Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สิ่งที่ได้เรียนรู้ เรื่องการดูแลมารดาและการทารกหลังคลอด (Postpartum period…
สิ่งที่ได้เรียนรู้ เรื่องการดูแลมารดาและการทารกหลังคลอด (Postpartum period : PP)
ทารก
การดูแลทารกแรกเกิด (24ชั่วโมงแรกหลังคลอด)
Vital Sign
ประเมินและบันทึก Vital Sign ทุก 4ชั่วโมง
เฝ้าระวังภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำหรือสูงเกินไป
ตรวจร่างกาย
ศีรษะ
ใบหน้า
ตา
หู
จมูก
ปาก
คอ
ทรวงอก
หน้าอก
หน้าท้อง
แขน
ผิวหนัง
หลัง
ขา
อวัยวะเพศ
ทวารหนัก
ตรวจปฏิกิริยาการตอบสนองพื้นฐาน
Sucking reflex
Rooting reflex
Moro reflex
Primar grasp reflex
Plantar reflex
Tonic neck reflex
LATCH score
Latch on
Audible
Type of nipple
Comfort
Hold
การดูแลทารกแรกเกิดประจำวัน (หลัง 24ชั่วโมง)
ความเพียงพอในการได้รับนมแม่
ภาวะตา-ตัวเหลือง
น้ำหนักตัว
การขับถ่าย
อุ้มและห่อตัวทารก
อาบน้ำและทำความสะอาดตา,สะดือ
ส่งเสริมสัมพันธภาพทารกและครอบครัว
มารดา
การดูแลมารดาหลังคลอด (24ชั่วโมงแรก)
Vital Sign
ประเมินและบันทึก Vital Sign ทุก 4ชั่วโมง
ตรวจร่างกาย (BUBBLE HE)
Homan's Sign-for DVT
มีอาการปวด บวม แดงบริเวรขา
Emotional State
Taking-in phase (1-2วัน)
Breast
ตรวจเต้านมและการหลั่งน้ำนม
Uterus
Tone
Trauma
Trombin
Tissue
Bladder
กระตุ้นปัสสาวะภายใน 6ชั่วโมง
Bowel
ประเมินการเคลื่อนไหวของลำไส้
Lochia
สี,ปริมาณ
Episiotomy (REEDA)
Redness(แดง)
Edema(การบวม)
Ecchymosis/Bruing (ฟกซ้ำ)
Discharge(หนอง)
Approximation(ขอบแผล)
ให้คำแนะนำ
สร้างสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารก
ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว
แนะนำการให้นมและการเอสลูกเข้าเต้า
แนะนำมารดาในการให้นมบุตรอย่างถูกวิธี 4 หลัก
ด.1 ดูดเร็ว หลังคลอดมารดาและมารกไม่มีอาการแทรกซ้อน ควรให้ทารกดูดนมทันที ภายใน 30 นาที - 1 ชั่วโมงหลังคลอดในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อมควรบีบนมเก็บส่งให้ลูก
ด.2 ดูดบ่อย ควรให้ดูดทุก 2 - 3 ชั่วโมงหรือเมื่อทารกต้องการ
ด.3 ดูดถูกวิธี คือ ประคองศรีษะเด็กให้แหงนไปด้านหลังเมื่อทารกอ้าปากให้เคลื่อนเข้าหาเต้านม คางแนบชิดลานนม ปากเปิดกว้าง ริมฝีปากล่างบานออก สามารถมองเป็นลานนมด้านบนมากกว่าด้านล่าง
C hold ช่วยจัดรูปของเต้านมให้เหมาะสมกับการเข้าเต้า
V hold นิ้วจะขวางบริเวณลานนมไม่ให้ทารกดูดนมลึกเกินไป
U hold มักใช้กับทารกเกิดก่อนกำหนด เนื่องจากยังดูดนมไม่คล่อง
ด.4 ดูดเกลี้ยงเต้า เต้านมต้องนิ่มลง ไม่มีอาการคัดตึง น้ำนมไม่พุ่ง ออกมาเพียงแค่ 2 - 3 หยด
ระยะหลังคลอด
จัด Rooming in ให้มารดาและทารกอยู่ร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง
ประเมินประสิทธิภาพการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
แนะนำมารดาในการให้นมบุตรอย่างถูกต้อง
4 key point
ลำตัวชิดมารดา
ทารกศรีษะและลำตัวตรง
ทารกได้รับการรองรับทั้งตัว
ทารกหันหน้าเข้าหาเต้านมมารดา
การส่งเสริมสัมพันธภาพหลังคลอด
ตั้งแต่นาทีแรกหลังคลอดจนกระทั่งถึง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอดควรให้มารดาและทารกได้อยู่ด้วยกัน ถ้ามารดามีไข้ ควรไม่เกิน 38 องศาเซลเซียล
การส่งเสริมและช่วยเหลือการขับถ่ายปัสสาวะ
ภายใน 6 ชั่วโมงหลังคลอด ควรจะปัสสาวะแล้ว
ควรกระตุ้นมารดาให้ขับถ่ายปัสสาวะทุก 4 - 6 ชั่วโมง
หากภายใน 6-8 ชั่วโมงหลังคลอดปัสสาวะออกน้อย ควรสวนปัสสาวะทิ้งและติดตามอาการ
พฤติกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารก
การสัมผัส Touch , Tactile , sense โดยการใช้นิ้วสัมผัส ขา จากนั้นบีบนวดตามลำตัว
การประสานสายตา Eye to eye contact เพื่อให้ประสานสายตากับทารกได้ดี ควรเผชิญหน้า เพราะทารกมองเห็นมารดาชัดเจน คือ 8 - 12 นิ้ว
การใช้เสียง Voice ควรเป็นระดับเสียงสูง
การเคลื่อนไหวเป็นจังหวะตามเสียงพูด Entrainment เช่น ขยับแขน ขา เสียงหัวเราะ
จังหวะชีวภาพ Biorhythmcity เช่น ทารกร้องไห้มารดาอุ้มไว้แนบอก
การรับกลิ่น Odor มารดาจะสามารถจำกลิ่นทารกได้ ส่วนทารกจะแยกได้ 6 -10วัน
การให้ความอบอุ่น Body warmth การนำทารกให้มารดาโอบกอดจะทำให้ทารกไม่สูญเสียความร้อน
การให้ภูมิคุ้มกันทางน้ำนม T and B lymphocyte จะช่วยป้องกันเชื้อโรคได้
การให้ภูมิคุ้มกันทางเดินหายใจ Bacteria nasai flora ในขณะที่มารดาอุ้มทารกจะมีการถ่ายทอดเชื้อโรคผ่านทางเดินหายใจทำให้เกิดภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคได้
การดูแลฝีเย็บ
การทำความสะอาด
การอบแผล
ให้สุขศึกษา
การออกกำลังกาย
วางแผนครอบครัว
การรับประทานอาหาร
ผักผลไม้บำรุง/เร่งน้ำนม
มะขาม
มะรุม
หัวปลี
ฟักทอง
มะละกอ
ขิง
ใบกะเพรา
การดูเเลความสะอาดร่างกายทารกเเรกเกิด
การทำความสะอาดสะดือ
วัตถุประสงค์
1.เพื่อทำความสะอาด
2.เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
3.เพื่อสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นบริเวณสะดือเเละสารคัดหลั่ง
อุปกรณ์
1.อับสำลีเเละสำลี หรือไม้พันสำลีที่ปราศจากเชื้อ
2.แอลกอฮอล์ 70% หรือ Triple dry
3.ชามรูปไต
วีธีการ
1.เตรียมอุปกรณ์
2.ล้างมือให้สะอาด เเละเช็ดให้เเห้ง
3.หยิบสำลี ไม้พันสำลีเทแอลกอฮอล์ หรือ Triple dry เปียกพอหมาด
4.เช็ดสะดือ
5.ลงบันทึกสิ่งที่ตรวจพบขณะทำความสะอาด
6.ไม่ควรโรยแป้งหรือผงโรยสะดือ
การอาบน้ำเด็กทารก
วัตถุประสงค์
1.เพื่อทำความสะอาด
2.เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
3.เพื่อสร้างความสุขสบาย
4.เพื่อสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นที่ศีรษะเเละร่างกาย
อุปกรณ์
1.อ่างอาบน้ำ
2.ถาดสำหรับใส่ของใช้
3.อับสำลีเเละสำลี
4.ชามรูปไต
5.สบู่ เเชมพู
6.ผ้าถูตัว หรือฟองน้ำ ผ้าเช็ดตัวผ้ายางกันเปียก
7.เสื้อผ้า ผ้าอ้อม
8.น้ำเกลือเช้ดตา หรือน้ำต้มสุกเย็น
วิธีการ
1.จัดสถานที่ในการอาบน้ำให้อุณหภูมิอบอุ่น
2.ล้างมือให้สะอาดเเละเช้ดให้เเห้ง
3.เตรียมน้ำในอุณหภูมิ 36.5-37.8 องศา
4.ผู้อุ้มอยู่ปลายเท้าทารก ใช้ดมือข้างที่ถนัดจับข้อเท้าทารถทั้ง2ข้างดดยใช้้นิ้วคั่นกลางระหว่างข้อเท้า เพื่อช่วยในการยึดเท้าเด็กเเละไม่ให้กระดกข้อเท้า
5.ใช้สำลีชุบน้ำเกลือหรือน้ำต้มสุก เช็ดตา
6.ใช้สำลีชุบน้ำเกลือหรือน้ำต้มสุกเช็ดบริเวณรอบๆปากทารกที่มีคราบน้ำนมหรือน้ำลาย
7.ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดบริเวณหน้า เว้นตาเเละริมฝีปาก เเละเช็ดรอบๆคอ
8.สระผม โดยใช้มือข้างที่ไม่ถนัดอุ้มทารกขึ้นเพื่อให้อยู่ในท่าอุ้มลูกบอล โดยให้ลำตัวของทารกเเนบกับลำตัวของผู้อาบเเละท่อนเเขนของผู้อาบรองลำตัวทารกไว้ ฝ่ามือรองบริเวณศีรษะ พับใบหอทั้ง2ข้างโดยใช้นิ้วหัวเเม่มือเเละนิ้วกลางหรือเป้นนิ้วอื่นที่ผู้อาบถนัด อุ้มให้เเนวศีรษะของเด็กทารกต่ำกว่าลำตัวเล็กน้อย
9.ใช้ฝ่ามือกวักน้ำขึ้นมาลูบศีรษะของเด็กทารกให้เปียกจนทั่ว จากนั้นเทเเชมพูลงบนมือเเละลูบไล้ให้ทั่วศีรษะ โดยใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ
10.ล้างเเชมพูออกให้หมด เช็ดตัวให้เเห้งทันที อุ้มทารกมาวางที่เบาะนอน
11.ใช้ผ้าหรือฟองน้ำถูตัวชุบน้ำอุ่น เช็ดตามใบหน้าเเละรอบปาก
12.ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำอุ่น ฟอกสบู เช็ดคราบสบู่ออก
13.อุ้มทารกวางลงในอ่างน้ำที่เตรียมไว้
14.จับนอนหงาย จากนั้นอุ้มขึ้นนำไปเช็ดตัว
15.ใส่เสื้อผ้า นุ่งผ้าอ้อม
จัดทำโดย : นางศิริธร ยุทธพงษ์ธาดา ชั้นปีที่ 3 รุ่น 37