Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Functional health patterns - Coggle Diagram
Functional health patterns
ความหมายของแบบแผนสุขภาพ
แบบแผนสุขภาพ
พฤติกรรมด้านสุขภาพของบุคคลซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง และมีผลต่อสุขภาพ
แบบแผน
พฤติกรรมของบุคคลที่ต่อเนื่องกันในช่วงเวลาหนึ่ง
กรอบแนวคิดแบบแผนสุขภาพ
ประเมินจากพฤติกรรมทั้งภายนอกและภายใน
มนุษย์จะมีภาวะสุขภาพที่ดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความปกติ(function)หรือผิดปกติ (dysfunction) ของแบบแผนสุขภาพ
แบบแผนสุขภาพใช้เป็นแนวคิดในการประเมินภาวสุขภาพของบุคคลครอบครัวหรือชุมชน ทั้งในภาวะปกติและภาวะเจ็บป่วย
มี11 แบบแผน
พัฒนาโดย Majory Gordon ศาสตราจารย์ทางการพยาบาลที่วิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
องค์ประกอบของแบบแผนสุขภาพแต่ละแบบแผน
พฤติกรรมภายใน
กระบวนการทำงานทางกาย หรือทางชีวภาพในระบบต่างๆ เช่น ระบบหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด
กระบวนการคิด ความรู้ของบุคคลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ
คือ พฤติกรรมที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือใช้เครื่องมือทาง
วิทยาศาสตร์ตรวจสอบได้โดยตรง
เจตคติ ซึ่งประกอบด้วยความรู้สึก ความคิดเห็น ค่านิยมของบุคคล
ปัจจัยส่งเสริมพฤติกรรมและอุปสรรค
พฤติกรรมภายนอก และพฤติกรรมภายใน จะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน
พฤติกรรมภายในเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมภายนอก
พฤติกรรมภายนอก
พฤติกรรมที่ไม่ใช่คำพูด เช่น กิริยา ท่าทาง การเดิน การหัวเราะ ร้องไห้ ฯลฯ
การตรวจโดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น การตรวจวัดสัญญาณชีพ การเอกซเรย
พฤติกรรมที่เป็นคำพูด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือด การตรวจสิ่งคัดหลังต่างๆ
คือการกระทำที่แสดงออกมาให้สังเกตเห็นได้ รับรู้ได้ หรือใช้เครื่องมือตรวจสอบได้ เช่น
กระบวนการพยาบาล (Nursing Process)
การประเมิน
ภาวะสุขภาพ
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การจัดระบบข้อมูล
การบันทึกข้อมูล
การวินิจฉัย
การพยาบาล
การวางแผนการพยาบาล
การนำไป
ปฏิบัติ
การ
ประเมินผล
1 more item...
11 แบบแผนสุขภาพของ Majory Gordon
4. แบบแผนกิจกรรมและการออกกำลังกาย
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อไม่สามารถทำกิจกรรมที่ตนเองต้องการ หรือไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้เนื่องด้วยข้อจำกัดต่างๆ
การซักประวัติ
การเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ
ความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ
การได้รับบาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุต่อกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ
การมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ
ปัจจัยเสริมที่ทำให้มีความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
การได้รับบาดเจ็บที่ทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ
ปัจจัยที่ทำให้ความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันเปลี่ยนแปลง / ลดลง
การใช้ยาต่างๆ ที่มีผลต่อการหายใจ
ประวัติการเป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
ประวัติการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
ประวัติเกี่ยวกับนันทนาการ งานอดิเรกหรือการใช้เวลาว่าง
ประวัติการมีปัจจัยเสี่ยงต่อการมีปัญหาระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
การออกกำลังกาย ชนิดของการออกกำลังกาย ระยะเวลาในการออกกำลังกายสัปดาห์ละกี่ครั้ง แต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไร
ประวัติการใช้ยาที่มีผลต่อการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนโลหิต และการเกิดฤทธิ์ข้างเคียงของยา
กิจกรรมในงานอาชีพหนักเบาอย่างไร
ประวัติการเกิดอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
ความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัวด้วยโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดและหัวใจ ไขมันในเลือดสูง
ผลกระทบที่เกิดจากการเจ็บป่วยต่อการประกอบกิจกรรมและการออกกำลังกาย
การตรวจร่างกาย
ตรวจร่างกายระบบต่างๆ เพื่อประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ
สังเกตการทำกิจกรรมต่างๆ ของผู้ป่วย
ประเมินความสามารถในการเคลื่อนไหวของแขนขา
ตรวจวัดสัญญาณชีพ ประเมินอาการของความดันโลหิตสูง
สังเกตความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ
ตรวจอาการขาดออกซิเจน
ข้อจำกัดหรือเงื่อนไขในการดำเนินชีวิตที่มีผลต่อการทำกิจกรรมและออกกำลังกาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
การตรวจเลือดและตรวจเอกซเรย์ปอด เพื่อประเมินภาวะผิดปกติที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ หรือไม่
เป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินระดับความสามารถในการประกอบกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน
5. แบบแผนการพักผ่อนนอนหลับ
การซักประวัติ
ปัญหาเกี่ยวกับการนอน
พฤติกรรมการผ่อนคลาย ชนิดและความถี่ของกิจกรรมที่ทำเพื่อให้ผ่อนคลาย
พฤติกรรมหรือสิ่งที่ช่วยทำให้นอนหลับได้ง่าย
มีการใช้ยานอนหลับหรือไม่ ถ้ามีใช้ยาอะไร ตั้งแต่เมื่อไร ความถี่ในการใช้ยา
พฤติกรรมการนอน ประวัติเกี่ยวกับอุปนิสัยการนอน
การตรวจร่างกาย
สังเกตหน้าตาว่านอนหลับพักผ่อนเพียงพอหรือไม่
เป็นแบบแผนเกี่ยวกับการนอนหลับ การพักผ่อน ปัญหาเกี่ยวกับการนอน ปัจจัยส่งเสริม ปัจจัยเสี่ยง และอุปสรรคต่อแบบแผนการนอน กิจกรรมที่บุคคลปฏิบัติเพื่อให้ผ่อนคลาย
2. แบบแผนโภชนาการและการเผาผลาญสารอาหาร
ประเมินการทำงานของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับภาวะโภชนาการ ได้แก่ การเคี้ยว การกลืน การย่อย การดูดซึม และการเผาผลาญ
การซักประวัติ
ประวัติการเพิ่มหรือลดของน้ำหนักตัวจากปกติ
ประวัติการเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญสารอาหารที่ผิดปกติทั้งของผู้ป่วยและครอบครัว
ปัญหาในการรับประทานอาหาร เช่น รับประทานอาหารแล้วมีอาการแน่นท้อง
การรับประทานยาที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญสารอาหาร
ประวัติการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร
ชนิด และปริมาณน้ำที่ดื่มในหนึ่งวัน
มีความรู้เกี่ยวกับอาหารและโภชนาการหรือไม่
โรคหรือภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำ ภาวะน้ำเกิน หรือมีปัญหาความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์
แบบแผนเกี่ยวกับบริโภคนิสัยและแบบแผนการดำเนินชีวิต (life style)
ยาที่ได้รับซึ่งอาจมีผลต่อความสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย
ปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการได้รับสารอาหาร น้ำ เกลือแร่ ค้นหาสิ่งที่บ่งชี้ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของภาวะทุพโภชนาการ
การตรวจร่างกาย
ประเมินภาวะโภชนาการว่าอ้วน ท้วม ปกติ หรือผอม โดยประเมินจากน้ำหนักและส่วนสูงที่สมดุลกันหรือประเมินจากดัชนีมวลกาย (BMI)
การตรวจร่างกาย (น้ำและอิเล็กโทรไลต์)
ตรวจดูจำนวนและสีของน้ำปัสสาวะ
ประเมินอาการขาดน้ำ(Dehydration) จากการตรวจร่างกาย
ตรวจริมฝีปาก เยื่อบุปาก และลิ้นว่ามีแตก แห้งหรือไม่
ตรวจดูอาการบวม (Edema)
ผิวหนัง ตรวจดูความยืดหยุ่น (skin turgor) ความอุ่น ความชื้นของผิวหนัง
ตรวจลักษณะท้อง ตับ ม้าม ก้อนในท้อง ฟังเสียงการเคลื่อนไหวของลำไส้ (Bowel sound)
ประเมินพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยพิจารณาความสอดคล้องกับอาหารที่ควรได้รับและน้ำหนักตัว
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
การตรวจเลือดเพื่อประเมินปัญหาเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ ความสมดุลของสารน้ำและเกลือแร่ต่างๆ ในร่างกาย
การตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound) ประเมินความผิดปกติของอวัยวะภายในช่องท้องและทางเดินอาหาร
3. แบบแผนการขับถ่าย
การซักประวัติ
ประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะหรือไต
ประวัติการใช้ยาต่างๆ เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต ซึ่งมีผลต่อการทำงานของไต
ปัจจัยส่งเสริม และปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อแบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะปกติ
ซักประวัติเกี่ยวกับแบบแผนการขับถ่ายอุจจาระ
ปัญหาการขับถ่ายปัสสาวะและวิธีการแก้ไข เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะลำบาก
ปัญหาในการขับถ่ายอุจจาระและวิธีการแก้ไข
ปัจจัยส่งเสริมและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อแบบแผนการขับถ่ายอุจจาระ
แบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะวันละกี่ครั้ง จำนวนมากน้อยเท่าใด ชอบกลั้นปัสสาวะหรือไม่ ปัสสาวะตอนกลางคืนหรือไม่ จำนวนกี่ครั้ง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
ตรวจเลือดเพื่อดูระดับของยูเรีย ไนโตรเจน และครีเอตินินในเลือดบ่งบอกการทำงานของไต
เอกซเรย์Ultrasound ดูความผิดปกติของไต ท่อไต และการอุดตันทางเดินปัสสาวะ
ตรวจปัสสาวะ เพื่อประเมินความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
การตรวจอุจจาระเพื่อประเมินว่าอุจจาระมีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว พยาธิ หรือมีเลือดปนในอุจจาระหรือไม่
การส่องกล้องเข้าทางทวารหนักเพื่อตรวจหาความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ หรือ เพื่อการถ่ายภาพรังสีทางทวารหนัก
เป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินกระบวนการขับถ่าย ลักษณะ ปริมาณ จำนวนครั้งของของเสียทุกประเภทที่ออกจากร่างกายทั้งอุจจาระ ปัสสาวะ น้ำและอิเลคโตรไลท์
การตรวจร่างกาย
สังเกตการมีกระเพาะปัสสาวะเต็ม (Full Bladder)
ตรวจร่างกายทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะ
สังเกตสี ปริมาณ ลักษณะปัสสาวะที่ขับออกมาจากผู้ป่วย และปัญหาการขับถ่ายปัสสาวะว่ามีความผิดปกติหรือไม่ สอดคล้องกับการซักประวัติหรือไม่
ตรวจดูลักษณะท้อง ตรวจการเคลื่อนไหวของลำไส้ (Bowel sound) ตรวจทวารหนักเพื่อดูแผล ตรวจปริมาณ ลักษณะของอุจจาระว่ามีลักษณะผิดปกติหรือไม
1. แบบแผนการรับรู้ภาวะสุขภาพและการดูแลสุขภาพ
ความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง
พฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันความเจ็บป่วย การดูแลรักษา และการฟื้นฟูสภาพร่างกาย
เป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินความคิด ความเข้าใจของบุคคลต่อภาวะสุขภาพ โดยทั่วไปของตนเองและของผู้ที่ตนรับผิดชอบ ว่าถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ และมีความคาดหวังต่อภาวะสุขภาพหรือการรักษาอย่างไร
รวบรวมโดย
การซักประวัติ
และ
การตรวจร่างกาย
การซักประวัติ
มีความต้องการความช่วยเหลือจากทีมการพยาบาลหรือผู้รักษาอย่างไร
การตรวจร่างกายประจำปี
มีความรู้สึกและความคาดหวังเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นอย่างไร
การได้รับภูมิคุ้มกัน
การรับประทานยาเป็นประจำและเหตุผลที่รับประทานยา
การมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ
การรับรู้สุขภาพของตนเองหรือบุคคลที่รับผิดชอบทั้งอดีตและปัจจุบันเป็นอย่างไร ถูกต้องหรือไม
ประวัติการแพ้สารต่างๆ
การดูแลความสะอาดของร่างกายตนเอง
มีความรู้เกี่ยวกับโรคที่เป็นหรือสาเหตุของโรคถูกต้องหรือไม่ อย่างไร และวิธีการแก้ไขเมื่อเจ็บป่วย
ประวัติ ความถี่ในการเกิดอาการเจ็บป่วย บ่อยเพียงใด
การตรวจร่างกาย
ความสะอาดของร่างกาย เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
ความร่วมมือในการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยหรือครอบครัว
ลักษณะทั่วไปและความพิการ เช่น ท่าทางการเดิน การลุกนั่ง การ
เคลื่อนไหวแขนขา การพูดคุย การแสดงสีหน้า
สังเกตการปฏิบัติตนขณะเจ็บป่วยของผู้ป่วย หรือการได้รับการดูแล
จากครอบครัว
9.แบบแผนเพศและการเจริญพันธุ์
การซักประวัติ
การมีเพศสัมพันธ์ ปัญหาเพศสัมพันธ์ ความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์และการป้องกันโรคติดต่อกันได้ทางเพศสัมพันธ์
การมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ติดต่อกันได้ทางเพศสัมพันธ์ การมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม เช่น รักร่วมเพศ
การเจริญพันธ์ และการทำงานของระบบสืบพันธุ์
เพศหญิงควรซักประวัติเกี่ยวกับการตั้งครรภ์
การตรวจร่างกาย
เพศหญิง ตรวจเต้านม ต่อมน้ าเหลือง อวัยวะเพศหญิง เพศชาย ตรวจอวัยวะเพศชาย ตรวจอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
สังเกตพฤติกรรมทางเพศจากลักษณะท่าทางที่แสดงออก
เป็นแบบแผนเกี่ยวกับพัฒนาการตามเพศซึ่งมีอิทธิพลมาจากพัฒนาการด้านร่างกายและอิทธิพลของสังคม สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู ลักษณะการเจริญพันธุ์ พฤติกรรมทางเพศและเพศสัมพันธ์
10. แบบแผนการปรับตัวและการเผชิญความเครียด
การซักประวัติ
ซักถามสิ่งที่ทำให้เกิดความเครียด ไม่สบายใจ วิตกกังวล กลัว เครียด คับข้องใจ
อาการต่างๆ เมื่อเกิดความเครียด นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร เหนื่อยหอบ
สัมภาษณ์เกี่ยวกับลักษณะอุปนิสัยหรืออารมณ์พื้นฐานของผู้ป่วย
วิธีการจัดการความเครียด
ข้อมูลทั่วไป
ซักถามความต้องการการช่วยเหลือและบุคคลที่สนับสนุนให้กำลังใจช่วยแก้ปัญหา
การตรวจร่างกาย
ตรวจสอบพฤติกรรมที่บ่งชี้ถึงความเครียด ความเศร้า ความวิตกกังวล
เป็นแบบแผนเกี่ยวกับการรับรู้ลักษณะอารมณ์พื้นฐาน
8. แบบแผนบทบาทและสัมพันธภาพ
การซักประวัติ
การแสดงบทบาทในครอบครัวทั้งในขณะที่มีสุขภาพดีและการเปลี่ยนแปลงบทบาทในขณะเจ็บป่วยมีผลกระทบต่อครอบครัวหรือไม่
สัมพันธภาพของผู้ป่วยกับครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน การเปลี่ยนแปลงของสัมพันธภาพโดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือช่วยตนเองไม่ได
หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ป่วยและสมาชิกคนอื่นๆ ต่อครอบครัว
ตำแหน่งความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การงาน อาชีพ
โครงสร้างครอบครัว
สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างสัมพันธภาพที่ดี
การตรวจร่างกาย
สังเกตพฤติกรรมต่างๆ หรือท่าทางที่แสดงออกต่อครอบครัวและบุคคลในครอบครัวแสดงต่อผู้ป่วย ลักษณะการโต้ตอบระหว่างผู้ป่วยกับบุคคลในครอบครัว
แบบแผนเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ การติดต่อสื่อสารและการมีสัมพันธภาพกับ
11. แบบแผนคุณค่าและความเชื่อ
การซักประวัติ
ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรม
ความหวังหรือเป้าหมายในชีวิต
สิ่งสำคัญในชีวิต หรือสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อาจเป็นบุคคล วัตถุ สิ่งของ ศาสนา คุณงามความดี
การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ความเชื่อทางศาสนา ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม
ความเชื่อ ความผูกพัน ความศรัทธาที่มีต่อสิ่งต่างๆ
ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพ
การตรวจร่างกาย
สังเกตคำพูดของผู้ป่วยและญาติที่แสดงถึงการให้คุณค่าและการมีความเชื่อในด้านต่างๆ
สังเกตการแสดงออกที่แสดงถึงความเชื่อต่างๆ
สังเกตพฤติกรรมที่แสดงออกทางสีหน้า กริยาท่าทาง รวมทั้งการแสดงออกทางอารมณ์
เป็นแบบแผนเกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธา ความมั่นคงเข้มแข็งทางด้านจิตใจ สิ่งที่มีคุณค่า มีความหมายต่อชีวิต สิ่งยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ
7. แบบแผนการรับรู้ตนเองและอัตมโนทัศน์
การซักประวัติ
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงร่างกายที่มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับการสูญเสียอวัยวะจากการเป็นโรค การผ่าตัด
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับความสามารถในด้านต่างๆ
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับความภาคภูมิใจในตนเอง ความพอใจในตนเอง ความรู้สึกสูญเสียความมั่นคงปลอดภัย ท้อแท้ สิ้นหวัง
ความรู้สึกต่อตนเองเกี่ยวกับภาพลักษณ์โดยทั่วไป รู้สึกว่าอ้วน ผอม สูงหรือเตี้ยเกินไป
การตรวจร่างกาย
การแต่งกาย บุคลิกภาพ
การกล่าวถึงตนเอง
สังเกตความสนใจตนเองของผู้ป่วย
การสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองหรือพฤติกรรมที่แสดงออกต่อการเปลี่ยนแปลงหรือสูญเสีย
แบบแผนที่เกี่ยวกับความคิด ความรู้สึกของบุคคลที่มีต่อตนเอง (อัตมโนทัศน์) การมองตนเองเกี่ยวกับรูปร่าง หน้าตา ความพิการ (ภาพลักษณ์) ความสามารถ คุณค่า เอกลักษณ์ และความภูมิใจในตนเอง
6. แบบแผนสติปัญญาและการรับรู้
ความสามารถทางสติปัญญา
การซักประวัติ
ปัญหาเกี่ยวกับการรับรส ไม่สามารถรับรสได้ ปากชา ลิ้นชา
ปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้ความรู้สึกทางผิวหนัง
ปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน เช่น หูอื้อ หูตึง
ประวัติความเจ็บป่วยหรือโรคประจำตัวที่มีผลต่อการรับรู้ความรู้สึกดังกล่าว
ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น เช่น เห็นภาพซ้อน
พัฒนาการด้านสติปัญญา โดยการซักถาม
ปัญหาเกี่ยวกับการได้กลิ่น เช่น มีความผิดปกติของจมูก
ความเจ็บป่วยที่ทำให้ความสามารถทางสติปัญญาเปลี่ยนแปลง
ปัญหาเกี่ยวกับความรู้สึกตัว เช่น มีอาการสับสน
ประวัติการได้รับยาบางชนิดซึ่งมีผลต่อความคิด ความจำ หรือทำให้มีอาการสับสน
ความรู้สึกทั่วไป สุขสบายหรือไม่สุขสบาย
การรับรู้ความรู้สึกและการตอบสนอง
การตรวจร่างกาย
สังเกตลักษณะทั่วไป
ประเมินระดับสติปัญญา (IQ) โดยใช้แบบทดสอบ
ประเมินระดับความรู้สึกตัว