Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Facial Bone Fracture บาดเจ็บที่กระดูกหน้า, D1CC6EF1-28E0-4D82-AAD2…
Facial Bone Fracture
บาดเจ็บที่กระดูกหน้า
บาดเจ็บเฉพาะที่
ขากรรไกรบนหัก (Maxillary Fracture)
เป็นกระดูกชิ้นใหญ่อยู่ตรงกลางของใบหน้า ยึดติดกับกระดูกหลายชิ้น
มีช่องว่างอยู่ตรงกลางเป็นช่องจมูก และมีโพรงอากาศขนาดใหญ่
นอกจากนี้ยังมีเบ้าซึ่งเป็นที่ฝังตัวของรากฟันบน (alveolar process)
อาการโดยทั่วไปเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ
ปวดมากชาที่ริมฝีปากบน
การมองเห็นผิดปกติ
หน้าบวม
มีรอยฟกช้ำ
รอบตาและตาบวม
ลือดออกใต้ตาขาว
(subconjuctival hemorrhage)
หน้ายาวและไม่เท่ากัน
เลือดกำเดาไหล
ฟันไม่สบกัน
(maloc-clusion)
น้ำไขสันหลังรั่วออกทางจมูก
ระดับความรุนแรง
Le Fort I เป็นการหักตามแนวขวาง
ทำให้ขากรรไกรบนแยกออกจากกะโหลก แต่ส่วน
ที่อยู่ใต้โหนกแก้มยังติดกัน อาจเป็นการหักที่
ไม่มีการเคลื่อนของกระดูก หรือมีการเคลื่อนของ
กระดูก ทำให้ส่วนที่หักลอยไม่ยึดกับฟันบน
อาการ
ปวด
ชาที่ฟันบน
หน้าบวม
มีรอยฟกช้ำ
เลือดออก
ฟันไม่สบกัน
ขากรรไกรขาดที่ยึด อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง
Le Fort II เป็นการหักบริเวณที่เป็นปีรามิด
ซึ่งประกอบด้วย ขากรรไกรบน จมูก และกระดูก
แบ่งกั้นโพรงจมูก (ethmoid bone) ตำแหน่งนี้มี
รูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม (tripod shape)
ซึ่งมีจมูกเป็นยอดแหลม เมื่อมีการหักจะทำให้
ระยะห่างระหว่างหัวตาทั้งสองข้างกว้างขึ้น
(telecanthus) จมูกแบน
อาการ
ส่วนที่หักเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ฟันไม่สบกัน
มีเลือดออกใต้ตา
เลือดกำเดาไหล
ปวดชาริมฝีปากบนและเปลือกตาล่าง
บวมที่จมูก ปากและตา
อาจมีน้ำไขสันหลังรั่วออกทางจมูก
ท่อน้ำตาอุดตัน
การกลอกตาผิดปกติ
เห็นภาพช้อน
Le Fort III (Naso-orbital ethmoidal complex:NOE) เป็นการหักของขากรรไกรบนร่วมกับกระดูกจมูก กระบอกตา โหนกแก้มแยกออกจากกระดูกหน้าผาก ระยะห่างระหว่างหัวตากว้างขึ้น
(telecanthus) ถ้ามองด้านข้างจะพบรูปหน้าคล้ายช้อน (spoonlike/ donkey face)
อาการ
รอบตาและหน้าส่วนบนบวมมาก
ฟกช้ำ
เลือดกำเดาไหล
หายใจลำบาก
ฟันไม่สบกัน
ใบหน้ายุบและยาวขึ้น จมูกสั้นลง
ฟันเคลื่อนไหวโดยไม่สัมพันธ์กับกระดูกหน้าผาก
ปวดมาก การมองเห็นผิดปกติ
อาจมีน้ำไขสันหลังรั่วออกที่โพรงจมูก
การรักษา
ทำทางเดินหายใจให้โล่ง
อาจใส่ท่อช่วยหายใจหรือเจาะคอฉุกเฉิน
โดยพิจารณาจากปัญหาของผู้ป่วย
ห้ามเลือด
ใส่วัสดุเข้าไปห้ามเลือดในโพรงจมูกส่วนหน้า
(anterior nasal packing)
ใส่วัสดุไปห้ามเลือดในโพรงจมูกด้าน
หลัง (posterior nasal packing) ในกรณีที่เลือดยังไม่หยุด
ผ่าตัดแก้ไขกระดูกที่หัก
เพื่อยึดกระดูกให้เข้าที่โดยยึดด้วยลวดหรือแผ่นโลหะให้กระดูกอยู่ในตำแหน่งที่ฟันสบกันได้พอดี
ขากรรไกรล่างหัก (Mandibular Fracture)
เป็นกระดูกที่แข็งและบางส่วนของกระดูกจะหนามาก
โดยเฉพาะบริเวณปลายคาง (symphysis rami)
กระดูกนี้มีความโค้งงอเป็นรูปตัวยู (U shape)
หรือ คล้ายเกือกม้า (horse shoes) ถ้าโค้งขาดตอนจะทำให้ขากรรไกรล่างขาดความแข็งแรงทางโครงสร้าง
อาการ
ฟันไม่สบกัน (malocclu-sion)
ปวดกราม บวมตึง กดเจ็บ
คลำได้กระดูกอยู่ต่างระดับ (step off)
ขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ได้เต็มที่ (trismus) ขยับคางไม่ค่อยได้
หน้าบวม คาง 2 ข้างไม่เท่ากัน มีรอยฟกช้ำ
ชาริมฝีปากล่างและคาง
ฟันอาจร่วง เหงือกฉีก
มีแผลและเลือดออกใต้ลิ้น
ขากรรไกรล่างหักมากจะขาดที่ยึด
ลิ้นตก
ไปข้างหลังและอุดทางเดินหายใจ
มีการหักบริเวณข้อต่อกับกะโหลกศีรษะ (condyle)
ปวดร้าวไปที่หู
คลำได้กระดูกกรอบแกรบ
น้ำลายมาก
คางเบี้ยวไปด้านที่หัก
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
อาการและอาการแสดง
การถ่ายภาพรังสีหน้าตรง
ด้านข้างและเอียง
การรักษา คำนึงถึงตำแหน่งที่หัก
จัดกระดูกให้เข้าที่โดยไม่ผ่าตัด
(closed reduction)
ผ่าตัดใส่เหล็กหรือลวดดาม
(openreduction internal fixation: ORIF)
ในกรณีที่มีแผล
ฉีกขาดต้องเย็บซ่อมแชม
1.จมูกหัก (Nasal fracture
กระดูกจมูก มี2ชิ้น ด้านบนเชื่อมกับกระดูกหน้าผาก
ด้านล่างเชื่อมกับขากรรไกรบน
มักโดนกระแทก เช่น ถูกชก หรือบาดเจ็บปาดเจ็บบนท้องถนน
การรักษา
1.แพทย์ทำการงัดจมูกเข้าที่ close reduduction
ในรายที่บวมมากต้องรอยุบบวมก่อน1 สัปดาห์ หลังจากนั้นแพทย์จะใส่วาสสลินก๊อซชนิดที่เป็นแถบยาวอุดรูจมูก anterior packing นาน24-48ชม.
เพื่อห้ามเลือดและค้ำยันเฝือกที่อยู่ภายนอก
2.ถ้ามีเลือดออกที่ผนังกั้นจมูก รักษาโดยการระบายเอาเลือดออกเพื่อป้อบกันการอุดกั้นทางเดินหายใจและกระดูกอ่อนของจมูห
3.ประคบบริเวณสันจมูกด้วยความเย็น เพื่อลดบวม
4.ถ้ามีการบาดเจ็บของท่อน้ำตาด้วยแนะนำผู้ป่วยห้ามไอจามหรือสั่งน้ำมูก ทำให้อากาศเข้าไปในกะโหลกศีรษะ ทำให้เกิดติดเชื้อเฉพาะที่หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้
ถ้าเลือดออกไม่หยุด แพทย์จะใส่ anterior packing & postior packing ใส่ก๊าซยาวหรือวัตถุอื่นไว้ที่โพรงจมูกส่วนหน้าหรือหลังโพรงจมูกส่วนหลัง
5.แพทย์จะดามจมุกเป็นรูปผีเสื้อ butterfly castให้จมูกอยู่ตำแหน่งเหมาะสม
อาการทางคลินิกที่คลินิกที่ตรวจพบ ได้แก่ จมูกบวม ดั้งจมูกยุบ เบี้ยวคดหรือผิดรูป คัดจมูก มีเลือดกำเดาไหลและคลำได้กรอบแกรบ
mobility and crepitus on palpation
tenderness over area of fracture
hematoma over nose and extent into periorbital area
septal deviation
การแบ่งชนิดของกระดูกหักทีสามารถนำมาใช้ในทางคลินิกได้ดีคือ1. simple fracture nose2. comminuted fracture nose3. fracture nose with frontal process of maxilla fracture4. naso-orbitoethmoid fracture
2.กระบอกตาแตก orbital blowout fracture
อาการ หนังตาตก การกรอกตาผิดปกติ
เห็นภาพ2ทั้งสองข้าง ปวดตา ลอกตาบวม มีเลือดออกในช่องหน้าลูกตา เลนส์ตาเลื่อนจอประสาทตา
ลอก รูม่านตา2ข้างไม่เท่ากันชาที่แก้มและริมฝีปากบน
การรักษาตามอาการ การผ่าตัดจะทำภาพหลังจากที่ยุบบวม
การพยาบาล
ประคบเย็นเพื่อลดปวดและลดบวม
ถ้ามีลมใต้ผิวหนังรอบตา แสดงว่ามีการแตกของไซนัส แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก ไอ จาม หรือเบ่งเพราะจะทำให้ลมเข้าไปในไซนัสมากขึ้น
ถ้ามีการแตกของเบ้าตา ต้องครอบตา
(eye shield) เพื่อป้องกันไม่ให้มีแรงดันเพิ่ม
ให้ยาปฏิชีวนะ ยาละลายน้ำมูก ยา
หยอดตาและยาป้ายตาตามแผนการรักษา
ประเมินความสามารถในการมองเห็นและการกลอกตา
โดยปกติกระดูกกระบอกตาที่หักมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนคือ diplopia และ enophthalmosซึ่งมักเกิดจากการมีกระดูกหักที่บริเวณ floor ของกระดูกกระบอกตาClinical examination
edema, corneal abrasion, lacerations, contusion or hematoma
subconjunctival
diplopia ; เกิดจากการที่มี entrapment ของ extraocular muscle ทำให้ไม่สามารถกลอกตาข้างนั้นได้อย่างเต็มที่
exophthalmos ภาวะที่มีลูกตาและหนังตาบนอยู่ลึกกว่าปกติเนื่องจากการที่ไม่มีส่วน support globe เป็นผลให้ fat รอบ orbitบางส่วนตกลงไปใน maxillary antrum นอกจากนี้พบว่ายังอาจเกิดขึ้นได้
กระดูกหักทีกระบอกตา มักพบร่วมกับกระดูกหักที่บริวณข้างเคียงอยู่บ่อยๆ เช่น zygoma,nasoethmoidal-orbital และ Le fort fracture หรืออาจเกิดการหักที่กระดูกกระบอกตาเพียงตำแหน่งเดียวก็ได้
3.กระดูกโหลกแก้มหัก(zygomatic fraceture)
การหักมี2ลักษณะ
หักที่ส่วนโค้งของโหลกแก้ม zygomatic arch
หักบริเวณสามเหลี่ยม tripod fracture ซึ่งร่วมการหักของกระดูกกระบอกตาได้ด้วย
อาการ
โหนกแก้ม 2 ข้างไม่เท่ากัน แก้มยุบ
แบน
ลูกตาลึกบุ๋มลง (enophthalmos)
เลือดออกที่ตาและรอบตา ปวดมากขึ้นเมื่อขยับคาง คลำได้กระดูกกรอบแกรบ ขากรรไกรแข็ง อ้าปากได้น้อย
เส้นประสาทที่เลี้ยงตาเสีย
ทำให้การกลอกตาผิดปกติ
อาจมีภาวะแทรกซ้อนทำให้ไซนัสอักเสบเรื้อรัง
1.กายวิภาค
กระดูกหน้า
Facial bone
กระดูกแต่ละชิ้นแต่ต่างกัน ทั้งรูปร่าง ขนาด
และความหนาบางแตกต่างกันและยึดติดกันอย่างซับซ้อน ถ้าเเบ่งกระดูกตามแนวดิ่ง แบ่งได้3 ส่วน
Middle thrid
•Zygoma กระดูกโหนหแก้ม
•Nasal bone กระดูกจมูก
•Maxillary ขากรรไกรบน
•ethmoidal boneกระดูกแบ่งกั้นโพรงจมูก
Lower thrid
• •Mandible ขากรรไกรล่าง
Upper thrid
•front al bone กระดูกหน้าผาก
2.การประเมินการ
บาดเจ็บที่หน้า
1.การซักประวัติ
สาเหตุ กลไกลการเกิดเเผล บริเวณใบหน้าและศีรษะ ความรุนเเรง กระแทก
บริเวณใบหน้าที่ได้รับความรุนแรง
2การตรวจร่างกาย
2.1การดูInspection
แผลบริเวณใบหน้า
2.2การคลำ Palpation
บริเวณใบหน้าผาก รอบกระบอกตา
โหนกแก้มม ขากรรไกลบน-ล่าง
พร้อมกับบันทึกความผิดปกติ
เช่น บริเวณที่กดเจ็บ
มีรอยซ้ำบวม มีเสียงกรอบแกรบ
กระดูกผิดรูป
2.3การตรวจหาจุดกดเจ็บบริเวณกระดูกต้นคอเพื่อประเมินความบาดเจ็บของ
กระดูกต้นคอร่วมด้วย
2.4 ตรวจเส้นประสาทสมองที่เลี้ยงบริเสณ
ใบหน้า รวมถึงการมองเห็น
การกลอกลูกตา ดูการขยายของรูม่ายตา
2.5 การตรวจการคเลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า การสบฟัน และการบาดเจ็บในช่องปาก เหงือก และฟันโยกหรือหลุด
3.การตรวจพิเศษทางรังสีเพื่อวินิจฉัย
1 ภาพถ่ายรังสีทั่วไป(radiographs)
Towne view
เป็นการถ่ายภาพรังสีกะโหลกศีรษะและกระดูกใบหน้าโดยแสงจากรังสีจะผ่านจากด้านหน้าไปหลัง
นอนท่านอนหงาย ซึ่งเห็นการแตก
ของกะโหลกบริเวณท้ายทอย และกระโหนกแก้มได้ชัดกว่าท่าอื่น
Caldwell view
เป็นการถ่ายภาพรังสีกะโหลกศีรษะและกระดูกใบหน้าโดยแสงจากรังสีจะผ่านจากด้านหลังไปด้านหน้า
ท่านอนคว่ำ ซึ่งจะเห็นการแตกของกะโหลก กระบอกตากระดูกหน้าผากและขากรรไกรล่างด้านหน้าบริเวณคางและด้านข้าง
Lateral oblique view
เป็นการถ่ายด้านข้างของหน้า
เพื่อดูการหักของขากรรไกรล่างด้านข้าง
Water view
เป็นการถ่ายภาพรังสีในท่าเงยหน้า
เพื่อดูกระดูกหน้าผาก จมูก ขากรรไกรและช่องไซนัส
2.ภาพถ่ายแนวกว้าง(Panoramic radiographs)
ภาพถ่ายรังสีช่วยเห็นกระดูกหน้าทั้งหมด
ข้อจำกัด ไม่สามารถเห็นข้อต่อของกระดูกขมับและขากรรไกรล่างได้ชัดเจน
3.การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
(CT facial scan)
เห็นกระดูกหักได้ละเอียด ภาพเป็น3มิติ
จะตรวจร่วมกับการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์กะโหลกศีรษะและสมอง
การดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บใบหน้าในภาวะฉุกเฉิน
การทำทางเดินหายใจให้โล่ง เนื่องจาก
บาดเจ็บที่หน้าเป็นสาเหตุทำให้ทางเดินหายใจอุดกั้นได้จากเนื้อเยื่อบวม เลือดออกมาก มีสารคัดหลั่งเพิ่มขึ้น
ฟันหักหรือหลุด หรือลิ้นตกจากขากรรไกรล่างเคลื่อนผิดแนว
การป้องกัน
ดันหน้าผากและยกคางขึ้นให้
หน้าแหงน (head tilt-chin lift)
สำหรับรายที่สงสัยมีบาดเจ็บของกระดูคอ แพทย์จะเปิดทางเดินหายใจโดย
วิธีดึงขากรรไกรล่างทั้ง 2 ข้างขึ้นข้างบน (jaw thrust maneuver) แทนเพื่อป้องกันกระดูกคอเคลื่อน
มีเลือดออกและเสมหะมาก
ต้องช่วยดูดออก
รายที่หายใจลำบาก เลือดออกมาก
และมีการบวมที่ปากและหน้า
แพทย์จะให้ออกซิเจนหรือใส่เครื่องช่วยหายใจ
ระวังในรายที่แผ่นกระดูกที่วางตาม
แนวนอน (cribriform plate) หักเพราะจะมีความเสี่ยงสูงที่จะมีรูทะลุเข้าไปถึงสมองได้จากการใส่ท่อช่วยหายใจ
กรณีที่กระดูกหน้าหักหลายชิ้น
ใส่ท่อช่วยหายใจลำบากแพทย์อาจตัดสินใจใส่ท่อช่วยหายใจโดยการเจาะคอ
การห้ามเลือด
การบาดเจ็บใบหน้าในผู้ใหญ่
อาจทำให้ช็อกจากการเสียเลือดได้เนื่องจากที่หน้ามีเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก
กดโดยตรงแผลหรือปิดแผลให้มีแรงกด
(pressure dressing)
อาจใช้สำลีอุดตรงตำแหน่ง
ที่เลือดออก ประคบด้วยความเย็น หรือกดจมูก
ใช้ผ้าชับเลือดในจมูก (nasal tampon) ใส่เข้าไปห้ามเลือดที่ออกด้านหน้าของจมูกหรือใช้สายยางจมูก(nasal catheter) ใส่เข้าไปห้ามเลือดที่ออกด้านหลังจมูก
รายที่บาดเจ็บรุนแรง แพทย์จะจัดกระดูกให้เข้าที่เพื่อห้ามเลือด
การจัดการกับความปวด
โดยให้ยาระงับปวดและประคบด้วยความเย็น
เพื่อลดปวดและลดบวม
ให้สารน้ำ
กรณีเสียเลือดมากอาจให้เลือดหรือส่วนประกอบของเลือดทดแทน
5.การจัดกระดูกโดยไม่ผ่าตัด
-การยึดฟันด้วยเส้นลวด
6.การผ่าตัดจัดกระดูก