Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 12 การวิจัยแบบผสมผสานในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร - Coggle…
หน่วยที่ 12 การวิจัยแบบผสมผสานในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
12.1 แนวคิดเกี่ยวกับการวิจัยแบบผสมผสานในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
12.1.2 ความสำคัญ ลักษณะสำคัญ ประเภทข้อดีและข้อควรคำนึงของการวิจัยแบบผสมผสานในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
ลักษณะสำคัญของการวิจัยแบบผสมผสาน
3 ใช้แนวคิดเชิงปรัชญาหรือกระบวนทัศน์หลากหลายร่วมกัน
4 เน้นความหลากหลายในทุกระดับของกระบวนการวิจัยคำถามหรือปัญหาวิจัยเป็นหลักในการกำหนดวิธีการที่จะนำมาใช้ในการศึกษา
2 รวมหรือผสมผสานข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
5 ใช้วิธีรวบรวมข้อมูลหลายวิธีเพื่อเสริมซึ่งกันและกัน
1 ใช้วิธีเก็บรวบรวมและวิธีวิเคราะห์ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
ประเภทของการวิจัยแบบผสมผสาน
2 การวิจัยแบบผสมผสานแบบขั้นตอนเชิงอธิบาย
1 การวิจัยแบบผสมผสานแบบแผนสามเส้า
ข้อดีของการวิจัยแบบผสมผสาน
3 ความต้องการและความจำเป็นในการตอบคำถามการวิจัยที่ต้องอาศัยการวิจัยแบบผสมผสาน
2 ธรรมชาติของข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพนั้นพึ่งพาวิธีการซึ่งกันและกัน
1 ผลการวิจัยที่ได้จากการผสมผสานสามารถตอบคำถามการวิจัยได้ละเอียดชัดเจนมากขึ้น
1.1 เพิ่มความมั่นใจในผลของการวิจัยในลักษณะของการยืนยันความถูกต้องหรือตรวจสอบผลการวิจัยที่ได้จากแต่ละวิธี
1.2 เสริมให้สมบูรณ์หรือเติมเต็มโดยนำเอาผลการศึกษาในขั้นตอนหนึ่งไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับอีกขั้นตอนหนึ่ง
ข้อควรคำนึงของการวิจัยแบบผสมผสาน
2 ในการวิจัยแบบผสมผสานจะต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณมากกว่าการทำวิจัยเชิงเดี่ยว
3 การใช้วิจัยแบบผสมผสานตามสมัยนิยมโดยเป็นการใช้แบบผิดๆตามที่ตนเข้าใจหรือใช้โดยมักง่าย
1 นักวิจัยโดยเฉพาะหัวหน้าโครงการต้องมีความรู้และประสบการณ์ในการทำวิจัยทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
12.1.3 กระบวนการวิจัยแบบผสมผสานในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
ขั้นตอนที่ 1 พิจารณาความเหมาะสมของการใช้การวิจัยแบบผสมผสานวัตถุประสงค์ดังนี้
3 เพื่ออธิบาย
4 เพื่อทำนาย
2 เพื่อบรรยาย
5 เพื่อศึกษาอิทธิพล
1 เพื่อสำรวจ
ขั้นตอนที่ 2 พิจารณาจุดมุ่งหมายของการออกแบบการวิจัยแบบผสมผสาน
ขั้นตอนที่ 3 ออกแบบการวิจัยขั้นตอนที่
ขั้นตอนที่ 4 เก็บรวบรวมข้อมูลตามกระบวนการวิจัย
ขั้นตอนที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูล
ขั้นตอนที่ 6 ยืนยันความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้รับ
ขั้นตอนที่ 7 ตีความข้อมูลที่ได้รับจากตอนที่ 4 และ 5
ขั้นตอนที่ 8 เขียนรายงานการวิจัย
12.1.1 ความเป็นมากระบวนทัศน์ความหมายและจุดมุ่งหมายของการวิจัยแบบผสมผสานในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
12.1.1 ความเป็นมาของการวิจัยแบบผสมผสาน
3 ระยะพัฒนาแนวทางดำเนินงาน
4 ระยะการโน้มน้าว
2 ระยะโซ่แย้งทางกระบวนทัศน์
1 ระยะก่อร่างแนวคิด
ในฐานะที่เป็นแบบแผนโดยเฉพาะกระบวนทัศน์ของการวิจัยแบบผสมผสาน
1 ภววิทยา หมายถึง การมองธรรมชาติของความจริง
2 ญาณวิทยาหมายถึงการมองธรรมชาติของความจริง
3 วิธีวิทยา หมายถึง ขั้นตอนวิธีแบบแผนกระบวนการของการหาความรู้และความจริงที่เชื่อถือได้ วิธีวิทยาสามารถแบ่งออกได้ 4 แนวทาง
3.3 กระบวนทัศน์แบบมีส่วนร่วม
3.4 กระบวนทัศน์แบบปฏิบัตินิยม
3.2 กระบวนการกำหนดสร้าง
3.1 กระบวนทัศน์ของสันนิษฐานปฏิฐานนิยม
วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน หมายถึง การใช้เทคนิควิธีการเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพร่วมกันศึกษาหาคำตอบของงานวิจัยในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งหรือในระหว่างขั้นตอนภายในเรื่องเดียวกัน การผสมผสานกันสำหรับดำเนินงานวิจัยจึงเป็นแต่เพียงการผสมผสานในทางเทคนิควิธีการที่ใช้สำหรับการกำหนดปัญหาวิจัย การตั้งวัตถุประสงค์วิจัยการเก็บรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปตีความผลการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันเท่านั้น
จุดมุ่งหมายของการวิจัยแบบผสมผสาน
3 เพื่อเป็นการริเริ่ม
4 เพื่อเป็นการพัฒนา
2 เพื่อเป็นการเสริมให้สมบูรณ์หรือเติมให้เต็ม
5 เพื่อเป็นการขยายให้งานวิจัยมีขอบข่ายที่กว้างขวางมากขึ้น
1 เพื่อเป็นการตรวจสอบสามเส้าเพิ่มความเชื่อมั่นในผลของการวิจัย
12.2 การวิจัยแบบผสมผสานแบบแผนสามเส้าในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
12.2.2 การวิจัยแบบแผนสามเส้ารูปแบบแปลงข้อมูลในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
1 การวิเคราะห์ข้อมูลแต่ละส่วน
1.1 การวิจัยเชิงปริมาณ
1.2 การวิจัยเชิงคุณภาพของการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของข้อมูล
12.2.3 การวิจัยแบบแผนสามเส้ารูปแบบการตรวจสอบความตรงของข้อมูลเชิงปริมาณในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
รูปแบบการตรวจสอบความตรงของข้อมูลเชิงปริมาณ
1 การวิเคราะห์ข้อมูลแต่ละส่วน
1.1 การวิจัยเชิงปริมาณ
1.2 การวิจัยเชิงคุณภาพ
2 การวิเคราะห์ความตรงของข้อมูลเชิงปริมาณ
ต้องเลือกใช้การวิจัยแบบสามเส้ารูปแบบการตรวจสอบความตรงส่งข้อมูลเชิงปริมาณที่มีการยืนยันผลการวิจัยเชิงปริมาณด้วยการอธิบายจากการวิจัยเชิงคุณภาพเพิ่มเติม
การวิจัยแบบผสมผสานแบบแผนสามเส้า รูปแบบพหุระดับการวิเคราะห์และนำเสนอผลการวิจัยแบบแผนสามเส้ารูปแบบพหุระดับ
ระดับที่ 2 วิธีการเชิงปริมาณ
ระดับที่ 3 วิธีการเชิงคุณภาพ
ระดับที่ 1 วิธีการเชิงคุณภาพ
ระดับที่ 4 วิธีการเชิงปริมาณ
การนำการวิจัยแบบแผนสามเส้ารูปแบบพหุระดับไปใช้เหมาะสมที่จะนำไปปรับใช้กับการตอบปัญหาของการวิจัยทางส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่มีลักษณะเพื่อต้องการการสำรวจแนวคิดปรากฏการณ์ของสถานการณ์ต่างๆอธิบายความกระจ่างความชัดเจนของข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลที่แตกต่างกันเพื่อตอบปัญหาการวิจัยให้ครบสมบูรณ์
12.2.1 การวิจัยแบบแผนสามเส้ารูปแบบลูกเข้าในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
1 การวิเคราะห์ข้อมูลแต่ละส่วน
1.1 การวิจัยเชิงปริมาณ
1.2 การวิจัยเชิงคุณภาพ
2 การวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลการนำวิจัยแบบแผนสามเส้ารูปแบบลูกเข้าไปใช้
1 เพื่อการสำรวจ
2 เพื่อการอธิบาย
12.2.4 การวิจัยแบบแผนสามเส้ารูปแบบพหุระดับในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
12.3 การวิจัยแบบผสมผสานแบบขั้นตอนเชิงอธิบายแบบขั้นตอนเชิงสำรวจและแบบรองรับภายในในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
12.3.2 การวิจัยแบบผสมผสานแบบขั้นตอนเชิงสำรวจในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
รูปแบบการวิจัยแบบขั้นตอนเชิงสำรวจ
2 รูปแบบการพัฒนาสารระบบ
1 รูปแบบการพัฒนาเครื่องมือ
การวิเคราะห์และนำเสนอผลการวิจัยแบบขั้นตอนเชิงสำรวจ
1 แบบที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณเป็นหลัก
2 แบบที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นหลักการนำการวิจัยแบบขั้นตอนเชิงสำรวจไปใช้
12.3.1 การวิจัยแบบผสมผสานแบบขั้นตอนเชิงอธิบายในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
แนวคิดเกี่ยวกับการวิจัยแบบขั้นตอนเชิงอธิบายรูปแบบการวิจัยแบบขั้นตอนเชิงอธิบาย
1 รูปแบบอธิบายติดตาม
แบบขั้นตอนเชิงอธิบาย
1 แบบที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณเป็นหลัก
2 แบบที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นหลัก
การนำการวิจัยแบบแผนขั้นตอนเชิงอธิบายไปใช้
1 หากการตอบปัญหาการวิจัยต้องการนำเสนอข้อมูลที่เป็นเชิงปริมาณมากกว่าเชิงคุณภาพผู้วิจัยควรเลือกรูปแบบติดตามนำไปประยุกต์ใช้
2 การตอบปัญหาการวิจัยต้องการนำเสนอข้อมูลที่เป็นเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณควรเลือกรูปแบบการเลือกผู้เข้าร่วมการวิจัยไปประยุกต์ใช้
2 รูปแบบการเลือกผู้เข้าร่วมการวิจัยการวิเคราะห์และนำเสนอผลการวิจัย
12.3.3 การวิจัยแบบผสมผสานแบบรองรับภายในในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
12.3.3 แนวคิดเกี่ยวกับการวิจัยแบบรองรับภายในรูปแบบการวิจัยแบบรองรับภายใน
1 รูปแบบการทดลองระยะเดียววิธีการเชิงปริมาณเป็นหลัก
2 แบบรองรับภายในรูปแบบการทดลอง 2 ระยะวิธีการเชิงคุณภาพเป็นหลัก
3 รูปแบบการทดลอง 2 ระยะวิธีการเชิงปริมาณเป็นหลัก
4 รูปแบบสหสัมพันธ์การวิเคราะห์และนำเสนอผลการวิจัยแบบรองรับภายใน
1 แบบที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณเป็นหลัก
2 แบบที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นหลัก
การนำการวิจัยแบบรองรับภายในไปใช้ผู้วิจัยที่ต้องการดำเนินการวิจัยการทางส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรจะต้องพึงระลึกถึงตั้งแต่การออกแบบการวิจัยการวิเคราะห์ข้อมูลรวมถึงการนำเสนอผลการวิจัยว่าต้องมีการให้ความสำคัญของการวิจัยแบบหนึ่งเป็นหลักและให้อีกแบบหนึ่งเป็นรองซึ่งเป็นการวิจัยแบบรองรับภายใน