Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิวัฒนาการ ประเด็นและแนวโน้มทางการพยาบาลจิตเวช - Coggle Diagram
วิวัฒนาการ ประเด็นและแนวโน้มทางการพยาบาลจิตเวช
วิวัฒนาการทางจิตเวช แบ่งเป็น 6 ยุค ดังนี้
3.ยุคกลางหรือยุคมืด
เป็นระยะเริ่มแรกของยุคคริสเตียน เชื่อเรื่องไสยศาสตร์
(ยุคที่รุนแรงที่สุดของคริสเตียน)
มีการทรมานผู้ป่วย เชื่อเรื่องแม่มด เวทมนต์ มีการเผาทั้งเป็น ถ่วงน้ำ
คศ.1247 เกิดสถานดูแลผู้ป่วยจิตเวชเป็นแห่งแรกเรียกว่า
Bathlehum Asylum หรือบ้านบ้าคลั่ง
ดูแลแบบไม่ใช่คน ให้ไปเป็นขอทานเพื่อหารายได้
4.ยุคก่อนจิตเวชสมัยใหม่
ศตวรรษที่ 17-18
เริ่มมีโรงพยาบาลจิตเวช
แต่วิธีการรักษายังใช้การกักขัง
ไม่ให้ติดต่อกับใคร ผู้ป่วยส่วนมากเป็นที่รังเกียจและถูกทอดทิ้งดูถูกเหยียดหยาม
2.ยุควัฒนธรรมกรีกและโรมัน
กรีกเจริญรุ่งเรือง ความเชื่อในเรื่องการเจ็บป่วยทางจิตและการดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชเปลี่ยนแปลงไปหันไปยึดหลักธรรมชาติ( naturalism )
มีบุคคลสำคัญ
Hippocrates
แพทย์ชาวกรีก(บิดาแห่งการแพทย์) "ความเจ็บป่วยเป็นผลจากธรรมชาติ"
รักษาโดย
ใช้ยาระบาย การชำระล้าง การใช้ไอน้ำ การนวด การออกกำลังกาย
Plato
เป็นนักปราชญ์ชาวกรีก เชื่อว่าคนเจ็บป่วยทางจิตไม่ควรให้อยู่ปะปนกับคนในเมือง การขับร้องเห่กล่อมและพิธีต่างๆจะช่วยในการรักษา เพราะทำให้ผู้ป่วยได้พัก จิตใจสงบ
โรมัน
เชื่ออำนาจเหนือธรรมชาติ ฝันบอกลาง บอกเหตุ ผู้ป่วยถูกกักขังและไม่มีสิทธิ์ปกครองสมบัติตัวเอง
5.ยุคต้นของจิตเวชสมัยใหม่
เบนจามิน รัช (Benjamin Rush)
ปี 1745-181
บิดาแห่งจิตเวชของสหรัฐอเมริกาเขียนหนังสือเกี่ยวกับความผิดปกติทางจิตเป็นเล่มแรกเริ่มรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล ปฏิบัติต่อผู้ป่วยอย่างมีมนุษยธรรม ให้ผู้ป่วยทำงานเพื่อการรักษา
ประเทศฝรั่งเศส
Philippe Pinel
แพทย์สถานรักษาโรคจิต เป็นผู้ปลดโซ่ตรวนให้ผู้ป่วยที่ถูกกักขัง
ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจิตเวชสมัยใหม่
William Tuke
ปี 1732-1822 พ่อค้าชาวอังกฤษเป็นกระบอกเสียง จัดหาทุนเพื่อการรักษาก่อตั้งสถานรักษาโรคจิตชื่อ
York Retreat
ดูแลผู้ป่วยอย่างเข้าอกเข้าใจ
ปี 1802-1887 สหรัฐอเมริกา
ครูสตรีชื่อ Dorothea Lynde Dix
ร้องต่อรัฐสภาถึงสภาพที่ผู้ป่วยถูกกักขัง เป็นผลให้มีกฎหมายคุ้มครองดูแลผู้ป่วยจิตเวช และการสร้างโรงพยาบาลของรัฐเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยจิตเวช
6.จิตเวชสมัยใหม่
ปี 1825-1895 Jean Charcot
จิตแพทย์ชาวฝรั่งเศสใช้วิธีการ
สะกดจิตในการรักษาทางจิต
ปี 1856-1939 Sigmund Freud แพทย์ชาวออสเตรีย รักษา
โดยการสะกดจิต
คิดค้น และพัฒนาทฤษฏีจิตวิเคราะห์
ปลายศตวรรษที่ 20 ที่
สหรัฐอเมริกา ได้มีการเรียกร้องสิทธิในเรื่องต่างๆ
เช่นผู้พิการ การสมรสเท่าเทียม
มีการออก พรบ. และให้ทุนการศึกษา วิจัยเกี่ยวกับประสาทวิทยาและสมอง
1.ยุคก่อนประวัติศาสตร์/ยุคดึกดำบรรพ์
คนเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่มองไม่เห็น คนป่วยทางจิตจะถูกว่าวิญญาณเข้าสิงหรือเทวดาลงโทษเพราะทำผิดกฎเกณฑ์
การรักษา
ทำโดยพระหรือหมอผี ใช้วิธีรดน้ำมนต์ ปัดเป่า กักขัง
เฆี่ยนตี ลงโทษ ทรมาน ขับไล่ผี
วิวัฒนาการของหารพยายาลสุขภาพจิตในต่างประเทศ
ปี 1913
Effie Taylor บรรจุวิชาการพยาบาลจิตเวชไว้ใน
หลักสูตรการพยาบาล
มหาวิทยาลัย John Hopkins โดยการบูรณาการมโนทัศน์การพยาบาลทั่วไปและการพยาบาลสุขภาพจิตเข้าด้วยกันไม่สามารถแยกจากกันได้
ปี 1952
Hidegard Peplau
เผยแพร่ตำราและ
แนวคิดเรื่องการใช้สัมพันธภาพระหว่างบุคคล โดยพัฒนาจากทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคลของ Sullivan
เริ่มตั้งแต่สมัย
Florence Nightingale
ปี1939 มีการมองผู้ป่วยอย่างเป็นองค์รวมประกอบด้วยร่างกาย และจิตวิญญาณไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลและผู้ป่วย ปัจจุบันเรียกว่า การสื่อสารเพื่อการบำบัด ( Therapeutic communication) ส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการพึ่งพาตนเองซึ่งจะลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยจากการเผชิญกับความเจ็บป่วย
วิวัฒนาการจิตเวชในประเทศไทย
1.ยุคดั้งเดิม
สร้างโรงพยาบาลคนเสียจริตแห่งแรก
ที่ปากคลองสาน ปัจจุบันคือ สถาบันจิตรเวชศาสตร์เจ้าพะยา
ให้การรักษาอย่างมีเมตตา กรุณา ต่อสิ่งแวดล้อมดูแลตามยถากรรม ผู้ดูแลพูดจาดีกับผู้ป่วยถ้าทำร้ายผู้ป่วยจะได้รับโทษถูกไล่ออกและลงโทษตามกฏหมาย
2.ยุคโรงพยาบาลจิตรเวชแผนใหม่ ปีพ.ศ 2468-2484
หลวงวิเชียรแพทยาคมเป็นผู้อำนวยการคนแรก เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลจิตธนบุรี
นายแพทย์ฝน แสงสิงห์แก้ว เป็นผู้อำนวยการต่อมาเปลี่ยนชื่อโรงพยาบาลเป็น โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพะยา
สร้างโรงพยาบาลจิตเวชตามภาคต่างๆ
3.ยุคของงานสุขภาพจิตร ปี พ.ศ.2485-2503
ริเริ่มส่งเสริมป้องกันปัญหาสุขภาพจิตรเพื่อลดจำนวนผู้ป่วย เปิดคลินิกศูนย์สุขวิทยาจิตร ใช้วิธีรักษแบบตะวันตก เช่น ทำจิตร บำบัด บำบัดด้วยยากล่อมประสาทดำเนินงานโดยทีมงานสุขภาพจิต
*5. ยุคของการผสมผสานงานสุขภาพจิตเข้ากับระบบบริการ
สาธารณสุข ปี พศ 2515-2524
ให้ความสำคัญกับงานด้านสุขภาพจิตและจิตเวชชุมชน
ผสมผสานงานสุขภาพจิตเข้ากับระบบบริกาสาธารณสุขทั่วไป
6. ยุคของการสาธารณสุขมูลฐาน ปี พศ. 2525-2534
ตามแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5,6
เป้าหมายให้ประชากรทั่วโลกมีสุขภาพดีถ้วนหน้าปี 2543
7. ยุคของงานส่งเสริมป้องกัน ปีพศ. 2535-ปัจจุบัน
ตามแผนพัฒนาฯฉบับที่ 7
สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมเน้นการส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตเชิงรุก
ตามแผนพัฒนาฯฉบับที่ 8
ลดการเกิดปัญหาสุขภาพจิต พัฒนาคุณภาพบริการ ให้ประชาชนพึ่งพาตนเอง
ตามแผนพัฒนาฯฉบับที่ 9 และ 10
ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
4.ยุคแรกเริ่มงานสุขภาพจิตชุมชน ปีพศ. 2504-2514
ดำเนินงานตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี2507
จัดให้มีการรักษาแบบ Milieu therapy
มีบ้านกึ่งวิถี Half - way house
มีโรงพยาบาลกลางวัน ( Day hospital)
วิวัฒนาการของการพยาบาลจิตเวชในประเทศไทย
ปี พศ.2509 อบรมหลักสูตรวิชาการพยาบาลจิตเวช 1ปี ปัจจุบันอบรม4เดือน
ปี พศ.2533 หลักสูตรปริญญาโทสาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
ปี พศ.2508 เปิดหลักสูตรวิชาการพยาบาลจิตเวชสำหรับครูพยาบาล
ปี พศ.2520 ตั้งชมรมพยาบาลจิตเวช
ปี พศ.2497 มีการฝึกปฏิบัติวิชาจิตเวชในโรงพยาบลจิตเวช
ปี พศ.2529 ตั้งสมาคมพยาบาลจิตเวชแห่งประเทศไทย
ปี พศ.2487 มีการสอนวิชาจิตเวชในโรงเรียนพยาบาล
แนวโน้มการพยาบาลจิตเวชในประเทศไทย
การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้
ต้องพัฒนาความรู้ในการให้บริการข้ามวัฒนธรรม
ปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กเพิ่มขึ้น
ประชากรสูงอายุมากขึ้น
ประเด็นการเพิ่มคุณภาพการดูแลความปลอดภัยของผู้ป่วย
การขาดแคลนบุคลากรทางการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
ประเด็นที่เกี่ยวข้องการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชในประเทศไทย
ปัญหาสุขภาพจิตเด็กมีมากขึ้น
การบริการสุขภาพเน้นสุขภาพการดูแล และความปลอดภัยของผู้ป่วยมากขึ้น
มีผู้สูงอายุมากขึ้น และครอบครัวมีขนาดเล็กลง แนวโน้มต่อไปจะเป็นครอบครัวเดี่ยวหรืออยู่คนเดียว
ความผิดปกติทางจิตเป็นสาเหตุของการสูญเสียปีสุขภาวะในระดับต้นๆ
บุคลากรด้านสุขภาพจิตมีน้อย
การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี สังคมสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการเมือง
การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี พศ.2558
แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯฉบับที่ 11
มุ่งสู่สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข