Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสุขภาพวัยทารก, - การสร้างเสริมสุขภาพเป็นกระบวนการเพิ่มศักยภาพข…
การส่งเสริมสุขภาพวัยทารก
- กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเด็ก
1.พระราชบัญญัติครุ้งครองเด็กพ.ศ2546
ระบุขอบข่ายงานด้านเด็กโดยครอบคลุมการกกหนดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับชาติและระดับจังหวัด แนวทางการปฏิบัตต่อเด็กและการสงเคราะห์เด็ก การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กการส่งเสริมความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาตลอดจนกาํหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนคุ้มครองเด็ก
2.พระราชบญัญัตติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ.๒๕๖๒
การพัฒนาเด็กปฐมวัยตามพระราชบญัญญัติน้ีมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- ให้มารดาได้รับการดูแลในระหว่างตั้งครรภ์เพื่อให้บุตรที่อยู่ในครรภ์มีสุขภาวะและพัฒนาการที่ดี
- ให้เด็กปฐมวัยอยู่รอดปลอดภัยและได้รับความคุ้มครองให้พ้นจากการล่วงละเมิดไม่ว่าในทางใด
- ให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการที่ดีรอบด้านทั้งทางร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์สังคมและสติปัญญาให้สมกับวัย
- สร้างคุณลักษณะให้เด็กปฐมวัยมีอุปนิสัย ใฝ่ดีมีคุณธรรม มีวินัย ใฝ่รู้มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถ ซึมซับสุนทรียะและวัฒนธรรมที่หลากหลายได
- บ่มเพาะเจตคติของเด็กปฐมวัยให้เคารพคุณค่าของบุคคลอื่นมีจิตวิญญาณของการอยู่ร่วมกันในสังคม อย่างเสมอภาค และมีจิตสํานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก
- ให้ผู้ดู้แลเด็กปฐมวัยได้รับความรู้ทักษะและเจตคติที่ดีในการพัฒนาเด็กปฐมวัย
3.แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่12พ.ศ.2560ถึง2564ได้นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง2คน เป็นศูนย์กลางพัฒนา3วิสัยทัศน์ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ20ปี คือประเทศไทยมีความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒ นาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
4.แผนพัฒนาเด็กและเยาวชน พ.ศ.2560ถึง2564 ให้ความสําคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพ ชีวิตที่ดีเหมาะสมตามช่วงวัยให้ความสําคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมาะสม ตามช่วงวัยทำให้ความสําคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเเหมาะสมตามช่วงวัย
- วัยทารกหมายถึงเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ถึง 12 เดือนเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการรวดเร็ว มากกว่าวัยอื่นๆและเป็นวัยที่เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดลอ้มต่างๆซึ่งจะมีอิทธิพลต่อกาเจริญเติบโตและ พัฒนาการของเด็กเนื่องจากทารกยังไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆด้วยตัวเอง ไม่สามารถสื่อความรู้สึกและความต้องการได้ชัดเจนจากข้อจำกัดด้านภาษาทารกจึงต้องได้รับการสร้างเสริมสุขภาพที่เหมาะสมจาก ผู้ดูแล โดยทารกต้องได้รับความรัก ความอบอุ่น ความปลอดภัย การตอบสนองความต้องการด้านร่างกาย จิตใจอารมณ์สังคมและจิตวิญญาณที่เหมาะสมเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีแบบองคร์วมและยังเชื่อว่าวัยทารกเป็นวัยที่มีการสร้างบุคลิกพื้นฐานของมนุษย์การสร้างเสริมสุขภาพในเด็กวัยน้ีจึงเป็นสิ่งสําคัญ
• การเจริญเติบโตวัยทารก
- วัยทารกมีการเจริญเติบโตหรือการเพิ่มขนาดของเซลล์ต่างๆของร่างกายและโครงสร้างของกระดูก จะขยายข้ึนอย่างรวดเร็วช่วง6เดือนแรก ศีรษะจะโตเมื่อเทียบกับขนาดลกตัว ช่วง6เดือนหลังสัดส่วนของร่างกายจะเปลี่ยนแปลงเด่นชัดข้ึนศีรษะจะดูเล็กลงโดยมีสัดส่วนช่วงบนและช่วงล่างช่วงคอซึ่งไม่ปรากฏ ในช่วงแรกจะเริ่มเห็นบ้างแขนขาแข็งแรงข้ึน ซึ่งการเจริญเติบโตของร่างกายน้ัน จะสามารถสังเกตเห็นได้ อย่างชัดเจนและสามารถวัดได้ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง รอบศีรษะและรอบอกโดยนก้หนักจะเพิ่มข้ึนรวดเร็ว ประมาณ 125 - 175 กรัมต่อสัปดาห์หรือประมาณ 453 กรัมต่อเดือน
ดังนั้นเมื่ออายุ4-5เดือนจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 2เท่าของแรกคลอด และเมื่ออายุครบ1ปีน้ำหนักเพิ่มเป็น 3 เท่าของนก้หนักแรกคลอด ความยาวหรือส่วนสูงจะเพิ่มข้ึนประมาณร้อยละ 50 โดยเฉลี่ยแล้วทารกจะ มีความยาวเพิ่ม ข้ึน2.6cmหรือ1นิ้วต่อเดือนเมื่ออายุ12เดือนเส้นรอบศีรษะจะยาวประมาณ48cmเส้น รอบศีรษะจะยาวเท่ากับอกเมื่ออายุประมาณ6ถึง12เดือนในช่วงแรกเกิดจะมีขนาดเส้นรอบอกน้อยกว่า เส้นรอบศีรษะเมื่ออายุครบ1ปีขนาดจะเพิ่ม ข้ึนเท่ากับรอบศีรษะกระหม่อมหลังจะปิดเมื่ออายุ6-8สัปดาห์ กระหม่อมหน้าจะปิดเมื่ออายุ 12-16 เดือน
1.พัฒนาการด้านร่างกาย
การทกงานของระบบต่างๆภายในร่างกาย หัวใจมีขนาดใหญ่ข้ึนมีน้ำหนักเป็น 2 เท่าของแรกคลอดเมื่อ อายุครบ1ปีอตัราของชีพจรช้าลงเมื่ออายุประมาณ3เดือนระบบย่อยอาหารทกงานการสร้างภูมิคุ้มกันจะดี ข้ึนเรื่อยๆ ฟันน้ำนมเริ่มข้ึนเมื่ออายุประมาณ 4 ถึง 6 เดือนโดยฟันหน้าล่างเริ่มข้ึนก่อน 2 ซี่ เมื่ออายุครบ 1 ปี จะมีฟันประมาณ 6-8 ซี่
2. พัฒนาการด้านจิตสังคม
• ช่วง 3 เดือนแรกยิ้มให้คนคุ้นเคย ร้องไห้บอกความต้องการ สงบอารมณ์ด้วยการดูดนิ้ว มองตามสิ่งที่เคลื่อนไหว จะหยุดนิ่งเมื่อฟังเสียงหรือเมื่อจับจ้องใบหน้าคน ช่วงเวลาที่ตื่นนานข้ึนถ้ามีคนมาเล่นด้วยยจะส่งเสียงเพื่อตอบรับเสียงที่ได้นิน
• ช่วง 4 เดือนถึง 6 เดือน สามารถแสดงอารมณ์สนุกสนาน หัวเราะ ไม่พอใจหงุดหงิดและต่อต้านส่งเสียงพูด คุยสนใจของเล่น แยกความแตกต่างระหว่างเอาตัวเองและยิ้มให้กับตัวเองในกระจกพยายามเลียนแบบการ แสดงอารมณ์ทางสีหน้า
•ช่วง6-9เดือนสํารวจร่างกายตนเองด้วยมือและปาก กลัวคนแปลกหน้ากลัวการแยกจากแสดงอารมณ์ขันตะโกนเรียกร้องความสนใจแยกความแตกต่างของเสียงที่เป็นมิตรและโกรธได้ เรียนรู้วิธีการที่จะให้บิดา มารดาหยิบของที่ต้องการให้ได้
• ช่วง 9 เดือนถึง 12 เดือนแสดงอารมณ์ชอบดนตรี แยกแยะส่วนต่างๆของร่างกายได้ เลียนแบบท่าทางสีหน้าการแสดงออกเสียงเริ่มบ่งบอกความเป็นเพศ เริ่มรู้สึกวิตกกังวลกับการยอมรับของตนเองที่แยกออกจากสิ่ง อื่นอาจจะแสดงความกลัวโดยมีพฤติกรรมถดถอยเชื่อฟังคกสั่ง รู้จักยับยั้งพฤติกรรมตนเอง รู้จักความหมายของคำว่าไม่ติดมารดาและต้องการการยอมรับจากมารดาแยกแยะตนเองกับคนอื่น กลัวคนแปลกหน้า
ระยะพัฒนาการตามทฤษฎีการเรียนรู้ทางจิตสังคมของอิริคสัน(Erikson)ของวัยทารกอยู่ในระยะ เริ่มสร้างความไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจ (trust vs mistrust) ต่อผู้ดูแลและต่อสภาพแวดล้อมที่ทารกอยู่
3. พัฒนาการด้านอารมณ์
อารมณ์มีหลายประเภท แต่อารมณ์โกรธมีมากเป็นส่วนใหญ่เกิดจากเด็กพัฒนาการในการช่วยตนเอง ด้านสมรรถภาพด้านนการเคลื่อนไหว การพูดแต่อาจจะทกไม่ได้ดั่งใจถูกขัดขวางจากผู้ดูแลหรือสิ่งแวดล้อมทำให้เด็กโกรธหรือฉุนเฉียวและร้องโยเย อารมณ์กลัวจะลองลงมาจากการหลอก
4 .พัฒนาการด้านสติปัญญา
- พัฒนาการด้านภาษา แสดงถึงสติปัญญาของทารก ทั้งน้ีข้ึนอยู่กับปัจจัย หลายอย่างวุฒิภาวะ สิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้ ทารกอายุ 6 เดือนแรกมีลักษษณะสากลคือ มีพัฒนาการคล้ายกัน เริ่มจากส่งเสียงในคอเป็นอู อาต่อมาส่งเสียงมากข้ึนอายุ4เดือนเริ่มทพเสียงที่ใช้ริมฝีปากเด็กจะออกเสียงเป็นพยัญชนะมากข้ึนส่วนใหญ่เป็นเสียง พ บ ป ม อายุประมาณ 7 เดือนเด็กจะเล่นเสียงริมฝีปากมากข้ึนเป็นเสียงซ้ำๆ อายุ 8-9 เดือน แสดงความเข้าใจภาษามากข้ึนตอบสนองการเรียกชื่อ เข้าใจความหมายของคพ ที่ได้ยินบ่อยๆ อายุ 9 เดือนใช้ ภาษาทางสื่อความหมายบอกความต้องการ
- พัฒนาการด้านนสติปัญญาระยะพัฒนาการตามทฤษฎีพัฒนาการด้านสติปัญญาของเพียเจต์ ของวัยทารกจะอยู่ในระยะประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว(sensori-motorstage)ได้ ระยะ1ถึง4เดือนทารกจะ เกิดการเรียนรู้ในเบื้องต้นจากการที่ปฏิกิริยาสะท้อนหรือ reflex เกิดข้ึนซ้ำๆในทารกแรกเกิด การดูดนมมารดานั้นต้องอาศัย reflex การหันเข้าหาเต้า นมการดูดการกลืน และการหายใจและเมื่อดูดนมแม่ไปบ่อยๆ เกิดเหตุการณ์ซ้ำๆทารกจะเรียนรู้ว่าเมื่อหิวนม ในระยะ 4 ถึง 9 เดือนการประสานระหว่างมือและตาทำได้ดีข้ึนสามารถเอาของเข้าปากไขว่คว้า เคาะเขย่าทารกจะเริ่มมองตามสิ่งของที่หายไป
5 .พัฒนาการด้านจิตวิญญาณ
พัฒนาการด้านจิตวิญญาณของเด็กจะข้ึนอยู่กับความสามารถด้า นการคิด นำมาทำการรู้จักกับการรับรู้ ความไว้วางใจและความมั่น ใจในทักษะของตนเอง แต่ก็จะเริ่มพัฒนาตั้งแต่วัยทารกข้ึนไปไม่มีทฤษฎี ที่ เกี่ยวข้องกับพัมนาการด้านจิตวิญญาณโดยตรงแต่ก็ใช้ท ฤษฎีพัฒนาการของฟาวเลอร์(fowler) ซึ่งอธิบายว่า ในวัยทารกจะพัมนาความรู้สึกไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้นเป็นพื้นฐานในความศรัทธาและเห็นคุณค่า ของตัวเองก่อให้เกิดความรู้สึกทางบวกให้เกิดความหมายและความหวังในชีวิตเป็นความรู้สึกที่มีคุณค่าที่ มนุษย์ต้องการให้มี
-
-
- การสร้างเสริมสุขภาพเป็นกระบวนการเพิ่มศักยภาพของบุคคลในการควบคุมและปรับปรุงสุขภาพของตนเพื่อให้มีภาวะสุขภาพที่ดี กิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพจะช่วยทำให้บุคคลมีการใช้ศักยภาพของตนใน การดูแลสุขภาพทางด้านร่างกายจิตใจและสังคม
- พยาบาลมีบทบาทอย่างมากในการสร้างเสริมสุขภาพเด็กทั้งในภาวะปกติเจ็บป่วยหรือพิการ เพื่อให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการตามศักยภาพที่มีอยู่โดยดกเนินการร่วมกับเด็กและครอบครัวเพื่อส่งเสริม ทักษะชีวิตพัฒนาการด้านต่างๆการปรับตัวตลอดจนมีปฏิสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวเพื่อทกให้เด็กและครอบครัวมีศักยภาพในการดูแลสุขภาพ