Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กระบวนทัศน์หลักทางการพยาบาล E630EC05-C2B1-4684-9CF1-1884D54D902C - Coggle…
กระบวนทัศน์หลักทางการพยาบาล
มโนทัศน์พื้นฐานทางการพยาบาล
- หมายถึง ความรู้ ความคิด ความเชื่อ ในสิ่งที่เป็นพื้นฐานของการพยาบาล
- ประกอบด้วยความรู้พื้นฐานในมโนมติของคน สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และการพยาบาล
- พยาบาลจะต้องศึกษาเพื่อที่จะเป็นพื้นฐานในการปฏิบัติการพยาบาลของตน
มโนมติของคน (Man)
• กายหรือร่างกาย ประกอบด้วยโครงสร้างและหน้าที่การทำงานของร่างกายของบุคคล
• จิตหรือจิตใจ ของคนประกอบด้วย 3 ส่วนย่อย คือ อารมณ์และความรู้สึก จิตวิญญาณ (spirit) สติปัญญาหรือความคิด
• สังคม คือส่วนของคนี่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นๆรอบตัว คนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นด้วย บทบาท หน้าท่ี ของตนทที่มีต่อบุคคลอื่นแต่ละบุคคลจะปฏิบัติต่อบุคคลอื่นอย่างไรนั้นขึ้นกับตำแหน่งที่ตนดำรงอยู่ในขณะนั้นเป็นสำคัญสัมพันธภาพแต่ละบุคคล บทบาทและสัมพันธภาพมีส่วนสัมพันธ์กัน
• คนเป็นหน่วยมีชีวิตที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมตลอดเวลา เช่น อากาศร้อนเหงื่อก็ออก อาบน้ำก็หายร้อน
• มีการรับจากสิ่งแวดล้อม และมีการให้ การตอบสนองแก่สิ่งแวดล้อม
• การรับและการให้เกิดขึ้นได้ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมโดยมีความสัมพันธ์กัน (คนกับสิ่งแวดล้อม)
• ความต้องการทางร่างกาย จิตใจและสังคม
• ความต้องการของคนแบ่งออก 5 ระดับ ตามทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์ ดังนี้
3.1 ความต้องการทางด้านร่างกายหรือสรีระ (Physical needs)
3.2 ความต้องการความปลอดภัย (Safety and security)
3.3 ความต้องการความรัก ความผูกพัน (Affiliation)
3.4 ความต้องการความภาคภูมิใจและความมีศักดิ์ศรี (Self-esteem)
3.5 ความต้องการความพอใจตนเอง (Self-actualization) (สูงที่สุด)
• การพัฒนาการจะเป็นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดจนถึงวัยชรา
• การพัฒนาการของคนอาจแบ่งออกได้เป็น ด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม คุณธรรม
• การพัฒนาการในแต่ละด้านจะมีความต่อเนื่องกันและเป็นลำดับขั้น การพัฒนาการในและด้าน แต่ละด้านขั้นตอนจะมีลักษณะเฉพาะ เช่น การการเลี้ยงดูและการเกิด
- .5. คนมีความต้องการภาวะสมดุล หรือภาวะปกติ
• กระบวนการที่ดำรงภาวะสมดุลหรือปรับสมดุล เรียกว่า กระบวนการปรับตัว หรือกลไกการต่อสู้เพื่อสมดุล ประกอบด้วย กระบวนการหรือกลไกทางด้านร่างกาย และจิตสังคม
•5.1 ความต้องการดำรงภาวะสมดุล (Homeostasis) ประกอบด้วยความต้องการในระดับที่ไม่รู้ตัวเป็นไปโดยอัตโนมัติ และในระดับที่รู้ตัว
•5.2 ความต้องการปรับสู่ภาวะสมดุล เมื่อคนอยู่ในภาวะที่เสียสมดุลหรือต่างจากปกติคนจะพยายามปรับสู่ภาวะสมดุลให้เร็วที่สุดโดยกลไกการปรับสู่ภาวะสมดุลอาจจะเป็นทั้งระบบอัตโนมัติหรือรู้ตัว
- 6.คนมีลักษณะพื้นฐานร่วมกันแต่มีความเป็นปัจเจกบุคคล
• คนแต่ละคนก็มีลักษณะเฉพาะของตนเอง
เรียกว่า ความเป็นปัจเจกบุคคล
• ปัจจัยที่ทำให้แต่ละคนเป็นปัจเจกบุคคล คือ
พันธุกรรมระดับการพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย จิตสังคม และประสบการณ์ในชีวิต
• แต่ละบุคคล ไม่ว่าในภาวะที่เป็นเด็ก/ผู้ใหญ่ในบทบาท/ตำแหน่งใดก็ตามจะมีสิทธิแห่งตนตามภาวะที่ดำรงอยู่ เช่น
สิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเอง
สิทธิในการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย
- .8. คนมีศักยภาพในการช่วยเหลือตนเอง
• คนทุกคนมีความสามารถที่จะช่วยเหลือตนเองในด้านต่างๆ เช่น
-การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน (แบบแผนที่ 4 กิจวัตรประจำวันและการออกกำลังกาย)
-การแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง (แบบแผนที่ 10 การปรับตัวและการเผชิญกับความเครียด)
มโนมติของสิ่งแวดล้อม (Environment)
• หมายถึง สิ่งแวดล้อมภายนอกที่ไม่มีชีวิต เช่น
ความร้อน แสง เสียง รังสี อากาศ ดิน น้ำ ลม ที่พักอาศัย สิ่งก่อสร้างต่างๆ
• สิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะมีผลเบื้องต้นต่อร่างกายคน
- สิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ ได้แก่
• สิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั้งพืช และสัตว์ ที่มีขนาดเล็กจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นจนถึงพืชและสัตว์ที่มีขนาดใหญ่โตกว่าคน
• ตัวอย่างสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต ต้นพืชชนิดต่างๆ วัว ควาย สุนัข
- สิ่งแวดล้อมทางเคมี ได้แก่
-
- สิ่งแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ
-
•ประกอบด้วย สิ่งที่เป็นรูปธรรม นามธรรม
•สิ่งแวดล้อมทางสังคมที่เป็นรูปธรรมที่สำคัญ คือ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน มีบทบาทหน้าที่ต่อกัน
•หน่วยของสังคมี่สำคัญที่สุดคือ ครอบครัว
•บุคคลในครอบครัวต่างก็เป็นสิ่งแวดล้อมซึ่งกันและกัน อาจก่อให้เกิดผลดีหรือผลเสียต่อกันก็ได้
• สังคมที่ใหญ่กว่าครอบครัว ได้แก่ ชุมชนระดับต่างๆ ที่อาศัยอยู่ต้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ประเทศ
•สิ่งแวดล้อมทางสังคมที่เป็นนามธรรม ไม่สามารถจะสัมผัสได้แต่มีผลต่อพฤติกรรมของบุคคลที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้นๆ เช่น ความเชื่อ ค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณี กฎหมาย ศาสนา
• สิ่งแวดล้อมแต่ละชนิดสามารถทีจะให้ประโยชน์และโทษแก่บุคคล
มโนมติของสุขภาพ (Health)
• สุขภาพมีลักษณะเป็นนามธรรม
• เป็นภาวะที่เกิดขึ้นกับบุคคลตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยชรา
• สุขภาพส่วนใหญ่จะหมายถึง ภาวะที่มีความสมบูรณ์สมดุลหรือปรับตัวได้ของคนทั้งทางด้านร่างกาย จิต สังคม
• สุขภาพของคนจะประกอบด้วย 2 ภาวะ คือ
-ภาวะสุขภาดี (wellness)
-เจ็บป่วย (lllness)
- ไนติงเกล (nightingale,1860)
หมายถึง สภาวะที่ปราศจากโรคและสามารถใช้พละกำลังของตนเองได้เต็มความสามารถ
- สุขภาพ หมายถึง สภาวะที่มีความสมบูรณืของร่างกาย จิตใจ และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขไม่ใช่เพียงแต่ปราศจากโรคและความพิการเท่านั้น
- สุขภาพดี หมายถึง สภาวะที่ร่างกายมีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ ปราศจากโรคและความพิการใดๆ
- พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ ในมาตราท่ี 3 หมายความว่า สุขภาวะที่สมบูรณ์และเชื่อมโยงกันเป็นองค์ประกอบองค์รวมอย่างสมดุลทั้งทาง กาย จิต สังคม จิตวิญญาณ สุขภาพมิได้หมายถึงเฉพาะความไม่พิการ และการไม่มีโรคเท่านั้น
- ความเจ็บป่วย (illness) ไม่ใช่โรค
หมายถึง สภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ปกติทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ
• ทำให้บุคคลทำหน้าที่บกพร่องหรือทำหน้าที่ได้น้อยลงกว่าปกติ
• เป็นภาวะที่บุคคลรู้สึกว่าสุขภาพไม่ดี
• ความเจ็บป่วยอาจมีสาเหตุเริ่มแรกจากความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายหรือความผิดปกติของจิตใจ เช่น มีอาการเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ
• สุขภาพมีลักษณะเป็นพลวัตรและต่อเนื่อง
• ภาวะสุขภาพของคนจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หรือมีความเป็นพลวัตร
• ในขณะหนึ่งคนอาจอยู่ในภาวะที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่งก็อาจอยู่ในภาวะเจ็บป่วยได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
• บางคนอาจป่วยหนักตั้งแต่แรกเกิดและเสียชีวิต
มโนมติของการพยาบาล(Nursing)
- การพยาบาลเป็นการช่วยเหลือคน
-
• ในทุกวัย ตั้งแต่เกิดจนถึงวัยสูงอายุ
• เพื่อให้คนสามารถดำรงภาวะสุขภาพไว้/ช่วยให้คนกลับสู่ภาวะสุขภาพดีเมื่อเจ็บป่วย
• คำว่ารักษาทางการพยาบาล คือ กิจกรรมที่พยาบาลปฏิบัติในขอบเขตหน้าที่ขิงตน ในการช่วยเหลือด้านพฤติกรรมของบุคคลที่เปลี่ยนไปจากเดิม อันเนื่องมาจากผลกระทบจากปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น หรือจากพฤติกรรมเสี่ยงต่อเกิดปัญหาสุขภาพ
- การพยาบาลที่จะช่วยเหลือให้คนมีภาวะสุขภาพดี หรือปรับสู่ภาวะ สุขภาพดี
• ประกอบด้วย การช่วยเหลือในด้าน
- 2.1 การส่งเสริมสุขภาพ
เช่น รณรงค์ โปรโมทการออกกำลังกาย ชวนให้คนหันมาใส่แมสมากขึ้น
- ส่วนใหญ่เป็นการช่วยในการสร้างพฤติกรรมสุขภาพหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
2.2 การป้องกันโรค
- การป้องกันโรคแบ่งออกเป็น 3 ระดับซึ่งครอบคลุมการป้องกันทั้งด้าน ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม (เน้นการดูแลคนไข้แบบองค์รวม)
• 2.2.1 การป้องกันระดับท่ี 1 (primary prevention) ทำด้วยตัวเราเแงไม่มีใครมากระตุ้น
ป้องกันความไม่สุขสบาย ป้องกันการ เสียเงินทองจากค่าใช้จ่ายในการรักษาให้ตนเองปลอดภัยจากการคุกคามต่อ คุณภาพ ชีวิต หรืออย่างน้อยก็เป็นการยึดเวลาการ เร่ิมต้นของโรคออกไป
2.2.2 การป้องกันระดับท่ี 2 (secondary prevention) องค์กรเข้ามาช่วย
องค์กรที่ทำหน้าที่คัดกรอง หรือให้ความรู้แก่ประชาชน ส่งเสริมการตรวจพบผู้ป่วยตั้งแต่ โรคยังไม่ปรากฎอาการเพื่อให้สามารถให้การรักษาได้ทันท่วงที
2.2.3 การป้องกันระดับท่ี 3 (tertiary prevention) ให้คำแนะนำผู้ป่วยแล้วให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามข้อแนะนำ
เมื่อผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล พยาบาลให้การดูแลและเฝ้าระวังการเกิดภาวะแทรกซ้อน การดูแลให้ผู้ป่วยหายจากโรคโดยปราศจากภาวะแทรกซ้อนช่วยให้ผู้ป่วยหาย/ทุเลาจากโรคภายในเวลาอันควรช่วยลดระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาล สอนให้รู้จักการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก
2.3 การดูแลรักษา
• ผู้ป่วยจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตใหม่ ต้องพึ่งพาผู้อื่นมากขึ้น ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีความกลัววิตกกังวลแตกต่างกันออกไป ต้องการดูแลแตกต่างกันไปตามเพศ ตามวัยตามโรคและอาการที่เจ็บป่วย
• การดูแลรักษาจะเป็นไปตามแผนการรักษาของแพทย์ เป็นกิจกรรมที่ทำโดยมุ่งเน้นการบำบัด
• พยาบาลจะต้องรู้จักใช้ศิลปะในการต้ดต่อสื่อสารการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง การผ่อนปรน การสัมผัสที่อ่อนโยน และความเข้าใจในความรู้สึกอารมณ์ของผู้ป่วยในขณะนั้น
2.4 การฟื้นฟูสภาพ
• เป็นผู้ให้กำลังใจ ให้ความหวัง ชื่นชมและยกย่องผู้ป่วย แม้ว่าสิ่งที่ฟื้นพัฒนาขึ้นนั้น เป็นเพียงเล็กน้อยแต่ก็ต้องยอมรับว่านั่น ค่อความยิ่งใหญ่ของผู้ป่วยที่ได้พยายามอย่างที่สุด
- การพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาลในการช่วยเหลือผู้รับบริการ
ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ คือ
• การประเมินสภาพ
• การวินิจฉัยการพยาบาล
• การวางแผนการพยาบาล
• การปฏิบัติการพยาบาล
• การประเมินผลการพยาบาล
กระบวนการพยาบาลจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อความต้องการของผู้รับบริการได้รับการตอนสนองหรือปัญหาได้รับการแก้ไข/ปัจจัยเสี่ยงได้รับการจัดการให้หมดสิ้นไป
- การพยาบาลเป็นบริการที่จำเป็นต่อสังคม
• การช่วยเหลือผู้รับบริการทั้งที่เป็นรายบุคคล ครอบครัวและชุมชน ทำให้การพยาบาลเป็นบริการที่จำเป็นต่อสังคม
• ถ้าขาดการพยาบาลที่มีคุณภาพ อาจส่งผลให้คนไม่สามรถดำรงภาวะสุขภาพดีไว้ได้หรือการปรับตัวสู่ความมีสุขภาพดี อาจจะทำดวยความยากลำบาก
- ความสำคัญของมโนมติพื้นฐานทางการพยาบาล
• เป็นพื้นฐานของการพัฒนาศาสตร์ทางการพยาบาล
• เป็นพื้นฐานของการวิจัยทางการพยาบาล
• เป็นพื้นฐานของการปฏิบัติการพยาบาล
• เป็นพื้นฐานของการจัดการศึกษาพยาบาล
- การที่พยาบาลจะใช้บทบาทใดมากนั้นจะมีความแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นกับภาวะสุขภาพของคนในฐานะของผู้รับบริการ
- หมายถึง ความรู้ ความคิด ความเชื่อ ในสิ่งที่เป็นพื้นฐานของการพยาบาล
- มโนมติพื้นฐานของคน สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และการพยาบาลจะมีความสัมพันธ์กัน
- มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือคนให้สามารถดำรงภาวะสมดุลหรือภาวะสุขภาพดีได้ และช่วยเหลือคนที่เจ็บป่วยให้ปรับตัวกลับสู่ภาวะสมดุล
- ในการช่วยเหลือคนนั้นจะช่วยโดยใช้บทบาทในการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การดูแลรักษาและการฟื้นฟูสภาพ
เช่น
- คนนึ่งคลอดธรรมชาติ / อีกคนคลอดก่อนกำหนด
- หายใจเองได้ปกติ / ใช้เครื่องช่วยหายใจ
- กินอาหารเองได้ / ใช้สายยางในการให้อาหาร
แนวคิดภาวะสุขภาพ การเจ็บป่วยและการพยาบาล
- ภาวะสุขภาพจึงเป็นความต้องการสูงสุดของบุคคล สุขภาพดีจะช่วยให้กระบวนการเจริญเติบโต พัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมเป็นไปได้ด้วยดี
- ความเจ็บป่วย(illness)
• สภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ปกติทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนด้านใดด้านหนึ่ง หรือหลายๆด้านรวมกัน ทำให้บุคคลทำหน้าที่บกพร่องหรือทำหน้าที่ได้น้อยลงกว่าปกติ เป็นภาวะที่บุคคลรู้สึกว่ามีสุขภาพไม่ดี
• คนส่วนมากมักจะมีความบกพร่องทางสุขภาพบ้างไม่มากก็น้อยแต่ถ้าหากบุคคลนั้นพอใจในสภาพการณ์ที่เป็นอยู่และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ก็ถือได้ว่ามีสุขภาพดี
มโนทัศน์และทฤษฎีทางการพยาบาล
-
กระบวนทัศน์ ( Paradigm )
- หมายถึง กรอบการมองหรือกรอบเค้าโครงแนวคิด หรือแบบอุดมคติหรือปรัชญาที่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มวิชาชีพซึ่งจะให้ข้อตกลงเพื่อเป็น
แนวทางปฏิบัติ วิจัย และสร้างความเข้าใจในศาสตร์นั้นเป็นแนวเดียวกัน
MetaparadigM
- กรอบ ขอบเขต หรือโครงสร้างทางความคิดหรือมโนมติในภาพรวมกว้างๆของศาสตร์สาขาต่างๆซึ่งจะประกอบด้วยมโนทัศน์ของศาสตร์สาขานั้นๆรวมทั้งมีการกำหนดลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างมโนทัศน์เหล่านั้นด้วย
- กระบวนทัศน์ทางการพยาบาล ประกอบด้วยมโนทัศน์หลักเกี่ยวกับ
• Person (Man,human = บุคคล คน)
• Health (สุขภาพ)
• Environment (สิ่งแวดล้อม)
• Nursing (พยาบาล)
-
- โครงสร้างความสัมพันธ์
• Metaparadigm
-
• สามารถแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมโนทัศน์ให้เข้าใจปรากฏการณ์ที่เฉพาะได้
• จะต้องแสดงลำดับของเหตุผลตามหลักตรรกวิทยา
• ควรจะง่ายแก่การสรุปอ้างอิงได้อย่างกว้างขวาง และครอบคลุม
ให้สมมติฐานที่สามารถทดสอบได้
• สามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติได้
• ทฤษฎีที่น่าเชื่อถือจะต้องสอดคล้องกับทฤษฎีอื่นที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
-
-
-
วิวัฒนาการของทฤษฎีการพยาบาล
- Florence Nightingale เป็นบุคคลแรกที่พยายามสร้างศาสตร์การพยาบาลและเตรียมพยาบาลอย่างมีรูปแบบชัดเจน
-
-