Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิถีชีวิตและวัฒนธรรม - Coggle Diagram
วิถีชีวิตและวัฒนธรรม
บทที่ 1 พัฒนาการของศาสนาและความเชื่อในอุษาอาคเนย์
อุษาคเนย์ คือ เอเชียตะวันออกเฉียงตาย
ศาสนาที่มีศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดคือศาสนาอิสลามในอินโดนีเซียมาเลเซียและบูรไน
ศาสนาพุศาสนาพุทธมีผู้นับถือเป็นจำนวนมากในไทยกัมพูชาลาวพม่าเวียดนาม
ศาสนาคริสต์ศาสนาคริสต์เป็นที่นิยมในฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลีก
ความเชื่ความเชื่อเรื่องผีฟ้าพญาแถนและผีบรรพบุรุษ ยังเนื่องจากในอดีตมีการควบคุมสภาพอากาศได้ยากชุมชนในช่วงนั้นทำการเกษตรจึงได้สร้างสัญลักษณ์ของธรรมชาติและปรากฏการณ์ที่เรียกว่าผีฟ้าเป็นผีฝ่ายดีและให้คุณ
หลัหลังจากนับถือผีฟ้าพญาแถน
ต่ต่อมาพบหลักฐานในการนับถือผีบรรพชนบุคคลที่เคยสร้างความรุ่งเรืองให้กับชุมชนมีการฝังร่างรวมกับสิ่งของมีค่าโดยมีสัญลักษณ์เรียกว่าวัฒนธรรมหินตั้ง
ในปัจจุบันการในปัจจุบันการนับถือผีบรรพบุรุษยังมีอยู่เช่นนับถือผีบ้านผีเรือนผีประจำตระกูลและยังมีความเชื่อเรื่องศาลหลักเมืองผีบรรพชนผู้ทำหน้าที่ที่ปกป้องคุ้มครองบ้านเมือง
ความเชื่ความเชื่อเรื่องผียังมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของชาวบ้านเช่นการทำผิดศีลธรรมทำจะเรียกว่าผิดผี
ความเชื่ความเชื่อเรื่องนัดของเมียนม่าพม่าหรือเมียนมาร์ศรัทธาพระพุทธศาสนาประชากร 87% ผู้รู้ชาวพม่าเชียร์วันนัดมาจากคำว่านาดในภาษาบาลีหมายถึงผู้ที่เป็นที่พึ่งเป็นต้นว่าพระพุทธเจ้าพระอรหันต์พระพรหมนัดตามในของคำว่านาดคือเราที่เทพยดาบนสสวรรค์ภายในบ้ ภายในบ้านของชาวพม่าจะมีหิ้งบูชานัทชาพม่าติดกับนัดในหลายรูปแบบมีการกลับไหว้เส้นเมื่อคำขอผลสัมฤทธิ์
ความเชื่ความเชื่อชวาร์เกอร์ยาเวรหรือศาสนาชวาเป็นชั่วโมงเป็นเป็ เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียความเชื่อชวาร์เกอร์ยาเวรเป็นความเชื่อเฉพาะที่มีระหว่างศาสนาฮินดูรวมกับความเชื่อดังเดิมรวมกับความเชื่อในศาสนาอิสลามหรือคริสต์ที่อาจเรียกว่าศาสนาชวา
ความเชื่ความเชื่อเรื่องขวัญมี มีความเชื่อเรื่องนี้ในไทยลาวพม่าเวียดนามกัมพูชาโดยเชื่อตรงกันว่าขวัญไม่มีตัวตนแต่อยู่กับสิ่งมีชีวิตตลอดเวลาโดยมีผลการดำรงค์ชีวิตตั้งแต่เกิดและมีผลต่อจิตใจมากเพราะจนาณุกรมไทยขวัญคือมิ่งมงคลศิริจึงเกิดความเชื่อการถือหัวเสมือนอวัยวะศักดิ์สิทธิ์ไม่ให้ผู้อื่นล่วงล้ำ
ความเชื่ความเชื่อทางพุทธศาสนาในสังคมไทยพระพุทธศาสนาแพร่จากอินเดียในดินแดนสุวรรณภูมิในยุคที่ใส่เครื่องมือโลหะโดยพระพุทธศาสนาเข้ามาพร้อมพร้อมกับศาสนาพราหมณ์พระพุทธศาสนาที่เผยแพร่มากที่สุดจะเป็นนิกายเถรวาทในไทยเป็นนิกายเก่าแก่ที่สุดยึดถือพระธรรมมวินัยเดิมอย่างเคร่งครัดปัจจุบันเป็นนิกายหลักของประเทศไทยและนิกายมหายานเป็นนิกายที่เกิดขึ้นหลังการสังคายนาครั้งแรกโดยมีพระภิกษุบางรูปไม่เห็นด้วยเกิดการแยกทำสังค่ยนาต่างหากปัจจุบันพบนับถือมากในทิเบต
แต่ไตรภูมิพระร่วงวรรณกรรมเอกทางพระพุทธศาสนาสมัยสุโขทัย เป็เป็นพระราชนิพนธ์ของพระมหาธรรมราชาลิไทพ.ศ. 1888โดยประสงค์จะ โดยประสงค์จะเทศนา
โปรดมารดาแล้วโปรดมารดาแล้วจำเลอรพระอภิธรรมเพื่อบรรลุนิพานนั นักวิชาการบางท่านกล่าวว่าเนื้อหาในไตรภูมิพระร่วงมีหน้าที่สั่งสอนให้ประชาชนเกรงกลัวต่อบาปเพื่อไม่ให้ตกนรกขุมต่างๆสร้างความดีไปสู่นิพพานการเมืองร่วมด้วยกันโดยมีเนื้อหาปลูกฝังให้ประชาชนยอมรับในอำนาจผู้ปกครอง
จักรวาลจักรวาลคติในไตรภูมิพระร่วงแนวคิดเป็นคำตอบที่มาของธรรมชาติเหตุการณ์เกิดขึ้นกับมนุษย์ตอบสำหรับโลกหลังความตายเกี่ยวกับแนวคิดของพราหมณ์ฮินดูผสมกับพระพุทธศาสนา
ไตรภูไตรภูมิหรือภพภูมิทั้งสามในจักรวาลคติทางพระพุทธศาสนาประกอยด้วยอภูมิ 4 รูปภูมิ 16 กามาภูมิ 11 เทวภูมิ6 มนุษยภูมิ1อบายภูมิ4รวมทั้งสิ้น 31 ภูมิ
ความเชื่ความเชื่อดังเดิมในศาสนาลาวตำนานพื้นเมืองจะเชื่อเรื่องนาคโดยเชื่อว่าหนักเป็นผู้บันดาลให้เกิดธรรมชาติยังมีการนับถือผีผสมผสานกับความเชื่อทางศาสนาเนื่ เนื่องจากเรามีการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์พระพุทธศาสนาได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความชอบธรรมในการปกครอง
เกาได๋ความเชื่อผสมผสานเวียดนามเป็นการผสมผสานระหว่างศาสนาคริสต์และลัทธิเต๋าและศาสนาพุทธมีความเป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ที่ ที่พบได้ในเวียดนามเท่านั้นที่ ที่พบได้ในเวียดนามเท่านั้น
พัฒพัฒนาการของศาสนาพราหมณ์โดยสังเขปมาจากชาวอารยันสืบสายมาจากอินโด European ต่อมาเมื่อพบประมาณ 2500 ชาวอารยันได้อพยพไปสู่ดินแดนลุ่มแม่น้ำสินธุอ่ะอันเป็นแม่น้ำสำคัญของอินเดียคำว่าอารยันแต่ว่าเจริญรุ่งเรือง
4 วรรณะของศาสนาพราหมณ์
วรรณะกษัตริย์เชื่อว่าเป็นวันนายที่เกิดจากอกของพระพรหมกษัตริย์จึงมีเครื่องแต่งอกายประจำวันหน้าเป็นสีแดง
วรรณะพราหมณ์เชื่อว่าเกิดจากโอ๊ดของภาพผมมีคันแต่งกายเป็นสีขาวเป็นผู้ทำพิธีต่างๆ
วรรณะแพทย์เชื่อว่าเกิดจากสะโพกหรือร่างกายของภาคภูมิเครื่องแต่งกายสีเหลืองเป็นพ่อค้า
วรรณะสูตรเกิดจากเท้าของพระพรหมมีเครื่องแต่งกายประจำวันนะคือสีดำมีอาชีพต่ำ
สุดท้ายจัณฑาลเป็นวันนะที่ต่ำต้อยที่สุดไม่ได้รับอิทธิพิเศษใดใด
การเผยแพร่การเผยแพร่คิดจะศาสนาสู่ภูมิภาคอุตสาคเนในสมัยกรุงศรีในศตวรรษที่ 23 คณะสงฆ์ที่เข้ามาในสยามคือคณะสงฆ์พื้นเมืองมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีสโดยอนุญาตจากกรุงโรมจนทำให้มิสซังสยามเป็นมิตรสั่งแรกการทำงานของคณะนี้ด้วยพระสงฆ์ขณะนี้จึงมีความสำคัญและมีบทบาทอย่างต่อเนื่องหรือไม่สักสยาม
การเผยแพร่การเผยแพร่ศาสนาอิสลามสู่ภูมิภาคอุตสาคเนย
อิอิสลามเป็นคำภาษาอาหรับแปลว่าการยอมจำนนในขณะที่สุวรรณภูมิเป็นดินแดนกล่าวถึงคัมภีร์โบราณหลายฉบับทางพระพุทธศาสนาในช่วงศตวรรษที่ 12 ได้พบคำในเอกสารโบราณเรียกดินแดนตั้งแต่ภายใต้ของประเทศไทยลงไปมาเลเซียไปถึงอินโดนิเซียบริเวณเกาะสมาตาเกาะชวาเกาะมาราซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มชาติติพันธ์พูดตระกูลภาษาชวาหรือเมื่อไหร่ประเทศตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 พบว่าหลักฐานบริเวณนี้รับอิทธิพลศาสนาพราหมณ์และพุทธศาสนานิกายมหายานจากอินเดียต่อมาศตวรรษที่ 14 พบพ่อค้าอาหรับได้ ได้นำสินค้าติดต่อค้าขายและเผยแพร่ศาสนาอิสลามเป็นครั้งแรกบนเกาะสุมาตราเหนือเด็กปี 1389
บทที่ 2 พัฒนาการของการตั้งถิ่นฐานในอุตสาคเนย์
สมัสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนไทยคือ คือช่วงเวลาที่ดินแดนไทยยั ยังไม่มีการประดิษฐ์ลายลักษณ์อักษรขึ้นการศึกษาทาง การศึกษาทางโบราณคดีในประเทศไทยเริ่มเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ในช่วงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนักโบราณคดีชาวเนเธอร์แลนด์ ถูถูกทหารญี่ปุ่นจะเป็นฉันเลยได้เขียนบทความเกี่ยวกับการค้นคว้าพบขวานหินจากการสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะแห่งหนึ่งข่าวครึกโครมกระจายไปทั่วโลกเกี่ยวกับโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ในไทย
การศึกษาการศึกษาเรื่องราวสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนไทยในรู ในโลกตะวันตกการศึกษาโบราณน่ะคดีการทำมาเป็นเวลานานทำให้ ทำให้ศาสตร์หรือความรู้ในการขุดค้นพัฒนาไปมากเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบบรรดานักวิชาการตะวันตกจึงเข้ามาขุดขนศึกษาโบราณน่ะคดีในไทยนักวิชาการไทยศึกษาเรื่องราวในไทยช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองและได้การศึกษาจริงจังได้ 60 กว่าปีก่อนนี้และสามารถแบ่งยุคสมัยก่อนประวัติศาสตามเครื่องมือที่พบคือยุคหินแบ่งเป็นยุคหินเก่าและยุคหินใหม่ต่อมามีการค้นพบการหลอมเหลวหาจึงพัฒนาการเข้าสู่ยุคโลหะแบ่งเป็นยุคสำริดและยุคเหล็ก
ยุคไพลสโตซีน หรืหรือยุคน้ำแข็งอยู่ในช่วง 1,800,000 ถึง 100,000 ปีเป็นเวลาที่น้ำแข็งยังไม่ละลายมีทานน้ำแข็งปกคลุมบนผิวโลกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แผ่นดินบริเวณคาบสมุทรภาคใต้อย่างเชื่อมติดกับสมุดตราชวาบาหลีตาเหนียวเด็กเกาะปาราวันในฟิลิปปินส์รวมเรียกว่าแผ่นดินซุนดา แหล่แหล่งโบราณคดีของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงตายแหล่งโบราณคดีในตะวันออกเฉียงใต้ช่วงเวลาที่แผ่นดินบริเวณภาคใต้ยังเชื่อมติดกับหมู่เกาะที่เรียกว่าแผ่นดินสุดาเป็นช่วงเวลาของ โฮเล็คตัสมนุษย์ผู้รู้จักใช้ไฟและใช้เครื่องมือหิน
มนุมนุษย์ยุคหินเก่าเวลา 1.8 1,000,000 ปีถึง 100,000 ปีมีวัดมีวิวัฒนาการสามารถเดินตัวตรงด้วยสองขาอย่างชัดเจนมนุษย์สมัยนี้เป็นพวกเร่ร่อนอาศัยตามถ้ำเพิงผาลำธารและเครื่องมือทำกินจะกินกรวดแม่น้ำที่เรียกว่าเครื่องมือหินกระเทาะอาศัยอยู่ร่วมกันกลุ่มเล็กๆตามถ้ำรู้จักใช้ไฟมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างร่างกายเป็นอันมากเนื่องจากเมื่อเนื้อสุกจะเขียวง่ายขึ้นทำให้กล้ามเล็กลงปรับความสร้างกะโหลกให้ขยายขึ้นเมื่อโปรตีนจากเนื้อสุกสามารถย่อยสลายเข้าร่างกายได้ดีส่งผลให้ร่างกายสูงขึ้นและสมองเยอะ
มนุมนุษย์ยุคหินใหม่ยุคใหม่อยู่ในช่วงตั้งแต่ 8000 ถึง 3000 ปีพบหลักฐานเครื่องมือที่ทำจากหินกรวดแม่น้ำมีขนาดเล็กแต่มีความคมฝีมือปราณีตเรียกว่าเครื่องมือขวานหินขัดมนุษย์ยุคใหม่รู้จักทำเครื่องจักสานเครื่องปั้นดินเผาจำพวกจานชามหม้อมีการประดิษฐ์สิ่งของใช้จากกระดูกสัตว์เช่นเข็มและนำเปลือกหอยหรือกระดูกสัตว์มาทำเครื่องประดับตกแต่งสร้างสรรค์ศิลปะเป็นคำตอบว่ามนุษย์มีความพิเศษกว่าสัตว์อื่นๆตรงที่มนุษย์ปรับตัวเพื่อแสวงหาความต้องการพื้นฐานเช่นปัจจัยสี่
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในยุคโฮโลซีน (Holocene)
ราว 10,000-7,000 ปีมาแล้ว เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและระดับน้ำทะเล ทำให้มนุษย์อพยพ- มนุษย์อยู่รวมกันเป็นชุมชน มีการสร้างที่พักแบบง่าย ๆ ด้วยไม่ไผ่และมุงด้วยใบไม้
ดำรงชีวิตแบบสังคมเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ เพาะปลูก โดยเฉพาะการปลูกข้าว
รู้จักทำเครื่องปั้นดินเผา เครื่องจักสาน ทอผ้าใช้เอง
เริ่มมีการติดต่อกับชุมชนอื่น 1 เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ไม่สามารถผลิตได้ด้วยตนเอง
พัฒนาการของการผลิตเครื่องมือหิน ทำให้ นุษย์ยุคหินเก่า พัฒนาเป็น มนุษย์ยุคหินใหม่
พัฒนาการของการผลิตเครื่องมือหินทำให้มนุษย์ยุคหินเก่าพัฒนาเป็นมนุษย์ยุคหินใหม่
ในระยะนี้ในระยะนี้เครื่องมือหินกระเทาะจากหินขวดน้ำมีเทคนิคการทอดที่ประณีตขึ้นมีการตกแต่งขอบนอกให้แหลมคมอาจใช้เพื่อเล่นหนังเล่นเหนือมนุษย์ยุคหินเก่าที่มีวิถีแบบสังคมเร่ร่อนพัฒนาการเป็นยุคหินใหม่สังคมเกษตร
สมัสมัยพัฒนาการจากยุคหินสู่ยุคโลหะ
อยู่ยุคหินเก่าพัฒนาการของมนุษย์ดำเนินอย่างเชื่องช้ากินเวลาเป็น 100,000 ปีมนุษย์มีความเป็นอยู่ไม่ต่างจากสัตว์อื่น
อยู่ยุคหินใหม่มนุษย์รู้จักเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ที่สามารถควบคุมการกินผลิตอาหารได้กินเวลาไม่กี่ 1000 ปีก็เข้าสู่ยุคโลหะ
ยุคโลหะในดินแดนไทยอยู่ในช่วงตั้งแต่ 3000 ถึงประมาณพ.ศ. 1000 เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์รู้จักโลหะใช้แทนเครื่องมือหิน โดยมีโดยมีเที่ยวภูพานเป็นเส้นกั้นบริเวณคือแอ่งสกลนครคือเชียงดาวอำเภอหนองหานและแอ่งโคราชแบ่งตามความแตกต่างของรูปแบบเครื่องดินเผาเป็นทุ่งสัมฤทธิ์ปัจจุบันเขตอำเภอพิมาย
สรุปความเป็นอยู่ของชุมชนยุคโลหะในดินแดนไทย
มีมีการตั้งชุมชนบ้านเรือนอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่มีสังคมซับซ้อนมีระบบแปดแผนมีหัวหน้าเป็นผู้ปกครองรวมกันอยู่บริเวณใกล้แม่น้ำลำธารเพื่อปลูกข้าวเลี้ยงสัตว์ประเภทวัวควายแล้วสินะมีศิลปะทำเป็นภาพเขียนสีเป็นงานศิลปะก่อนประวัติศาสตร์ที่สะท้อนสภาพแวดล้อมความคิดของคนในสมัยนั้น
วิวัฒนาการวัฒนธรรมร่วมของผู้คนในอุตสาคเนก่อนรับอิทธิพลจากอินเดียและหลังรับอิทธิพลจากอินเดีย
ก่อนรับอิทธิพลจากอินเดียช่วงเวลาที่ชุมชนภูมิภาคอุตสาคเนรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอินเดียตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มีวัฒนธรรมดั้งเดิมหลายประการร่วมกันอยู่แล้วก่อนการรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอินเดีย
หนึ่หนึ่งศาสนาผีนับถือผีฟ้า
สองสัตว์สองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นับถือใจแค่งูเขาคบเพื่อนเรียกฝน
สามขวัญสามขวัญเป็นสิ่งประจำตัวอยู่ทุกอวัยวะทุกส่วนส่วนวิญญาณมีดวงเดียวแล้วเชียววิญญาณจะอยู่ในคนและสัตว์เท่านั้นสี่ สี่พิธีเผาศพ
ห้าห้าการแต่งกายผ้าถุงผ้าผืนเดียว
หกแม่หญิงหกแม่หญิงเป็นผู้ใหญ่มีอำนาจผู้หญิงเป็นผู้ใหญ่
เจ็ดนาคและนางนาค
แปเเรือนแตกเรือนเสาสูง
เก้าอาหารหลักเป็นข้าว
สิบ เทคโนโลยี เทคโนโลยีและเครื่องโลหะเพื่อตีส่งเสียงเพื่อสื่อสาร
บทที่ 3 ความหลากหลายทางชาติพพันธ์ในสังคมไทย
ความหมายชาติติความหมายชาติติพันธ์หมายถึงกลุ่มคนที่อยู่ในดินแดนที่ ที่ปัจจุบันเป็นประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นกลุ่มที่มีวัฒนธรรมร่วมกันมีขนบธรรมเนียมประเพณีและภาษาพูดเดียวกัน
นักวิชาการนักวิชาการเสนอคำว่าไทยไม่ใช่เชื้อชาติแต่เป็นชื่อทางวัฒนธรรมใช้เรียกกลุ่มคนหลายเผ่าพันธุ์ที่อยู่ร่วมกันและมีประวัติศาสความเป็นมาหลายอย่างที่รับรู้ร่วมกันในอดีตสมัยก่อนประวัติศาสตร์ไม่มีคนไทยมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่พบในดินแดนไทยปัจจุบันเป็นเพียงกลุ่มคนที่อยู่ในดินแดนที่มีมาก่อนและขยายถิ่นฐานออกไป
การเข้ามาของการเข้ามาของอารยธรรมภายนอกสู่ดินแดนอุษาคเนย์
เมื่เมื่อราว 2500 ถึง 3000 ปีมาแล้วจากความสมบูรณ์ทำให้ ทำให้กลุ่มคนหลายเผ่าพันธุ์จากต่างๆเคลื่อนย้ายทางบกและทางทะเลเข้ามาตั้งหลักแหล่งทางสองฝั่งแม่น้ำโขงและร่วมแม่น้ำต่างๆในภาคกลางของไทยในปัจจุบันโดยเฉพาะการค้าบนเส้นสายไหมและปี 2500 พบว่ามีพ่อค้าชาวเปอร์เซียพ่อค้าชาวอินเดียจากชมพูทวีปเข้ามาค้าขายและต่างรับความมั่งคั่งทั้งนี้ช่วงพุทธศตวรรษห้าถึง 10 ดินแดนนี้ยังไม่มีตัวอักษรเป็นตัวตนดูเอกสารที่เก่าที่สุดจดหมายเหตุราชวงศ์ฮั่นกล่าวว่าถึงการเดินเข้ามาในมหาสมุทรไปยังอินเดียโดยผ่านบ้านเมืองต่างๆ
ยืยืนยันว่าเอเชียตอนออกเฉียงใต้ในตั้งอยู่เปอร์เซ็นต์การติดต่อค้าขายระหว่างจีนอินเดีย
ชนชั้ชนชั้นสูงเป็นกลุ่มแรกที่เรียกรับอารยธรรมอินเดียที่สำคัญคือระบบประสาทแต่ประชาชนยังใช้ชีวิตดังเดิมคือการนับถือผีอารยธรรมอินเดียทำให้ชุมชนโลหะในไทยปรุงแต่งจากขยะชุมชนเล็กๆเป็นใหญ่ใหญ่สาเหตุที่สำคัญส่งผลให้ชุมชนขนาดเล็กในเอเชียตะวันออกเชียงใต้บางครั้งจึงขยายขึ้นเป็นอาณาจักรคือการค้าขายทางทะเลโดยเฉพาะเมื่อรับศาสนาพุทธและพราหมณ์เข้ามาผสมผสาน
อารยธรรมมอนพบฐานวัฒอารยธรรมมอนพบฐานวัฒนธรรมร่วมกับพุทธะศาสนาที่เรียกว่าวัฒนธรรมธาราวดีซึ่งรุ่งเรืองในพุทธศตวรรษที่ 12 ถึง 16 ในชุมชนลุ่มน้ำภาคกลางของประเทศไทยในปัจจุบัน
ผู้คนในอาณาจักรธาราวดี
แล้วกูนักวิชาการสันนิษฐานว่าเป็นคนที่ประกอบด้วยกลุ่มหลายหลายเฉียบพลันและยังรวมถึงชาวต่างชาติที่ค้าขายและตั้งถิ่นฐานยังดินแดนแห่งนี้เช่นอินเดียชาวจีนเป็นต้น
อารยธรรมเขมรหรืออารยธรรมเขมรหรือขอม
ช่วช่วงยุคทองอยู่ในศตวรรษที่ 14 โดยศิลาจารึกปราสาทในเขตประเทศไทยปัจจุบันการถึงพระองค์ว่าทรงนำลัทธิเทวราชามาใช้ในการปกครองพระเจ้าไชยยะวรมัณห์ที่สองรับความเชื่อเรื่องเทวราชามาสถาปนาใช้ในอาณาจักรของพระองค์จนเกิดประเพณีการสร้างประสาทหรือเทวาลัยบนฐานเป็นฉันฉันปราสาทเขมรในยุคแรกแรกในปีพ.ศ. 1974 อาณาจักรเขมรอ่อนแอถึงขีดสุดจึงถูกกษัตริย์แห่งกรุงสีตีและยึดละครไว้ได้
กลุ่มไตหรือไทคำว่าไทยมีรากเหง้าต้นจากคำว่าไทไตแปลว่าคนหรือชาว
นันักวิชาการคำว่าไทยไม่ใช่เชื้อชาติเป็นวัฒนธรรมเป็นภาษาเสียงวันในยุคที่พบในตอนใต้ของจีนกลุ่มชาติพันธ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มไทกะใดเช่นไทยหรือแตกกลุ่มจะพบภาษาที่สำเนียงใกล้เคียงกันโดยรากศัพท์เดียวกันเช่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายนักวิชาการพบว่าในศตวรรษที่ 15 มีการเคลื่อนย้ายกลุ่มคนที่ใช้ภาษาตระกูลไทตายจากจีนตอนใต้บริเวณลุ่มน้ำโขงมาในลุ่มภาคกลางของไทย
พัฒนาการของอาณาจักรในดินแดนไทยช่วงพุทธศตวรรษที่ 19
ชุชุมชนทางตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาคือเมืองอู่ทองมีเมืองใหญ่ไทยราวดีคือมองเราลพบุรี คำว่าสยามเป็นชื่อเรียกดินแดนตามที่เอกสารจีนโบราณเรียกเสียงต่อมาเมื่อฝรั่งตะวันตกเดินทางเข้ามาค้าขายตามชาวจีนว่าสยามนักวิชาการบางท่านให้ความเห็นว่าเมืองสุพรรณบุรีอาจจะเป็นดินแดนที่ชาวจีนเรียกว่าเสี่ยงต่อมาราชวงศ์สุพรรณได้ปกของกรุงศรีอยุธยาชื่อสยามจึงกายเป็นชื่อเรียกกรุงศรีอยุธยา
การสถาปนากรุงศรีการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีใหม่แทนเมืองอยุธยาศรีรามเทพนครพงษาวดารการย้ายเมืองเพราะโรคห่าโรคระบาดจึงได้ย้ายเมืองหลวงทั้งตะวันออกกลางและทวีปยุโรปเป็นเหตุให้ผู้คนล้มตายเป็น 1,000,000 โดยมีหนูเป็นพาหะโรค
เหตุเหตุแห่งความรุ่งเรืองของกรุงศรียุทยาเนื่องจากเป็นเกาะอบล้อมด้วยแม่น้ำสามสายแม่น้ำป่าสักแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำเจ้าพระยา
ระยะแรกอยุธยาเป็นระยะแรกอยุธยาเป็นดินแดนขายแหลมที่มีน้ำล้อมสามด้านทางตะวันออกครูคือหน้าและมีการขยายกำแพงพระนครไปฉีดแม่น้ำป่าสักดังนั้นสภาพเกาะเมืองจึงปรากฏชัดตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรเป็นต้นมา
แม่แม่น้ำสามสายเชื่อมกับเครือข่ายทางธรรมชาติและขุดคองทำให้ยุทยาได้รับฉายาจากชาวตะวันตกว่าเวนิซแห่งตะวั ตะวันออก
ความรุ่ความรุ่งเรืองทางการค้าของยุทยานอกจากค่าทางไกลแล้วอยุธยายังอู้ต่อการค้าภายในและความสำเร็จการขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางทำให้การค้าภายในภาคพื้นทวีปรุ่งเรือง
ปัปัจจุบันชาติพันธ์หมายถึงการมีวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีและภาษาพูดเดียวกันดังนั้นตั้งแต่สมัยกรุงศรียุทยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์จึงพบว่าผู้คนหลายชาติพันธ์ได้อาศัยร่วมกันกลมกลืนในสังคมไทยโดยกลุ่มยังคงสามารถรักษาสืบศาลเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธ์ของตนไว้ได้อย่างดี
บทที่ 4 ประเพณีประเพณีและพิธีกรรมในสังคมไทย
ความหมายของประเพณีความหมายของประเพณีและพิธีกรรม
ประเพณีประเพณีคือรูปแบบการประพฤติปฏิบัติในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีงามโดยมีแบบแผนการกระทำชัดเจน
พี่พิธีกรรมหมายถึงรูปแบบการกระทำเพื่อไปสู่เป้าหมายที่คาดหวังซึ่งอาจไม่ได้เกิดการกระทำอย่างต่อเนื่อง
ดินแดนไทยสมัยก่อนประวัติศาสตร์พบหลักฐานโบราณคดีว่ามีการรวมชุมชนขนาดเล็กทำการเกษตรปลูกข้าวเพื่อบริโภคค่าผลผลิตเกินจะแลกกับชุมชนอื่น
ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์ชุมชนไทยดังเดิมบูชาธรรมชาติโดยสร้างสัญลักษณ์ครึ่งขึ้นมาคือผีฟ้าโดยเชื่อว่าหากบวงสรวงแล้วเหตุการณ์เลวร้ายจะกลายเป็นดีขึ้นสร้างเชื่อความเชื่อมั่นในการดำเนินชีวิต
ประเพณีกำฟ้าของชาวไทยพวนจังหวัดสระบุรี
จัจัดขึ้นในเดือนมกราถึงกุมภานับถือสักการะฟ้าแสดงกต่อเวทีตาต่อฟ้าให้คุ้มครองชาวไทยพวนทุกคนจะหยุดทำงานทุกชนิดคือหยุดทำไร่ทำนากรรมหมายถึงการสักการะบูชากำฟ้ากาดสักการะบูชาฟ้าและมีการทำนายเกี่ยวกับเสียงฟ้าเช่นหากเสียงฟ้าร้องดังมาจากทิศเหนือทำนายว่าฝนจะดีทำนาได้ข้าวงามถ้าจากทิศตะวันตกจะเเล้ว
ประเพณีประเพณีเบิกฟ้าของชาวมหาสารคามเกิดขึ้นเชื่อว่าเน็ตสามเดือนของทุกปีจะเป็นลืมประตูฝนโดยจะมีเสียงฟ้าร้องแล้วคิดฟ้าร้องเป็นสัญญาณบ่งบอกปริมาณน้ำฝนหล่อเลี้ยงประเพณีบุกเบิกฟ้าชาวสารคามขายครึ่งกับคำฟ้ของชาวไทยพวนที่สระบุรี
ความเชื่ความเชื่อเรื่องการนับถือผีบรรพบุรุษ
เป็นกันชื่อเรื่องหลังความตายเป็นรุ่นหลับไปแล้วก็ยังได้รับความนับถือเส้นเดิมหรือมากกว่าเดิมเพราะจะมีฤทธิ์มากขึ้นการนับถือผีกลุ่มของคนไทยเช่นผีบ้านผีเรือนคือบัตรประชนตระกูลโดยชื่อว่า ผีผีปู่ตาคือบรรพชนประจำหมู่บ้านของชุมชนที่เคารพนับถือ
ผีเจ้าที่คือพีอาร์รักที่รักษาประจำนะสถานที่ใดที่หนึ่งเป็นผู้ดูแลรักษาเขตนั้นๆ
ผีผีคุณน้ำคืออารักษ์ประจำต้นน้ำและสายน้ำแต่ละสายเชื่อว่าสถิตอยู่บนดอยสูงตามต้นไม้ใหญ่
งานบุญงานบุญข้าวประดับดิน
ในภาคอีสานการในภาคอีสานการทำบุญเพื่ออุทิศให้บรรพบุรุษเรียกว่างานบุญข้าวประดับดินเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเดือนเก้ามีวัตถุประสงค์อุทิศให้กับบรรพบุรุษที่เสียไปโดยกระทั่งจากการงานบุญค่าดับกินประปาร 10 ห้าวันเรียกบุญข้าวสากหรือค่าสลากซึ่งเชื่อว่าเป็นการทำบุญให้กับวิญญาณและวิญญาณจะกลับมา
งานเปิดงานประเพณีทำบุญวันสารทมีอิทธิพลจากภามชาวบ้านจะนำรวงข้าวอ้อ อ้อนมาทำเป็นข้าวมธุปายาสและข้าวยาคูถวายพระสงฆ์เพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ข้าวในนาต่อมาคนไทยเปลี่ยนเป็นการถวายใกล้จะศาสซึ่งจะทำจากข้าวเม่าเค้าเอาออกถั่วลิสงและงานน้ำผึ้งกับอ้อย
เปิประเพณีการตักบาตรดอกไม้บูชาอินทของเชียงใหม่
ราวเดือนราวเดือนพฤษภาคมชามาเชียงใหม่จะเตรียมดอกไม้หลากสีเครื่องบูชามาจัดเรียงใส่ในตะกร้าหรือขันเงินเพื่อใส่ดอกไม้เพื่อบูชาอินทขีลคือเสาหลักเมืองขอเชียงใหม่ที่วัดเจดีย์หลวง
ความเชื่ความเชื่อเรื่องขวัญพัฒนานุกรมนิยามคำว่าขวัญคือมิ่งมงคล Siri ความดีการนำดอกไม้มาประดับมวยไทยเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อการบูชาขวัญที่เชื่อว่ามนุษย์มีขวัญ 32 เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวโดยดอกไม้ที่คนตายหรือไทยในเอเชียอาคเนย์นิยมนำมาปักประดับมวยผมนั้นจะเป็นดอกไม้พื้นบ้านที่มีกลิ่นหอมเช่นดอกสะบันงาดอกมหาหงส์เป็นต้นคนไทยยังเชื่อว่าข้าวก็มีขวัญดังนั้นเพื่อแสดงความขอบคุณและแสดงความอ่ อ่อนน้อมจึงบูชาแม่โพสพเป็นตัวแทน
ประเพณีประเพณีบุญคูนลาน
เป็เป็นการทำบุญเพื่อรับขวัญข้าวเราเดือนมกราคมทุกปีจะมีสวดมนต์เย็นและเช้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ข้าวเพื่อที่ชาวบ้านนำมาเก็บที่ร้านรวมกันเมื่อพระฉันแล้วก็ทำพิธีสู่ขวัญข้าวและผูกข้อต่อแขนกันในหมู่บ้าน
รูรูปแบบประเพณีที่แตกต่างตามกลุ่มชนชั้นในอดีต
ประเพณีประเพณีเกี่ยวกับราชสำนักเรียกว่าประเพณีหลวงประเพณีไทยสำหรับชาวบ้านเรียกว่าประเพณีราช
เปิเปิดเพลย์นีหลวงตามคติเทวราชากษัตริย์เป็นผู้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปกป้องคุ้มครองบ้านเมืองคือองค์เทวยังมีชีวิต
เปิประเพณีราชเป็นประเพณีเกี่ยวกับครอบครัวและวิถีแบบไทยวิธีการเกี่ยวกับการเกิดเป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากอัตราการตายของแม่และเด็กเล็กเกิดในอดีตแล้วสูงมาก
เปิดประเพณีการฝังโลกเป็นอุบายของโบราณเพื่อระบุที่ดินที่พ่อแม่จะยกให้กับลูกคนนั้นโดยผู้เป็นพ่อจะนำโรคไปฝั่งใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่ได้กำหนดไว้
ประเพณีโกนจุกจากกระทำเมื่อเด็กอายุ 11 ปีและเด็กชายอายุ 13 ปีการโกนจุกเป็นเครื่องแสดงว่าเด็กผ่านจากวัยเด็กสู่วัยหนุ่มสาว
ประเพณีตักบาตรเทโว
การตัการตักบาตรในวันออกพรรษาเรียกเต็มตามคำพระว่าเทโวโรหนะแปลว่าการลงจากเทวโลกหรือเรียกว่าตักบาตรดาวดึงส์
ประเพณีชักพระจังหวัดสุราษฎร์ธานีชักพระหมายถึงการชักพระกับพระลากโดยจะถือเอาวันออกพรรษาอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญในพุทธศาสนาไปบำเพ็ญกุศลและสมโภชเพื่อเป็นสิริมงคลซึ่งเป็นการจำลองเหตุการณ์ตามเรื่องราวเทโวโรหานะสูตรที่พอออกษาพระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับมาจากจำพรรษาณสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อแสดงทำโปรดพุทธธรรมมารดาสำหรับประเพณีชักพระของชาวสุราษฎร์นั้นมีความโดดเด่นกว่าธีอื่นจะมีขบวนแห่พระกันทั้งทางบกและทางน้ำ
วันวันขึ้นปีใหม่ไทย
การนับการนับเดือนในอดีตไทยเซ็กส์การนับเดือนตามจันทรคติคืออาศัยการโคจรของดวงจันทร์เป็นหลักเป็นวันข้างขึ้นข้างแรมต่อมาในรัชกาลที่ห้าการนับวันและเดือนตามจันทรักษ์คตินั้นไม่สะดวกและไม่เหมาะกับการเป็นไปของบ้านเมืองถึงส่งให้มีการปรับเปลี่ยนการนับวันเดือนปีเป็นสากลเมื่อพ.ศ. 2431 เป็นต้นมา
วัวันขึ้นปีใหม่ไทยเริ่มที่เดือนอ้ายช่วงเวลาแห่งความอุดมสมบูรณ์แห่งพืชพรรณธัญญาหารเดือนอ้ายในวัฒนธรรมดั้งเดิมซึ่งนับแบบจันทรักษ์คติอยู่รอประมาณเดือนพฤศจิกายนตอนต้นเดือนธันวาคมของทุกปีโดยวันขึ้นปีใหม่วัฒนธรรมดั้งเดิมคือวันขึ้นหนึ่งค่ำเดือนอ้ายต่อมาในรัชกาลที่ห้าทรงดำริวันขึ้นปีใหม่เดือนห้านั้นมีความไม่แน่นอนจึงกำหนดให้วันที่หนึ่งเมษาพ.ศ. 2432 เป็น2432 เป็นวันขึ้นปีใหม่ต่อมาพ.ศ. 2483 ทางราชการจึงกำหนดวันที่หนึ่งมกราเป็นขึ้นปีใหม่ในปัจจุบัน
บทที่ 5 ศิลปกรรมในดินแดนไทยที่มาและความหมายโดยสังเขป และ
ดนตรีดนตรีไทยการละเล่นพื้นบ้าน ระบำรำฟ้อน
ความแตกต่ความแตกต่างระหว่างอุโบสถ
วิหาร ศาลาการเปรียญ
อุโอุโบสถอาคารสำคัญทางพระพุทธศาสนาใช้เป็นที่ประชุมสงโดยเฉพาะการบวชในภาคเหนือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคนล้านนามีความเชื่อเรื่องการห้ามผู้หญิงเข้าไปในอุโบสถในภาคกลางตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นบทบาทสำคัญของอุโบสถผมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในวัดหลวงสมัยโบราณบางหมดใช้น้ำเป็นเครื่องกำหนดขอบเขตเรียกว่านทีศรีมาบางแห่งใช้หินสลักที่เรียกว่าใบเสมาหรือเสมาในความเชื่อการนับถือผีบรรพบุรุษ
วิหารเป็นอาคารที่ประดิษฐ์สถานพระพุทธรูปโดยเป็นวิหารประธานการเรียกอาคารวิหารนั้นเป็นการเรียกชื่ออย่างกว้างกว้างแต่ด้วยบทบาทหน้าที่มักใช้เรียกอาคารที่ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญแล้วที่ของวิหารเพื่อให้สถานที่ให้ประชาชนมาสักการะ
ศาลาการเปรียญศาลาการเปรียญในอดีตอาคารสำคัญให้พระพิสุสงฆ์สามเณรใช้ในการศึกษาปริยัติทำปัจจุบันใช้อาคารอเนกประสงค์เพื่อประกอบศาสนากิจการต่างๆ
ความแตกต่ความแตกต่างระหว่างช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์
เครื่เครื่องลำยองจะเป็นตัวไม้แกะสลักปิดหัวท้ายเครื่องโมงหลังคาของอาคารประกอบด้วยช่อฟ้าใบระกาและหางหงส์ความเกี่ยวข้องในทางคติพบว่าลำยองน่าจะมีความเกี่ยวข้องความเชื่อเรื่องคุดหยุดนาคหรือคุดจับนาค
ความแตกต่ความแตกต่างของการซ่อนชั้นหลังคาและความหมาย
การทำหลังคาการทำหลังคาซ่อนฉันในสถานะปัตยกรรมไทยเพื่อลดธรขนาดพื้นหลังคาที่ใหญ่เกินไปและเพิ่มมิติทางสัตถาปัตยกรรมให้อาคารมีความงดงามมากขึ้น
ความแตกต่ความแตกต่างระหว่างสถูป เจดีย์ ปรางค์
สถูปหมายถึงสะสมรวมเข้ากันได้เจดีย์หมายถึงสถานที่อันเป็นที่ควรเคารพบูชาสักการะปางในดินแดนไทยได้รับอิทธิพลจากปราสาทหินในศิลปะเขมรโดยมีที่มาจากคติในเชิงศาสนาพราหมณ์อินดูว่าเป็นสัญลักษณ์ของเขาพระสุเมรุ
ดนตรีดนตรีไทยเมื่อละ 5000 ปีก่อนอุตสาคเนทำเครื่องดนตรีจากไม้สร้างเครื่องมือที่ชื่อเรียกว่า เกราะ กรับ
เมื่เมื่อเข้าสู่ยุคโลหะประมาณ 3000 ปีมีเครื่องดนตรีที่ใช้ในพิธีกรรมเช่นของโลหะและกล่องโลหะ
เมื่เมื่อหลาย 1000 ปีมาแล้วโลหะผสมที่เรียกว่าสัมฤทธิ์เป็นสิ่งของที่หายากโดยเฉพาะวิธีการที่มีความสมบูรณ์จะมีการใช้ดนตรีเครื่องดนตรีที่สำคัญเช่น ทุ้ม ฆ้อง โม่ง
ใช้ใช้ในสถานการณ์เช่น เลี้ยงผี แก้บน ละคร โขน
พัฒนาการของคำร้องประกอบเสียงดนตรี
ในอดีตการในอดีตการเล่นประกอบเครื่องดนตรีมักเป็นกิจกรรมในพิธีศักดิ์สิทธิ์เช่นการสื่อสารกับบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้วเหลือการขับร้องให้ของจองที่เรียกกันภายหลังว่า ร่าย หรือลำ
การละเล่นการละเล่นพื้นบ้านไทย
คำว่คำว่าการเดินเล่นมีมาก่อนคำว่านาฏศิลป์ดนตรีในอดีตกันเล่นมีความหมายกว้างมากไม่จำกัดเฉพาะการร้องรำทำเพลงแต่ยังรวมถึงกิจกรรมพิเศษที่ต้องการสื่อสารกับอำนาจธรรมชาติเพื่อวัตถุประสงค์ในการขอความอุดมสมบูรณ์
พิธีกรรมการละเล่นที่เกี่ยวเนื่องกับอำนาจกษัตริย์
พิธีคือโหลชิงช้าถูกยกเลิกในพ.ศ. 2475
การชักการชักนาคดึกดำบรรพ์ในพระราชฉั ในพระราชฉัพิธีอินทราภิเษกเชื่อว่าการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์มีที่มาจากการละเล่นกวนเกษียรสมุทรในพระราชพิธีน้ำพัดพัดสัตยาของเขมรยุคเมืองพระนคร
พิธีกรรมการละเล่นที่เกี่ยวเนื่องกับความคิดความเชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์
การละเล่นการละเล่นผีตาโขน
การแห่นางการแห่นางแมวการส่งแม่
การทรงแม่สี
พิธีกรรมการละเล่นที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีชุมชนและการอยู่ร่วมกันในสังคม
การบายศรีการบายศรีสู่ขวัญ
การรำผีฟ้ากัน
เล่นเต้นรำเคียว
การก่อเจดีย์ทรายในวันขึ้นปีใหม่
หนัหนังใหญ่หรือหนังตะลุงการแสดงหนังใหญ่สันนิษฐานว่ามาตั้งแต่กรุงศรีทยาตอนต้นการแสดงตัวหนังของภาคใต้ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าตัวหนังภาคกลางหนังตะลุงใช้ภาษาถิ่นในการเจรจานิยมแสดงเรื่องจากจากวงวงแต่ในปัจจุบันหนังตะลุงมักเล่นล้อเลียนการเมืองหรือสภาพสังคมเพื่อความสนุกสนาน
การเล่นหุ้นการเล่นหุ้นหุ้นไทยมีสี่แปดคือหุ่นหลวงหุ่นดีเล็กหุ่นกระบอกหุ่นละครเล็กนิยมเล่นเรื่องราวจากวรรณคดี รามเกียรติ์พระภัยมณี
โขนเป็นโขนเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงเป็นมหรสพในสมัยโบราณนิยมแสดงในโอกาสสำคัญเช่นต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองงานสมโภชงานเฉลิมพระชนมพรรษาโขนได้แบบอย่างมาจากส์การสะสางแสดงกระบี่กระบองหนังใหญ่และชักนาคดึกดำบรรพ์
ประเภทของละครโขนโขนกลางแปลงนิยมประเภทของละครโขนโขนกลางแปลงนิยมแสดงกลางสนามที่โรงโล่ง
ขนน้อคนนอกเป็นการแสดงบนโรงมีหลังคาแต่มีราวผ้าตามส่วนยาวของโรงตามหน้าชา
โขนโรงในคือโขนโรงในคือคนศิลปะละครนายเข้ามาผสมผสานการแสดงทั้ง รำเต้นและมีการภาคสี่และจาแบบของ
ขนฉากเกิดในโขนฉากเกิดในรัชกาลที่ห้าคล้ายกับละครดึกดำบรรพ์ส่วนวิธีแสดงดำเนินเช่นเดียวกับโขนในแต่เป็นการแบ่งเป็นชุดเป็นตอนเป็นฉาก
ละครชาตรีละครชาตรี
สันสันนิษฐานว่าเป็นต้นกำเนิดของละครนอกและละครใน
จึงจึงเกิดเป็นละครชาตรีขึ้นในอินเดียโบราณที่เรียกว่ายาตรีหรือยาตา
ละครชาตรีละครชาตรีเริ่มแพร่หลายเป็นที่นิยมในพรรคใต้โดยนิยมเล่นในมโนราห์โดยเฉพาะรัชกาลที่สามเนื่องจากมีวิชานครราชสีมาธรรมราตพัทลุงอพยพขึ้นมา
การแต่การแต่งกายละครชาตรีแต่โบราณไม่สวมเสื้อเพราะทุกคนเป็นผู้ชายผัดหน้าด้วยขมิ้นเชื่อกันว่าเสาร์ที่พระวิษณุกรรมเสด็จประทับเพื่อการแสดงรู้เรื่องปัจจุบันไม่มีแล้ว
ลิเกสันนิษฐานว่าลิเกมาจากคำว่าฎีกาซึ่งมาจากภาษาอาหรับแปลว่าการร้องลำนำและการขับลำนำแต่เดิมดิเกเป็นการสวดบูชาพระผู้เป็นเจ้าของศาสนาอิสลามต่อมาถูกนำมาร้องเพื่อความสนุกสนานและเชื่อกันว่าลิเกยังเป็นที่มาของการเล่นลำตัดหรือการตัดก่อนแก้กันอีกด้วย
การระบำรำฟ้อนการระบำรำฟ้อนของภาคต่างๆ
ภาคกลางรูปแบบภาคกลางรูปแบบการระบำพบมากในภาคกางเต้นท์ ผมมากในภาคกลางเต้นกำลังเคี้ยวเพลงอีแซวเพลงเกี่ยวข้าว
ภาคใต้ภาคใต้ระบำฟ้อนของพรรคใต้มีลีลารวดเร็วแสดงออกถึงความเด็ดขาดเช่นรำโนรา
ภาคเหนืภาคเหนือมีการฟอลแบบพื้นบ้านสืบทอดมาช้านานปัจจุบันยังคงรักษาแบบแผนลีลาแบบโบราณทั้งฟ้อนอ่อนช้อยกับเฟิร์นที่รวดเร็ว
ภาคอีภาคอีสานเป็นการสอนและเสริมการฟ้อนของกลุ่มวัฒนธรรมไทยลาวใช้แขนเป็นแค่ดนตรีและมีลีลารวดเร็วสนุกสนานเช่นเซิ้งกระติ๊บ
บทที่ 6 วิวิถีชีวิตกับวัฒนธรรมที่สำคัญบนความหลากหลายของศาสนาและชาติพันธ์ต่างๆในชุมชนสาทร
ความเป็นมาของสาธร
เดิเดิมเป็นพื้นป่าเรียกปลาแต่มีคนไทยพื้นถิ่นอาศัยอยู่ประปรายทำกสิกรรมและเลี้ยงสัตว์จนถึงพุทธศักราช 2146 พระนเรศวรมหาราชมีดำริให้ย้ายทหารอาสาวิลันดาอาสาโปรตุเกสญี่ปุ่นไปไว้ที่บางกอกให้สร้างป้อมที่ดูดีให้กองกำลังอาสารามันไปตั้งบ้านเรือนที่ตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาพระราชาคณะในคณะสังฆราชพระพิสุสายวิปัสสนาคณะวัด คณะวัดป่าแก้วเลนรวม 50 รูป ไปกับไปกับกองศาลามันตั้งอรามขึ้นใกล้ตำแหน่งตั้งควยรามันป้อมเมืองบางกอกตั้งแต่นั้นมาในสมัยรัชกาลที่ห้าพื้นที่เขตสาทรในปัจจุบันขึ้นกับอำเภอบ้านทวายเมืองนครเขื่อนขันธ์ในพ.ศ. 2532 มีการจัดตั้งสำนักงานเขตยานนาวาสาขายานนาวาขึ้นปกครองพื้นที่แขวงยานนาวา
ชาติชาติพันธ์ในสาธร
การอพยพของชนชาติมอญ
ในปีในปีพ.ศ. 2127 เมื่อพระเจ้านันทบุเรงมีราชโองการให้อยุธยานำทัพจากกรุงศรีไปปราบกบฏที่เมืองอังวะพระนเรศวรเป็นผู้นำทัพครั้งแรกยกยกทัพมาเมืองแครงและครัวชาวกรุงศรีอยุธยาทิศติดค้างจากการกวาดต้อนเป็นทาสหมาแต่เค้าเสียกรุงกลับสู่แผ่นดินสยามให้ชาวรามันทั้งหลายทำนักอยู่ท้ายปากของพุทรา
ชาติติพันธ์ในสาธรวัดยานนาวาเป็นอดีตโรงเรียน เสนาธิการทหาร
วัดวัดข้อควายหรือว่าจะนะวานิชปัจจุบันเป็นเรื่องของนานาชาติมอนตั้งแต่สมัยเลสวนจะเอาวัดทุกองในอดีตเป็นชนชาติมอญทั้งสิ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สองจึงได้เปลี่ยนแปลงเป็นคนไทยพระอาจารย์พรหมเจ้าเอาวาดแรกของวัดโค่กควายในสมัยนเรศวร
ชาวมอนอพยพรุ่นใหม่ในชาวมอนอพยพรุ่นใหม่ในพื้นที่สาธร
ประเทศพม่ประเทศพม่ามีชนชาติต่างๆหลาย 10 ชนชาติทำสงครามแย่งชิงความเป็นสถาปนาชนชาติมอญก็เช่นกันได้ต่อสู้มาตั้งแต่อดีตเคยเป็นอย่างเนี่ยสถาปนาอาณาจักรหงส์เสาวดีปกครองพม่าทั้ง 10 ทิศแล้วก็สูญเสียอำนาจไปแล้วกอบกู้เอกราชคืนมาได้ในพ.ศ. 2300 หมดก็ต้องพ่ายแพ้แก่พระเจ้าอลองพญาแลไม่สามารถกอบกู้เอกราชได้อีก
การอพยพของชนชาติการอพยพของชนชาติจีนชาวจีนได้เดินทางเข้ามายังลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและอ่าวไทยก่อนที่ชนชาติไทยจะตั้งรัฐไทยขึ้นที่สุโขทัยปีพ.ศ. 2310 กองกำลังอาสาจีนชุดเดิมยกไปวางกำลังป้อมกั้นกำแพงเสียทยาทางด้านทิศใต้โดยตั้งขายที่บ้านสวนทรูเมื่อคนจีนเข้ามาอยู่ในเขตสาทรหนักมากๆปัญหาเกิดตามมาที่ฝังศพประเพณีจีนไม่นิยมผสมต้องมีสุสานฝังศพจึงมีการลงขันซื้อที่ดินทำสุสานฝังศพบริเวณสีลมสาธรวัดดอนทุ่งมหาเมฆ
สุสสุสานแต้จิ๋วสุราจึงเกิดขึ้นจากการรวบรวมเงินบริจาคคนแต้จิ๋วในกรุงเทพมหานครจัดซื้อที่จำนวน 125 ไร่ที่ตรอกจันทร์เป็นหัวเหลี่ยมหัวแหลมจัดหาทุนทำเป็นสุสานให้เป็นที่สาธารณะ
การอพยพของชนชาติการอพยพของชนชาติอินโดนีเซียอินโดนีเซียในปี 2471 ประเทศอินโดนีเซียได้รับเอกราชในอดีตล่ะนะนิคมรุ่นเก่าโปรตุเกสก่อนต่อสู้ดินแดนตามมาเวลา 300 ปีบางก็หนีปราบปรามมีความทุกข์ไปยังดินแดนประเทศไทยเป็นเป้าหมายที่คนอินโดนีเซียหนีมาพึ่งมากันตั้งแต่กรุงศรียุทยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ปัจจุบันชาวอินโดนีเซียกลุ่มใหญ่มาตั้งบ้านเรือนอยู่เขตสาทรเป็นที่มาของมัสยิดยวา
มัสยิดยาวายาวาเป็นความเชื่อของมุสลิมกุลกลุ่มหนึ่งของเกาะชวาประเทศอินโดนิเซียซึ่งเข้ามาอาศัยบริเวณโรงน้ำแข็งในกรุงเทพเพื่อให้สถานที่การพระผู้เป็นเจ้าของชาววัดสลิม
การอพยพของชนชาติยะไข่หรือ ยะไข่หรือชาวทะวาย
เป็เป็นเอกชลทาหนึ่งที่มีภาษาของตนแต่ไม่มีภาษาเขียนนับถือพุทธศาสนาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองทวายใกล้รัฐมอนและตะนาวศรีวัฒนธรรมประเพณีจึงขายมอญ
อพยพของชาวอินเดียอินเดียเอเชียสาธร
ขบวนการอินเดียขบวนการอินเดียเริ่มก่อตัวขึ้นขยายตัวลัทธิตะวันตกในอินเดียประมาณพุทธศตวรรษที่ 23 ถึง 24 ประชากรอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพ่อประหยัดชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูที่เข้ามาในประเทศไทยแบ่งออกเป็นห้ากลุ่มกลุ่มชาวฮินดูจากอุตรประเทศกลุ่มชาวฮินดูจากแขวนซิกกลุ่มชายอินโดจากกุหลาบขุมทรัพย์หินดูจากถ้ามีรน่าดูและกลุ่มชาวฮินดูจากบึงก่อน
การเข้การเข้ามาสู่ประเทศไทยของชาวตะวันตกประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับชาวตะวันตกมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาตะวันตกเริ่มเสื่อมลงจนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่สี่ความสัมพันธ์กับสวรรค์ตกเริ่มดีขึ้นการเปิดประเทศให้กับตะวันตกในปีพ.ศ. 2387 พระบาทสมเด็จรัชกาลที่สามแห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระองค์โปรดเก้าให้บูรณะโบสถ์วัดยานนาวาพร้อมทั้งสร้างเจดีย์มีฐานสำเภาถ้าเรือสำเภาจีน
ศาสนาและสถานที่ศาสนาและสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับสาธร
วัดยานนาวาเป็นวัดอารามหลวงสังกัดมหานิกายและรัชกาลที่หนึ่งทรงพระอุโบสถใหม่รัชกาลที่สามทรงพระกรุณาโปรดเมสตาให้ปฏิสังขรณ์สร้างเรือสำเภาเจดีย์ไว้ที่นี่
วัวัดสุทธิธาราเมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงกอบกู้เอกราชได้เสด็จปราบหัวเมืองที่ตั้งตนเป็นกุ๊กในพ.ศ. 2312 ได้ยกทัพเรือกกเจ้านครศรีธรรมราชที่เมืองนครศรีธรรมราชแล้วได้นำตัวพยานนครธรรมราตพร้อมภรรยาธิดาโปรดเกล้ามาอยู่ที่อาติดแม่น้ำเจ้าพระยาก็ได้ราชธานที่ประมาณ 200 ไร่โดยยกเนื้อที่ 18 ไร่เบื้องต้นไม่ปรากฏว่าชื่อวัดปรากฏชัดเจนว่าหมีก็ไม่ได้ปรากฏหลักฐานว่าอยู่ในอุปถัมภ์ของใครตอบมาเรายังซึ่งถูกการตอนจากของผมยังจันทร์วัดเราตั้งใหม่ได้ประมาณ 100 ปีจึงย้ายวัดไปช้า
วัดพัดลมหรือวัดดอนเป็นวัดโบราณสร้างมานานตั้งแต่รัชกาลที่หนึ่งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระปรากฏตามหลักฐานดั้งเดิมเป็นผู้ศรัทธาสร้างขึ้นเรื่องความร่วมแรงร่วมใจสร้างโดยมังจันทร์เจ้าพระยาถวายวัดดอนนี้เดิมทีมีแต่พระสงฆ์ชาวถวายจำพรรษาอยู่ส่วนมากโดยมีพระสงฆ์อาวุโสทำหน้าที่ปกครอง
ความเกี่ความเกี่ยวข้อง 1000 ของสาธรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในรัชกาลพระเจ้าปราสาททองพระเจ้าปราสาททองมีพระมเหสีมีโอนรถเจ็ดพระองค์องค์สุดท้ายชื่อพัชรินทร์ธรากุมารมีนางรมชื่อบัวเป็นชาวรามันและมีลูกติดทั้งสองพระสหายของพระสุบินกูมารต่อมาสีเหลืองกูมารขึ้นของราชภาษาขายเหล็กเจ้าพระยาโกษาดีๆคนน้องเป็นเจ้าพยาโกษาบดีปลานางรมเป็นเจ้าแม่วัดดุสิต
นางอุดมนายอุดมบัวหรือเจ้าแม่วัดดุสิตราชธิดาองค์หนึ่งของสมเด็จพระเอกกาททแสรสได้ทรงสมรสกับพยารามซึ่งเป็นขุนนางเชื้อสายมอญอพยพมารักการพายเรือสวนมีธิดาปรากฏชื่อเป็นที่รู้จักหม่อมบัวภายหลังออกบวชที่วัดดุสิตจึงเรียกว่าเจ้าแม่วัดดุสิต