยอดหู
chloramphenicol
neomycin
gentamycin
framycetin sulphate
จากโรคภูมิแพ้ ผู้ป่วยมักจะได้รับยา
antihistamine
decongestant
ยาลดไข้ ยา steroid
corticosteroids ป้องกันการอักเสบ
ปัญหาและการพยาบาล
อาจเกิดการติดเชื้อของหูชั้นกลางซํ้าอีก
ระวังไม่ให้นํ้าเข้าหู
ห้ามแคะหู
ดูแลรักษาความสะอาดของปาก
วิตกกังวลเนื่องจากขาดความรู้ในการปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัด
แนะนําเกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อการผ่าตัด
ปวดหูจากการที่มีของเหลวค้างอยู่ในหูชั้นกลาง
ให้ยาเพื่อระงับอาการปวด
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดไม่ถูกต้อง
แนะนําให้รับประทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลว
ให้เคี้ยวด้านตรงข้ามกับด้านที่ผ่าตัด
เสี่ยงต่อการได้รับอุบัติเหตุจากการทรงตัวไม่ดี
แนะนําให้ผู้ป่วยนอนพัก และระวังการเกิดอุบัติเหตุเมื่อลุกนั่งหรือเดิน
ขาดความรู้ในการปฏิบัติเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
อย่าแคะหรือปั่นหู
รับประทานหรือหยอดยาตามแพทย์สั่ง
3.แก้วหูทะลุ (Rupture tympanic membrane)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
ติดเชื้อในหูชั้นกลางและกระดูก mastoid
ได้รับความกระทบกระเทือนทําให้มีการแตกของกระดูก temporal
เสียงดังมากๆ
ใช้ของมีคมแคะหู
การนําเสียงเสีย การได้ยินลดลง
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
ประวัติแคะหู สิ่งแปลกปลอมเข้าหู ถูกตบหู
ปวดในช่องหู มีเสียงดังในช่องหู อาจมีเลือดออกจากหู เคยเป็นหวัดบ่อย มีหูอื้อ ฟังเสียงไม่ชัด
เคยมีนํ้าไหลออกจากช่องหู เป็นๆ หายๆ
ตรวจร่างกาย
ใช้เครื่องส่องหู (Otoscope)
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
ขนาดของเยื่อแก้วหู ที่ฉีกขาดมีขนาดเล็กกว่า 3 mm. จะปิดได้เอง
ขนาดใหญ่จะผ่าตัดปะเยื่อแก้วหูู (Myringoplasty)
การใช้ยา
ให้ยาปฏิชีวนะรับประทานและหยอดหู
ปัญหาและการพยาบาล
มีความบกพร่องของการได้ยิน
ให้ยาแก้ปวดเมื่อมีอาการปวด
ระวังการเกิดอุบัติเหตุจากอาการเวียนศีรษะซึ่งเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัด
หลังผ่าตัด แนะนำผู้ป่วยห้ามไอ สั่งน้ำมูก หรือจามแรงๆหลีกเลี่ยงการได้ยินเสียงดังๆ
เสี่ยงต่อการติดเชื้อของหูชั้นกลาง
ไม่หยอดยาใดๆ เข้าไปในหู
ไม่ให้นํ้าเข้าหู
ไม่ต้องล้างหู
4.เนื้องอกที่หู (Masses or Tumor of external ear)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
บางรายพบเป็นชนิดร้ายแรง (malignant cell) โดยมากพบบริเวณใบหู โดยเฉพาะในผู้ชายสูงอายุ
มักเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง (benign type)
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
ชาบริเวณใบหน้า
การได้ยินลดลง มีเสียงดังในหู (Tinnitus)
เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
ตรวจร่างกาย
ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว
ทรงตัวไม่ได้
corneal reflex ลดลง
สููญเสียการได้ยินชนิดประสาทนําเสียงบกพร่อง (Sensorineural hearing loss)
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
follow up ในผู้สูงอายุ
ฉายรังสี
ผ่าตัด
5.กระดูกหูงอกที่ฐานและกระดูกโกลน (Otosclerosis)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
กรรมพันธุ์ 40-50%
การนําเสียงเข้าสู่หูชั้นในไม่ได้ การได้ยินลดลง
มักเกิดอาการเมื่ออายุ 15-30 ปี พบในผู้หญิงมากกว่า
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
การได้ยินลดลง การได้ยินจะดีขึ้นเมื่อมีเสียงดังมากๆ
ตรวจร่างกาย
ใช้ส้อมเสียง (turning fork) ตรวจการได้ยินแบบ Rinne test
ตรวจพิเศษ
ใช้เครื่องมือตรวจการฟัง (Audiometer)
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
ผ่าตัดตกแต่งกระดูกหู (Stapedectomy)
ปัญหาและการพยาบาล
ขาดความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนขณะได้รับการรักษา
หลังผ่าตัดผู้ป่วยควรนอนตะแคงทับแผลผ่าตัด เมื่อไม่มีอาการเวียนศีรษะ ไม่มีเลือดออก
2 วันแรกหลังผ่าตัดควรให้อาหารอ่อน
ก่อนผ่าตัด ผู้ป่วยจะถูกโกนขนรอบใบหู ฟอกสบู่ ใช้ไม้พันสำลีจุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ด
รักษาความสะอาดปากและฟัน ไม่ให้นํ้าเข้าหู ห้ามก้มมากๆห้ามขึ้นเครื่องบิน
6.ความผิดปกติในการได้ยิน
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
หูชั้นในอักเสบ
การเปลี่ยนแปลงของ auditory nerve ในผู้สูงอายุ
เกิดจากหูชั้นในหรือจากการผิดปกติของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ตรวจร่างกาย
เยื่อแก้วหูปกติ อาจพบมีการบวมแดงของหูชั้นกลางและเยื่อแก้วหู
การนําเสียงทางกระดูกดีกว่าการนําเสียงทางอากาศ
ตรวจพิเศษ
พบการเปลี่ยนแปลงของกราฟการนําเสียงผ่านอากาศ ในขณะที่กราฟแสดงการนําเสียงผ่านกระดูกปกติ
ซักประวัติ
หูอื้อ เวียนศีรษะ แต่จะไม่มีอาการปวด
ความผิดปกติของการได้ยินในระยะแรกจะเป็นข้างใดข้างหนึ่ง ต่อมาอาจเป็นทั้งสองข้าง
การได้ยินค่อยๆ ลดลง และจะมีอาการมากขึ้นเรื่อยๆ
ปัญหาและการพยาบาล
เกิดความบกพร่องของการได้ยิน ทําให้เกิดปัญหาด้านการสื่อสารกับบุคคลอื่น
แนะนําการใช้เครื่องช่วยฟัง
ใช้การฟังเสียงร่วมกับการใช้สายตา ดูริมฝีปาก
7.ขี้หูอุดตัน (Cerumen impaction or impacted cerumen)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
ไม่จําเป็นที่จะต้องเอาขี้หูออก แต่อาจทำให้ปวดหู หูอื้อ หรือการได้ยินลดลงได้
พบมากในผู้สูงอายุ ทําให้การได้ยินบกพร่อง
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ตรวจร่างกาย
พบขี้หูอุดตัน
ตรวจพิเศษ
ผลการตรวจ Audiogram พบการได้ยินลดลง
ซักประวัติ
หูอื้อ ปวดหู คันหู ประวัติเยื่อแก้วหูทะลุ มีการติดเชื้อในช่องหู
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
นำขี้หูออก ใช้เครื่องดูกโดยใส่นํ้ายา glycerin
ปัญหาและการพยาบาล
เกิดภาวะเนื้อเยื่อบริเวณบาดแผลไม่ประสานกันเนื่องมาจากแรงกดจากเนื้อเยื่อที่ตายไป
สอนวิธีล้างหูและหยอดยา
ไม่ทําให้ช่องหูถลอกเป็นแผลจากการแคะขี้หู
ความสามารถในการรับฟังเสียงบกพร่องไปเนื่องมาจากภาวะการอดตันในช่องหูจากการมีขี้หูอยู่ภายใน
ตรวจการได้ยิน (Audiometry) ตรวจเยื่อแก้วหู (Tympanometry)
ใช้คําพูดที่ชัดเจน ไม่ควรตะโกน
9.วิงเวียน (Vertigo)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
ความผิดปกติของ Otolith ที่ทําหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมการทรงตัว
มีการเสื่อมของกระดูกคอ กระดูกคองอกไปกดหลอดเลือดสมอง
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
คลื่นไส้
เวียนศีรษะ
อาเจียน
ตรวจร่างกาย
ยืนทรงตัวไม่ได้
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
นอนพักหัวสูง ห้ามเคลื่อนไหว
การให้ยา
ให้ยาระงับอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ
ปัญหาและการพยาบาล
วิตกกังวลจากการมีเสียงดังรบกวนในหู การมีอาการหูอื้อและสูญเสียการได้ยินไป
แนะนําให้นอนพักนิ่งๆ
หลับตา สูดลมหายใจลึกๆ เมื่อลืมตาพยายามมองวัตถุนิ่งๆ
นอนพักผ่อนไม่เพียงพอจากอาการที่ปรากฎและความวิตกกังวล
ให้รับประทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียน
จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมและช่วยให้ผ้ป่วย
เสี่ยงต่ออันตรายจากอุบัติเหตุเนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติจากอาการเวียนศีรษะ
แนะนําเคลื่อนไหวช้าๆ
ถ้าลุกเดินต้องมีคนพยุง
ขาดความร้ในการปฏิบัติตนเมื่อมีอาการต่างๆ
แนะนําการออกกําลังกาย
ไม่ควรทํางานที่หนักเกินไป
ให้ความรู้เรื่องโรคและการรักษา ให้กําลังใจผู้ป่วย
ไม่ขึ้นที่สูง ดํานํ้า
8.สิ่งแปลกปลอมเข้าหู (Foreign bodies of external ear canal)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
เกิดจากแมลงตัวเล็กๆ หรือน้ำเข้าหู
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
ปวดหู
มีเสียงแมลงดิ้นในหู
หูอื้อ
ตรวจร่างกาย
ในเด็กเอามือจับใบหูบ่อย และร้อง
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
นํ้าเข้าหู ให้หยอดนํ้าเข้าไปในหูอีก แล้วดึงใบหูไปข้างหลัง แล้วตะแคงหูเทนํ้าออก
วัตถุเล็กๆเข้าหู ให้ใช้ ear forceps คีบออก
แมลงเข้าหู
มด ควรใช้แอลกอฮอล์ 70% หยอดลงไป
การพยาบาลผู้มีปัญหาเกี่ยวกับจมูก และ คอ
1.ผนังกั้นจมูกคด (Deviated Nasal Septum)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
ขณะคลอดจมูกถูกกดกับกระดูกเชิงกรานมารดา
มีการแตกหักของจมูก
การกระทบกระแทกจากอุบัติเหตุบริเวณจมูก
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
แน่น คัดจมูก หายใจไม่สะดวก
นอนกรน
ปวดศีรษะ
มีนํ้าหนองไหลและเวียนศีรษะร่วมด้วย
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การรักษา
ผ่าตัด Septoplasty หรือ Sub Mucous Resection (SMR) โดยใส่ตัวห้ามเลือด (nasal packing)
การใช้ยา
ให้ยาลดอาการคัดแน่นจมูก (decongestant)
ยาแก้ปวด
ปัญหาและการพยาบาล
อาจเกิดภาวะการหายใจไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากภาวะการบวมในช่องจมูก
จัดท่านอนศีรษะสูง
ให้ยาลดอาการบวมและยาแก้ปวด
เสี่ยงต่อภาวะ hypovolemic shock จากการสูญเสียเลือดออกทางช่องจมูก
ตรวจสัญญาณชีพและผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ดูแลให้ได้รับประทานอาหารอย่างเพียงพอ
ใช้เครื่องพ่นความชื้น (Humidifier) พ่นความชื้นเข้าส่ช่องจมูก
ห้ามแคะจมูก
รับประทานยาตามแผนการรักษา ถ้ามีไข้หรือเลือดออกมากให้มาพบแพทย์
ประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดและห้ามเลือดใส่สําลีหรือ packing กดห้ามเลือดไว้อย่างน้อย 10 นาที
2.ริดสีดวงจมูก (Nasal polyp)
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
การอักเสบเรื้อรังของจมูกจากการเป็นโรคหวัด
ภูมิแพ้หรือได้รับการระคายเคืองเป็นเวลานานๆ
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ซักประวัติ
คัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คัดแน่นจมูก ไอ ระคายคอ
หายใจทางปาก
สูญเสียการรับกลิ่นรับรส
ตรวจร่างกาย
พบลักษณะเป็นก้อนสีขาว เทา หรือเหลือง ผิวเรียบเป็นมัน
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
การใช้ยา
แพทย์ให้ยา prednisolone หลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ นาน 5-7 วัน
ให้ยากลุ่ม steroid พ่นจมูกนาน 3 เดือน
การรักษา
ผ่าตัด Nasal Polypectomy
ปัญหาและการพยาบาล
เกิดความไม่สุขสบายจากความเจ็บปวดในการผ่าตัดช่องจมูก
ให้ได้รับยาแก้ปวด หลีกเลี่ยงยา Aspirin
เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการมีของเหลวค้างในช่องจมูก
check vital signs สังเกตการมี discharge ไหลออกมามากขึ้น มีสี กลิ่นผิดปกติ แผลบวม ปวดแผล
สังเกตการติดเชื้อที่สมอง
ไข้สูง
ปวดศีรษะ
คลื่นไส้
อาเจียน
เกิดภาวะการหายใจที่ไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากภาวะช่องจม
check vital signs ทุก 4 ชั่วโมง
ให้ดื่มนํ้าบ่อยๆ และกลั้วคอด้วยนํ้าเกลือปราศจากเชื้อ
ถ้าจมูกบวม ให้พ่นน้ำเกลือ ทาง nebulizer
การมองเห็นเปลี่ยนไปเนื่องจากการผ่าตัดบริเวณจมูก
สังเกตความผิดปกติของการมองเห็น เห็นภาพซ้อน
ตาบวมแดง สู้แสงไม่ได้ จาการผ่าตัดทําให้กระทบกระเทือน Optic nerve
เสี่ยงต่อภาวะการพร่องของสารนํ้าและสารอาหารเนื่องจากความไม่สมดุลของสารนํ้าในร่างกายและการเสียเลือดออกทางช่องจมูก
check vital signs ทุก 4 ชั่วโมง ถ้าเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นแสดงถึงภาวะสูญเสียเลือด
ตรวจสอบ hemoglobin และ hematocrit เพื่อประเมินภาวะสูญเสียเลือด
3.มะเร็งในช่องจมูกและไซนัส
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
ได้รับสารที่ระคายเคือง
พบในคนทํางานโรงงานอุตสาหกรรมที่มีฝุ่นละอองและสิ่งระคายเคือง
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ตรวจร่างกาย
ตรวจตาพบลูกตาถูกดันออกมาและเห็นภาพซ้อน
ตรวจพิเศษ
CT scan
ซักประวัติ
ฟันโยกหลุด ปวดฟันมาก
อ้าปากไม่ขึ้น ขากรรไกรแข็ง รับประทานอาหารไม่ได้
คัดจมูกข้างที่เป็น มีเลือดกำเดาไหล
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
ผ่าตัดร่วมกับรังสีรักษา
ควักลูกตาออก (Orbital Exenteration)
ปัญหาและการพยาบาล
เกิดภาวะการหายใจที่ไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากภาวะช่องจมูก
จัดท่านอนศีรษะสูง 40-45 องศา หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมง
เกิดความไม่สุขสบายจากความเจ็บปวดในการผ่าตัดช่องจมูก
ประคบเย็นบริเวณจมูกภายใน 48 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัด 2 วัน แพทย์เอา nasal packing ออก ควรให้ยาแก้ปวด 30 นาทีก่อนดึงออก
เสี่ยงต่อภาวะการพร่องของสารนํ้าและสารอาหารเนื่องจากความไม่สมดุลของสารนํ้าในร่างกายและการเสียเลือดออกทางช่องจมูก
ป้องกันภาวะเพิ่มแรงดันในช่องจมูก
ไม่ควรไอ จามแรงๆ
หลีกเลี่ยงการออกกําลังกาย
ตรวจการมีเลือดออกจากช่องจมูก
ทําความสะอาดปากฟันด้วยแปรงสีฟันขนาดเล็ก
เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการมีของเหลวค้างในช่องจมูก
บ้วนปากด้วยนํ้าเกลือบ่อยๆ
นํ้ายาผสม hydrogen peroxide กับนํ้าหรือนํ้าเกลือ 1:1เพื่อลดจํานวนแบคทีเรียในช่องปาก
4.มะเร็งในช่องปาก
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
พบได้ทุกบริเวณของช่องปาก
ริมฝีปาก
เยื่อบุกระพ้งแก้ม
เพดาน
โคนลิ้น
เหงือกและต่อมนํ้าลาย
การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์และการระคายเคือง
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ตรวจร่างกาย
ต่อมนํ้าเหลืองที่คอโต
พบก้อนเนื้อที่อวัยวะในช่องปากและมีเลือดออกที่ก้อนเนื้อ
ตรวจพิเศษ
ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ
ซักประวัติ
มีแผลเรื้อรังหรือมีก้อนที่อวัยวะในช่องปาก
ปวด ชา เจ็บกราม กลืนลําบาก อ่อนเพลีย
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
รังสีรักษา
เคมีบําบัด
ผ่าตัด
ใช้ความเย็นจัดจี้
ปัญหาและการพยาบาล
ขาดสารอาหารเนื่องจากกลืนลําบาก/งดสารอาหารและนํ้าทางปากหลังผ่าตัด
ระมัดระวังการให้อาหารที่เร็วเกินไปหรือจํานวนมากๆอาจเกิดภาวะ dumping syndrome
แลให้อาหารที่มีโปรตีนและไขมันสูงคาร์โบไฮเดรตตํ่า
จัดหาอาหารที่เหมาะสมกับผ้ป่วย
แผล flap อาจหายช้าเนื่องจากขาดเลือดมาเลี้ยง
ดูแลไม่ให้มีการกดทับแผล flap
ดูดนํ้าลาย เลือด นํ้าเหลือง ภายในช่องปากออกบ่อยๆ
สังเกตลักษณะของแผล flap
เสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดเนื่องจากมีแผลผ่าตัดและท่อระบายต่างๆ
ทําความสะอาดแผลด้วย sterile technique
เปลี่ยนผ้าก๊อซปิ ดแผลเมื่อมี discharge ซึม
ดูแลให้ท่อระบายทํางานตามปกติ
ทําความสะอาดในช่องปากผู้ป่วยด้วยนํ้าเกลือ หรือ hydrogen peroxide
ดูดนํ้าลายภายในปากออกบ่อยๆ
ล้างมือทุกครั้งก่อนให้การพยาบาล
ปวดเนื่องจากเนื้อเยื่อได้รับอันตรายจากการผ่าตัด
ดูแลไม่ให้ท่อระบายดึงรั้ง ให้มีการระบายปกติ
ดูดนํ้าลายจากช่องปากด้วยความนิ่มนวลด้วยแรงดันตํ่าๆ
ให้ยาแก้ปวด
ขาดความรู้เกี่ยวกับโรค การรักษา การดูแลตนเองก่อนและหลังผ่าตัด และขณะได้รับรังสีรักษา
5.มะเร็งของกล่องเสียง
สาเหตุ และพยาธิสรีรภาพ
การสูบบุหรี่ 50 %
ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ร่วมกับการสูบบุหรี่
95-98 % ของมะเร็งกล่องเสียงเป็น squamous cell carcinoma
ประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วย
ตรวจร่างกาย
ต่อมนํ้าเหลืองโต ต่อมธัยรอยด์ตึงโป่ง กดเจ็บบริเวณกล่องเสียง คลำบริเวณโคนลิ้นได้ก้อนแข็ง ตรวจกล่องเสียงด้วยlaryngoscope
ตรวจพิเศษ
ถ่ายภาพรังสีของคอด้านตรงและด้านข้าง
ถ่ายภาพรังสีทรวงอก
เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)
ถ่ายภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic resonance imagine: MRI)
ตรวจหลอดอาหาร (esophagogram)
ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ (biopsy)
ซักประวัติ
สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ มีอาชีพที่สัมผัสกับสิ่งระคายเคืองกล่องเสียง
เจ็บคอ แน่นในคอ กลืนลําบาก เสียงแหบ นํ้าหนักลด
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลและการรักษา
ผ่าตัดกล่องเสียงออกบางส่วน (partial laryngectomy)
ผ่าตัดกล่องเสียงออกทั้งหมดรวมทั้งกระดูกบริเวณข้างเคียง (total laryngectomy)
ผ่าตัดกล่องเสียงแบบถอนราก (conservative laryngectomy)
ปัญหาและการพยาบาล
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
การแยกของแผลเย็บบริเวณคอ
การแตกของ carotid artery
การหายใจอาจไม่มีประสิทธิภาพจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจ
จัดท่านอนศีรษะสูง 30-40องศา
กระตุ้นให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึกๆ
เสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังผ่าตัด
ประเมินการทํางานของระบบหัวใจและไหลเวียนเลือด
เสี่ยงต่อภาวะขาดสารนํ้าและอาหาร
ดูแลให้สารน้ำและอาหาร
สังเกตอาการท้องอืด