Non-reassuring FHR

ข้อมูลส่วนตัว
หญิงตั้งครรภ์อายุ 33 ปี G1P0A0 GA 39 wks by U/S
อาการสำคัญ : มีน้ำเดิน 2 hr ก่อนมา รพ.

พยาธิสภาพ
ภาวะที่ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จึงทำให้ทารกแสดงอาการพร่องออกซิเจนหัวใจเต้นเร็วหรือช้ากว่า baseline

รูปแบบการเต้นของหัวใจทารก

  • FHS Basline
    • ปกติ : 110-160 bpm
    • Tachycardia : baseline FHR > 160 bpm
    • Bradycardia : baseline FHR < 110 bpm
  • FHS Variability : อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง


    • Absent variability : ไม่มีความแปรปรวนของ FHS


    • Minimal variability : มีการเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าเท่ากับ 5 bpm


    • Moderate variability : มีการเปลี่ยนแปลง 6-25 bpm


    • Marked variability : มีการเปลี่ยนแปลง > 25 bpm



    เมื่อมดลูกหดรัดตัว มี 2 แบบ

  • Acceleration : การเพิ่มขึ้นของ FHS


    • อายุครรภ์ > 32 สัปดาห์ FHS มากกว่าหรือเท่ากับ 15 bpm นานกว่า 15 วินาที


    • อายุครรภ์ < 32 สัปดาห์ FHS มากกว่าหรือเท่ากับ 10 bpm นานกว่า 10 วินาที


  • Deceleration แบ่งเป็น 4 แบบ


    • Early deceleration


    การลดลงของ FHS อย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไปและ


    กลับคืนสู่ baseline อย่างช้า ๆ สัมพันธ์กับการ


    หดรัดตัวของมดลูก โดยจุดตั้งต้นของการลดลงของ


    FHS จุดต่ำสุด และการกลับคืนสู่ baseline จะตรง


    กับจุดเริ่มต้นของการหดรัดตัวของมดลูก จุดสูงสุด


    และการคลายตัวของมดลูกกลับคืนสู่ baseline


    ตามลำดับ


    • Late deceleration :


    การลดลงของ FHS อย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไปและ


    กลับคืนสู่ baseline อย่างช้า ๆ สัมพันธ์กับการ


    หดรัดตัวของมดลูก โดยจุดตั้งต้นของการลดลงของ


    FHS จุดต่ำสุด และการกลับคืนสู่ baseline จะเกิด


    ช้ากว่าจุดเริ่มต้นของการหดรัดตัวของมดลูก จุดสูงสุด


    และการคลายตัวของมดลูกกลับคืนสู่ baseline


    ตามลำดับ


    • Variable deceleration : กา รลดลงของ FHS อย่างฉับพลัน โดย FHS จะลดลงมากว่าหรือเท่ากับ 15 bpm คงอยู่นานมากกว่าหรือเท่ากับ 15 วินาที และคงอยู่นานไม่เกิน 2 นาที โดยสัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูกหรือไม่ก็ได้


    • Prolonged deceleration : การลดลงของ FHS ต่ำกว่า baseline โดยมีการลดลงมากกว่าหรือเท่ากับ 15 bpm และคงอยู่นาน 2 นาทีหรือมากกว่า แต่ไม่เกิน 10


    Sinusoidal pattern : การเปลี่ยนแปลงของ baseline FHS เป็นรูป sine wave ลักษณะขึ้นลงคลายคลื่น ไม่มี variability

click to edit

ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต : ปฏิเสธ
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว : ปฏิเสธ
ประวัติการผ่าตัด : ปี 2541 ผ่าตัดไส้เลื่อน
ประวัติการแพ้ยาและอาหาร : ปฏิเสธ
น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์ 52 kg. ส่วนสูง 163 cm.
BMI ก่อนการตั้งครรภ์ = 20.3 / TWG = 21.2 kg.

อาการแรกรับ
BT : 36.6 องศาเซลเซียส
PR : 88 bpm
RR : 18 bpm
BP : 134/88 mmHg
O2 sat = 98%
Pain score = 4 คะแนน

การพยาบาลที่สำคัญ

1.ทารกในครรภ์เสี่ยงพร่องออกซิเจน
2.มารดาเสี่ยงติดเชื้อเนื่องจากถุงน้ำคร่ำรั่ว
3.มารดาวิตกกังวลต่อการเจ็บป่วยของทารกในครรภ์

การดูแล

  • กรณีได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ให้หยุดให้ทันที
  • ดูแลให้มารดานอนตะแคงซ้าย เพื่อลดการกดทับที่บริเวณเส้นเลือด Inferior vena cava เพื่อให้เส้นเลือดสามารถไหลเวียนเพิ่มขึ้นที่มดลูกและรก
  • ประเมิน FHS และ Uterine Contraction ทุก 1 ชม. เพื่อประเมินภาวะ fetal distress
  • ถ้ามารดามีอัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 100 ครั้ง/นาที และอัตราการหายใจมากกว่า 24 ครั้ง/นาที ให้มารดา On O2 cannula 5 LPM ตามแผนการรักษาของแพทย์
  • ดูแลให้ IV Fluid ตามแผนการรักษา
  • ตรวจทางช่องคลอด เพื่อประเมินภาวะ prolapsed cord

24 ก.พ. 2565

  • 02.00 น. : I=5’-7’ D=30” ++
    DIL1 cm, EFF 80%, -1
  • 02.30 น : I=5’-7’ D=30” ++
  • 03.30 น. : I=7’ D=30” ++
  • 04.30 น. : I=5’-7’ D=30” ++
  • 05.30 น. : I=5’-7’ D=30” ++
    DIL 3 cm, EFF 50%, -1
  • 06.30 น. : I=3’-15’ D=30” ++
    DIL 3 cm, EFF 100%, -1
  • 06.40 น. : I=3’-30’ D=30” ++

ทารกในครรภ์มีภาวะ non-reassuring FHS แพทย์จึง plan C/S เพื่อป้องกันทารกเสียชีวิตในครรภ์

FHS

  • 02.00 น. = 144 bpm
  • 02.30 น. = 148 bpm
  • 03.30 น. = 140 bpm
  • 04.30 น. = 136 bpm
  • 05.30 น. = 144 bpm
  • 06.30 น. = 100-136 bpm
  • 06.40 น. = 110-130 bpm

ผลการตรวจครรภ์ทางหน้าท้อง

  • Fundal grip = ¾ เหนือสะดือ
  • Umbilical grip = Large part Right side, FHS = 144 bpm
  • Pawlik’s grip = Vertex, OR
    • Bilateral grip = HE

ผลการตรวจทางช่องคลอด
PV : cervix dilate 1 cm., effacement 80%, Station -1, ML (clear)

ผลการตรวจ UC แรกรับ
Interval 5’-7’, duration 30”,Intensity ++

การแปรผล FHR

Category I ต้องมีองค์ประกอบต่อไปนี้ครบทุกข้อ

  • Baseline FHR 110-160 bpm
  • Baseline FHR variability : moderat
  • ต้องไม่มี late หรือ variable deceleration
  • Early deceleration : อาจมีหรือไม่มีก็ได้
  • Acceleration : อาจมีหรือไม่มีก็ได้

Category II รวม FHR tracing ที่ไม่จัดอยู่ใน Category I หรือ Category II
ตัวอย่างของ FHR tracing ที่จัดเป็น Category Il ได้แก่

  • Baseline FHR
    • Bradycardia ที่ยังมี variability
    • Tachycardia
  • Baseline FHR variability
    • Minimal baseline variability
    • Absent baseline variability ที่ไม่มี recurrent deceleration
    • Marked baseline variability
  • Acceleration
    • ไม่มี acceleration เมื่อกระตุ้นทารกด้วย digital scalp stimulation หรือ vibroacoustic stimulation
  • Periodic or episodic deceleration
    • Recurrent variable deceleration ที่ยังมี minimal หรือ moderate baseline variability
    • Prolonged deceleration ที่นานเกิน 2 นาที แต่ไม่ถึง 10 นาที
    • Recurrent late deceleration ที่มี moderate baseline variability
    • Variable deceleration ที่มีลักษณะ slow return to baseline, overshoot หรือ shoulder

Category III อาจมีลักษณะเหมือนข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้

  • Absent baseline FHR variability ร่วมกับข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
    • Recurrent late deceleration
    • Recurrent variable deceleration
    • Bradycardia
  • Sinusoidal pattern