Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
DM foot - Coggle Diagram
DM foot
-
-
การรักษาที่ได้รับ
INSULIN MIXTARD 100 iu/ml.Vial(10ml.) ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 45 ยูนิตก่อนอาหารเช้าและ 35 ยูนิดก่อนอาหารเย็น(ฉีดให้ตรงเวลาทุกวัน)
-
-DTX premeal,hs keep 80-200 %
-
พยาธิสภาพของเเผลเบาหวาน
เนื่องจากเกิดภาวะเส้นเลือดตีบแข็งจนบางครั้งก็อุดตัน ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในหลอดเลือดแดงใหญ่และหลอดเลือดฝอย ทำให้เกิดแผลที่เท้าขึ้นเองได้เนื่องจากเนื้อเยื่อขาดเลือดไปเลี้ยง ซึ่งจะพบมากที่ปลายนิ้วเท้าทั้งห้าหรือส้นเท้า หรือเกิดแผลจากสาเหตุอื่นก็ทำให้แผลหายยากเช่นกัน เช่น อุบัติเหตุ ของมีคม เป็นต้น
แผลที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวานมักจะมีการติดเชื้อร่วมด้วยอยู่เสมอ โดยเฉพาะการมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้การอักเสบลุกลามมากขึ้น โอกาสที่จะรักษาให้หายยิ่งยากมากขึ้น มีโอกาสทำให้ต้องถูกตัดขาหรือเสียชีวิตได้
-
ยา
เเพ้ยา
DLINDAMYCIN
คลินดามัยซินเป็นยาปฏิชีวนะที่ต่อสู้กับแบคทีเรียในร่างกายใช้รักษาโรคติดเชื้อ ร้ายแรงที่ เกิดจากแบคทีเรียคลินดามัยซินอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง ซึ่งอาจรุนแรงหรือนำไปสู่ปัญหาลำไส้ที่ร้ายแรงถึงชีวิต
-
ยาฉีด Insulin
-
INSULIN MIXTARD
กลไกการออกฤทธิ์
ชนิดผสมซึ่งนำเอาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็วมาผสมกับชนิดออกฤทธิ์ปานกลาง (Mix) ในอัตราส่วนต่างๆ สะดวกสาหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้อินซูลินทั้งสองแบบ ลักษณะเป็นสารละลายขุ่น ต้องเขย่าเบาๆก่อนใช้ทุกครั้งที่ต้องใช้
Rapid Insulin(RI)
กลไกการออกฤทธิ์
ชนิดออกฤทธ์เร็วมาก ลักษณะใส ไม่มีสีออกฤทธิ์ในเวลา 10-15 นาที ออกฤทธิ์สูงสุดที่ 1-3 ชม. และมีฤทธิ์นานประมาณ 3-5 ชม. ใช้ฉีดเมื่อต้องการลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหารมื้อนั้นๆ
-
-
-
-
ความหมาย
เบาหวาน คือ โรคที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ โดยเกิดจากความผิดปกติของการใช้น้ำตาล ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ตามปกติ ทำให้มีระดับน้ำตาลสูงขึ้น
ซักประวัติ
ชื่อผู้รับบริการ นางสาว วิภาวรรณ ทิพย์อุดมเดช เตียง 26 เพศ หญิง อายุ 36 ปี
น้ำหนัก 62 กก ส่วนสูง 168 ซม.
อาชีพ เเม่บ้าน
วันที่รับไว้ในโรงพยาบาล 29 มีนาคม 2565
วันที่รวบรวมข้อมูล 4 เมษายน 2565
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต เป็นเบาหวานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553
ประวัติการแพ้ยา/อาหาร แพ้ยา AMOXICILLIN , INDAMYCIN / ปฏิเสธการแพ้อาหาร
การผ่าตัด** ปฏิเสธการผ่าตัด
อาการปัจจุบัน
Refer จาก โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อมาทำแผลต่อเนื่องด้วย Sillverron แรกรับ T=36.8 C๐ P=76 /min R= 20 /min BP=129/81
สาเหตุ
เเบ่งออกได้เป็น 4ชนิด
เบาหวานชนิดที่ 2 พบมากในคนส่วนใหญ่ เกิดจากการที่เซลล์ของร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดีหรือที่เรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายเหมือนขาดอินซูลินไประดับหนึ่ง ร่างกายต้องทดแทนโดยการสร้างอินซูลินออกมามากขึ้น จนตับอ่อนทำงานมากขึ้นจนทำงานไม่ไหวสาเหตุของภาวะดื้ออินซูลิน ได้แก่ พันธุกรรม ความอ้วน และการไม่ออกกำลังกาย
เบาหวานชนิดที่ 3 เป็นเบาหวานชนิดที่มีสาเหตุชัดเจน เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ ตับอ่อนถูกตัด โรคที่มีเหล็กสะสมมากเกินไปในตับจนทำให้ตับเสียหาย การรับประทานยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ การได้รับสารเคมี ความผิดปกติของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต
เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากการขาดอินซูลิน เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้เลย (อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน ทำหน้าที่ช่วยนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ของร่างกาย เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานในการดำรงชีวิต) เบาหวานชนิดนี้มักพบในเด็กและผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี
เบาหวานชนิดที่ 4 เป็นเบาหวานที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ มักเกิดในผู้ที่ไม่มีประวัติเป็นเบาหวานมาก่อนตั้งครรภ์ เมื่อคลอดแล้วเบาหวานก็จะหายไป แต่คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นเบาหวานได้อีกในอนาคต
-
การวินิจฉัยเบาหวาน
วิธีที่จะทำให้ทราบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นเบาหวานหรือไม่ แพทย์สามารถวินิจฉัยได้จากระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากงดอาหาร ถ้าปกติระดับน้ำตาลจะน้อยกว่า 100 มก./ดล. ถ้าอยู่ระหว่าง 100-125 มก./ดล. ถือเป็นภาวะที่มีความเสี่ยง แต่ยังไม่เป็นเบาหวาน หรือบางครั้งเราจะเรียกภาวะนี้ว่าเป็นเบาหวานแฝง แต่ถ้าเกิน 126 มก./ดล. จะจัดว่าเป็นเบาหวาน