Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Cfx Rt. Calcaneus Cfx both scapular fx rib 7 8 Rt, 1.ดูเเลให้ยาเเก้ปวด…

- - - - กระดูกติดช้า
      - เบื่ออาหาร เนื่องจากความเจ็บป่วย อาหารรสชาติไม่ถูกปาก
      - ปัญหาต้านอินซูลินในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน
    - - กระดูกส้นเท้าขวาหัก เกิดจากแรงกระเทกทางด้านหลังเท้า ทำให้เกิดการหักของกระดูกส้นเท้าได้
    - - สีของผิวหนัง รูปร่างของอวัยวะนั้นๆเปลี่ยนเปลงไปจากรูปร่างปกติ
      - เจ็บปวด บวม บริเวณที่มีกระดูกหัก
  - - - ถลอก ปวด บวม กระดูกรอบหัวไหล่ผิดรูป
    - - กระดูกติดผิดรูป กระดูกไม่สมาน หรือการบาดเจ็บของเส้นประสาท suprascapular
    - - กระดูกสะบักหักทั้ง2ข้าง
    - - การบาดเจ็บเฉียบพลันจากแรงกระทำภายนอก เช่น ถูกกระแทก ล้มกระแทก
      - การบาดเจ็บเฉียบพลันจากแรงกระทำภายใน เช่น กล้ามเนื้อกระตุก (Pulled Muscle) เล่นกีฬาในท่าที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ
      - การบาดเจ็บเรื้อรังจากการบาดเจ็บซ้ำๆ
  - - - กระดูกซี่โครงหักคู่ที่ 7-8
      - ไปกดทับปอด ทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่ดี อาจทำให้หายใจหอบเหนื่อย
    - - -มีอาการเจ็บปวดในบริเวณที่กระดูกซี่โครงแตกร้าวหรือหัก -อาจมีอาการแย่ลงเมื่อหายใจเข้าลึก ๆ กดโดนบริเวณทรวงอก
        -รู้สึกเจ็บขณะไอหรือหัวเราะ ขณะอยู่ในท่าก้ม บิด หรืองอตัว - อาการบวมในบริเวณจุดที่มีกระดูกซี่โครงหัก เกิดรอยช้ำที่ผิวหนัง
    - - ความแหลมคมหรือขรุขระของปลายกระดูกซี่โครงที่หักส่งผลต่อหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตาฉีกขาดหรือทะลุ ปอดทะลุ ม้าม ตับ ฉีกขาด แต่ละซี่หักตั้งแต่สองตำแหน่งทำให้ส่วนที่หักสามารถแยกออกจากผนังทรวงอก ซึ่งผนังทรวงอกนี้จะเคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับที่ควรจะเป็นระหว่างการหายใจ เกิดภาวะอกรวนทำให้ประสิทธิภาพของปอดในการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลงจึงทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนได้
    - - การบาดเจ็บบริเวณหน้าอก เช่น หกล้มหรือตกจากที่สูง อุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือการกระแทกขณะเล่นกีฬา
        
        การทำร้ายร่างกาย
        
        การปั๊มหัวใจ - การไออย่างแรงติดต่อกันเป็นเวลานาน
  - - - สิ่งแวดล้อม (ฝุ่นหรือไร)
        
        สารก่อภูมิแพ้จากการประกอบอาชีพ
        
        เชื้อไวรัส
    - - ไอตอนเช้า กลางคืนตอนดึก ไอเวลาวิงเล่น หรือหลังวิ่งเล่น
        
        คัดจมูก นํ้ามูกไหลร่วมด้วย
        
        หอบเหนื่อยง่าย และหายใจมีเสียงดังวี้ด
    - - เป็นโรคของระบบทางเดินหายใจที่มีการอักเสบของหลอดลมอย่างเรื้อรัง การอักเสบของหลอดลมมีผลทําให้เยื่อบุผนังหลอดลมของผู้ป่วยมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารภูมิแพ้และสิ่งแวดล้อมมากกวาคนปกติ
- - - - ได้รับสารอาหารเพียงพอต่อความจำเป็นของร่างกาย
    - - ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้มากขึ้นตามกำหนดเช่นกินข้าวหมดจาน
      - ผลการตรวจเลือดทางห้องปฎิบัติการอยู่ในเกณฑ์ปกติ เช่น - Hct > 40 %
      - ผลการตรวจร่างกายของผู้ป่วยปกติ เช่นไม่มีเยื่อบุตาซีด เล็บขาวซีด ริมฝีปากและผิวไม่แห้ง
    - - ขณะป่วยกินข้าวได้น้อย Hct = 37.9 % ต่ำ เล็บขาวซีด อ่อน แบน บุ๋มเหมือนช้อน
    - - ดูเเลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ Acetar 1000 cc vein drip 80 cc/hr ตามเเผนการรักษาเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและสารน้ำ
        
        กระตุ้นความอยากอาหาร ดูเเลทำความสะอาดช่องปากเเละฟันเพื่อให้ช่องปากเเละฟันสะอาด ช่วยลดรสชาติขมเเละรสชาติอื่นๆที่ทำให้ทานอาหารไม่ลง เพื่อเพิ่มความอยากอาหาร
        
        ให้ผู้ป่วยได้รับประทานอาหารที่ผู้ป่วยชอบเเต่ไม่ขัดต่อแผนการรักษา
        
        ประเมินอาการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง เยื่อบุตาซีด ในเลือดต่ำเพื่อประเมินการขาดสารอาหาร
  - - - เพื่อบรรเทาอาการปวด - เพื่อให้ผู้ป่วยนอนหลับพักผ่อนได้เพียงพอ
    - - Pain Score < 3
        
        ผู้ป่วยสามารถนอนหลับพักผ่อนได้นาน 6-8 ชม.
        
        ผู้ป่วยมีสีหน้าแจ่มใส สดชื่นขึ้น ไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวด
        
        สัญญาณชีพ อยู่ในเกณฑ์ปกติ (อุณหภูมิ 36.5-37.4oC ชีพจร 60-100/min อัตราการหายใจ 16-20/min และความดันโลหิต SBP อยู่ระหว่าง 90-140 mmHg และ DBP อยู่ระหว่าง 60-90 mmHg)
    - - ผู้ป่วยมี Cfx Rt. Calcaneus Cfx. both scapular fx ribs 7 - 8 Rt.
        
        Pain Score 4 คะแนน
        
        T.=36.8 c BP. 144-169/92-96 mmHg PR. 86/นาที RR.24ครั้ง/นาที
  - - - หายใจหอบเหนื่อย อัตราการหายใจ 24 ครั้ง/นาที ผู้ป่วยต้องออกเเรงในการหายใจเข้าเเละหายใจออก ความดันโลหิต 144-169/92-96 มิลิเมตรปรอท Fracture rib 7-8th Cfx. both Scapular RBC = 4.02*10^2 uL ต่ำ มีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืด
        oxygen saturation = 94%
    - - ผู้ป่วยมีการแลกเปลี่ยนแก๊สเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
        
        ผู้ป่วยรู้สึกสบาย ไม่มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ
    - - 1.อัตราการหายใจอยู่ในช่วง 18-24 ครั้ง/นาที สม่ำเสมอ ความเร็วความลึกเเละจังหวะการหายใจปกติ 2.ผู้ป่วยรู้สึกสบาย ไม่มีหายใจเหนื่อยหอบไม่กระสับกระส่าย 3. ไม่มีอาการปลายมือปลายเท้าเขียว 4.ขณะหายใจกล้ามเนื้อทรวงอกและกล้ามเนื้อหน้าท้องเคลื่อนไหวสัมพันธ์กัน 5.oxygen saturation มากกว่า 95%
    - - ให้ออกซิเจนแคนนูลา 3 ลิตรต่อนาทีเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกาย
        
        จัดท่ากึ่งตะเเคงด้านขวา เพื่อให้ปอดซ้ายด้านหน้าขยายตัวได้เต็มที่ เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกาย
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ และลดกิจกรรมการพยาบาลที่รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเพื่อลดการใช้ออกซิเจน
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาบรรเทาอาการปวดตามแผนการรักษาเช่น Morphineเพื่อลดการใช้ออกซิเจน
        
        ติดตามและสังเกตอาการของผู้ป่วยเช่นสังเกตการหายใจ,อาการกระสับกระส่าย
        
        ติดตามค่า oxygen saturation โดยให้มากกว่า 95% เพื่อติดตามภาวะพร่องออกซิเจน
        
        ส่งเสริมการขยายตัวของปอดเพื่อให้การแลกเปลี่ยนก๊าซเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อช่วยให้ปอดขยายตัวได้เต็มที่
        
        ประเมินความรู้สึกตัว สังเกตอาการกระสับกระส่าย สับสนของผู้ป่วย เนื่องจากภาวะพร่อง
        ออกซิเจนจะทำให้ผู้ป่วยสับสน
  - - - เพื่อให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการดูเเลตนเองในด้านการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรคและการป้องกันตนเองจากภาวะเเทรกซ้อน
    - - ผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรค การดูเเลตนเอง และลดภาวะเเทรกซ้อนของโรคได้อย่างถูกต้อง
    - - S : ผู้ป่วยชอบรับประทานของหวาน O : DTX = 194 - 267 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ BMI = 31.14
    - - 1.ให้คำเเนะนำเกี่ยวกับเรื่องอาหาร การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องเเละเหมาะสมกับโรค ควรงดเว้นการรับประทานของหวานขนมหวานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต 2.การออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด 3.เเนะนำสังเกตภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะมีอาการปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ซึมลง หมดสติ 4.แนะนำให้สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องมาพบเเพทย์ คือ มีเเผลที่เท้า ชาปลายมือปลายเท้า ตาพร่ามัว มีอาการบวมทั่วร่างกาย 6.แนะนำให้รักษาอย่างต่อเนื่องห้ามหยุดรับประทานยาโดยที่เเพทย์ไม่ได้สั่ง
  - - - เพื่อให้ผูป่วยปฏิบัติกิจกรรมได้ปกติ
    - - ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติกิจกรรมต่างๆได้ - ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในสิ่งที่ทำได้เช่นหยิบของ - ผู้ป่วยสุขสบายสีหน้า แจ่มใส
    - - ผู้ป่วยมี Cfx Rt. Calcaneus Cfx. both scapular fx ribs 7 - 8 Rt.
    - - ช่วยเหลือในการทำกิจกรรมของผู้ป่วยเช่นทำความสะอาดร่างกายเพื่อช่วยในส่วนที่พร่องกิจกรรม
        
        กระตุ้นให้ผู้ป่วยได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆในส่วนที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณค่าในตนเอง - ดูแลผู้ป่วยในเรื่องของการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ เพื่อให้ผู้ป่วยสุขสบาย - จัดสิ่งแวดล้อมรอบเตียงให้มีความเหมาะสม จัดของใช้ที่จำเป็นไว้ใกล้ผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความสะอาดและสะดวกในการใช้ - ยกไม้กั้นเตียงทุกครั้งหลังให้การพยาบาล เพื่อป้องกันการพลัดตกเตียง
- - - - กลไกการออกฤทธิ์ :ออกฤทธิ์โดยจับกับ mu (µ) receptors เป็นหลัก ที่บริเวณสมองและไขสันหลัง มีผลบรรเทาอาการปวด
        ผลข้างเคียง : ท้องผูก เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะคั่ง ปากแห้ง มึนงง ง่วงซึม สับสน วิงเวียน ตาพร่า หัวใจเต้นช้า เหงื่อออก คัน ความดัน
        โลหิตลดลง
        เหตุผลที่ใช้ : บรรเทาอาการปวดจากการมีกระดูกหัก ผู้ป่วยpain score= 4 คะแนน
    - - กลไกการออกฤทธิ์ : ออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งการสร้างสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin)ในระบบประสาทส่วนกลางและเพิ่มระดับกั้นความเจ็บปวด
        ผลข้างเคียง : คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการเหงื่อออก เบื่ออาหาร ทำให้เกิดการบาดเจ็บในตับ เกิดอาการสมองเสื่อมจากโรคตับได้
        เหตุผลที่ใช้ : บรรเทาอาการปวดจากการมีกระดูกหัก ผู้ป่วยpain score= 4 คะแนน
    - - เพิ่มน้ำเเละอิเล็คโทรไลน์ ให้เเก่ร่างกายทดเเทนเลือดที่เสียไปเนื่องจากมีปริมาณ RBC ต่ำจากการที่กระดูกหัก
    - - กลไกการออกฤทธิ์ : เป็นยาปรับระดับน้ำตาลในเลือดยาจะออกฤทธิ์สูงสุดภายใน1 ชั่โมง และอยู่ได้นาน 6-16 ชั่วโมง
        ผลข้างเคียง หลังฉีดยาควรเฝ้าระวังอาการใจสั่น อ่อนเพลีย เหงื่อออก ตัวเย็น
        เหตุผลที่ใช้ : ใช้ลดระดับน้ำตาลในเลือด เจาะน้ำตาลในเลือดได้ 194 - 267 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์