Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด (Preterm with Labor pain) - Coggle Diagram

- - - - เคยคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อน
        
        ครรภ์ที่ 1 (20/08/52) Preterm GA 24 สัปดาห์ normal labor
      - การหดรัดตัวของมดลูกมากผิดปกติ
      - มดลูกยืดขยายมาก ครรภ์แฝด ครรภ์แฝดน้ำ
      - ภาวะเลือดออกก่อนคลอด จากภาวะรก
        เกาะต่ำ หรือรกลอกตัวก่อนกำหนด
      - ปากมดลูกบาดเจ็บหรือผิดปกติ เช่น
        ปิดไม่สนิท คอมดลูกสั้น <25 มม. (เมื่อ GA<30 weeks)
      - ทารกพิการแต่กำเนิด ทารกตายในครรภ์
      - มีความผิดปกติที่มดลูกหรือมีเนื้องอก
      - มีประวัติการแท้ง
        
        ครรภ์ที่ 3 ปี 2560 Abortion GA 3 months ขูดมดลูก ที่รพ.กรุงเทพ
      - อายุ <18 ปี หรือ >35 ปี
      - ครรภ์แรก
    - - การสูบบุหรี่
      - ขาดสารอาหาร ภาวะทุพโภชนาการ
      - ไม่ได้ฝากครรภ์
      - ภาวะซีด (anemia)
        
        Hb = 10.5 g/dl (ต่ำกว่าปกติ), Hct = 32.8% (ต่ำกว่าปกติ)
      - การเสพสารเสพติด เช่น โคเคน เฮโรอีน
      - น้ำหนักตัวก่อนตั้งครรภ์น้อย (<50 Kg) และส่วนสูงน้อย
        
        น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 40 กิโลกรัม ส่วนสูง 150 เซนติเมตร BMI ก่อนการตั้งครรภ์ 17.7 kg/m2 (Underweight), Ketone 2+
      - การติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ
      - การติดเชื้อระบบสืบพันธุ์
      - ความเครียดสูงหรือเรื้อรัง
      - การทำงานหนัก
  - - - 2.ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนอายุครรภ์
        ครบกำหนด (preterm PROM) พบร้อยละ 30
      - 3.การคลอดก่อนกำหนดเมื่อมีข้อบ่งซื้
        (elective preterm delivery) เช่น ภาวะ severe pre-eclampsia ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ เป็นต้น พบร้อยละ 20
      - 1.การคลอดก่อนกำหนดที่เกิดขึ้นเอง
        (spontaneous preterm delivery) พบร้อยละ 50
      - 4.การคลอดก่อนกำหนดเมื่อมีภาวะแทรกซ้อนฉุกเฉิน (complicated emergency preterm delivery) เช่น รก
        ลอกตัวก่อนกำหนด สายสะดือพลัดต่ำ เป็นต้น พบร้อยละ 20
- - - - ปวดร้าวไปที่หลัง
    - - มีมูกปนเลือด
- - - - 2.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกช้อนจากการได้รับยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
        
        3.เกิดภาวะเครียดและความวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของ
        ทารกและค่าใช่จ่ายในการดูแลรักษา
  - - - bronchopulmonary dysplasia ปอดเรื้อรังในทารกแรกเกิด
      - cerebral atrophy สมองฝ่อ
      - blindness ตาบอด
      - retinal detachment จอประสาทตาหลุดลอก
      - cerebral palsy สมองพิการ
      - neurodevelopmental delay พัฒนาการช้า
    - - Respiratory distress syndrome (RDS) กลุ่มหายใจลำบาก
      - Necrotizing enterocolitis (NEC) ลำไส้เกิดเนื้อตาย
      - Hypoglycemia น้ำตาลในเลือดต่ำ
      - Infection ภาวะติดเชื้อ
      - Intraventricular hemorrhage (IVH) เลือดออกในสมอง
      - Hypothermia ภาวะอุณหภูมิกายต่ำ
- - - - GA> 34 wks
        
        -Expectant management (การรักษาแบบประคับประคอง)
        -ไม่ให้ steroids
        -Ultrasound
        -หาสาเหตุและให้การรักษาตามสาเหตุ
        
        สำเร็จ
        
        discharge
        
        ไม่สำเร็จ
        
        Intrapartum management
        -NPO และ IV fluid
        -เฝ้าระวังสุขภาพของทารกในครรภ์
        -ตรวจวัดการหดรัดตัวของมดลูก
        -ให้ยาปฏิชีวนะขณะคลอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ GBS
        -ดำเนินการคลอดทารกอย่างนิ่มนวล
        -ตามทีมช่วยชีวิตทารก
        
        การดูแล
        
        Observe bleeding , pain control
      - GA 24-34 wks
        
        -ให้การดูแลรักษาตามสาเหตุ
        -Bed rest
        -ให้ยา steroids
        
        ยา กลุ่ม glucocorticoid
        
        ให้ dexamethasone 6 mg. ฉีดทางกล้ามเนื้อ ทุก 12 ชั่วโมง จำนวน 4 ครั้ง
        
        ช่วยเพิ่มสารsurfactant ปอด ทำให้ปอดสมบูรณ์
        
        ผลข้างเคียง : บวม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
  - - - 2.Magnesium sulfate
        
        Side effect - คลื่นไส้ อาเจียน, มองเห็นภาพซ้อน,
        ปวดศีรษะ, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, ร้อนวูบวาบ, กดการหายใจ และกดการทำงานของหัวใจ
        
        การดูแลขณะได้รับยา
        
        วัด BP ก่อนให้ยา ห้ามใช้ยาถ้า BP < 90/60mmHg
        
        ประเมินปริมาณปัสสาวะ ต้อง > 25-30 ml/hr หรือ > 100 ml/4 hrs
        
        ประเมิน patella reflex การดูแลขณะได้รับยา Magnesium sulfate
        
        ประเมินอัตราการหายใจ ไม่ < 12 BPM
        
        ฟังเสียง bowel sound ทุก 4-8 ชม.
        
        ตรวจระดับแมกนีเซียมในเลือด ถ้า > 9 mg/dl ต้องรายงานแพทย์ หยุดให้ยา และให้ยา antidose
      - 3.Calcium channel blocker
        
        Side effect - BP ต่ำชั่วขณะ, หัวใจเต้นเร็ว, ร้อนวูบวาบ,
        ปวดศีรษะ, มึนงง, คลื่นไส้, ปริมาณเลือดไปเลี้ยง
        มดลูกลดลง
        
        การดูแลขณะได้รับยา
        
        วัด BP ก่อนให้ยา
        
        ฟังเสียงปอด เพื่อประเมินภาวะปอดบวมน้ำ
        
        สังเกตอาการเจ็บหน้าอก อัตราการเต้นของหัวใจ
        เร็วกว่าปกติ
      - กลุ่ม Beta-adrenergic agonist
        
        ยา Ritodrine(yutopar), Terbutaline (bricanyl), Salbutamol (Ventolin)
        
        Side effect : BP ต่ำ, Pulse เร็ว, มือสั่น,ใจสั่น, น้ำตาลในเลือดสูง, ทารกหัวใจเต้นเร็ว, น้ำตาลในเลือดต่ำหลังคลอด, ตัวเหลือง
        
        การดูแลขณะได้รับยา
        
        หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวาน เฝ้าระวังน้ำตาลในเลือด
        
        ประเมินระดับโพแทสเซียมในเลือด ถ้า < 2.5 mEq/L พิจารณาให้โพแทสเซียมชดเชย
        
        หยุดให้ยา เมื่อ pulse > 130 ครั้ง/นาที หรือ BP 90/60 mmHg และมีภาวะ fetal distress
      - 4.Prostaglandin inhibitor
        
        side effect - คลื่นไส้อาเฉียน, แสบร้อนในอก, แผลในทาง
        เดินอาหาร, การทำงานของไตลดลง, อาจเกิดภาวะ
        ตับอักเสบ
        
        การดูแลขณะได้รับยา Prostaglandin inhibitor
        
        ประเมินการหายใจ
        
        ประเมิน patella reflex
        
        ประเมินปริมาณปัสสาวะก่อนให้ยา
        
        ประเมินอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร
        ควรได้รับยาลดกรดร่วมด้วย
- - - - มีค่า > 50 ng/mL ซึ่งบ่งชี้ว่ามีโอกาส
        คลอดก่อนกำหนดได้สูง
    - - ให้ผลบวกเมื่อมีค่า > 2.1 ng/mL ซึ่งบ่ง
        ชี้ว่ามีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้สูง
    - - อายุครรภ์ 22-34 สัปดาห์ ปากมดลูกมีความยาวเฉลี่ย 35 มิลลิเมตร
      - ความหนาบางของปากมดลูกจะเปลี่ยน ลักษณะรูปร่างเป็น T. Y. V และ U พบได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 16-24 สัปดาห์
      - ความยาวลดลงเหลือน้อยกว่า 25 มิลลิเมตร และ ความหนาบางของปากมดลูก เปลี่ยนไปมีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้
  - - - อายุครรภ์ 34 สัปดาห์ 1 วัน by date
  - - - PV : fully dilate, effacement 100%, station 0, MI
      - UC :Interval 3’, Duration 40”, Intensity ++
- - - - G5P3A1 GA 34+1 weeks by date EDC by date 12 เมษายน 2565 ฝากครรภ์ครั้งแรก GA 16+1 weeks by date ฝากครรภ์ทั้งหมด 4 ครั้ง ได้รับวัคซีนบาดทะยัก จำนวน 3 เข็ม ปี 2552 no ANC risk
        น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 40 กิโลกรัม ส่วนสูง 150 เซนติเมตร BMI ก่อนการตั้งครรภ์ 17.7 kg/m2 (Underweight)
        น้ำหนักปัจจุบัน 47 กิโลกรัม Total weight gain 7 กิโลกรัม
      - LR
        
        ผลการตรวจร่างกาย : ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี, ไม่มีภาวะซีด, normal S1S2, Clear both lung, no pitting edema
        
        ผลการตรวจครรภ์
        การดู : Linea nigra สีน้ำตาลอ่อน, มี Striae gravidarum สีเทาวาว
        การคลำ :
        
        Fundal grip : Height Fundus ¾ เหนือ umbilicus สัมพันธ์กับอายุครรภ์
        
        Umbilical grip : Large part ด้านซ้าย, Small part ด้านขวา
        
        Pawlick’s grip : Vertex presentation (ส่วนนำเป็นศีรษะ)
        
        Bilateral inguinal grip : Head Engagement (ส่วนนำทารกลงอุ้งเชิงกรานแล้ว)
        การฟัง : ฟัง Fetal Heart Sound ด้านซ้าย ที่ตำแหน่ง Left Lower Quadrant ได้ 124 bpm
        
        ผลตรวจทางช่องคลอด
        PV : Fully dilate, Membrane Intact (MI) ถุงน้ำคร่ำยังไม่แตก
        
        ผลตรวจการหดรัดตัวของมดลูก
        02/03/2565 เวลา 06.15 น. Interval 3’, Duration 40”, Intensity ++
        
        02/03/65 เวลา 06.15 น. Admit LR เพื่อรอคลอด, Shave perineum, On EFM, NPO, ให้ RLS 1000ml. IV 100 ml/hr.