Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Respiratory Distress Syndrome : RDS กลุ่มอาการหายใจลำบาก, นางสาวจันทิมา…
Respiratory Distress Syndrome : RDS กลุ่มอาการหายใจลำบาก
ความหมาย
ภาวะกลุ่มอาการหายใจลำบาก (Respiratory Distress Syndrome :RDS) คือ กลุ่มอาการหายใจลำบากที่พบบ่อยในทารกคลอดก่อนกำหนดจะปรากฏอาการภายใน 6 ชั่วโมงหลังคลอด และมีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ เกิดจากปอดที่ยังทำงานไม่สมบูรณ์ ภาวะนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งตามลักษณะทางพยาธิวิทยาว่า Hyaline Membrane Disease (HMD)
พยาธิ
ภาวะ RDS เกิดจากถุงลมปอดของทารกขาดสารลดแรงตึงผิว ทำให้ถุงลมแฟบหลังจากหายใจออกปริมาตรและความยืดหยุ่นของปอดลดลง ต้องใช้แรงในการหายใจเข้าเพิ่มขึ้น เกิดความไม่สมดุลระหว่างการระบายอากาศ (Ventilation) และการก๋ซาบ (Perfusion) ทำให้เกิดภาวะเลือดขาดออกซิเจน (Hypoxemia) และมีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ (Hypercapnia)มีอาการรุนแรงเลือดอาจลัดวงจรจากซ้ายไปขวาผ่าน PDA ทำให้มีเลือดไป และเกิดภาวะปอดบวมน้ำ เซลล์บูหลอดเลือดฝอยที่อยู่รอบถุงลมบวมและสูญเสียความซึมซ่านผ่านได้ (Permeability) ทำให้น้ำและโปรตีนซึมออกนอกหลอดเลือดฝ่อยและเข้าไปฉาบอยู่ด้านในผนังถุงลม ทำให้สารลดแรงตึงผิวสูญเสียคุณสมบัติในการลดแรงตึงผิว
อาการ
-หายใจลำบาก หายใจเร็วหอบ หน้าอกหรือช่องระหว่างซี่โครงนุ่ม ปีกจมูกบาน
-หายใจมีเสียงคราง (Moaning) และเสียงร้องครางขณะหายใจออก (Expiratory grunting)
-อาการเขียว (Cyanosis)
-ความดันโลหิตต่ำ ซีดหรือคล้ำ ระยะต่อมาหลังมือหลังเท้ามักจะบวม
-เสียงหายใจผิดปกติ ฟังปอดมักได้ยินเสียงหายใจหยาบ (Harsh breath sound) หรือเสียงกรอบแกรบ (Fine Crepitation) และเสียงลมเข้าปอดลดลง
-อาการอื่น ๆ เช่น อุณหภูมิกายต่ำ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวขยับร่างกาย ถ้าอาการรุนแรงมากขึ้นมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ระยะต่อมาจะมีอาการบวมและปัสสาวะน้อย
-มีการหายใจที่ทรวงอกและหน้าท้องเคลื่อนไหวไม่พร้อมกัน (Paradoxical chest movement หรือ See-saw breathing)
สาหตุคือ การขาดสารลดแรงตึงผิว Surfactant หรือเกิดจากการสร้างสารลดแรงตึงผิในปอดได้ช้าหรือไม่สมบูรณ์และอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีส่วนชักนำให้เกิดโรคนี้เพิ่มขึ้น เช่น มารดาตกเลือดก่อนคลอด มารดาเป็นเบาหวาน หรือมีภาวะขาดออกซิเจนปริกำเนิด (Perinatal Asphyxia) เป็นต้น
การวินิจฉัย
1.ประวัติการคลอด
อาการและอาการแสดง
ระดับก๊าซในเลือด
ผลการถ่ายภาพรังสีปอด
ไม่มีหลักฐานของการติดเชื้อในระยะแรกของโรค
การดำเนินโรค
ความรุนแรงตามภาพถ่ายรังสีปอด
ระดับที่ 1 พบ Fine reticulogranular บางตำแหน่ง ปอดขยายตัวดี
ระดับที่ 2 wบ Fine reticulogranular บางตำแหน่ง + airbronchograms
ระดับที่ 3 พบ Fine reticulogranular กระจายอยู่ทั่วไป เห็นเงาขอบเขตหัวใจ + air bronchograms ซัดขึ้น
ระดับที่ 4 ปอดทั้ง 2 ข้าง เป็นสีขาว เรียกว่า "white lung"
การพยาบาล
1.ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน เช่น ภาวะหายใจล่าบาก ติดตามสัญญาณชีพ ติดตามค่า Arterial blood gas
2.ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งอยู่เสมอ โดยดูดเสมหะในปากและลำคอ
3.จัดท่านอนในท่าศรีษะสูงหรือนอนราบ เพื่อช่วยในการแลกเปลี่ยนก๊าซ
4.ดูแลให้ได้รับ Oxygen ตามแผนการรักษา
5.ส่งเสริมให้มีการสร้างลดแรงตึงผิว
ควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่น
รบกวนทารกให้น้อยที่สุด
ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล
ดูแลให้ได้รับสารลกแรงตึงผิวตามแผนการรักษา
นางสาวจันทิมา ศิรินพกร รหัสนักศึกษา622801012