Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบ - Coggle Diagram
การตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบ
การวิเคราะห์คุณภาพรายข้อ
อิงกลุ่ม
ใช้วัดความรู้ความสามารถของผู้เรียน โดยมุ่งเน้นการเปรียบเทียบความสามารถของผู้เรียนกันเองภายในกลุ่มว่าผู้เรียนแต่ลัคนรู้มากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับกลุ่ม
ตรวจกระดาษคำตอบของนักเรียนแล้วรวมคะแนนของแต่ละคนไว้
นำกระดาษคำตอบของผู้เรียนมาเรียงลำดับจากคะแนนมากไปหาน้อยหรือน้อยไปหามากก็ได้
แบ่งกระดาษคำตอบของผู้เรียนเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มเก่งกับกลุ่มอ่อนโดยใช้เทคนิค 25% หรือ 27% หรือ 33% หรือ 50% แล้วแต่ความเหมาะสมซึ่งพิจารณาจากจำนวนกลุ่ม ตัวอย่าง และการกระจายของคะแนน
นับจำนวนกระดาษคำตอบจากคะแนนสูงสุดลงมา n คนเป็นกลุ่มสูง และนับกระดาษคำตอบจากคะแนนต่ำสุดเพิ่มขึ้นไป n คน
เตรียมตารางสำหรับแจกแจงความถี่ของการตอบของนักเรียนแต่ละคนในแต่ละข้อและแต่ละตัวเลือกไว้ 2 ชุด สำหรับกลุ่มสูง 1 ชุด และกลุ่มต่ำ 1 ชุด
นำกระดาษคำตอบของกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำมาแจกแจงคำตอยเป็นรายข้อ แล้วรวมจำนวนที่ตอบในแต่ละตัวเลือกในแต่ละข้อ
หาความยากง่าย (p) อำนาจจำแนก (r) และประสิทธิภาพตัวลวง
การหาค่าความยากง่าย P = NR/NT
การหาค่าอำนาจจำแนก r = PH - PL
การหาประสิทธิภาพลวง คือ ตัวลวงที่คนกลุ่มเก่งเลือกตอบน้อยกว่าคนในกลุ่มอ่อน
อิงเกณฑ์
ใช้วัดความรู้ความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน โดยนำคะแนนที่ได้จากการวัดมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด เพื่ออธิบายว่าผู้เรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำหรือมีความรอบรู้หรือไม่
ความยากง่ายของข้อสอบ - แบบทดสอบอิงเกณฑ์เป็นแบบทดสอบที่มุ่งบรรยายผลการเรียนรู้มากกว่าการจัดลำดับความสามารถผู้เรียน คุณสมบัติความยากง่ายจึงไม่ใช่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณา
อำนาจจำแนก - ความสามารถของข้อสอบ
การหาดัชนีความไวของประสิทธิภาพการสอน หรือ ดัชนีเอส (S) = RA - RB/T
การหาประสิทธิภาพของข้อสอบในการจำแนกระหว่างผู้รอบรู้และผู้ไม่รอบรู้ หรือดัชนีบี (B) = U/n1 - L/n2
การตรวจสอบคุณภาพทั้งฉบับ
การตรวจสอบความตรง
อิงกลุ่ม
คัดเลือกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ - ผู้มีประสบการณ์และความชำนาญในเนื้อหาที่ออกข้อสอบ
ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความตรงเชิญเนื้อหา
2.1 ข้อคำถามวัดได้ตรงหรือสอดคล้องกับจุดประสงค์หรือตรงตามพฤติกรรมและเนื้อหาที่ต้องการวัดหรือไม่
2.2 เมื่อรวบรวมข้อคำถามทุกข้อเป็นฉบับแล้วมีความครอบคลุมจุดประสงค์และเนื้อหาในวิชานั้น ๆ
2.3 เป็นตัวแทนที่ดีของจุดประสงค์หรือพฤติกรรมและเนื้อหาการเรียนรู้หรือไม่
3.นำแบบสอบถามความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญมาแจกแจงคำตอบและหาค่าดัชนีความสอดคล้อง
อิงเกณฑ์
เป็นการพิจารณาความสอดคล้องของข้อคำถามกับจุดประสงค์หรือพฤติกรรม และเนื้อหาที่ต้องการวัด
ปัจจัยที่มีผลต่อความตรงของแบบทดสอบ
เกิดจากตัวแบบทดสอบเอง เช่น คำชี้แจงไม่ชัดเจน การใช้ภาษาไม่เหมาะสมกับผู้เรียน
เกิดจากการดำเนินการสอบ เช่น การให้เวลาไม่เหมาะสม
เกิดจากตัวผู้เข้าสอบ เช่น การเดาหรือนิสัยในการทำข้อสอบที่แตกต่างกัน
เกิดจากตัวผู้สอน - เนื้อหาที่สอนหรือจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนกับสิ่งที่สอบหรือคำถามในแบบทดสอบไม่สัมพันธ์กัน
การตรวจสอบความเที่ยง
อิงกลุ่ม
วิธีการสอบซ้ำ - โดยใช้แบบทดสอบฉบับเดียวกันสอบผู้เรียนกลุ่มเดียวกัน 2 ครั้ง ในช่วงเวลาห่างกันคือประมาณ 1-8 สัปดาห์
ใช้แบบทดสอบคู่ขนาน - วัดสิ่งเดียวกัน ค่าความยากง่ายและอำนาจจำแนกเท่ากันหรือใกล้เคียงกันเป็นคู่ ๆ ในแต่ละข้อ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเที่ยงและค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการวัดเท่ากัน
วิธีการวัดความคงที่ภายในหรือความสอดคล้องภายใน
3.1 วิธีแบ่งครึ่งข้อสอบ ทำได้โดยการตรวจให้คะแนนทีละครึ่งฉบับ จะได้คะแนนเป็นสองชุด
3.2 วิธีการของคูเดอร์ ริชาร์ดสัน - ใช้ได้กับข้อสอบที่มีระบบการให้คะแนนถูกเป็น 1 และผิดเป็น 0 และเนื้อหาที่วัดมีความเป็นเอกพันธ์หรือวัดความรู้หรือทักษะเดียวกัน
3.3 วิธีสัมประสิทธีแอลฟาของครอนบาค - ใช้ได้กับเครื่องมือที่ไม่ใช่ให้คะแนนแบบถูกเป็น 1 ผิดเป็น 0
อิงเกณฑ์
ความเที่ยงของแบบทดสอบอิงเกณฑ์อยู่ที่ความคงเส้นคงวาของผลการตัดสินตามเกณฑ์ที่วางไว้ว่า ใครเป็นผู้รอบรู้หรือไม่รอบรู้
ค่าความเที่ยงและปัจจัยที่มีผลต่อค่าความเที่ยงของแบบทดสอบ
ค่าความเที่ยง มักจะแสดงในรูปของค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ซึ่งคำนวณจากคะแนนผลการสอบที่วัดได้
ปัจจัยที่มีผลต่อความเที่ยงของแบบทดสอบ
2.1 ความยาวของแบบทดสอบ - แบบทดสอบที่มีจำนวนข้อสอบมากและมุ่งวัดเนื้อหาเดียวกัน จะมีค่าความเที่ยงสูงกว่าแบบทดสอบที่มีจำนวนข้อน้อย
2.2 การกระจายของคะแนน - ถ้าคะแนนกระจายมากแสดงว่า ผู้เรียนมีความสามารถแตกต่างกันมาก ความเที่ยงจะสูงกว่าแบบทดสอบที่มีคะแนนกระจายน้อย
2.3 ความยากของข้อสอบ - หากข้อสอบยากหรือง่ายเกินไปมีผลต่อการกระจายของคะแนนคือ คะแนนมีการกระจายน้อยจะส่งผลให้ความเที่ยงต่ำ
2.4 ความเป็นเอกพันธ์ของข้อสอบ - แบบทดสอบฉบับใดที่ประกอบด้วยข้อสอบที่มาจากเนื้อหาที่มีความเป็นเอกพันธ์กัน แบบทดสอบฉบับนั้นจะมีความเที่ยงสูงด้วย
2.5 ความเป็นปรนัย - ถ้าผู้สอบอ่านคำชี้แจง อ่านข้อสอบเข้าใจชัดเจนตรงกัน เมื่อตรวจข้อสอบและใครเป็นคนตรวจคะแนนที่ได้คงที่ แสดงว่ามีความเป็นปรนัยซึ่งส่งผลต่อความเที่ยงของแบบทดสอบด้วย
2.6 อิทธิพลจากการเดาคำตอบของผู้สอบ ทำให้คะแนนที่ได้จากการวัดต่างไปจากความสามารถที่แท้จริง จึงเกิดความคลาดเคลื่อนในการวัดซึ่งมีผลต่อความเที่ยงของแบบทดสอบทำให้มีความเที่ยงต่ำ