Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Caesarean section due to CPD with PPROM with GDMA1 - Coggle Diagram

- - - - การวินิจฉัย
        
        แนวทางการรักษา
        
        PPROM < 37 wks
        
        GA < 34 wks
        
        GA 24-33 wks
        ตรวจหาข้อห้ามของการยังยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
        -Severe Preeclampsia
        -Placenta abruption
        -Fetal distress
        -Fetal death in Utero
        
        ไม่มี
        
        1 more item...
        
        มี
        
        1 more item...
        
        GA > 34 wks
        
        เฝ้าระวัง Chorioamnionitis
        Fetal monitor
        ให้ยาATB
        Deliver Induced labor or C/S
        Notify กุมารแพทย์
        
        -สังเกตอาการการติดเชื้อ เช่น มีไข้ กดเจ็บบริเวณมดลูก
        ใส่ผ้าขวางรองก้นหญิงตั้งครรภ์ เพื่อสังเกตลักษณะ สี กลิ่นของน้ำคร่ำ : ไม่มีอาการการติดเชื้อ และ น้ำคร่ำสีใส ไม่มีกลิ่นเหม็น
        -On fetal monitor : reassuring FHS ,FHS อยู่ในช่วง 138-154 bpm
        -ให้ยา ATB เพื่อป้องกันการติดเชื้อ GBS ได้แก่ Ampicillin 2 gm iv stat then 1 gm iv q 4 hr
        -แพทย์ ให้ 5%DN/2 1000 ml + syntocinon 10 unit iv drip 12 ml/hr
        เพิ่ม rate 16 ml/hr I 3’30’’ D 30’’ In ++ dil 4 eff 100 sta -1 OL 138 bpm
        set C/S due to CPD
        
        TPROM ≥ 37 wks
        
        Normal labor induction of labor
        C/S ถ้ามี Fetal distress จาก Oligohydramnios
        
        Prolonged PROM
        ถุงน้ำคร่ำแตกนานกว่า 24 hr.
        
        Prolonged PROM ถุงน้ำคร่ำแตกนานกว่า 24 hr
        ATBคือ Ampicillin 2 gm IV q 24 hr
        
        การรักษาแบบประคับประคอง
        
        Bed rest
        เก็บตัวอย่างน้ำคร่ำไปเพาะเชื้อ
        งด PV
        เฝ้าระวัง Chorioamnionitis
        Fetal monitor
        ให้ยากลุ่ม corticosteroid
        ให้ยา ATB
        
        ซักประวัติ
        
        การตรวจร่างกาย
        -ดู ; ลักษณะปากช่องคลอดเปียกชื้น Cough test
        -คลำ ; ใช้นิ้วมือคลำบริเวณปากมดลูก ทำในรายปากมดลูกเปิดแล้ว
        
        การตรวจพิเศษ
        -Nitrazine paper test กระดาษสีเหลืองเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
        -Fern‘S test ตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ตกผลึกเป็นรูปใบเฟิร์น
        -Nile blue sulfate ลนไฟติดสีแดง ดูด้วยกล้องจุลทรรศน์จะพบเซลล์ไขมันทารก
        -U/S พบว่ามีปริมาณน้ำคร่ำน้อย
        
        Nitrazine test : Positive
        U/S พบ AFI = 2.3 cm.
        
        Cough test : Positive
        
        มีน้ำสีใสไหลออกทางช่องคลอด
      - PPROM
        (Preterm premature of membranes
        ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์จริง 24-37 wks
        
        TPROM
        (Term premature of membranes)
        ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกอายุครรภ์ครบกำหนดการเจ็บครรภ์จริง มากกว่าเท่ากับ 37 wks
        
        Prolonged PROM
        ระยะเวลาตั้งแต่ถุงน้ำคร่ำแตกจนเจ็บครรภ์คลอด นานเกิน 24 ชั่วโมง
        
        หญิงตั้งครรภ์ GA 36+2 wks มีน้ำสีใสไหลออกทางช่องคลอดเวลา 01.30 น.
        และเจ็บครรภ์ ทุก 5-8 นาที นานครั้งละ 30 วินาที เวลา 01.40 น.
        (PPROM)
- - - - ปากมดลูกเปิดอย่างน้อย 4 เซนติเมตรขึ้นไป และบางตัว
        อย่างน้อยร้อยละ 80 ขึ้นไป
        
        มดลูกหดรัดตัวสม่ำเสมอและแรงพออย่างน้อย 2 ชั่วโมง
        
        การดำเนินการคลอดผิดปกติ คือมี protraction disorders หรือ arrest disorders
        
        ปากมดลูกเปิด 4 cm บาง 100 %
        
        I 3’30‘’ D 30’‘ In ++ Dil 2 cm Eff 100%
        sta -1 OL FHS 138 bpm
        
        07.15 น. ปากมดลูกเปิด 2 cm
        09.30 น. ปากมดลูกเปิด 4 cm
        ใช้เวลา 2 ชม. ปากมดลูกเปิดจาก 2 cm เป็น 4 cm
      - การจำแนกชนิด
        
        แบบสมบูรณ์ (absolute CPD/True Mechanical Obstruction) หมายถึง มีความแตกต่างของขนาดศีรษะทารกและขนาดของอุ้งเชิงกราน ซึ่งทำให้ทารกไม่สามารถคลอดทางช่องคลอดได้
        
        เมื่อแพทย์ตรวจภายใน แพทย์ตัดสินใจให้ set c/s ซึ่งเกิดความแตกต่างของอุ้งเชิงกรานและขนาดศีรษะทารก
        
        แบบสัมพัทธ์ (relative CPD) หมายถึง การที่ศีรษะทารกมีการบิดหรือเงย ทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางของ ศีรษะทารกที่จะผ่านช่องทางคลอดใหญ่เกินกว่าจะผ่านลงมาได้
        
        ปัจจัยการคลอด
        
        แนวทางการรักษา
        
        การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกกับกระดูกเชิงกราน
        
        ซักประวัติการคลอดครรภ์ก่อน การคลอดยาก และการคลอดโดยใช้สูติศาสตร์หัตถการ อื่น ๆ เช่น การใช้ดคีมช่วยคลอด การใช้เครื่องดูดสูญญากาศ เป็นต้น
        
        ตรวจร่างกายทั่วไป ถ้าผู้คลอดสูงน้อยกว่า 145 เซนติเมตร จะมีผลต่อการคลอด อาจเกิดภาวะผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกกับกระดูกเชิงกรานได้
        
        ตรวจครรภ์ หากทารกอยู่ในท่าผิดปกติ หรือศีรษะทารกยังไม่ผ่านลงช่องเชิงกรานในช่วงก่อนคลอด อาจสงสัยภาวะเชิงกรานแคบได้
        
        มีการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่า ไม่มีการเคลื่อนต่ำของศีรษะทารก มีการบวมของปากมดลูก การหดรัดตัวของมดลูกผิดปกติ การคลอดล่าช้า ทดลองให้คลอดทางช่องคลอดไม่เป็นสำเร็จ ควรรายงานแพทย์เนื่องจากอาจเกิดภาวะผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกกับกระดูกเชิงกรานได้
        
        หากพบความผิดปกติหรือสงสัยว่าผู้คลอดอาจเกิดภาวะผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารก
        กับกระดูกเชิงกราน ควรรายงานแพทย์เพื่อพิจารณาใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอดต่อไป เพราะหากการคลอดดำเนินต่อไปอาจส่งผลเสียต่อทั้งผู้คลอดและทารกในครรภ์ได้
        
        แพทย์ตรวจภายใน และตัดสินใจ set c/s
        
        Power (แรงเบ่ง)
        
        Passage (ช่องทางคลอด) **
        2.1 Bony passage (ช่องเชิงกราน)
        2.2 Soft passage (ช่องคลอดที่เป็นกล้ามเนื้อ/เนื้อเยื่อ)
        
        Passenger (สิ่งที่จะผ่านช่องทางคลอด) **
        
        Psychological (การตอบสนองทาวจิตใจ)
        
        Physical condition (สภาพร่างกาย)
        
        Position of moter (ท่าคลอดของมารดา)
        
        เวลา 09.30 น I 3’30‘’ D 30’‘ In ++ Dil 2 cm Eff 100% sta -1 OL
        FHS 138 bpm แพทย์ตรวจภายใน
        จึงตัดสินใจ Set C/S due to CPD
        สันนิษฐานว่าแพทย์อาจจะตัดสินใจจากการที่ Passage ของมารดาอาจจะมีขนาดที่แคบกว่าศีรษะทารก
- - - - การแบ่งชนิดของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
        แบ่งได้ 2 ประเภท
        
        GDM A1 คือหญิงตั้งครรภ์ที่มี OGTT
        ผิดปกติตั้งแต่ 2 ค่าขึ้นไป ค่า FBS < 95 MG% และ
        2 HOURS Postpandial < 120 MG%
        
        แพทย์วินิจฉัย เป็น GDMA1
        FBS = 72 mg/dL
        2 hr postpandial = 98 mg/dL
        
        การคัดกรอง
        
        การรักษา
        
        แนวทางการดูแล
        
        ดูแลระยะคลอด
        
        GDM ที่ไม่ได้ใช้ Insulin
        อายุครรภ์ที่สมควรคลอดเหมือนสตรีทั่วไป
        การดูแลในขณะคลอด เหมือนสตรีตั้งครรภ์ทั่วไป
        
        1 more item...
        
        GDM ที่ใช้ Insulin
        
        กรณี Elective cesarean section
        -NPO after midnight
        -ควรผ่าตัดในช่วงตอนเช้า
        -งด Insulin มื้อเช้าของวันผ่าตัด
        -ตราจ BS (Dextrostick) ตอนเช้าวันผ่าตัด
        ให้ IV fuid เป็น RLS หรือ NSS
        F/U BS (Dextrostick) ทุก 1-2 ชั่วโมง
        
        กรณี Induction of labor หรือ In labor
        -NPO หลังเที่ยงคืน
        -ตรวจ BS (Dextrostick)
        ตอนเช้าวันกำหนดคลอด หรือ วันที่มาตลอด
        -งด Insulin มื้อเช้า / มื้อถัดไป ของวันมาคลอด
        (มื้อสุดท้ายคือ เย็น)
        -ให้ IV fluid เป็น 0.9% NSS 1000 ml
        rate 100-150 ml/hr
        F/U DTX ทุก 1-2 ชั่วโมง ให้ BS 70-100 mg/dL
        -ถ้า DTX < 70 ให้เปลี่ยน IV เป็น 5% DN/2
        rate 100-150 ml/hr
        -ให้ RI เมื่อ DTX > 100 โดยให้ rate of 1.25 U/hr if glucose levels exceed 100 mg/dL
        
        ดูแลหลังคลอด
        
        งด Insulin
        
        ภายหลังคลอด 1-3 วัน ทำ FBS หรือ random
        plasma glucose ถ้าผิดปกตินัด ทำ 2-hour /75 gm OGTT หลังคลอด 6-12 สัปดาห์ (Best
        predictors of future diabetes)
        
        1 more item...
        
        ดูแลขณะฝากครรภ์
        
        ฝากครรภ์ตามปกติตรวจยืนยันและติดตามอายุครรภ์ที่แน่นอนโดย U/S ติดตาม น้ำหนักทารก, AFI , ความผิดปกติของทารก
        
        ในระหว่างไตรมาสที่สอง ( 18-20 สัปดาห์) ควร U/S หาความผิดปกติ (Target USG for anomalies)
        
        ส่งตรวจตาประเมินภาวะแทรกซ้อนของโรค
        
        GA ≥ 28 wk ให้ นับเด็กดิ้น
        
        ในรายที่ควบคุมเบาหวานไม่ดี ให้ทำ NST สัปดาห์ละ 2 ครั้งตั้งแต่อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ถ้าผลเป็น non reactive test ให้ประเมินด้วย BPP หรือ CST ถ้าไม่มีข้อห้าม และตรวจบ่อยขึ้นถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน
        
        Admit ซ้ำเพื่อปรับระดับ insulin ในกรณีที่
        6.1 FBS ≥ 95 หรือ 2 hr PP ≥ 120
        และทดลองเพิ่ม insulin แล้วยังไม่สามารถ control ได้
        6.2 Fetal macrosomia
        6.3 Polyhydramnios
        
        GA ≥ 38 สัปดาห์ PV bishop score + NST สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
        -Bishop score < 6 Follow up
        -Bishop score > 6 Admit for termination
        
        GA > 40 สัปดาห์ ทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลงด้วยวิธีที่ปลอดภัย แนะนำให้
        ทดลองเร่งคลอดก่อนพิจารณา cesarean
        section พิจารณา cesarean section
        ในรายที่สงสัยภาวะทารกตัวโต (macrosomia)
        
        1 more item...
        
        GDMA1
        •ควบคุมอาหาร
        •ออกกำลังกาย
        
        ควบคุมอาหารให้ได้รับแคลอรี่วันละ 30-35 กิโลแคลอรี่ต่อกิโลกรัม โดยให้ได้แคลอรี่จากคาร์โบไฮเดรต ร้อยละ 40-50
        โปรตีน ร้อยละ 20-25 และ ไขมัน ร้อยละ 20-30
        จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอและเข้มงวด
        ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดิน 10-20 นาที โยคะเบาๆ
        
        GDMA2
        •ควบคุมอาหาร
        
        •ใช้ยาอินซูลิน
        
        ผลข้างเคียง
        ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และน้ำหนักตัวขึ้น
        และมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
        ได้แก่
        ชึมเศร้า,ตาพร่ามัว,มีอาการหนาวสั่น
        รู้สึกวิตกกังวล ,มึนงง
        และมีเหงื่อออก, ตัวเย็น,เกิดอาการชักกระตุก
        หรือตัวสั่น, มีปัสสาวะน้อยลง,หัวใจเต้นเร็ว
        หรือเต้นผิดปกติ,ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ , คลื่นไส้
        
        อินซูลิน
        • Regular insulin
        Onset : 30-40 นาที
        Peak : 2-3 ชั่วโมง
        Duration : 5-8 ชั่วโมง
        • Intermediate acting
        Onset : 2-4 ชั่วโมง
        Peak : 4-10 ชั่วโมง
        Duration : 10-16 ชั่วโมง
        
        ปัจจัยเสี่ยง
        
        อายุ ≥ 30 ปี
        
        หญิงตั้งครรภ์ อายุ 34 ปี
        
        BMI ≥ 27 kg/m^2
        
        BMI ก่อนการตั้งครรภ์ 25.15 kg/m2
        
        ญาติสายตรงเป็นเบาหวาน
        
        ปฏิเสธ
        
        เคยมีประวัติ GDM ในครรภ์ก่อน
        
        ปฏิเสธ
        
        น้ำตาลในปัสสาวะ ≥ 1+
        
        พบ น้ำตาลในปัสสาวะ 4+
        
        มีประวัติไม่ดีทางสูติศาสตร์ คือ
        -ทารกคลอดตายไม่ทราบสาเหตุ
        -ทารกเสียชีวิตในครรภ์
        -ทารกพิการแต่กำเนิด
        -มีประวัติคลอดบุตรน้ำหนัก > 4000 kg
        
        -G1P0000 2550 อายุครรภ์ 1 เดือน Criminal Abortion (การทำแท้งโดยที่ทารกไม่ผิดปกติ แต่ต้องการเอาออก) ไม่ได้รับการขูดมดลูก
        -G2P0010 2550 อายุครรภ์ 1 เดือน Criminal Abortion (การทำแท้งโดยที่ทารกไม่ผิดปกติ แต่ต้องการเอาออก) ไม่ได้รับการขูดมดลูก
        
        ตรวจพบความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ หรือ มีประวัติโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง
        
        ไม่พบความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
        
        พบภาวะครรภ์แฝดน้ำ
        
        ไม่พบภาวะครรภ์แฝดน้ำ
        
        สรุป หญิงตั้งครรภ์มีปัจจัยเสี่ยง คือ อายุ 34 ปี และ พบน้ำตาลในปัสสาวะ 4+ (30/12/64 : GA 27+2 wks
        
        วิธีการตรวจคัดกรอง
        
        หญิงตั้งครรภ์ G3P0020
        ฝากครรภ์ครั้งแรกเมื่ออายุ ครรภ์ 15 wks หญิงตั้งครรภ์มีอายุ 34 ปี จึงได้รับการคัดกรองเบาหวานด้วย Bs 50 gm ได้ค่า FBS = 156 mg/dL ตอนอายุครรภ์ 15 wks และนัดมาตรวจ OGTT ตอนอายุครรภ์ 16+2 wks ได้ค่า OGTT = 76,139,108,77 ไม่มีค่าผิดปกติ เมื่ออายุครรภ์ 27+2 wks พบ น้ำตาลในปัสสาวะ 4+ และตรวจ OGTT ได้ค่า 82,199,178,83 ผิดปกติทั้งหมด 2 ค่า จึงวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และเมื่ออายุ ครรภ์ 33+2 wks ตรวจ FBS ได้ค่า 72 mg/dL และ 2-hour postprandial blood sugar
        ได้ค่า 98 mg/dL จึงได้รับการวินิจฉัยเป็น GDMA1
        ได้รับการรักษาด้วยการควบคุมอาหาร
        
        1.2 GDM A2 คือ หญิงตั้งครรภ์ที่มี OGTT ผิดปกติตั้งแต่ 2 ค่าขึ้นไป ค่าFBS ≥ 95 MG% และ / หรือ 2 Hours Postpandial ≥ 120 MG%
      - มารดา
        
        การควบคุมโรคเบาหวานยากขึ้น เนื่องจากความต้องการอินซูลินไม่แน่นอน โดยจะเกิดภาวะ hypoglycemia ในระยะแรกของการตั้งครรภ์และจะเกิดภาวะ hyperglycemia ในครึ่งหลังของการตั้งครรภ์จากการที่รกสร้างฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ต้านการทำงานของอินซูลิน
        
        มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนของหลอดเลือดที่อวัยวะต่าง ๆ เช่น nephropathy,retinopathy
        
        มีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ (preeclampsia)
        
        มีโอกาสเกิด polyhydramnios
        
        อัตราการแท้งเพิ่มขึ้น มักพบในรายที่ควบคุมเบาหวานได้ไม่ดี
        
        คลอดก่อนกำหนด
        
        ในรายทารกตัวโตจะคลอดยากทำให้เพิ่มอุบัติการณ์ในการคลอดโดยสูติศาสตร์หัตถการสตรีตั้งครรภ์อาจได้รับบาดเจ็บจากการช่วยคลอดโดยสูติศาสตร์หัตถการ และ เสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดเพิ่มขึ้น
        
        มีโอกาสติดเชื้อง่ายขึ้น โดยเฉพาะการติดเชื่อในระบบทางเดินปัสสาวะ
      - ทารก
        
        ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน(Fetal distress)
        
        ทารกเจริญเติบโตข้าในครรภ์(IUGR)
        
        ทารกตัวโต (macrosomia)
        
        ทารกเสียชีวิตในครรภ์
        
        ทารกพิการแต่กำเนิด (congenital anomalies)
        
        ทารกขาดออกซิเจนแรกคลอด (bith asphyxia) ซึ่ง อาจส่งผลระยะยาวต่อพัฒนาการด้านสมอง
        
        ทารกได้รับบาดเจ็บจากการคลอด (birth injury)
        
        ทารกมีภาวะหายใจลำบาก (respiratory distress syndrome: RDS)
        
        ทารกมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (neonatal hypoglycemia)
        
        ทารกมีภาวะเม็ดเลือดแดงมากเกินไป
        (neonatal polycythemia)
        
        ทารกมีภาวะตัวเหลืองแรกเกิด (neonatal hyperbilirubinemia) เกิดจากการที่มีภาวะ polycythemia
        
        ทารกมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ (neonatal hypocalcemia)
        
        ทารกมีภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (neonatal hypomagnesemia)
        
        ทารกมีภาวะหัวใจโต (cardiac hypertrophy)
- - - - ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
        ปฏิเสธประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
        ประวัติการผ่าตัด
        ผ่าตัดก้อนเต้านมด้านขวา เมื่อ ปี 2556
        ประวัติการแพ้ยาแพ้อาหาร
        ปฏิเสธการแพ้ยาแพ้อาหาร
        ประวัติการใช้สารเสพติด
        ปฏิเสธการสูบบุหรี่หรือเสพยาเสพติด
        ประวัติการตั้งครรภ์
        -G1P0000 2550 อายุครรภ์ 1 เดือน Criminal Abortion (การทำแท้งโดยที่ทารกไม่ผิดปกติ แต่ต้องการเอาออก) ไม่ได้รับการขูดมดลูก
        -G2P0010 2550 อายุครรภ์ 1 เดือน Criminal Abortion (การทำแท้งโดยที่ทารกไม่ผิดปกติ แต่ต้องการเอาออก) ไม่ได้รับการขูดมดลูก
        
        ประวัติการตั้งครรภ์ปัจจุบัน :
        หญิงตั้งครรภ์ G3P0020 ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลตำรวจทั้งหมด 7 ครั้ง
        ฝากครรภ์ครั้งแรกเมื่ออายุ ครรภ์ 15 wks หญิงตั้งครรภ์มีอายุ 34 ปี จึงได้รับการคัดกรองเบาหวานด้วย Bs 50 gm ได้ค่า FBS = 156 mg/dL ตอนอายุครรภ์ 15 wks และนัดมาตรวจ OGTT ตอนอายุครรภ์ 16+2 wks
        ได้ค่า OGTT = 76,139,108,77 ไม่มีค่าผิดปกติ เมื่ออายุครรภ์ 27+2 wks พบ น้ำตาลในปัสสาวะ 4+ และตรวจ OGTT ได้ค่า 82,199,178,83
        ผิดปกติทั้งหมด 2 ค่า จึงวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และเมื่ออายุ ครรภ์ 33+2 wks ตรวจ FBS ได้ค่า 72 mg/dL และ 2-hour postprandial blood sugar ได้ค่า 98 mg/dL จึงได้รับการวินิจฉัยเป็น GDMA1
        ได้รับการรักษาด้วยการควบคุมอาหาร
        วันที่ 2 มีนาคม 2565 เวลา 01.30 น. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 36+2 wks
        มีน้ำใสไหลออกมาทางช่องคลอด เวลา 01.40 น. เจ็บครรภ์ทุก 5-8 นาที นานครั้งละ 30 วินาที ท้าการตรวจน้ำเดิน โดยวิธี Cough test = Positive , Nitrazine test = Positive , PH = 8 (ฤทธิ์เบส) แพทย์ให้ยา Ampicillin 2 gm IV stat then 1 gm IV q 4 hr เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
    - - ผลการตรวจร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า
        Conjunctiva ทั้งสองข้างไม่ซีด anicteric sclera สีขาวไม่มีสีเหลือง ไม่มีฟันผุหรือเหงือกอักเสบ ต่อม ไทรอยด์ไม่โต เต้านมด้านขวาเคยผ่าตัดเอาก้อนออก เต้านมด้ายซ้ายปกติ หัวนมปกติไม่บอด ไม่แบน ไม่บุ๋ม ผิวหนังไม่มีผื่น ไม่มีจ้้าเลือด ไม่มีรอยแดง Capillary refills < 2 วินาที แขนทั้ง 2 ข้างไม่มีบวม no pitting edema ขาทั้ง 2 ข้างไม่มีบวม no pitting edema
      - ผลการตรวจครรภ์ทางหน้าท้อง
        
        Fundal grip : 3⁄4 เหนือสะดือ
        
        Umbilical grip : OL position, FHS (fetal heart sound) = 142 bpm
        
        Pawlik’s grip : HE (head engagement ) : ส่วนนำทารกลงเข้าสู่ช่องเชิงกราน
        Vx (Vertex presentation) : ส่วนนำเป็นศีรษะ
        
        Bilateral inguinal grip : HE (head engagement ) : ส่วนนำทารกลงเข้าสู่ช่องเชิงกราน
      - ผลการตรวจทางช่องคลอด
        PV - FB , Effacement 50% , Station -1 , Membrane leak = Clear
        ผลตรวจการหดรัดตัวของมดลูก
        Contraction q 8 min (Interval) 30 sec (duration), ++(intensity)
      - ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการจาก ANC
        -Complete blood count : Hb = 12.7 g/dL , Hct = 38.6 % , RBC = 4.03 10^6/uL , MCV = 95.7 fL , WBC = 9.86 10^3/uL , Platelet count = 209 10^3/uL
        -การคัดกรองเบาหวาน : GCT = 156 mg/dL , OGTT เมื่ออายุครรภ์ 16+2 wks
        ได้ 76,139,108,77 , OGTT เมื่ออายุครรภ์ 27+2 wks ได้ 82,199,178,83 อายุครรภ์ 33+2 wks ได้ทำ FBS ได้ 72 mg/dL และ ทำ 2-hour postprandial blood sugar
        ได้ 98 mg/dL
        -ABO group = AB , RH group = Positive , AB screening = negative
        -HBsAg = negative , HIV Ab = negative, VDRL = non-reactive
        -การคัดกรองธาลัสซีเมีย : MCV = 95.7 , Hb E Screening (DCIP) = negative
        -UA : Glucose = negative , Albumin = negative , WBC = 2-3 /HPF
        , Bacteria = numerous
        
        ผลตรวจอื่นๆ
        -Ultrasound
        Date exam : 02/12/64
        GA by LMP(week) : 23
        Cardiac activity : positive
        Fetal number : 1
        Presentation : Cephalic
        Biparietal Diameter (BPD) : 23 wks 6 day
        Head Circumference (HC) : 23 wks 3 day
        Placenta location : fundus
        Est.fetal weight : 590 gm
        GA by US : 23 wks