Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Extremities Injuries - Coggle Diagram
Extremities Injuries
-
-
พยาธิสภาพของกระดูกหัก
เมื่อกระดูกหักจะมีการฉีกขาดของเยื่อหุ้มกระดูก
(periosteum) ทำให้มีเลือดออก รวมถึงมีไขกระดู (bone
marrow) ไหลออกมาที่บริเวณเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้เกิด
อาการบวม และเห็นเป็นรอยช้ำเกิดขึ้น บริเวณที่มีเนื้อเยื่อ
อ่อนบาง (soft tissue) จะสังเกตเห็นการบวม และรอยช้ำได้เร็วกว่าบริเวณที่มีเนื้อเยื่ออ่อนหนา อวัยวะบริเวณนั้นเสียหน้าที่และความมั่นคง และเกิดอันตรายต่อเส้นประสาทที่อยู่รอบบริเวณกระดูกที่หัก เกิดอาการปวดเมื่อมีการเคลื่อนไหวบริเวณนั้น เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการเกร็งและหดตัว
-
อาการและอาการแสดง
- 1.ปวดและกดเจ็บบริเวณที่หัก (Pain and tenderness)
2.บวม (Swelling) เกิดจากการสะสมของน้ำเลือดบริเวณที่หัก และผิวหนังมีอาการเขียวช้ำ (ecchymosis) เนื่องจากมีเลือดออกใต้ผิวหนัง
3.กระดูกผิดรูป (Deformity)
4.การเคลื่อนไหวผิดปกติ (Abnormal movement) ไม่สามารถเคลื่อนไหวส่วนที่หักได้ หากฝืนไม่ก็จะสามารถควบคุมทิศทางได้
5.มีอาการชาหรืออ่อนแรงของกล้ามเนื้อหรืออวัยวะ
6.มีเสียงกรอบแกรบเกิดจากปลายกระดูกเสียดสีกัน (Crepitation)
7.กระดูกหักแบบเปิดจะมีแผลบริเวณผิวหนังทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่กระดูก
8.อาการอื่น ๆ เช่น ภาวะ shock จากการสูญเสียเลือดปริมาณมาก
การพยาบาล
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินก่อนถึงโรงพยาบาล จำเป็นต้องให้การช่วยเหลือเรียงตามลำดับอันตรายต่อชีวิต คือ
1.safe life คือ รักษาชีวิตผู้ป่วยเป็นลำดับแรก
2.safe limb คือ รักษาไม่ให้เกิดการสูญเสียอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใด
3.safe function คือ รักษาให้อวัยวะนั้น ๆ สามารถใช้งานได้ตามปกติ
- กรณีกระดูกหักแผลเปิด ควรใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าโปร่งปลอดเชื้อ (sterile gauze) ปิดบาดแผลเพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกเข้าไปปนเปื้อนในบาดแผลเพิ่ม และช่วยห้ามเลือดจากแผลโดยใช้ผ้าพันยึด (elastic bandage) พันรัดไว้หรือกดบริเวณดังกล่าวให้แน่นพอ จนกว่าเลือดจะหยุดไหล และทำการดาม
- การดามกระดูกที่หักไม่ให้เคลื่อนที่ อาจใช้วัสดุที่หาได้ใกล้ตัว เช่น แผ่นกระด้าน กิ่งไม้ แล้วใช้ผ้าพันยึดกับตำแหน่งกระดูกหัก การดามนี้ต้องยาวครอบคลุมส่วนกระดูกที่หัก และข้อต่อที่อยู่ใกล้กันทั้งข้อบนและล่าง เพื่อไม่ให้ปลายกระดูกหักซึ่งแหลมคมทำอันตรายเนื้อเยื่อรอบ ๆ เพิ่มขึ้น และไม่แทงทะลุผิวหนังกลายเป็นกระดูกหักแผลเปิดซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายมาก การดามนี้ช่วยลดการเกิดภาวะละอองไขมันอุดหลอดเลือด (fat embolism) และช่วยให้การรับส่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยสะดวกรวดเร็วขึ้น
- แขนขาขาด ล้างส่วนอวัยวะที่ขาดด้วย 0.9% NSS เพื่อขจัดสิ่งสกปรก และห่ออวัยวะส่วนที่ขาดด้วยก็อสชุบ 0.9%NSS หมาด ๆ ใส่ถุงพลาสติก ติดชื่อ-นามสกุลผู้บาดเจ็บ และเวลาข้างถุง นำไปใส่ในภาชนะที่มีน้ำแข็งและนำส่งโรงพยาบาลพร้อมผู้บาดเจ็บ การประเมินผลลัพธ์การบาดเจ็บในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล เนื่องจากกระดูกหักโดยทั่วไปมักเกิดจากอุบัติเหตุที่รุนแรง ทำให้มีการบาดเจ็บร่วมได้หลายแห่ง
Primary survey
- airway maintenance and cervical spine protection : การประเมินทางเดินหายใจของผู้ป่วย
- Breathing and ventilation : การประเมินการหายใจและแลกเปลี่ยนก๊าซ
- Circulation and hemorrhage control : การประเมินการไหลเวียนโลหิต
- Disability (neurologic evaluation) : การประเมินระดับการรู้สึกตัวและระบบประสาท
- Exposure/ Environmental control : แพทย์ควรถอดเสื้อผ้าของผู้ป่วยออกเพื่อการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และ มีป้องกันการเกิดภาวะ hypothermia
During the Primary Survey - The 3 S’s
- Stop the bleeding (pressure/tourniquet)
- Splint the extremity
- Stabilize the pelvis
Secondary survey
- 1.ซักประวัติ : เวลาที่เกิดการบาดเจ็บ ระยะเวลาและวิธีการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล การปวดบริเวณอื่น ๆ การบาดเจ็บร่วม โรคประจำตัวยาที่ได้รับเป็นประจำ เวลาที่รับประทานอาหารมื้อล่าสุด การบาดเจ็บและการผ่าตัดที่เคยได้รับ ในผู้ป่วยหญิงควรถามประวัติประจำเดือนและการตั้งครรภ์ด้วย
- 2.ตรวจร่างกาย
-การดู (Inspection) : สังเกตบริเวณที่กระดูกหัก บาดแผลรอยฟกช้ำ รูปทรงอวัยวะและการเคลื่อนไหว
-การคลำ (Palpation) : คลําหรือจับต้องอวัยวะที่มีกระดูกหักเพื่อค้นหาความผิดปกติ
-การเคลื่อนไหว (Movement) : การตรวจการเคลื่อนไหวของข้อในทุกทิศทาง
-การวัด (Measurement) : การวัดเส้นรอบวง (Circumferences) ของแขนหรือขาที่มีการหักเพื่อดูการบวม การวัดความยาว (Length) วัดความแตกต่างของความยาวของอวัยวะที่มี 2 ข้าง
-การตรวจสอบอื่น ๆ : การทดสอบความมั่นคงของข้อ (Stability)
การตรวจกําลังของกล้ามเนื้อ (motor power)
การฟัง (Auscultation) เสียงที่สามารถฟังได้เมื่อกระดูกหัก คือ เสียงกรอบแกรบ
- 3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-การตรวจทางห้องปฏิบัติการพื้นฐาน : CBC , Electrolytes , UA
-การตรวจโดยภาพถ่ายรังสี X-ray : ได้แก่ การเอกซเรย์แบบธรรมดา
(plain film) การถ่ายภาพเอกซเรย์โดยใช้แรงหรือน้ำหนักมาช่วย (stress film) การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การฉีดสารทึบรังสีเข้าหลอดเลือดแดงเพื่อตรวจดูการบาดเจ็บของหลอดเลือด (angiography)
กระดูกหัก (Bone Fracture) คือ ภาวะที่กระดูกได้รับแรงกระแทกมากเกินกว่าที่กระดูกจะรับได้ ส่งผลให้กระดูกไม่สามารถรองรับน้ำหนักจากแรงดังกล่าวได้ เกิดการแตกหัก อาจเป็นเพียงรอยร้าว (crack) หรือหักเคลื่อนออกจากกันก็ได้ (displacement) ขึ้นกับความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
กลไกการบาดเจ็บ : 1.กลไกโดยตรง (direct mechanism) คือ เกิดแรงกระทำในตำแหน่งที่เกิดกระดูกหักโดยตรง 2.กลไกโดยอ้อม (indirect mechanism) คือ มีแรงกระทำจากจุดหนึ่งแต่เกิดกระดูกหักที่ตำแหน่งอื่น