Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Chest injury - Coggle Diagram

- - - - แบบผ่าตัด
        
        โดยการผ่าตัดจะใส่เหล็กดามยึดตรึงกระดูก
        เพื่อให้กระดูกติดดีขึ้น โดยหลังผ่าตัด 2 สัปดาห์แรก
        ห้ามกางแขนเกิน 90 องศาและควรใส่ผ้าคล้องแขนประมาณ 6 สัปดาห์
      - แบบไม่ผ่าตัด
        
        ให้ส่วนที่หักอยู่นิ่งโดยการใส่ผ้าคล้องแขนหรือใส่อุปกรณ์พยุงไหล่ ประมาณ 3 สัปดาห์ ร่วมกับให้ยาระงับปวดโดยกระดูกที่หักจะติดได้เองภายใน 10-12 สัปดาห์
        
        Arm Sling (ผ้าคล้องแขน)
        
        Figure of eight (อุปกรณ์พยุงไหล่)
- - - - B: Breathing สาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยหายใจผิดปกติ ได้แก่ Tension pneumothorax, open pneumothorax, massive hemathorax > ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ประเมินภาวะพร่องออกชิเจนและประเมินสัญญาณชีพอย่างสม่ำเสมอหากพบสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งอุดกั้นควรรีบเอาออก
        
        C: Circulation ส่วนใหญ่มักจะเกิดจาก massive hemathorax, Cardiac tamponade, Traumatic circulatory arrest(ไม่มีการไหลเวียนเลือดจากการได้รับบาดเจ็บ) >>ดูแลโดยประเมินความเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต ชีพจร ลักษณะผิวหนังเย็นชีด capillary refill หากเสียเลือดมากต้องให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ
  - - - การเคาะ :
        ถ้าเคาะปอดุแล้วได้เสียงทึบแสดงว่ามีเลือดในโพรงเยื่อหุ้ม
        ปอด แต่ถ้าได้เสียงโปร่งเสดงว่ามีลมในโพรงเยื่อหุ้มปอด
      - การฟัง :
        โดยประเมินสังเกตเสียงที่ดังผิดปกติขณะหายใจออก (respiratory stridor)และฟังเปรียบเทียบเสียงลมที่เข้าปอดทั้ง 2 ข้างซึ่งปกติควรได้ยินเสียงลมเข้าปอดเท่ากันและชัดเจนทั้งสองข้า
      - การคลำ : ถ้าซี่โครงหัก หากกดบริเวณที่หักจะรู้สึกเจ็บ
        (Chest compress test positive: CCTV positive)
        หรือถ้ามีลมรั่วใต้ผิวหนังจะคลำได้เสียงกรอบแกรบ
- - - - พยาธิสภาพ เกิดช่องเชื่อมต่อระหว่างอากาศภายนอกกับในช่องอกแผลกว้างพอที่ทำให้ลมผ่านเข้าออกได้อย่างอิสระ หายใจเข้าลมจะถูกดูดเข้าทางแผล ขณะหายใจออกล้มจ๊ะถูกดันออก เกิดเสียงฟืดฟาดขณะหายใจ เกิดAir trapping(การสะสมของอากาศภายในช่องอก ->Atelectasis)
        -แผลเล็ก ทำให้แผลมีลักษณะเป็นลิ้น ( valve ) ลมเข้าแต่ออกไม่ได้/น้อย อากาศเพิ่มขึ้น -> Tension pneumothorax
      - การรักษา
        เปิดแผลด้วย 3 - side sterile occlusion dressing ด้วย วาสลินก๊อส เพื่อป้องกันไม่ให้ลมเข้าทางบาดแผลแต่ให้ลมออกได้
        -ใส่ ICD Intercostal chest drainage
      - อาการและอาการแสดง หายใจเข้าลมจะดันเข้าไปในโพรงเยื่อหุ้มปอดเกิดแรงดันบวกกดปอด -> Atelectasis (ปอดแฟบ) pluse เร็ว RR เร็ว
    - - พยาธิสภาพ ลมรั่วเข้าช่องทรวงอก ไม่มีทางออก > แรงดันในเยื่อหุ้มปอดเพิ่มขึ้น > ดันหัวใจไปอีกข้างกด IVC > ทำให้ venous retern ลดลง CO ลดลง > และมีภาวะ Atelectasia จากความดันเยื่อหุ้มปอดเพิ่มขึ้น > เกิด Mediastinum shift ด้านตรงข้ามพยาธิสภาพ
      - อาการแสดง เจ็บหน้าอก กระวนกระวาย หายใจลำบาก หลอดลมเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ฟังเสียงปอดได้เบา เคาะโปร่ง อาการอื่นๆ "หลอดเลือดดำที่คอโป่ง" หัวใจเต้นเร็ว ความดันต่ำ
      - กาารรักษา
        
        การพยาบาล
        
        1 . เฝ้าระวังและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
        
        ประเมินอาการ Tension pneumothoraxให้ได้เร็วที่สุด ถ้าผู้ป่วยมีอาการแสดงของการหายใจ และหัวใจถูกกด เช่นหอบเหนื่อย หายใจลำบาก หายใจไม่ออก เจ็บแน่นหน้าอก ชีพจรเร็ว ความดันโลหิตต่ำ ขึ้นขณะที่ค่า CVP สูงควรรีบรายงานแพทย์ เตรียมอุปกรณ์เพื่อช่วยแพทย์ในการตรวจวินิจฉัย และใส่ท่อระบายทรวงอก
        
        3 . ระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ ห้ามหนีบท่อระบาย เพราะจะทำให้ลมอัดแน่นในทรวงอก
        
        ภายหลังใส่ท่อระบายทรวงอกแล้ว ถ้ายังมีลมรั่วมาก และปอดไม่ขยายเต็มที่ แพทย์จะรักษาโดยการผ่าตัดเปิดทรวงอก (Thoracotomy)ต้องเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัดและให้การดูแลหลังผ่าตัด
        
        ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจและให้แรงดันบวก ควรเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนทางปอดจากการให้แรงดันบวกสูงๆ นาน ๆ ผู้ป่วยอาจไม่สุขสบายเหนื่อยตลอดเวลา หรือผิวหนังบวมขึ้น คลำได้เสียงกรอบแกรบ ต้องรีบรายงานแพทย์
        
        Needle thoracentesis ในภาวะเร่งด่วน โดยใช้เข็มปักที่5th intercostal space, anterior mid-axillary line เข้าโพรงเยื่อหุ้มปอดเพื่อระบายลมออก
    - - ลักษณะ
        
        เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้า ได้ยินเสียงหายใจลดลง
        เคาะโปร่ง X-Ray พบ Lung Atelectasia
      - สาเหตุ
        
        เเรงกระแทกจากซี่โครงและทิ่มเข้าปอด
      - การรักษา
        
        -ลมน้อย > สังเกตอาการ ติดตามผล X-Ray
        -ลมมาก> ใส่ ICD ให้ออกซิเจนความเข้มข้นสูง
        ช่วยการดูดซึมกลับของลมในเยื่อหุ้มปอด
- - - - การรักษาภาวะบีบรัดหัวใจจากการที่มีน้ำหรือเลือดในเยื่อหุ้มหัวใจได้แก่ การเจาะถุงน้ำระบาย หรือpericardioc entesis ทันที ในเบื้องต้นก่อนที่จะทำการเจาะระบายมักจำเป็นต้องรีบทำการกู้ชีพ (resuscitation)ผู้ป่วยโดยการให้สารน้ำ (volume expanding agents) เช่น 0.9% normal saline อย่างเร็วเพื่อไม่ให้เกิด RV diastolic collapse หากยังคงมีความดันต่ำอยู่ตลอดควรให้ norepinephrine (levophed) เพื่อพยุงความดันให้อยู่ในช่วงปกติ ในขณะที่รีบเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำการเจาะถุงน้ำหุ้มหัวใจ