Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบหัวใจ - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบหัวใจ
ACQUIRED HEART
DISEASE (AHD)
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
บิดามารดาขาดความรู้ในการดูแลที่บ้าน
การพยาบาล
การพักผ่อน-ทำกิจกรรมออกกำลังกายแขนขาเบาๆ
อาหารรสจืด มีแคลอรีและโปรตีนสูง
3.ป้องกันเป็นไข้รูห์มาติซ้ำ
การแปรงฟันหลังมื้ออาหาร
แจ้งทันตแพทย์เป็นโรคหัวใจ ( AT8 ก่อนทำฟัน)
4.ให้ยาตามแผนฯ ASA , PGS เข้ากล้ามเนื้อทุกเดือน ตรวจตามนัดทุก
HEART FAILURE
ข้อวินิจฉัย
เสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
การพยาบาล
อาหารแคลอรีสูง เช่น 100-120 อาจสูง 130-180 CAL/ KG/ DAY หรือ 24-30 CAL /OZ/น้ำมันข้าวโพด / ACT
ให้ดูดนมทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง
เลือกจุกนมที่มีขนาดเหมาะสม
ถ้าดูดนมมารดาแล้วเหนื่อยให้มารตาบีบน้ำนมใส่ขวด
ดูดนมขวดแล้วยังเหนื่อยใช้ช้อน / AEDICINE DROPPER / SYRINGE
ถ้าหายใจเร็ว / เหนื่อยหอบมาก งดการดูดนม รายงานแพทย์ใส่ OG/ NG
สอนบิดามารดาเทคนิคการให้นม / อาหาร พิจารณาตามอาการเป็นหลัก
สังเกต-บันทึกปริมาณนม/อาหาร
5.ชั่งน้ำหนักทุกวัน ช่วยประเมินการเจริญเติบโตโดยต้องแยกจากอาการบวม
6.ประเมินอาการ เช่น ตัวร้อน มีใช้ มีการติดเชื้อหรือท้องเสีย
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียว
CYANOTIC (RT TO LT)
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีโอกาสเกิดภาวะอุดตันของหลอดเลือดฝอยในสมอง เนื่องจากภาวะเลือดข้น (POLLCYTHEMIA)
การพยาบาล
สัญญาณชีพถูกบันทึกทุก 7 1-2 ชั่วโมงหรือทุก 4 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพและความรุนแรงของโรคด้วยการสังเกต อาการและอาการแสดง
ดูแลการให้ออกซิเจนเพื่อเพิ่มความเข้มข้น ความเข้มข้นของออกซิเจนในร่างกายตามแผนการ
รักษา
3.ดูแลให้น้ำ,นมและยาตามแผนการรักษา
4.ดูแลให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภซนาการที่มีโปรตีน และแคลอรีสูงเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
5.ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ปกครองที่ดูแลบุตรหลานโดยให้คำแนะนำการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ให้กำลังใจเป็นระยะตลอดการเข้าพักในโรงพยาบาล
6.ให้ความรู้ และคำแนะนำแก่ผู้ปกครองในการดูแลเด็กที่ถูกต้อง และครอบคลุม
ึ7. สังเกตอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก หอบมากขึ้น ตัวเขียวมากขึ้น ฯลฯ แนะนำให้รับจัดท่าเข่าชิดอก และพาบุตรไปโรงพยาบาลทันที
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียว
ACYANOSIS [LT TO RT)
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารอันเนื่องมาจากโรคทางพยาธิสภาพของโรค
การพยาบาล
1.ประเมินภาวะทุพโภชนาการเพื่อวางแผนให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารตามความต้องการของ
ชั่งน้ำหนักตัวเองวันละครั้งในเวลาเดียวกัน เพื่อประเมินภาะทุพโภชนาการ
ดูแลผู้ป่วยให้ได้รับ INSATRINI (30 KCAL) 2 0Z X 6 FEEDS ตามแผนการรักษา
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อประเมินภาวะทุพโภชนาการ
5.ตรวจสอบภาวะทุพโภชนาการ โดยดูจากการเปลี่ยนแปลงตามเกณฑ์ต่างๆ ที่วัดได้ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง แล้วนำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์น้ำหนัก-ส่วนสูง ตามกราฟติดตามอายุ