Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 สุขภาพจิต การเจ็บป่วยทางจิตและปัจจัย ที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาลจิ…
บทที่ 2
สุขภาพจิต การเจ็บป่วยทางจิตและปัจจัย
ที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาลจิตเวช
สุขภาพจิต ( Mental Health)
องค์การอนามัยโลกให้ความหมายของภาวะสุขภาพว่า “เป็นภาวะที่เป็นสุขทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม ไม่เพียงแต่ปราศจากโรคหรือการเจ็บไข้ได้ป่วยเท่านั้น” พฤติกรรมของบุคคลจะเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงสุขภาพจิตของเขา แต่ละคนมีมุมมองและการแสดงออกของพฤติกรรมที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเชื่อและค่านิยม
ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของบุคคล
ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อุปนิสัย หน้าตา ความภูมิใจในตนเอง ความพร้อมที่จะพัฒนา การเป็นตัวของเอง การพึ่งพาผู้อื่น
ปัจจัยระหว่างบุคคล ได้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การ
สื่อสารที่มีประสิทธิผล ความสามารถในการช่วยเหลือผู้อื่น ความสมดุลระหว่างการเกี่ยวข้องติดต่อ กับการแยกห่างกัน
ปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ความรู้สึกการมีส่วนร่วมในสังคม การใช้แหล่งทรัพยากร การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การเอาชนะสิ่งแวดล้อม
ความเจ็บป่วยทางจิต ( Mental Illness )
เกณฑ์ทั่วไปที่ใช้วินิจฉัยความผิดปกติทางจิต
ความไม่พึงพอใจในคุณลักษณะ ความสามารถและความสำเร็จของตน
สัมพันธภาพบกพร่อง ไม่สามารถปรับตัวหรือจัดการปัญหาในชีวิต ไม่อยู่ในโลกของความเป็นจริง ขาดการพัฒนาตน
พฤติกรรมไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม
การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
ใช้ทั้งศาสตร์จาก
ทฤษฎีทางจิตสังคม ประสาทชีวภาพ (Neurobiological theory )
หลักฐานเชิงประจักษ์
ใช้ทั้งศิลป์
การใช้ตนเองบำบัดอย่างมีเป้าหมาย
ทำงานกับบุคคลทุกช่วงกลุ่มวัย ทำงานได้ทุกสถานการณ์
ทีมสหวิชาชีพ
1.จิตแพทย์ ( Psychiatris) หน้าที่บำบัดรักษา การให้ยา การผ่าตัด
2.พยาบาลจิตเวช ( Psychiatic Nurse) ให้การพยาบาล ประสานงานระหว่างทีมการรักษา เป็นผู้สังเกต ผู้จดบันทึกอาการของผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง เป็นสื่อกลางระหว่างทีมการรักษาและญาติผู้ป่วย ให้ความรู้และข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ
3.นักจิตวิทยาคลินิก รับผิดชอบการตรวจทางจิตวิทยาได้แก่ การตรวจสภาพจิต ( Psychological test) การทดสอบระดับสติปัญญา ( IQ) การทดสอบบุคลิกภาพ ( Personality test)การทำกลุ่มจิตบำบัด ( Group Psychotherapy) กลุ่มภาพสะท้อน ( Projective Gr0up)
นักสังคมสงเคราะห์ ให้การช่วยเหลือ รับผิดชอบครอบครัว ชุมชน 5.นักอาชีวะบำบัด
พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พศ2551
เป็นกฎหมายสำคัญที่ใช้ในการดูแลบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิต ที่มีภาวะอันตราย และ/หรือมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษา บุคคลที่ต้องได้รับการบำบัดรักษาตามมาตรา 22 ในพระราชบัญญัติ นี้ได้แก่ บุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้ มีภาวะอันตราย เช่นก้าวร้าว ทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายตนเอง พกอาวุธ ทำลายข้าวของ มีความจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษา เช่นมีความเจ็บป่วยแต่ไม่ยินยอมเข้ารับการบำบัดรักษา
วัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติสุขภาพจิต 2551
-เพื่อปกป้องคุ้มครอง ส่งเสริมและปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตของประชาชน
-เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้ที่มีความผิดปกติทางจิต
-เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ป่วยจิตเวช
ขั้นตอนและแนวทางการดำเนินงาน
เจอ : เมื่อพบบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตตามมาตรา 22
แจ้ง : เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น ตำรวจ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเพื่อนำส่งสถานพยาบาลตามมาตรา 27 โดยเร็วไม่ชักช้า
ตรวจ:สถานพยาบาลของรัฐหรือสถานบำบัดรักษาต้องประเมินอาการ ตรวจวินิจฉัยภายใน 48 ชั่วโมง
ส่ง : รักษาในสถานบำบัด ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและประเมิน
อาการโดยละเอียดภายใน 30 วันหลังรับตัวไว้