Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปความรู้จากวีดีโอในระยะคลอด LR, กระดูกเชิงกราน (1), นาย ธีภพ จ่ารุ่ง…
สรุปความรู้จากวีดีโอในระยะคลอด LR
เทคนิคกาตรวจภายใน
คือ การตรวจทางช่องคลอดโดยใช้นิ้วมือของผู้ตรวจสอดเข้าภายในช่องคลอด โดยใช้วิธีสะอาดปราศจากเชื้อ
อุปกรณ์
ขัน สำลี 5 ก้อน Forceps
ถุงมือสะอาด
น้ำยาฆ่าเชื้อและน้ำยาหล่อลื่น
ผ้าปิดตา
วัตถุประสงค์
เพื่อทราบการเปลี่ยนแปลงของปากมดลุก และติดตามความก้าวหน้าของการคลอดในหญิงตั้งครรภ์ระยะคลอด
เทคนิคการตรวจภายใน
การใช้นิ้วชื่อและนิ้วกลางในการตรวจ
สิ่งที่ต้องประเมิน
การเปิดขยายของปากมดลูก
ความบางของปากมดลูก
ถุงน้ำคล้ำ ดูว่ายังอยู่หรือแตก
ระดับของส่วนนำ
การตรวจความบางของปากมดลูก Effacement
ความหน้าของปากมดลูกในเวลาปกติ มีค่าเท่ากับ 2 cm = 0%
ความหนา 1 cm =50%
ความหนา 0.5 cm = 75%
ความหนา 1-2mm =100%
การตรวจถุงน้ำคล่ำ membranes intact or ruptured
โดยการใช้นิ้วมือทั้ง 2 คือนิ้วชี้และนิวกลางในการคลำ
โป่งตึง แสดงว่ายังไม่แตก เรียก MI (membranes intact )
แตก จะคล้ำได้ส่วนนำ ศีรษะ แข็งลื่น สาก หากส่วนำเป็นก้นจะนิ่มๆ MR (membranes ruptured )
ระดับส่วนนำ Station
วิธีที่ 1 การคลำหา ischial spine
สอดนิ้วเข้าช่องคลอดบริเวณ pelvic floor จะพบปุ่มหากปาดนิ้วขึ้นไป พบส่วนนำจะบ่งบอกว่าว่าระดับของส่วนนำ = 0 หากต้องสอดมือเข้าไปลึกส่วนนำจะมีค่าเป็น = - แต่ถ้าหากต้องถอยมือออกมาแสดงว่าส่วนนำมีค่าเป็น = +
วิธีที่ 2 หากไม่สามารถคลำหา Ischial spine ได้
ให้ทราบว่าความยาวของปาดช่องคลอด ภึง ischial มีความยาวประมาณ 5 cm.
โดยผู้ตรวจต้องทราบความยาวของนิ้วกลางผู้ตรวจ
หากสอดนิ้ว ลึก 5 cm = 0 ลึก 4 cm = +1 ลึก 6 cm = -1
กลไกการคลอด
กระดูกเชิงกราน
Ilium , Ischial , sacrum , coccyx
symphysis pubis
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ด้านเหนือเรียก false pelvis
ด้านล่าง เรียก True pelvis
inlet = ช่องเข้า
การวัดช่องเข้าเชิงกราน
AP diameter คืออการวัดจาก symphysis pubis - pulmonary of sacrum 11.5 cm
true conjugate ขอบบน symphysis pubis
Obstetrical conjugate ขอบกลาง symphysis pubis 10.5 cm
Diagonal conjugate ขอบล่าง symphysis pubis
transvers line คือ เส้นที่ลากระหว่าง Iliopectineal line จากซ้ายไปขวา 13 cm
เส้นแนวเฉียง ดูจาก sacroiliac joint
แข่งโดยการดูการเฉียงจาก sacroiliac joint ซ้ายและขวา หากเฉียงซ้ายจะมาจาก sacroiliac joint ซ้าย เฉียงขาวจะมาจาก ขวา
Cavity ช่องว่างตรงกลาง
Inter spinous วัดจาก ส่วนปลายของ Ischial spine มีขนาด 10-10.5 cm
outlet ช่องออก
AP diameter คืออการวัดจาก symphysis pubis - pulmonary of sacrum 11.5 cm + การขยายของ coccyx ได้อีก 1.5 = 13 cm.
กลไกการคลอด
Extension หรือ Birth of the fetal part การที่ส่วนนำคลอดผ่านพ้นทางช่องคลอดออกมาภายนอกโดยเงยหน้า ดังนั้นจะใช้ SOB SOF ผ่านออกมาตามลำดับ มีปัจจัยที่ทำให้เกิด คือ ช่องทางคลอดส่วนล่างหักมุมโค้งมาทางด้านหน้า แรงดันจากมดลูกหดรัดตัวและแรงเบ่งของผู้คลอด ทารกมีข้อต่อต่างๆ ทำให้ส่วนของทารกเคลื่อนไปตามทิศทางที่เปลี่ยนไปตามทิศทางที่เปลี่ยนไป
Internal rotation คือ การหมุนของศีรษะทารกภายในช่องเชิงกราน เพื่อจะได้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับช่องเชิงกรานที่มีช่องเข้าเป็นแนวขวางแต่มีช่องออกเป็นแนวยาว เมื่อเคลื่อนผ่านช่องออกทารกต้องหมุนท้ายทอยไป ด้านหน้า เพื่อให้แนว AP อยู่ในแนวยาว สิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการหมุนคือแรงต้านจาก Pelvic floor ต่อศีรษะทารกที่เคลื่อนต่ำลงมา
Restitution คือ การหมุนกลับของศีรษะทารกภายนอกช่องคลอดเพื่อให้ สัมพันธ์กับส่วนที่อยู่ภายในช่องคลอดให้อยู่ในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ
Descent การที่ศีรษะทารกเคลื่อนต่ำลงไปในช่องเชิงกราน จากแรงดันของน้ำคร่ำ การหดรัดตัวของมดลูกและกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระบังลม ทำให้ทารกยืดตัวในแนวที่ทำให้เกิด Fetal axis pressure
External rotation คือ การหมุนของศีรษะทารกภายนอกช่องคลอดเป็นการหมุนตามการหมุนภายในของไหล่ เพื่อให้ศีรษะและไหล่ตั้งฉากกันตามธรรมชาติ
Engagement คือ การที่ส่วนนำที่กว้างที่สุด (biparietal diameter) ผ่านเข้าสู่ช่องเชิงกรานโดย sagital suture อยู่ในแนวขวางหรือเฉียง มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ molding และ asynclitism (การตะแคง) ครรภ์แรกเกิด 2-3 สัปดาห์ก่อนคลอด ครรภ์หลัง เกิดเมื่อเข้าสู่ระยะคลอด ตรวจวินิจฉัย engagement โดยใช้ท่า bilateral grip, Pawlik’s grip และการ PV
Expusion คือ การขับเคลื่อนเอาตัวทารกออกมา
ทั้งหมด
Flexion การก้มของศีรษะทารกจนชิดคางชิดอก ทำให้ส่วนนำเปลี่ยนจาก OF เป็น SOB
กะโหลกศีรษะเด็ก
parietal bone ,frontal bone , occipital bone
suture
sagittal suture
frontal suture
coronal suture
lambdoidal suture
กระหม่อม
กระหม่อมหน้า bregma
กระหม่อมหลัง occiput
ส่วนกลางระหว่าง Bregma กับ occiput เรียก Verteg
การพยาบาลมารดาทารกในระยะคลอด
การทำคลอดรก
วิธีการทำคลอดรก
Modified Grede maneuver คลึงมดลูกให้หดรัดตัวดีก่อนแล้วผลักมดลูกให้มาอยู่ตรงกลางหน้าท้องจับยอดมดลูกให้อยู่ในอุ้งมือและดันเข้าหา promontory of sacrum หรือประมาณ 30 องศา
Brandt-Andrew maneuver ผู้ทำคลอดล็งมดลูก ให้หดรัดตัวดีและผลักยอดมดลูกให้มาอยู่ตรงกลางหน้าท้องกดหน้าท้องบริเวณเหนือหัวเหน่าลงมาในแนวช่องเชิงกรานตอนบนหรือประมาณ 45 องศา
Control cordtraction ผู้ทําคลอดคงมดลูกให้หดรัดตัวดีและผลัก ยอดมดลูกให้มาอยู่ตรงกลางหน้าท้องใช้มือข้างที่ถนัดรับสายสะดือให้แนนแล้วดึงสายสะดือเพื่อให้รกและเยื่อหุ้มเด็กคลอดออกมา
อาการแสดงของรกลอกตัว
Uterine signs มดลูกกลมแข็งเหนือระดับสะดือ
Cord signs เหี่ยว คลาย คลำ pulse ไม่ได้
Vulva signs มีลักษณธสีแดงคล้ำออกทางช่องคลอด 30-60cc.
การตรวจรก
การตรวจรกด้านลูก
ขนาดและความหนาของรกเส้นผ่านศูนย์กลาง 15-20 cm.
ลักษณะและความผิดปกติต่างๆ ของรก
สีของรกด้านลูก การมีสีของขี้เทา
การแผ่ของรก
ชนิดของรกที่มีความผิดปกติ
รกที่มีขนาดใหญ่และบาง Placenta membranacea
รกที่มีเส้นเลือดเชื่อมระหว่างรกใหญ่และรกเล็ก placenta succenturiata
รกที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ Placenta circumvallata
รกที่ไม่มีเส้นเลือดเชื่อมระหว่างรกใหญ่และรกน้อย placenta spurium
การตรวจรกด้านแม่
สีลักษณะของรก การบวมของรก
ความสมบูรณ์ของ Cotyledon
เนื้อตายหรือมีการเกาะของแคลเซียมบริเวณรก
การตรวจสายสะดือ
สี ลักษณะของสายสะดือ สีขาวใสเหลือนำ้เงิน
ความยาวของสายสะดือ 35-100 cm
ตำแหน่งของสายสะดือบนรก
เกาะค่อนด้านใดด้านหนึ่ง lateral insertion
เกาะริมขอบรก marginal insertion หรือ battledore
เกาะตรงกลาง central insertion
เกาะบนเยื่อหุ้มเด็ก membranous insertion
ปมของสายสะดือ
true knot
สายสะดือผูกเป็นปมแน่น
false knot
Vascular knot สายสะดือขนกันเป็นปมจากเส้นเลือด
jelly knot ปมใสที่มีลักษณะคล้ายเจลลี่
การรับคลอด
ระยะที่ 2 ของการคลอด Second stage of labor
คือ ระยะที่มีการคลอดทารกเริ่มตั้งแต่ ปากมดลูกเปิดหมดจนถึงทารกคลอด ใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ไม่เกิร 1 ชั่วโมง
ครรภ์แรก 1-2 ชั่วโมง ครรภ์หลัง 15-30 นาที
อาการแสดงที่บ่งบอกว่าเข้าสู่ระยะที่ 2
มี Bloody show
เจ็บครรภ์ถี่
ถุงน้ำคล่ำแตก
แคมนอกอ้าออก
ระยะที่ 3 ของการคลอด third stage of labor
ระยะคลอดรก เริ่มตั้งแต่ทารกคลอดจนถึงรกคลอด และเยื่อหุ้มรกออกมาครบ ใช้เวลา 5-15 นาที ไม่เกิน 30 นาที
ระยะที่ 1 จองการคลอด First stage of labor
คือ ระยะที่มีการเริ่มเจ็บครรภ์จนถึงปากมดลูกบาง และปากมดลูกเปิดหมด 10 cm
ครรภ์แรกใช้เวลา 8-24 ชั่วโมง โดยเฉี่ยประมาณ 12 ชั่วโมง ครรภ์หลังใช้เวลา 4-12 ชั่วโมง เฉี่ย 6 ชั่วโมง
การเจ็บครภ์จริง คือ
ปากมดลูกเริ่มเปิด
มีมูกปนเลือด หรือมี ML/MR
การเจ็บครรภ์มีความถี่และสม่ำเสมอ
ระยะที่ 4 ของการคลอด Fourth stage of labor
มดลุกมีขนาดเล็กลงยอดมดลูกอยู่เนหือระดับสะดือ
นาย ธีภพ จ่ารุ่ง เลขที่ 33 กลุ่มที่ 8