Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แบบแผนสุขภาพ (Functional health patterns) - Coggle Diagram
แบบแผนสุขภาพ
(Functional health patterns)
ความหมายของแบบแผนสุขภาพ
แบบแผน
พฤติกรรมของบุคคลที่ต่อเนื่องกันในช่วงเวลาหนึ่ง
แบบแผนสุขภาพ
พฤติกรรมด้านสุขภาพของบุคคลซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึง และมีผลต่อสุขภาพ
กรอบแนวคิดแบบแผนสุขภาพ
พัฒนาโดย มาร์จอรีย์ กอร์ดอน (Majory Gordon)ศาสตราจารย์ทางการพยาบาลที่วิทยาลัยบอสต้น(Boston College of Nursing)ประเทศสหรัฐอเมริกา
แบบแผนสุขภาพใช้เป็นแนวคิดในการประเมินภาวะสุขภาพของบุคคลครอบครัวหรือชุมชน ทั้งในภาวะปกติและภาวะเจ็บป่วย
ประเมินจากพฤติกรรมทั้งภายนอกและภายใน
มนุษย์จะมีภาวะสุขภาพที่ดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความปกติหรือผิดปกติ ของแบบแผนสุขภาพ
11-แบบแผนสุขภาพของกอร์ดอน
แบบแผนการรับรู้ภาวะสุขภาพและการดูแลสุขภาพ
เป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินความคิดความเข้าใจของบุคคลต่อภาวะสุขภาพ
โดยทั่วไปของตนเองและของผู้ที่ตนรับผิดชอบาถูกต้องเหมาะสมหรือไม และมีความ
คาดหวังต่อภาวะสุขภาพหรือการรักษาอย่างไร
ความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง
พฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันความเจ็บป่วย การดูแลรักษา และการฟื้นฟู
สภาพร่างกาย
รวบรวมโดยการซักประวัติและการตรวจร่างกาย
แนวทางการประเมินการรับรู้ภาวะสุขภาพและการดูแลสุขภาพ
การซักประวัติ
การรับประทานยาเป็นประจำและเหตุผลที่รับประทานยา
การมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น การดื่มเหล้าการสูบบุหรี่ การติดสาร
เสพติ
ประวัติการแพ้สารต่างๆ เช่น การแพ้ยา อาหาร สารเคมี หรือสารอื่นๆ รวมทั้งอาการแพ้
และการแก้ไขเมื่อเกิดอาการแพ
ดูแลความสะอาดของร่างกายตนเอง เช่น การอาบน้ำ การแปรงฟัน ขณะอยู่ที่บ้าน
ดูแลหรือความสนใจเอาใจใส่ของครอบครัวต่อสุขภาพของผู้ป่วย เช่น การพามาพบ
แพทย์ตามนัด การดูแลเมื่อเจ็บป่วย
การตรวจร่างกาย
ลักษณะทั่วไปและความพิการ เช่น ท่าทางการเดิน การลุกนั่ง การ
เคลื่อนไหวแขนขา การพูดคุย การแสดงสีหน้า
ความสะอาดของร่างกาย เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
ความร่วมมือในการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยหรือครอบครัว
สังเกตการปฏิบัติตนขณะเจ็บป่วยของผู้ป่วย หรือการได้รับการดูแล
จากครอบครัว
แบบแผนโภชนาการและการเผาผลาญสารอาหาร
ประเมินพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยพิจารณาความสอดคล้อง
กับอาหารที่ควรได้รับและน้ำหนักตัว
ปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการได้รับสารอาหารน้ า เกลือแร่ ค้นหาสิ่งที่บ่งชี้ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของภาวะทุพโภชนาการ เช่น ความอยากอาหาร
ลดลง
ประเมินการท างานของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับภาวะโภชนาการ ได้แก่ การ
เคี้ยว การกลืน การย่อย การดูดซึม และการเผาผลาญ
แนวทางการประเมินแบบแผนโภชนาการและการเผาผลาญสารอาหาร
การซักประวัติ
ชอบกินอาหารขณะนั่งดูโทรทัศน์ ชอบนั่งๆ นอนๆ โดยไม่ท ากิจกรรมต่างๆ หรือไม
ลักษณะอาหารหรือขนมที่ชอบ อาหารที่รับประทานเป็นประจ า อาหารที่ไม่รับประทาน หรือ
อาหารแสลง
ชนิด เวลา และปริมาณการได้รับอาหารในแต่ละวัน
ประวัติการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น มีแผลหรือโรคภายในช่องปากันผุ โรค
กระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบโรคตับ ตับอ่อน ถุงน้ำดี และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบ
ทางเดินอาหาร
ปัญหาในการรับประทานอาหาร เช่น รับประทานอาหารแล้วมีอาการแน่นท้อง ท้องอืด เบื่อ
อาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปัญหาเรื่องฟัน การเคี้ยว การกลืนอาหาร การย่อยและการดูดซึม
อาหารผิดปกติ วิธีการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาในการรับประทานอาหาร
การตรวจร่างกาย
สังเกตพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ปริมาณและลักษณะอาหารที่รับประทาน
ตรวจสภาพของผิวหนังและเยื่อบุว่าซีดหรือไม่ โดยสังเกตสีของผิวหนัง ริมฝีปาก เยื่อบุตา
(Conjunctiva) ตาขาว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
เยื่อบุปากและแผลในช่องปาก คอ ฟันผุ เหงือกอักเสบ ทอนซิลแดงโตหรือไม
สังเกตอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการมีปัญหาการรับประทานอาหาร เช่น อาการกลืนลำบาก
อาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ปวดท้อง เป็นต้น
ตรวจลักษณะท้อง ตับ ม้าม ก้อนในท้อง ฟังเสียงการเคลื่อนไหวของลำไส
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ เช่น
การตรวจเลือดเพื่อประเมินปัญหาเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ ความสมดุลของสารน้ าและเกลือ
แร่ต่างๆ ในร่างกาย
การตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound) ประเมินความผิดปกติของอวัยวะภายในช่องท้อง
และทางเดินอาหาร
แบบแผนการขับถ่าย (Elimination)
เป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินกระบวนการขับถ่าย
ลักษณะ ปริมาณจ านวนครั้งของของเสียทุกประเภทที่ออก
จากร่างกายทั้งอุจจาระ ปัสสาวะ น้ าและอิเลคโตรไลท์ ปัจจัย
ส่งเสริม ปัจจัยเสี่ยงและอุปสรรคต่อการขับถ่าย ตลอดจนการ
เปลี่ยนแปลงกระบวนการขับถ่ายอันเนื่องมาจากความเจ็บป่วย และการปรับตัวเพื่อแก้ไขปัญหา
แนวทางการประเมินแบบแผนการขับถ่าย
การซักประวัติ
ปัสสาวะวันละกี่ครั้ง จำนวนมากน้อยเท่าใด ชอบกลั้นปัสสาวะ
หรือไม่ ปัสสาวะตอนกลางคืนหรือไม่ จำนวนกี่คร
ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะล าบาก กระปริดกระ
ปรอยปัสสาวะน้อย ไม่มีการขับถ่ายปัสสาวะ หรือปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมากกลั้นปัสสาวะไม่ได้
ปัสสาวะมีเลือดออก ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นเหม็น มีหนองปน
ประวัติการติด
เชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยๆภาวะเสียเลือดหรือภาวะขาดน้ ามาก หรือการมีนิ่วอุดตันทางเดิน
ปัสสาวะ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานซึ่งน าไปสู่ไตวายเรื้อรังได
ประวัติการใช้ยาต่างๆ เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต ซึ่งมีผลต่อการทำงานของไีต
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
ตรวจเลือดเพื่อดูระดับของยูเรีย ไนโตรเจน และครีเอตินินในเลือดบ่งบอกการท างานของไต
ตรวจปัสสาวะ เพื่อประเมินความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
เอกซเรย์Ultrasound ดูความผิดปกติของไต ท่อไต และการอุดตันทางเดินปัสสาวะ
การตรวจอุจจาระเพื่อประเมินว่าอุจจาระมีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว พยาธิ หรือมีเลือดปนใน
อุจจาระหรือไม
การส่องกล้องเข้าทางทวารหนักเพื่อตรวจหาความผิดปกติของล าไส้ใหญ่ หรือ เพื่อการถ่ายภาพรังสี
ทางทวารหนัก
แบบแผนกิจกรรมและการออกกำลังกาย (Activity and Exercise)
เป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินระดับความสามารถในการประกอบกิจกรรมต่างๆใน
ชีวิตประจำวัน การทำกิจวัตรประจำวัน การดูแลบ้าน การประกอบอาชีพ การใช้เวลาว่าง
และนันทนาการ การออกกำลังกาย หรือ การทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออก
ข้อจำกัดหรือเงื่อนไขในการด าเนินชีวิตที่มีผลต่อการทำกิจกรรมและออกกำลังกาย หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก ไม่มีเวลา
ผลกระทบที่เกิดจากการเจ็บป่วยต่อการประกอบกิจกรรมและการออกกำลังกาย
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อไม่สามารถทำกิจกรรมที่ตนเองต้องการ หรือไม่สามารถปฏิบัติตาม
คำแนะนำได้เนื่องด้วยข้อจ ากัดต่างๆ
การซักประวัต
สามารถปฏิบัติงานและกิจวัตรต่างๆ ได้ตามปกต
ทำงานหรือกิจกรรมได้จ ากัด สามารถปฏิบัติได้แต่งานเบาๆ
ดูแลกิจวัตรประจำวันของตนเองได้จำกัด ต้องนั่งหรือนอนพักเป็นส่วนใหญ่
กิจกรรมในงานอาชีพหนักเบาอย่างไร เช่น อาชีพครู ค้าขาย ชาวนา จะมีกิจกรรมที่
แตกต่างกัน
ปัจจัยเสริมที่ทำให้มีความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น มี
ผู้ดูแลใกล้ชิดมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน เป็นต้น
การตรวจร่างกาย
ประเมินความสามารถในการเคลื่อนไหวของแขนขา
ตรวจร่างกายระบบต่างๆ เพื่อประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ
ตรวจวัดสัญญาณชีพ ประเมินอาการของความดัน
โลหิตสูง เช่น ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว แขนขาอ่อนแรง
ตรวจอาการขาดออกซิเจน เช่น สังเกตผิวหนัง ริม
ฝีปาก เล็บมือ เล็บเท้าว่ามีอาการเขียวคล้ำหรือไม่ แล้วฟังปอดเพื่อประเมินเสียงหายใจว่ามี
ความผิดปกติหรือไม
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
การตรวจเลือดและตรวจเอกซเรย์ปอดเพื่อประเมินภาวะผิดปกติที่เป็นอุปสรรคต่อการ
ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ หรือไม
แบบแผนการพักผ่อนนอนหลับ (Sleep and Rest)
เป็นแบบแผนเกี่ยวกับการนอนหลับ การพักผ่อน ปัญหาเกี่ยวกับการนอน ปัจจัย
ส่งเสริม ปัจจัยเสี่ยง และอุปสรรคต่อแบบแผนการนอน กิจกรรมที่บุคคลปฏิบัติ
เพื่อให้ผ่อนคลาย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของแบบแผนอันเนื่องมาจากความ
เจ็บป่วย
แนวทางการประเมินแบบแผนการพักผ่อนนอนหลับ
การซักประวัต
พฤติกรรมการนอน
เป็นคนนอนดึกหรือนอนแต่หัวค่ำ ชอบหลับเวลากลางวันตื่นเวลากลางคืน ระยะเวลาที่นอนหลับ นอนวันละกี่ชั่วโมง กลางวันกี่ชั่วโมง กลางคืนกี่ชั่วโมง
เพียงพอหรือไม
พฤติกรรมหรือสิ่งที่ช่วยท าให้นอนหลับได้ง่าย
ก่อนนอนต้องฟังเพลง ฟังธรรมะ ดื่มนมหรือเครื่องดื่มอื่นๆ หรือบรรยากาศ
เงียบสงบและไม่มีแสงไฟ หรือต้องเปิดไฟสว่าง เปิดเครื่องปรับอากาศจึงท าให้
นอนหลับสบาย เป็นต้น
ปัญหาเกี่ยวกับการนอน
นอนมากไป นอนน้อย นอนไม่หลับ เป็นคนนอนยากตื่นเร็ว นอนหลับๆ ตื่นๆ
นอนหลับไม่สนิท นอนฝันร้าย รวมทั้งสาเหตุของปัญหาและแนวทางแก้ไข
การตรวจร่างกาย
สังเกตหน้าตาว่านอนหลับพักผ่อนเพียงพอหรือไม่
ความสดชื่นแจ่มใส ซึม อ่อนเพลีย
ง่วงนอน หาวนอนบ่อย
ใต้ตาเป็นรอยเขียวคล้ำ
นอนหลับเวลากลางวันตื่นเวลากลางคืน
แบบแผนสติปัญญาและการรับรู้ (Cognition and Perception)
การรับรู้ความรู้สึกและการตอบสนอง
แบบแผนเกี่ยวกับความสามารถของบุคคลในการรับรู้สิ่งเร้าและการตอบสนองต่อสิ่งเร้า
ด้านการรับรู้ความรู้สึก
ความสามารถทางสติปัญญา
แบบแผนเกี่ยวกับความสามารถและพัฒนาการทางสติปัญญาเกี่ยวกับความคิด
ความจำ ความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหาและการสื่อภาษาต่างๆ
แนวทางการประเมินแบบแผนสติปัญญาและการรับรู
การซักประวัต
ปัญหาเกี่ยวกับความรู้สึกตัว เช่น มีอาการสับสน ซึม ไม่รู้สึกตัว และระยะเวลาที่มีอาการ
ปัญหาเกี่ยวกับการได้กลิ่น เช่น มีความผิดปกติของจมูก มีสิ่งคัดหลัง ปวดจมูก การได้กลิ่นลดลง
หรือไม่ได้กลิ่น
ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น เช่น เห็นภาพซ้อน ตามัว มองไม่เห็น
ญหาเกี่ยวกับการได้ยิน เช่น หูอื้อ หูตึง ไม่ได้ยิน มีเสียงดังในห
ปัญหาเกี่ยวกับการรับรส ไม่สามารถรับรสได้ ปากชา ลิ้นชา
การตรวจร่างกาย
ประเมินระดับความรู้สึกตัว เช่น การลืมตา การสื่อภาษาการเคลื่อนไหวของร่างกาย และ
ตรวจดูความผิดปกติของจมูก ตา หู ลิ้น ตรวจประสาทสัมผัสทางผิวหนัง
สังเกตลักษณะทั่วไป เช่น รูปร่าง ลักษณะ หน้าตา ท่าทาง การแต่งกาย การดูแลสุขอนามัย
ทั่วๆ ไป พฤติกรรมที่แสดงออก ลักษณะคำพูด การพูดจาโต้ตอบ การใช้ภาษาที่เหมาะสม การ
รับรู้บุคคล เวลา สถานที่ การคิดที่สมเหตุสมผล
ประเมินระดับสติปัญญา (IQ) โดยใช้แบบทดสอบ
แบบแผนการรับรู้ตนเองและอัตมโนทัศน์(Self perception and Self concept)
แบบแผนที่เกี่ยวกับความคิด ความรู้สึกของบุคคลที่มีต่อตนเองการมองตนเอง
เกี่ยวกับรูปร่าง หน้าตา ความพิการ ความสามารถ คุณค่า เอกลักษณ์ และ
ความภูมิใจในตนเอง ตลอดจนปัจจัยส่งเสริม ปัจจัยเสี่ยง และปัจจัยอุปสรรคที่มีผลต่อการรับรู้
ตนเองและอัตมโนทัศน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของแบบแผนอันเนื่องมาจากความเจ็บป่วย
แนวทางการประเมินแบบแผนการรับรู้ตนเองและอัตมโนทัศน์
การซักประวัต
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับภาพลักษณ์โดยทั่วไป รู้สึกว่าอ้วน ผอม สูงหรือเตี้ยเกินไป
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับความสามารถในด้านต่างๆ ได้แก่ ความสามารถในการปฏิบัติงาน การ
เรียน การท ากิจกรรมต่างๆ
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงร่างกายที่มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น เช่น การมีสายสวนปัสสาวะ
และถุงรองรับปัสสาวะ การมีสายยางให้อาหาร
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับการสูญเสียอวัยวะจากการเป็นโรค การผ่าตัด หรือการเกิดอุบัติเหตุหน้า
เสียโฉม ถูกตัดขา อาจรู้สึกว่าตนเองเป็นคนพิการกลัวคนอื่นรังเกียจ
การตรวจร่างกาย
สังเกตความสนใจตนเองของผู้ป่วย
การแต่งกาย บุคลิกภาพ
การกล่าวถึงตนเอง
แบบแผนบทบาทและสัมพันธภาพ (Role and Relationship)
แบบแผนเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ การติดต่อสื่อสารและการมีสัมพันธภาพกับ
บุคคลทั้งภายในครอบครัวและสังคม รวมทั้งปัจจัยส่งเสริม ปัจจัยเสี่ยงหรือปัจจัยอุปสรรคต่อ
การปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่และการสร้างสัมพันธภาพ รวมทั้งปัจจัยส่งเสริม ปัจจัยเสี่ยงหรือปัจจัยอุปสรรคต่อ
การปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่และการสร้างสัมพันธภาพ
แนวทางการประเมินแบบแผนบทบาทและสัมพันธภาพ
การซักประวัติ
โครงสร้างครอบครัว เช่น จ านวนสมาชิกในครอบครัวมีใครบ้าง หรืออยู่คนเดียว
สัมพันธภาพของผู้ป่วยกับครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน การเปลี่ยนแปลงของสัมพันธภาพ
โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือช่วยตนเองไม่ได้
สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างสัมพันธภาพที่ดี เช่น ทัศนคติที่ไม่ดีต่อกัน ความเครียดภายใน
ครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัว
การตรวจร่างกาย
สังเกตพฤติกรรมต่างๆ หรือท่าทางที่แสดงออกต่อ
ครอบครัวและบุคคลในครอบครัวแสดงต่อผู้ป่วย ลักษณะ
การโต้ตอบระหว่างผู้ป่วยกับบุคคลในครอบครัว รวมทั้ง
เพื่อน ผู้ร่วมงาน การมาเยี่ยมของคนในครอบครัวด้วย
9.แบบแผนเพศและการเจริญพันธุ์(Sexuality and Reproduction)
เป็นแบบแผนเกี่ยวกับพัฒนาการตามเพศซึ่งมีอิทธิพลมาจากพัฒนาการด้านร่างกาย
และอิทธิพลของสังคม สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู ลักษณะการเจริญพันธุ์ พฤติกรรม
ทางเพศและเพศสัมพันธ์ ปัจจัยส่งเสริม ปัจจัยเสี่ยง หรือปัจจัยอุปสรรคต่อพัฒนาการ ตามเพศ และการเจริญพันธุ์ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของแบบแผนอันเนื่องมาจาก
ความเจ็บป่วย
แนวทางการประเมินแบบแผนเพศและการเจริญพันธุ์
การซักประวัติ
การเจริญพันธ์ และการท างานของระบบสืบพันธุ์
การมีเพศสัมพันธ์ ปัญหาเพศสัมพันธ์ ความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์
และการป้องกันโรคติดต่อกันได้ทางเพศสัมพันธ
การมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ติดต่อกันได้ทางเพศสัมพันธ์ การมีพฤติกรรม
ทางเพศที่ไม่เหมาะสม เช่น รักร่วมเพศ
การตรวจร่างกาย
สังเกตพฤติกรรมทางเพศจากลักษณะท่าทางที่แสดงออก ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น การใช้ภาษา
และค าพูด รวมทั้งการแต่งกายว่าเหมาะสมกับเพศหรือไม
เพศหญิง ตรวจเต้านม ต่อมน้ าเหลือง อวัยวะเพศหญิง เพศชาย ตรวจอวัยวะเพศชาย ตรวจ
อาการและอาการแสดงของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอดส์ จะพบลักษณะผอมมาก
มีเชื้อราในปาก มีรอยโรคตามผิวหนัง ท้องเสียเรื้อรัง
แบบแผนการปรับตัวและการเผชิญความเครียด
(Coping and Stress tolerance)
เป็นแบบแผนเกี่ยวกับการรับรู้ลักษณะอารมณ์พื้นฐาน การรับรู้เกี่ยวกับความเครียด
ปฏิกิริยาของร่างกายเมื่อเกิดความเครียด วิธีการแก้ไขและการจัดการกับความเครียด ปัจจัย
เสี่ยงที่ท าให้เกิดความเครียด ปัจจัยส่งเสริมและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวกับ
ความเครียด รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของแบบแผนอันเนื่องมาจากความเจ็บป่วย
แนวทางการประเมินแบบแผนการปรับตัวและการเผชิญความเครียด
การซักประวัต
ข้ออมูลทั่วไป เช่น อายุ การศึกษา อาชีพ รายได้ สถานภาพสมรส ความสัมพันธ์ในครอบครัว
สิ่งแวดล้อมที่บ้าน เพื่อประเมินสาเหตุที่ท าให้เกิดความเครียด
สัมภาษณ์เกี่ยวกับลักษณะอุปนิสัยหรืออารมณ์พื้นฐานของผู้ป่วย
ซักถามสิ่งที่ท าให้เกิดความเครียด ไม่สบายใจ วิตกกังวล กลัว เครียด คับข้องใจ
วิธีการจัดการความเครียด เช่น การระบายความเครียดกับบุคคลใกล้ชิด การเก็บตัวเงียบไม่
สังสรรค์กับใคร การใช้ยา
การตรวจร่างกาย
ตรวจสอบพฤติกรรมที่บ่งชี้ถึงความเครียด ความ
เศร้า ความวิตกกังวล
สีหน้าหมกมุ่น ขมวดคิ้ว กระวนกระวาย ซึม
เงียบเฉย ร้องไห้ นอนไม่หลับ
สังเกตอาการต่างๆ เช่น เหงื่อออกมาก หน้า
ซีดหรือหน้าแดง มือสั่น หายใจเร็ว
แบบแผนคุณค่าและความเชื่อ (Value and Belief)
เป็นแบบแผนเกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธา ความมั่นคงเข้มแข็ง
ทางด้านจิตใจ สิ่งที่มีคุณค่า มีความหมายต่อชีวิต สิ่งยึดเหนี่ยว
ทางด้านจิตใจ เป้าหมายในการด าเนินชีวิต ความเชื่อทางด้าน
สุขภาพ และการปฏิบัติตนตามความเชื่อ ปัจจัยส่งเสริม และปัจจัย
ที่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงเข้มแข็งทางด้านจิตใจ รวมทั้งการ เปลี่ยนแปลงของแบบแผนอันเนื่องมาจากความเจ็บป่วย
แนวทางการประเมินแบบแผนคุณค่าและความเชื่อ
การซักประวัต
ความเชื่อ ความผูกพัน ความศรัทธาที่มีต่อสิ่งต่างๆ เช่น ความดีงาม ความถูกต้อง ศาสนา พระ
เจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ หรือสิ่งเหนือธรรมชาต
สิ่งสำคัญในชีวิต หรือสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อาจเป็นบุคคล วัตถุ สิ่งของ ศาสนา คุณงามความด
ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น ความเชื่อเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดโรค ความเชื่อเกี่ยวกับการ
รักษาพยาบาล ความขัดแย้งระหว่างความเชื่อเกี่ยวกับโรคของผู้ป่วยกับการรักษาพยาบาลที่
ผู้ป่วยได้รับ
การตรวจร่างกาย
สังเกตพฤติกรรมที่แสดงออกทางสีหน้า กริยาท่าทาง รวมทั้งการแสดงออกทางอารมณ์ เช่น
ซึมเศร้า แยกตัว ว้าเหว่ โกรธ หงุดหงิด
สังเกตคำพูดของผู้ป่วยและญาติที่แสดงถึงการให้คุณค่าและการมีความเชื่อในด้านต่างๆ
สังเกตการแสดงออกที่แสดงถึงความเชื่อต่างๆ เช่น การมีพระพุทธรูป สร้อยพระ หรือมีวัตถุ
มงคลบูชา การใช้เครื่องรางของขลัง การสวดมนต์ การท าสมาธิภาวนา การท าละหมาด การ
อ่านหนังสือ
ตัวอย่างการบันทึกข้อมูล การประเมินภาวะสุขภาพตามแบบแผนสุขภาพ (Functional health patterns)
แบบแผนการรับรู้ภาวะสุขภาพและการดูแลสุขภาพ
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
ภาวะสุขภาพของตนเองก่อนการเจ็บป่วยครั้งนี้เป็นอย่างไร
สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี
สามารถเดินไปท ากิจวัตรประจำวันได้ปกต
ขณะนี้สุขภาพของคุณเป็นอย่างไร
การทำกิจวัตรประจำวันไม่สะดวก เดินไม่สะดวกปวดขา
ทั้งสองข้าง
เหตุผลที่มารับการรักษา ความคาดหวังต่อการรักษา
อยากหายจากโรคที่เป็นอยู่
การดูแลรักษาสุขภาพด้านร่างกาย
ตรวจร่างกายประจำปีทุกปี
เมื่อเจ็บป่วยคุณดูแลสุขภาพตนเองอย่างไร
การปฏิบัติตัวเมื่อเจ็บป่วยขณะอยู่โรงพยาบาล
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาลและ
บุคลากรในทีมสุขภาพของโรงพยาบาล
การดูแลความสะอาดของร่างกาย
เช็ดตัว อาบน้ำและ แปรงฟันทุกเช้าและเย็น และบ้วน
ปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง แต่สระผมไม่ได้
การได้รับการดูแลจากผู้อื่น
ญาติต้องพยุงเวลาลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่สะดวก
พฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแล
ญาติของผู้ป่วยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ยิ้มแย้ม
การแพ้สารต่างๆ
อาหาร/ยา/ สารที่แพ้
ผู้ป่วยปฏิเสธการแพ้ยาแพ้อาหารและสารอื่นๆ
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
สภาพร่างกาย อารมณ์ และจิตใจโดยทั่วไป
ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ท่าทางอ่อนเพลีย เป็นคนอารมณ์ดี
จิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
ลักษณะทั่วไปและความพิการหรือภาวะทุพพลภาพ
ผู้ป่วยไม่มีความพิการและทุพพลภาพ การดูแล
ตนเองและพึ่งพา
ช่วยเหลือตนเองได้บนเตียง ยังเดินไปเข้าห้องน้ำเองไม่ได้ รับประทานอาหารเอง
ได้ ทำกิจวัตรประจำวันได้บนเตียง
ความร่วมมือในการรักษา
ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการรักษาดี
ความสะอาดของร่างกาย เครื่องแต่งกาย
เสื้อผ้าสะอาด เล็บยาว ผมมัน
การดูแลของผู้ดูแล
ผู้ดูแลเอาใจใส่ ยิ้มแย้มดี
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ปวดขาทั้ง 2 ข้าง
ลุกเดินไปเข้าห้องน้ าเองไม่ได้
ท่าทางอ่อนเพลีย
มีเล็บยาว ผมมันเนื่องจากไม่ได้สระผม
แบบแผนโภชนาการและการเผาผลาญสารอาหาร
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
ตามปกติรับประทานอาหารวันละ
3 มื้อ ตรงเวลา ปริมาณ 1 ทัพพีต่อครั้
ดื่มน้ำ/เครื่องดื่มวันละ
1,200 ml /วัน
อาหารที่รับประทานเป็นประจำ
ข้าว อาหารอีสาน เช่น น้ำพริก ปลา ผักต่างๆ
อาหารที่ไม่รับประทานและเหตุผล
ของหมักดอง
การเปลี่ยนแปลงของน้ าหนักตัวในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
น้ำหนักลดลง 1 กิโลกรั
การหายของบาดแผล
ปกติ
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
การได้รับสารอาหาร
ผู้ป่วยรับประทานอาหารเอง ทางปาก
การตรวจร่างกาย
น้ าหนัก 68 กิโลกรัม ส่วนสูง 160 เซนติเมตร BMI = 26.56 กก/ มม.
อุณหภูมิร่างกายในระหว่าง 24 ชม. ที่ผ่านมาอยู่ในช่วง : 36.8-37.3 องศาเซลเซียส
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ไม่พบปัญหาในแบบแผนน
แบบแผนการขับถ่าย
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
แบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะ ก่อนการเจ็บป่วยครั้งนี้
วิถีทาง
ปัสสาวะเอง
ความถี่
กลางวัน 4 ครั้ง กลางคืน 3 ครั้ง
ลักษณะปัสสาวะในแต่ละครั้ง
250 cc
อาการผิดปกติของการขับถ่ายปัสสาวะ เช่น กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะไม่สะดุด/คั่ง หรือ
เจ็บปวดเวลาปัสสาวะ
เมื่ออยู่บ้าน ปัสสาวะแสบขัด กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได
วิธีแก้ไข
ถ้ารู้สึกปวดปัสสาวะต้องรีบไปเข้าห้องน้ าทันท
แบบแผนการขับถ่ายอุจจาระ ขณะอยู่โรงพยาบาล
วิถีทาง
ถ่ายอุจจาระเอง
ความถี่
ยังไม่ถ่ายอุจจาระ
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
จำนวนปัสสาวะใน 24 ชม.
ปัสสาวะประมาณ 900 cc . /วัน
ลักษณะปัสสาวะ
สีเหลือง ใส
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ไม่พบปัญหาในแบบแผนนี้
การตรวจร่างกาย
การตรวจบริเวณท้อง
ไม่มี bladder full และ impacted feces
แบบแผนกิจกรรมและการออกกำลังกาย
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
ความทนต่อการทำกิจกรรม
ก่อนการเจ็บป่วยครั้งนี้
ทำกิจกรรมต่างๆ เล็กๆน้อยๆ จะรู้สึกเหนื่อยง่าย
ขณะอยู่ในโรงพยาบาล
ทำกิจกรรมต่างๆไม่ได้ รู่สึกเหนื่อย
ลักษณะงานที่ทำในปัจจุบัน
เกษียณอายุราชการ ไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเลี้ยงหลาน
ความสามารถในการช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันตามปกติ
การรับประทานอาหาร
รับประทานอาหารได้เอง
การทำความสะอาดปากและฟัน
ทำได้เอง
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
การออกกำลังกายขณะอยู่โรงพยาบาล
ออกกำลังกายบนเตียงโดยกายบริหารทุกเช้า
ความสามารถช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
การรับประทานอาหาร
รับประทานอาหารได้เอง
การทำความสะอาดปากฟัน
ทำความสะอาดได้เอง
การอาบน้ำและการแต่งตัว
ทำได้เอง
การตรวจร่างกาย
ท่าทาง การทรงตัว การเดิน การเคลื่อนไหวของร่างกาย การท างานประสานกันของ
กล้ามเน
ท่าทางการเดินการทรงตัวไม่ดี
สัญญาณชีพ
อัตราการเต้นของชีพจร 82 ครั้ง/นาที จังหวะการเต้นของชีพจร สม่ำเสม
อัตราการหายใจ : 24 ครั้ง/นาที จังหวะ สม่ าเสมอ
ความดันโลหิต : 138/76 มม.
ปรอท ในท่านอน
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
อ่อนเพลียง่าย ทำกิจกรรมได้ลดลง
การทรงตัวไม่ด
ปวดขาทั้ง 2 ข้าง
ให้ประวัติเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
แบบแผนการพักผ่อนนอนหลับ
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
อาการแสดงของการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ (อ่อนเพลีย หน้าตาอิดโรย ขอบตาคล้ำ หาวนอน
บ่อย หงุดหงิด
ผู้ป่วยมีท่าทางอ่อนเพลีย หน้าตาไม่สดชื่น หาว
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
การพักผ่อนหย่อนใจและงานอดิเรกที่มักปฏิบัติ
ทำอาหาร เลี้ยงสัตว์ ทำสวน ทุกๆวั
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ขณะอยู่โรงพยาบาลผู้ป่วยมีปัญหานอนไม่หลับ
นอนไม่พียงพอ
มีท่าทางอ่อนเพลีย
แบบแผนสติปัญญาและการรับรู้
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
ความเจ็บปวด ความไม่สุขสบายของผู้ป่วยย (ความเจ็บปวด ร้อน หนาว คัน ระคายเคือง)
ผู้ป่วยมี
อาการปวดขาทั้ง 2 ข้าง
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
การตรวจร่างกาย
ระดับความรู้สึกตัว การรับรู้วัน เวลา สถานที่ บุคคล
ผู้ป่วยสามารถบอกวัน เวลา วันที่
สถานที่ และบุคคลได
ลักษณะการโต้ตอบ/การใช้ภาษา/การอ่าน/การพูด
ผู้ป่วยสามารถพูดโต้ตอบได้ ใช้ภาษาได้ดี
อ่านหนังสือออกและเขียนหนังสือได้ดี
ลักษณะสีหน้า และการแสดงออกถึงความไม่สุขสบาย
สีหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวด
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
มีปัญหาปวดขาทั้ง 2 ข้าง และมีปัญหา ตาทั้ง 2 ข้างมัว
แบบแผนแผนการรับรู้ตนเองและอัตมโนทัศน์
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
คุณรู้สึกต่อรูปร่างหน้าตาตนเองอย่างไร
ขณะเจ็บป่วย
รู้สึกว่าหน้าตาเศร้าหมอง ไม่มีชีวิตชีวา ผมไม่ได้หวี เหนื่อย อ่อนเพลีย
ก่อนการเจ็บป่วย
รู้สึกว่าหน้าตาตนเองสดใส มีน้ำมีนวล
คุณรู้สึกอย่างไรที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นขณะเจ็บป่วย
กลัวญาติลำบากเวลาเดินทางมาดูแล
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
พฤติกรรมแสดงความสนใจในรูปร่าง หน้าตาต่อตนเอง
ผู้ป่วยไม่ได้มีพฤติกรรมที่แสดงความ
สนใจในรูปร่างหน้าตา
ลักษณะพฤติกรรมที่แสดงออกขณะสนทนา
ผู้ป่วยให้ความสนใจขณะซักถามดี มีการสบตา
และพูดด้วยน้ำเสียงที่ดี
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ขณะเจ็บป่วย รู้สึกว่าหน้าตาเศร้าหมอง ไม่มีชีวิตชีวา ผมไม่ได้หว
เหนื่อย อ่อนเพลีย ท างานหนักไม่ได้เลย รู้สึกเหนื่อยง่าย
แบบแผนบทบาทและสัมพันธภาพ
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
บทบาทและความรับผิดชอบในงาน/อาชีพ/การศึกษา
เกษียณอายุราชการแล้ว
ความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงาน
มีความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานดี
ความรู้และสมรรถนะการดูแล ภาวะสุขภาพ และภาระที่ต้องรับผิดชอบ
ผู้ดูแลได้รับความรู้ในการ
ดูแลผู้ป่วยจากแพทย์และพยาบาล คอยก าชับเกี่ยวกับเรื่องอาหาร และการลุกเดิน
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
สัมพันธภาพของผู้ใช้บริการกับครอบครัว/เพื่อน/ผู้ร่วมงาน
มีสัมพันธภาพด
สัมพันธภาพของผู้ใช้บริการกับบุคลากรในทีมสุขภาพ
มีสัมพันธภาพดี
พฤติกรรมในการดูแลของครอบครัวและผู้ดูแล
คนในครอบครัวดูแลเอาใจใส่ดี
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ผู้ป่วยไม่มีปัญหาในแบบแผนน
แบบแผนเพศและการเจริญพันธ
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
มีประจ าเดือนครั้งแรก 13 ปี ระยะห่างของการมีประจำเดือน 20 วัน
ปริมาณประจ าเดือน : 2 แผ่น/วัน
อาการผิดปกติขณะมีประจำเดือน
ปวดท้อง
วิธีคุมกำเนิดที่ใช้
กินยาคุม
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
ตรวจร่างาย
ลักษณะทางเพศ ชาย
ลูกกระเดือก หนวด ขนตามร่างกาย
ลักษณะทางเพศ หญิง
เต้านม สะโพก : มีเต้านม มีสะโพกผาย
ลักษณะอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ไม่มีความผิดปกติ สะอาด ไม่มีกลิ่นอับชื้
สิ่งที่ขับออกทางอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ปัสสาวะ 1,000 ml.
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ผู้ป่วยไม่มีปัญหาในแบบแผนนี้
แบบแผนการปรับตัวและการเผชิญความเครียด
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
ตามปกติมีอุปนิสัย และอารมณ์อย่างไร
เป็นคนชอบพูด ร่าเริง อารมณ์ดี
เหตุการณ์ที่ทeให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สeคัญในชีวิต ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
ผู้ป่วยปฏิเสธ
วิธีปฏิบัติเมื่อมีความเครียด ไม่สบายใจ หรือกังวลใจ
ดื่มกาแฟร้อน 1-2 แก้ว
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
ลักษณะพฤติกรรมการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง การแต่งกาย ที่บ่งชี้ถึงความเครียด วิตกกังวล ไม่
สบายใจ เช่น สีหน้าหมกมุ่น กระวนกระวาย ร้องไห้ ซึม นอนไม่หลับ รับประทานอาหาไม่ได้
ผู้ป่วยมีสีหน้าวิตกกังวลไม่สบายใจ
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ผู้ป่วยวิตกกังวลและไม่สบายใจคิดถึงหลานที่บ้าน
แบบแผนคุณค่าและความเชื่อ
ข้อมูลอัตนัย (Subjective Data)
ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพและความเจ็บป่วย เช่น อาหารแสลง/การปฏิบัติตน
เชื่อว่าถ้า
รับประทานกาแฟเยอะๆจะทำให้นอนไม่หลับ
สิ่งที่มีค่าหรือมีความสำคัญในชีวิต
สามี ลูกหลาน
ขณะอยู่โรงพยาบาลคุณต้องการปฏิบัติความเชื่อหรือไม
ต้องการทำตามความเชื่อ สวด
มนต์ก่อนนอนและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้หายจากอาการป่วย
ข้อมูลปรนัย (Objective Data)
การนำสิ่งที่นับถือบูชามาโรงพยาบาล
ผู้ป่วยไม่ได้นำสิ่งที่
บูชานับถือมาโรงพยาบาลด้วย
การปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและไสยศาสตร
สวดมนต์
สรุปข้อมูลที่เป็นปัญหา
ผู้ป่วยไม่มีปัญหาในแบบแผนนี้