บทที่ 5
ปัจจัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้
บทที่ 5
ปัจจัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้
ปัจจัยเกี่ยวกับผู้เรียน
1.3 ความพร้อมทางสมอง เนื่องจากกระบวนการเรียนรู้มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่สมองดังนั้นหากสมองมีความบกพร่องในการทํางาน ก็จะทําให้กระบวนการเรียนรู้เสียไปด้วย
1.2 ความพร้อมทางอารมณ์ พยายามให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ เกิดความรู้สึกว่า สิ่งที่กําลังเรียนเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ไม่รูสึกว่าเป็นความจําเป็นที่จะต้องเรียนหรือถูกบังคับให้เรียน
1.1 ความพร้อมทางร่างกาย เมื่อผู้เรียนมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ผู้เรียนจะมีความจําดี เรียนรู้ได้เร็ว คิดวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ได้ดี
click to edit
2.1 การเร้าให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ การเร้าให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นการเร้าให้เกิดความวิตกกังวล
2.3 การชมเชยและการตําหนิ เด็กโตชอบการชมเชยมากกว่าการตําหนิ เด็กหญิงให้ความสนใจในเรื่องการชมเชยและการตําหนิน้อยกว่าเด็กชาย เด็กเก่งเมื่อถูกตําหนิจะพยายามมากกว่าเมื่อได้รับคําชม
2.2 สร้างให้มีการแข่งขันและการร่วมมือไปพร้อม ๆกัน
2.4 การให้ผู้เรียนทราบความสําเร็จในการเรียน จะเป็นแรงจูงใจให้เขาอยากเรียนมากขึ้น
2.5 การให้ผู้เรียนได้ทราบพัฒนาการความก้าวหน้าของตนเอง ให้ผู้เรียนรู้ว่าตนเองทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เพียงใด ผู้เรียนจะสนใจใฝ่รู้ในงานนั้น
2.6 การให้รางวัลและการลงโทษเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีจะต้องคํานึงถึงสิ่งต่าง
2.7 การตั้งระดับความคาดหวัง เด็กที่ประสบความสําเร็จและเรียนได้ดีมักมาจากครอบครัวที่มีความคาดหวังสูงซึ่งมีความเชื่อมั่นในความสามารถของผู้เรียน
click to edit
3.1 ทฤษฎีเชาวน์ปัญญา
3.1.1 ทฤษฎีองค์ประกอบเดียว (Uni - factor Theory) อัลเฟรด บิเนท (Alfred Binet)
สมรรถภาพของสมองที่แสดงความสามารถด้านการจํา การคิด (คิดอย่างมีเหตุผล คิดเป็นนามธรรม คิดสร้างสรรค์) การตัดสินใจ การแก้ปัญหา (โดยเฉพาะปัญหา เฉพาะหน้า)
3.1.3 ทฤษฎีของเธอร์สโตน (Thurstone) หลุยส์ เธอร์สโตน (Louis Leon Thurstone) ทําการวิเคราะห์องค์ประกอบของเชาวน์ปัญญาเรียกว่า “สมรรถภาพพื้นฐานของสมอง” จําแนกได้ 7 ประการ คือ
3.1.2 ทฤษฎีสองตัวประกอบ (Two - factor Theory) ชาลส์ สเปียร์แมน (Charles Spearman)
3.1.3.1 ความเข้าใจภาษา (Verbal Comprehension ย่อว่า V.)
3.1.3.2 ความคล่องแคล่วในการใช้คํา (Word Fluency ย่อว่า W.)
3.1.3.3 ความสามารถในการใช้ตัวเลข (Number ย่อว่า N.)
3.1.3.4 มิติสัมพันธ์ (Space ย่อว่า S.)
3.1.3.5 ความจํา (Memory ย่อว่า M.)
3.1.3.6 การใช้เหตุผล (Reasoning ย่อว่า R.)
3.1.3.7 ความเร็วในการรับรู้ (Perceptual Speed ย่อว่า P.)
click to edit
3.1.4 ทฤษฎีโครงสร้างเชาวน์ปัญญาของกิลฟอร์ด (Guilford’s Structure ofIntellect Model) กิลฟอร์ด (Guilford)
3.1.5 ทฤษฎีพหุปัญญาของการ์ดเนอร์โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) นักจิตวิทยาชาวอเมริกันแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
click to edit
พันธุกรรม (Heredity) สิ่งแวดล้อม (Environment)
3.4 ระดับเชาวน์ปัญญา
3.2 องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อเชาวน์ปัญญา
3.3 การวัดเชาวน์ปัญญา
3.5 ลักษณะและการจัดการเรียนรู้สําหรับผู้เรียนที่แตกต่างกันด้านเชาวน์ปัญญา
2) ระบบความจําระยะสั้น (Short Term Memory)เป็นหน่วยความจําที่มีสมรรถภาพจํากัด โดยการตีความหรือสร้างภาพพจน์ของสิ่งที่ต้องการจะจําบันทึกไว้ในเวลาสั้น ๆ
3) ระบบความจําระยะยาว (Long Term Memory) เป็นหน่วยความจําที่มีศักยภาพที่จะเก็บข้อมูลไว้ได้มากมายโดยไม่มีขีดจํากัด
1) ระบบความจําสัมผัส (Sensory Storage) เป็นการรับข้อมูลข่าวสารด้วยอวัยวะรับสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลาย ๆ อย่าง แล้วเก็บสารข้อมูลไว้ในหน่วยบันทึก
click to edit
5.1 ความหมายและลักษณะนักเรียนที่มีสุขภาพจิตดี
5.2 ความหมายของอารมณ์ สภาวะการเกิดความรู้สึกและการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของบุคคล
5.3 สาเหตุที่ทําให้ผู้เรียนมีปัญหาทางสุขภาพจิต
5.4 ความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์
5.5 การส่งเสริมสุขภาพจิตและความมั่นคงทางอารมณ์
ปัจจัยเกี่ยวกับลักษณะการจัดการเรียนรู้
1.2 ความยาวของบทเรียน บทเรียนที่มีความยาวมากก็ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้ายาวมากเกินไปก็จะทําให้เกิดการเรียนรู้ยากกว่าบทเรียนที่สั้น ๆ
1.3 บทเรียนที่มีความหมาย สิ่งที่เรียนที่มีความหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตประจําวันของผู้เรียน
1.1 ความยากง่ายของบทเรียน ถ้าบทเรียนง่ายผู้เรียนย่อมเรียนรู้ได้เร็วกว่าบทเรียนที่ยาก
click to edit
1) สภาวะด้านสิ่งแวดล้อม
2.2) ความเพียรร
2.3) ความรับผิดชอบ
3) สภาวะด้านสังคม
4) สภาวะด้านร่างกาย
click to edit
3.1 ลักษณะของการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ
3.1.2 ผู้เรียนได้เรียนรู้ตรงกับความต้องการ
3.1.1 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนการเรียนรู้
3.1.3 ผู้เรียนได้เป็นผู้ปฎิบัติด้วยตนเอง
3.1.4 ผู้เรียนมีโอกาสคิดสร้างสรรค์
3.1.5 ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสภาพจริงและได้รับประสบการณ์ตรง
3.1.6 ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นหรือได้ทํางานกลุ่ม
3.1.7 ผู้เรียนมีโอกาสเห็นตนเองในแง่มุมที่แตกต่างจากเดิม
3.1.8 ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข สนุกสนาน
click to edit
3.2 ตัวชี้บ่งการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ
3.2.1 ตัวบ่งชี้การเรียนของผู้เรียน
3.2.2 ตัวบ่งชี้การสอนของครู
4.1 ลักษณะของการถ่ายโยงการเรียนรู้ แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
4.1.1 การถ่ายโยงการเรียนรู้ทางบวก (Positive transfer of learning)
4.1.2 การถ่ายโยงการเรียนรู้ทางลบ (Negative transfer of learning)
4.2 การสอนเพื่อให้เกิดการถ่ายโยงการเรียนรู้ทางบวก