Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Learning Psychology จิตวิทยาการเรียนรู้ - Coggle Diagram
Learning Psychology
จิตวิทยาการเรียนรู้
ความหมายของการเรียนรู้
“ความรู้ คือการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับปฏิกิริยาตอบสนอง”
Edward L. Thorndike (บิดาแห่งจิตวิทยาการศึกษา)
“การเรียนรู้ หมายถึง การเปลี่ยนแลปลงสมรรถภาพ แลละความสามารถของบุคคลอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่กeหนดให้เพื่อเชื่อให้เกิดการเรียนรู้ การเปลี่ยนแลปลงที่เกิดขึ้นจะคงอยู่ให้เห็นได้นานพอสมควร”
Robert M. Gagne
“การเรียนรู้ เป็นการแลสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์ที่แลต่ละบุคคลประสบมา”
Cronbach
-การเรียนรู้ คือการเปลี่ยนแลปลงพฤติกรรมหรือการเกิดศักยภาพของพฤติกรรม (Behavior potential)
-การเรียนรู้ เป็นการเปลี่ยนแลปลงทั้งในทางบวกหรือทางลบ
-การเรียนรู้ ต้องเป็นการเปลี่ยนแลปลงที่ถาวรหรือค่อนข้างถาวร
-การเรียนรู้ การเปลี่ยนที่ถือว่าเป็นการเรียนรู้ต้องเป็นผลมาจากประสบการณ์ของบุคคล
-กระบวนการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมในการแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อสถานการณ์
อย่างใดอย่างหนึ่ง
-การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันมีผลมาจากการได้มีประสบการณ์
-กระบวนการที่ท าให้เกิดกิจกรรม
-กระบวนการที่ทำให้กิจกรรมเปลี่ยนแปลงไป โดยเป็นผลตอบสนองจากสภาพการณ์หนึ่งซึ่งไม่ใช่ปฏิกิริยาธรรมชาติ ไม่ใช่วุฒิภาวะ และไม่ใช่สภาพการเปลี่ยนแปลงของร่างกายชั่วครั้งชั่วคราว อันเนื่องมาจากความเหนื่อยล้าหรือฤทธิ์ยา
-กระบวนการที่เนื่องมาจากประสบการณ์ตรงและประสบการณ์อ้อมกระทำให้อินทรีย์เกิด
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ค่อนข้างถาวร
-การเปลี่ยนแปลงค่อนข้างถาวรในพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลของการฝึกหัด
จากความหมายของการเรียนรู้ข้างต้นสรุปได้ว่า.....การเรียนรู้ หมายถึง การเปลี่ยนแลปลงพฤติกรรมอันเป็นผลจากการที่บุคคลทำกิจกรรมใดๆ ที ่ท าให้มีประสบการณ์แลละทักษะต่างๆ และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแลปลงพฤติกรรมที่ค่อนข้างถาวร
ประสบการณ์ทางตรงคือ ประสบการณ์ที่บุคคลได้พบหรือสัมผัสด้วยตนเอง มีผลท าให้เกิดการเรียนรู้เพราะมีการ
เปลี่ยนแปลงที่ท าให้เผชิญกับสถานการณ์เดิมแตกต่างไปจากเดิม
ประสบการณ์ทางอ้อมคือ ประสบการณ์ที่ผู้เรียนไม่ได้ประสบหรือสัมผัสด้วยตนเองโดยตรง แต่อาจได้รับ
ประสบการณ์ทางอ้อมจากผู้อื่น เช่น การอบรมสั่งสอน การบอกเล่า หรือวิธีการอื่นเช่น การอ่านหนังสือ การอ่านข่าว เป็นต้น
Behaviorism or Associative Theories
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม
1.Classical Conditioning Theory
ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไขแลบบคลาสสิก
Ivan Pavlov
John B. Watson
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแลบบคลาสสิก by Pavlov
การเรียนรู้ของสิ่งมีชีวิตเกิดจากการวางเงื่อนไข (Conditioning)คือ การตอบสนองหรือการเรียนรู้ที ่เกิดขึ้นนั้น ๆ ต้องมีเงื่อนไขหรือมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น เช่น สุนัขได้ยินเสียงกระดิ่งแล้วน้ำลายไหล เป็นต้น
กฎ 4 ข้อที่ค้นพบจากการทดลอง
Extinction
กฎการดับสูญพฤติกรรมที่ได้รับแต่สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขเพียงออย่างเดียวหรือความสัมพันธ์ของสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขกับสิ่งเร้าตามธรรมชาติไม่ชัดเจนจะมีความเข้มข้นที่ลดลงหรือหายไปแม้เกิดการเรียนรู้แล้ว
Spontaneous
Recovery
กฎการคืนกลับพฤติกรรมที่ดับสูญไปจะฟื้นกลับมาเมื่อได้รับการเสริมแรง
Generalization
กฎความคล้ายคลึงพฤติกรรมอาจเกิดซ้ำในสถานการณ์หรือสถานที่ที่มีสิ่งเร้าหรือสัญลักษณ์คล้ายกัน
Discrimination
กฎการจำแนกเกิดการจำแนกความแตกต่างของสิ่งเร้าให้ชัดเจน สิ่งใดคือสิ่งเร้าที่จะตอบสนอง และสิ่งใดคือสิ่งเร้าที่จะไม่ตอบสนอง
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแลบบคลาสสิก by Watson
-Watson นำเอาทฤษฎีของ Pavlov มาเป็นหลักสำคัญ ในการอธิบายเรื่องการเรียนรู้
-ผลงานได้รับความนิยมจนได้รับการยกย่องว่าเป็น“บิดาของจิตวิทยาพฤติกรรมนิยม”
-พฤติกรรมนิยมมองมนุษย์อย่างเป็นกลาง คือ ไม่ดี ไม่เลว (neutral-passive)
-การกระทำต่าง ๆ ของมนุษย์เกิดจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก
-พฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้า (stimulus-response) โดยการเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง เป็นการศึกษาพฤติกรรมที่สามารถเห็นได้หรือวัดได้
-การอธิบายเรื่องการเกิดอารมณ์จากการวางเงื่อนไข (Conditioned emotion)
ข้อสรุปที่เกิดจากการเรียนรู้
พฤติกรรมเป็นสิ่งที่สามารถควบคุมให้เกิดขึ้นได้ โดยการ
ควบคุมสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขให้สัมพันธ์กับสิ่งเร้าตามธรรมชาติ
การเรียนรู้จะคงทนถาวร หากมีการให้สิ่งเร้าที่สัมพันธ์กัน
นั้นควบคู่กันไปอย่างสม ่าเสมอ
เมื่อสามารถท าให้เกิดพฤติกรรมใด ๆ ได้ ก็สามารถลด
พฤติกรรมนั้นให้หายไปได้
2.Operant Conditioning Theory
ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไขแบบการกระทำ
Burrhus Skinner
ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไข
แบบการกระทำ by Skinner
-Skinner มองว่าทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิกของ Pavlov
นั้นจำกัดอยู่กับพฤติกรรมการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนน้อยของมนุษย์
-พฤติกรรมส่วนใหญ่นั้นมนุษย์จะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเอง ไม่ใช่เกิดจากการจับคู่ระหว่างสิ่งเร้าใหม่กับสิ่งเร้าเก่าตามการอธิบายของ Pavlov
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต 2 แบบ
Respondent Behavior
พฤติกรรมหรือการตอบสนองที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ หรือเป็นปฏิกิริยาสะท้อน (Reflex)ซึ่งสิ่งมีชีวิตไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เช่น การกระพริบตา น้ำลายไหล
Operant Behavior
พฤติกรรมที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตเป็นผู้กำหนด หรือเลือกที่จะแสดงออกมาส่วนใหญ่จะเป็นพฤติกรรมที่บุคคลแสดงออกในชีวิตประจำวัน เช่น กินนอน พูด เดิน ท างาน ขับรถ
องค์ประกอบของการเรียนรู้
Antecedents คือ เงื่อนไขน าหรือสิ่งเร้าที่กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม (สิ่งที่ก่อให้เกิดขึ้นก่อน) ทุกพฤติกรรมต้องมีเงื่อนไขน า เช่น วันนี้ต้องเข้าเรียนบ่ายโมง พฤติกรรมเราถูกก าหนดด้วยเวลา
Behavior คือ พฤติกรรมที่แสดงออก
Consequences หรือผลกรรม เกิดขึ้นหลังการท าพฤติกรรม เป็นตัวบอกว่าเราจะท าพฤติกรรมนั้นอีกหรือไม่ ดังนั้น ไม่มีใครที่ท าอะไรแล้วไม่หวังผลตอบแทน
หลักการและแนวคิด
การเรียนรู้ คือการเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมการจะพิจารณาว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่ ให้ดูจากแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงการตอบสนอง
การเสริมแรง (Reinforcement)การด าเนินการบางอย่างให้บุคคลได้รับผลที่พึงพอใจ
เพื่อให้อัตราการตอบสนองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
การลงโทษ (Punishment)การให้สิ่งที่ผู้รับไม่พึงประสงค์ หรือถอดถอนสิ่งที่บุคคลพึงพอใจออก เพื่อให้อัตราการตอบสนองหรือการแสดงพฤตกรรมไม่พึงประสงค์ลดลงหรือหายไป
Cognitive
Theoriesทฤษฎีการเรียนรู้
กลุ่มปัญญานิยม
-เน้นกระบวนการทางความคิดและปัญญา
-เชื่อว่าการเรียนรู้ของมนุษย์ไม่ใช่แค่การแสดงพฤติกรรมจากการตอบสนองสิ่งเร้า
-การเรียนรู้เป็นกระบวนการทางความคิด เกิดจากการสะสมข้อมูลการสร้างความหมาย ความสัมพันธ์ของข้อมูล การดึงข้อมูลออกมาใช ้ในการกระทำหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ
-ดังนั้นนการเรียนรู้ถือเป็นกระบวนการทาง “สติปัญญา”
Herbert John Klausmeier
นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน
"สมองมนุษย์มีความคล้าายคลึงกับการทำงานของเครื่อง computer"
Max Wertheimer
ผู้นำทฤษฎีการเรียนรู ้แบบปัญญานิยม กลุ่ม Gestalt
นักจิตวิทยาในกลุ่มที่สำคัญ
Wolfgang Kohler,Kurt Koffka,Kurt Lewin
“ส่วนรวมมีค่ามากกว่าส่วนย่อย”
การเรียนรู้เกิดจากการจัดสิ่งเร้าต่าง ๆ มารวมกันจนเกิดเป็นการรับรู้โดยส่วนรวมก่อน และจึงวิเคราะห์แยกเพื่อเรียนรู ้และทำความเข้าใจในส่วนย่อยทีละส่วนต่อไป
หลักการเรียนรู้
การรับรู ้ (Perception)
การหยั่งเห็น (Insight)
การรับรู้
(Perception)
เป็นการตีความหรือการแปลความหมายจากการสัมผัสด้วยอวัยวะทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนัง
การตีความมักอาศัยประสบการณ์เดิม
การหยั่งรู้
(Insight Learning)
การเรียนรู้ของบุคคลเป็นการแปลความหมายของสถานการณท์้งหมดเป็นส่วนรวมจนเกิดการหยั่งเห็นขึ้นในใจ
The laws of organization
กฎการจัดระเบียบการรับรู ้ของกลุ่ม Gestalt
กฎแห่งความแน่นอน / ชัดเจน“Figure and Ground”
กฎแห่งความคล้ายคลึง
กฎแห่งความใกล้เคียง / ใกล้ชิด
กฎแห่งการเติมเต็ม
กฎแห่งความต่อเนื่อง
Social Cognitive Learning Theory
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมเชิงพุทธิปัญญา
Albert Bandura
นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน
“การเรียนรู ้ของมนุษย์ส่วนมากเป็นการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือเลียนแบบ”
Social Cognitive Learning Theory
“ทฤษฎีการเรียนรู ้ทางสังคมเชิงพุทธิปัญญา”
การเรียนรู้โดยการสังเกตหรือเรียนแบบ
(Observational Learning / Modeling)
การเรียนรู้เกิดจากปฏิสัมพันธ์ (Interact) ระหว่างผู้เรียนกับสิ่งแวดล้อม (มีอิทธิพลึ่่งกันและกัน)
สิ่งแวดล้อมและผู้เรียนมีความส าคัญเท่า ๆ กัน
การปรับตัวคือการเลียนแบบ ช่วยให้อยู่ร่วมกันได้
ให้ความสำคัญกับการสังเกตการกระทำของผู้อื่นแล้วพยายามทำตามจนเกิดเป็นการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมทางสังคม เช่น การพูด การแต่งกาย การเล่นดนตรี การเล่นกีฬา การร้องเพลง