Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน Acute glomerulonephritis - Coggle Diagram
หน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน
Acute glomerulonephritis
อาการ
ปัสสาวะเป็นฟองเนื่องจากมีโปรตีนส่วนเกินปนออกมาในปัสสาวะ
เกิดอาการบวมน้ำที่บริเวณใบหน้า มือ เท้า หรือท้อง
อาการที่ปรากฏตามร่างกาย เช่น อ่อนล้า เหนื่อย เพลีย ปวดข้อ เป็นผื่นคัน หรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
การปนเปื้อนของเซลล์เม็ดเลือดแดงในน้ำปัสสาวะ(Hematuria) จนกลายเป็นสีชมพู หรือสีโคล่า
มีความดันเลือดสูง
การรักษา
การรักษาความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการอักเสบของไตรักษาได้ด้วยยาที่มีสรรพคุณควบคุมความดันเลือด ไปจนถึงลดปริมาณโปรตีนที่ขับออกมาพร้อมกับน้ำปัสสาวะ เช่น ยาลดความดันโลหิตกลุ่มเอซีอีอินฮิเบเตอร์ (Angiotensin-Converting Enzyme Inhibitors) หรือยาลดความดันโลหิตกลุ่มเออาร์บี (Angiotensin Receptor Blockers) โดยแพทย์มักให้ผู้ป่วยใช้ยาลดความดันนี้ถึงแม้ว่าระดับความดันเลือดจะยังไม่สูงมาก เพื่อช่วยลดความเสียหายต่อไตให้น้อยลง
การรักษาภาวะคอเลสเตอรอลสูง
ผู้ป่วยโรคไตอักเสบจะได้รับการแนะนำให้ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เพราะหากมีปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ แพทย์มักนิยมให้ยาลดไขมันกลุ่มสตาติน (Statins) ในการควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอล
การใช้วัคซีน
เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตอักเสบมักมีภูมิต้านทานต่ำทำให้อวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกายมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค โดยเฉพาะหากผู้ป่วยมีกลุ่มอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะแทรกซ้อน หรือการอักเสบแบบเรื้อรัง การใช้วัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ หรือปอดอักเสบสำหรับผู้ป่วยโรคไตอักเสบที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ ทั้งนี้ วัคซีนอาจประกอบด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Seasonal Flu Influenza Vaccine) หรือวัคซีนปอดอักเสบ (Pneumonia Influenza Vaccine)
การรักษาโรคไตเรื้อรังและโรคไตวาย
ในกรณีที่อาการไตอักเสบรุนแรงจนถึงขนาดไตวาย ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น ๆ แพทย์อาจใช้การรักษาด้วยวิธีการฟอกเลือด (Kidney Dialysis) ซึ่งเป็นกระบวนการกำจัดของเหลวและของเสียสะสมที่อยู่ในเลือดก่อนจะส่งกลับคืนสู่ร่างกายของผู้ป่วย หรืออีกวิธีหนึ่งคือการปลูกถ่ายไตใหม่ (Kidney Transplant) เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมแทนที่ไตเดิมด้วยอวัยวะไตบริจาค
การรักษาด้วยการใช้ยาในกลุ่มยากดภูมิต้านทาน
การรักษาด้วยยาซัยโคลฟอสฟาไมด์ (Cyclophosphamide)
จัดเป็นยาในกลุ่มยากดภูมิต้านทานชนิดหนึ่ง ใช้ในปริมาณน้อยเพื่อรักษาโรคไตอักเสบได้
การรักษาด้วยยากดภูมิต้านทานชนิดอื่น ๆ
ไซโคลสปอริน (Cyclosporin)
ริทูซิแมบ (Rituximab)
อะซาไธโอพรีน (Azathioprine)
ทาโครลิมัส (Tacrolimus)
การรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
ยาเพรดนิโซโลน (Prednisolone) เพื่อใช้ควบคุมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยปกติแพทย์จะสั่งลดปริมาณยาลง หรือให้ผู้ป่วยเลิกใช้ยาเมื่อไตเริ่มได้รับการฟื้นฟูระยะหนึ่งแล้ว
การรักษาดูแลรักษาตนเองเบื้องต้น
คำแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร ซึ่งช่วยในการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ งดอาหารรสเค็ม หรืองดเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของโพแทสเซียมจำนวนมาก
การรักษาด้วยยาขับปัสสาวะ
ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาต้านไวรัส หรือการรักษาตามอาการส่วนตัว เช่น การใช้ยาขับปัสสาวะ (Diuretic) ในการรักษาอาการบวมน้ำซึ่งเกิดขึ้นจากการสะสมของเหลวในร่างกาย
การพยาบาลผู้ป่วยไตอักเสบเฉียบพลัน
2.จำกัดโซเดียม ดูแลจัดการอาหารที่ไม่ต้องเติมเกลือหรือน้ำปลาให้กับผู้ป่วย
3.ดูแลให้ได้รับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง โปรตีนน้อย จำกัดอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง
1.ดูแลให้การพักผ่อนให้เพียงพอ
4.ชั่งน้ำหนักและบันทึกปริมาณน้ำเข้าออกจากร่างกาย จดบันทึกปริมาณสารน้ำที่ได้รับปริมาณปัสสาวะที่ขับมาพร้อมกับสังเกตลักษณะ สี
ถ้าพบอาการผิดปกติต้องรายงานแพทย์
ความหมาย
คือภาวะการอักเสบของกลุ่มเลือดฝอยของไต (Glomeruli) ซึ่งปกติจะทำหน้าที่กรองของเหลวส่วนเกินหรือของเสียที่ปะปนมาในกระแสเลือดให้กลายเป็นปัสสาวะ ไตอักเสบอาจเป็นภาวะโรคที่เกิดขึ้นเอง แต่ในบางกรณีอาจเป็นผลพวงมาจากโรคชนิดอื่น
สาเหตุ
ไตอักเสบเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ อาจเป็นผลมาจากกรรมพันธุ์ หรือบางครั้งอาจไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยบางประการที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในหน่วยไตได้ มีดังนี้
การอักเสบที่เป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากการติดเชื้อ
การอักเสบจากกลุ่มโรคหลอดเลือดอักเสบ
การอักเสบจากโรคทางภูมิคุ้มกัน
การอักเสบจากปัจจัยโรคอื่นๆ
ภาวะแทรกซ้อน
เนื่องจากการอักเสบของไตสร้างความเสียหายต่อการทำงานของหน่วยไต ส่งผลให้เกิดของเหลวส่วนเกิน หรือของเสียซึ่งจะเข้าไปสะสมอยู่ตามอวัยวะส่วนอื่น ๆ ภายในร่างกาย ในบางครั้งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ เช่น
ไตวายเฉียบพลัน
เกิดขึ้นจากหน่วยไตทำงานผิดปกติจนเกิดการสะสมของเสียส่วนเกินในกระแสเลือดอย่างกระทันหัน
ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้โดยการฟอกเลือด
โปรตีนรั่วในปัสสาวะ เกิดจากการขับโปรตีนจำนวนมากมากับปัสสาวะจนเกิดการสูญเสียโปรตีนในกระแสเลือด พบได้จากอาการบวมน้ำซึ่งมักจะปรากฎได้บริเวณเปลือกตา ท้องหรือเท้า
กลายเป็นโรคไตเรื้อรัง ไตของผู้ป่วยอาจสูญเสียความสามารถการกรองของเสียต่างๆ
ความดันโลหิตสูง ความเสียหายในระบบไต อาจส่งผลให้ระดับความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าปกติ
คำแนะนำเมื่อผู้ป่วยกลับไปอยู่บ้าน
มาตรวจตามนัดทุกครั้ง โดยจะได้รับการวัดความดันเลือดและตรวจปัสสาวะ
งดกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวมาก เช่น ออกกำลังกายหนักที่ต้องวิ่งหรือกระโดด
รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ดื่มน้ำตามปริมาณที่แพทย์สั่ง และไม่รับประทานอาหารรสเค็มจัดหรือมีโซเดียมในปริมาณสูงจนกว่าแพทย์จะอนุญาต